เอไอเอสนำส่งแผน CSR ตามเงื่อนไขการประมูลคลื่น 1800
ตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 1800 MHz กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดทำแผนความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ขององค์กรเสนอต่อ กทค. พิจารณาก่อนเริ่มให้บริการ และต้องดำเนินการตามแผนภายใน 1 ปี ซึ่งในขณะนี้บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ในฐานะผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ได้นำส่งแผน CSR มาให้พิจารณาแล้ว โดยโครงการที่บริษัทนำเสนอ ได้แก่ โครงการ AWN คืนแบต คืนโลก ซึ่งเป็นโครงการรับแบตเตอรี่โทรศัพท์เคลื่อนที่เสื่อมสภาพไปรีไซเคิล, โครงการรณรงค์การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างถูกต้องในสถานที่ที่เคร่งครัดการใช้ เช่น ห้องสมุด ห้องเรียน โรงภาพยนตร์ โรงพยาบาล, โครงการจัดทำแผนความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่นการเลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ที่มีความสามารถรองรับเทคโนโลยีในอดีตได้ด้วย, โครงการกำหนดอัตราค่าบริการพิเศษสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยินและทางสายตา เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตบางประการ เช่น โครงการ AWN คืนแบต คืนโลก เป็นโครงการที่รับคืนเฉพาะแบตเตอร์รี่เสื่อมสภาพ มิได้ครอบคลุมถึงอุปกรณ์อื่นที่ผู้บริโภคซื้อไปจากบริษัท ที่เมื่อทิ้งแล้วก็จะกลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์เช่นกัน อย่างเช่นโทรศัพท์เคลื่อนที่และแท็ปเล็ต, การกำหนดอัตราค่าบริการราคาถูกสำหรับผู้พิการทางการได้ยินและทางสายตา ซึ่งรายการส่งเสริมการขายที่กำหนดนั้น หากผู้พิการใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วย พบว่าอัตราค่าบริการค่อนข้างสูง คือคิดราคาเมกะไบต์ละ 1.61 บาท นอกจากนี้ มาตรการจัดการกับบริการที่ไม่เหมาะสมของบริษัทที่กำหนดว่า ในกรณีที่ผู้ใช้บริการไม่พึงพอใจในบริการต่างๆ ที่บริษัทนำเสนอผ่าน SMS ก็สามารถแจ้งยกเลิกได้ ซึ่งก็เป็นหลักการที่ขัดกับประกาศเรื่องการกระทำที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมฯ ที่ห้ามการส่ง SMS มาเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งที่ผู้ใช้บริการไม่ได้สมัคร ดังนั้น กทค. คงต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนเพื่อให้แผน CSR ของบริษัทเป็นแผนที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมได้จริง
ตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 1800 MHz กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดทำแผนความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ขององค์กรเสนอต่อ กทค. พิจารณาก่อนเริ่มให้บริการ และต้องดำเนินการตามแผนภายใน 1 ปี ซึ่งในขณะนี้บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ในฐานะผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ได้นำส่งแผน CSR มาให้พิจารณาแล้ว โดยโครงการที่บริษัทนำเสนอ ได้แก่ โครงการ AWN คืนแบต คืนโลก ซึ่งเป็นโครงการรับแบตเตอรี่โทรศัพท์เคลื่อนที่เสื่อมสภาพไปรีไซเคิล, โครงการรณรงค์การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างถูกต้องในสถานที่ที่เคร่งครัดการใช้ เช่น ห้องสมุด ห้องเรียน โรงภาพยนตร์ โรงพยาบาล, โครงการจัดทำแผนความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่นการเลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ที่มีความสามารถรองรับเทคโนโลยีในอดีตได้ด้วย, โครงการกำหนดอัตราค่าบริการพิเศษสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยินและทางสายตา เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตบางประการ เช่น โครงการ AWN คืนแบต คืนโลก เป็นโครงการที่รับคืนเฉพาะแบตเตอร์รี่เสื่อมสภาพ มิได้ครอบคลุมถึงอุปกรณ์อื่นที่ผู้บริโภคซื้อไปจากบริษัท ที่เมื่อทิ้งแล้วก็จะกลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์เช่นกัน อย่างเช่นโทรศัพท์เคลื่อนที่และแท็ปเล็ต, การกำหนดอัตราค่าบริการราคาถูกสำหรับผู้พิการทางการได้ยินและทางสายตา ซึ่งรายการส่งเสริมการขายที่กำหนดนั้น หากผู้พิการใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วย พบว่าอัตราค่าบริการค่อนข้างสูง คือคิดราคาเมกะไบต์ละ 1.61 บาท นอกจากนี้ มาตรการจัดการกับบริการที่ไม่เหมาะสมของบริษัทที่กำหนดว่า ในกรณีที่ผู้ใช้บริการไม่พึงพอใจในบริการต่างๆ ที่บริษัทนำเสนอผ่าน SMS ก็สามารถแจ้งยกเลิกได้ ซึ่งก็เป็นหลักการที่ขัดกับประกาศเรื่องการกระทำที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมฯ ที่ห้ามการส่ง SMS มาเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งที่ผู้ใช้บริการไม่ได้สมัคร ดังนั้น กทค. คงต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนเพื่อให้แผน CSR ของบริษัทเป็นแผนที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมได้จริง
ที่มา : http://www.thaipr.net/communication/682311
... เอไอเอสนำส่งแผน CSR ตามเงื่อนไขการประมูลคลื่น 1800
ตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 1800 MHz กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดทำแผนความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ขององค์กรเสนอต่อ กทค. พิจารณาก่อนเริ่มให้บริการ และต้องดำเนินการตามแผนภายใน 1 ปี ซึ่งในขณะนี้บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ในฐานะผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ได้นำส่งแผน CSR มาให้พิจารณาแล้ว โดยโครงการที่บริษัทนำเสนอ ได้แก่ โครงการ AWN คืนแบต คืนโลก ซึ่งเป็นโครงการรับแบตเตอรี่โทรศัพท์เคลื่อนที่เสื่อมสภาพไปรีไซเคิล, โครงการรณรงค์การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างถูกต้องในสถานที่ที่เคร่งครัดการใช้ เช่น ห้องสมุด ห้องเรียน โรงภาพยนตร์ โรงพยาบาล, โครงการจัดทำแผนความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่นการเลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ที่มีความสามารถรองรับเทคโนโลยีในอดีตได้ด้วย, โครงการกำหนดอัตราค่าบริการพิเศษสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยินและทางสายตา เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตบางประการ เช่น โครงการ AWN คืนแบต คืนโลก เป็นโครงการที่รับคืนเฉพาะแบตเตอร์รี่เสื่อมสภาพ มิได้ครอบคลุมถึงอุปกรณ์อื่นที่ผู้บริโภคซื้อไปจากบริษัท ที่เมื่อทิ้งแล้วก็จะกลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์เช่นกัน อย่างเช่นโทรศัพท์เคลื่อนที่และแท็ปเล็ต, การกำหนดอัตราค่าบริการราคาถูกสำหรับผู้พิการทางการได้ยินและทางสายตา ซึ่งรายการส่งเสริมการขายที่กำหนดนั้น หากผู้พิการใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วย พบว่าอัตราค่าบริการค่อนข้างสูง คือคิดราคาเมกะไบต์ละ 1.61 บาท นอกจากนี้ มาตรการจัดการกับบริการที่ไม่เหมาะสมของบริษัทที่กำหนดว่า ในกรณีที่ผู้ใช้บริการไม่พึงพอใจในบริการต่างๆ ที่บริษัทนำเสนอผ่าน SMS ก็สามารถแจ้งยกเลิกได้ ซึ่งก็เป็นหลักการที่ขัดกับประกาศเรื่องการกระทำที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมฯ ที่ห้ามการส่ง SMS มาเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งที่ผู้ใช้บริการไม่ได้สมัคร ดังนั้น กทค. คงต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนเพื่อให้แผน CSR ของบริษัทเป็นแผนที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมได้จริง
ตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 1800 MHz กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดทำแผนความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ขององค์กรเสนอต่อ กทค. พิจารณาก่อนเริ่มให้บริการ และต้องดำเนินการตามแผนภายใน 1 ปี ซึ่งในขณะนี้บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ในฐานะผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ได้นำส่งแผน CSR มาให้พิจารณาแล้ว โดยโครงการที่บริษัทนำเสนอ ได้แก่ โครงการ AWN คืนแบต คืนโลก ซึ่งเป็นโครงการรับแบตเตอรี่โทรศัพท์เคลื่อนที่เสื่อมสภาพไปรีไซเคิล, โครงการรณรงค์การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างถูกต้องในสถานที่ที่เคร่งครัดการใช้ เช่น ห้องสมุด ห้องเรียน โรงภาพยนตร์ โรงพยาบาล, โครงการจัดทำแผนความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่นการเลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ที่มีความสามารถรองรับเทคโนโลยีในอดีตได้ด้วย, โครงการกำหนดอัตราค่าบริการพิเศษสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยินและทางสายตา เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตบางประการ เช่น โครงการ AWN คืนแบต คืนโลก เป็นโครงการที่รับคืนเฉพาะแบตเตอร์รี่เสื่อมสภาพ มิได้ครอบคลุมถึงอุปกรณ์อื่นที่ผู้บริโภคซื้อไปจากบริษัท ที่เมื่อทิ้งแล้วก็จะกลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์เช่นกัน อย่างเช่นโทรศัพท์เคลื่อนที่และแท็ปเล็ต, การกำหนดอัตราค่าบริการราคาถูกสำหรับผู้พิการทางการได้ยินและทางสายตา ซึ่งรายการส่งเสริมการขายที่กำหนดนั้น หากผู้พิการใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วย พบว่าอัตราค่าบริการค่อนข้างสูง คือคิดราคาเมกะไบต์ละ 1.61 บาท นอกจากนี้ มาตรการจัดการกับบริการที่ไม่เหมาะสมของบริษัทที่กำหนดว่า ในกรณีที่ผู้ใช้บริการไม่พึงพอใจในบริการต่างๆ ที่บริษัทนำเสนอผ่าน SMS ก็สามารถแจ้งยกเลิกได้ ซึ่งก็เป็นหลักการที่ขัดกับประกาศเรื่องการกระทำที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมฯ ที่ห้ามการส่ง SMS มาเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งที่ผู้ใช้บริการไม่ได้สมัคร ดังนั้น กทค. คงต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนเพื่อให้แผน CSR ของบริษัทเป็นแผนที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมได้จริง
ที่มา : http://www.thaipr.net/communication/682311