"...โดยร่วมกันยักยอกทรัพย์และเงินบริจาค
ของวัดพระธรรมกาย จำนวน 6.8 ล้านบาท ไปซื้อที่ดินเขาพนมพา ต.หนองพระ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร โดย
โอนกรรมสิทธิ์ใส่ชื่อนายถาวร จำเลยที่ 2 และเงินจำนวน 29,877,000 บาท ไปซื้อที่ดินเนื้อที่ 902 ไร่เศษ ต.หนองพระ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร และ ต.ท่าข้าม อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์
โอนกรรมสิทธิ์ให้จำเลยที่ 2 เช่นกัน..."
(ที่มา:
สำนักข่าวอิสรา)
หากเป็นกรณีพระข่มขืนสีกา ไม่เกี่ยวกับว่าสีกาแจ้งความเมื่อไหร่ มีการสมยอมหรือไม่ สีกาถอนแจ้งความหรือเปล่า หรือคดียังอยู่ในชั้นศาล ฯลฯ แค่บอกว่า ตนเองไปข่มขืนสีกาหรือไม่เท่านั้น หากทำจริงก็ปาราชิก
กรณีธัมมชโยก็เช่นกัน ไม่ว่าทางโลกจะพิจารณาอย่างไร เจ้าทุกข์จะขอถอนแจ้งความหรือไม่ หรืออัยการถอนฟ้อง ฯลฯ ไม่เกี่ยวกับพระวินัย
ดังนั้น ผมขออนุญาตถามว่า
1. ข้อความที่ผมยกมาข้างต้นนี้ อยู่ในคดีดำหมายเลข 11651/2542 และคดีดำหมายเลข 14735/2542 จริงหรือไม่?
2. ธัมมชโย ไม่ได้ใช้เงินส่วนตัว แต่
เอาเงินบริจาคของวัดธรรมกาย ไปซื้อที่ดิน แล้ว
โอนให้นายถาวร ซึ่งเป็นลูกศิษย์ จริงหรือไม่ครับ?
2 คำถามกรณีธัมมชโยปาราชิก
(ที่มา: สำนักข่าวอิสรา)
หากเป็นกรณีพระข่มขืนสีกา ไม่เกี่ยวกับว่าสีกาแจ้งความเมื่อไหร่ มีการสมยอมหรือไม่ สีกาถอนแจ้งความหรือเปล่า หรือคดียังอยู่ในชั้นศาล ฯลฯ แค่บอกว่า ตนเองไปข่มขืนสีกาหรือไม่เท่านั้น หากทำจริงก็ปาราชิก
กรณีธัมมชโยก็เช่นกัน ไม่ว่าทางโลกจะพิจารณาอย่างไร เจ้าทุกข์จะขอถอนแจ้งความหรือไม่ หรืออัยการถอนฟ้อง ฯลฯ ไม่เกี่ยวกับพระวินัย
ดังนั้น ผมขออนุญาตถามว่า
1. ข้อความที่ผมยกมาข้างต้นนี้ อยู่ในคดีดำหมายเลข 11651/2542 และคดีดำหมายเลข 14735/2542 จริงหรือไม่?
2. ธัมมชโย ไม่ได้ใช้เงินส่วนตัว แต่เอาเงินบริจาคของวัดธรรมกาย ไปซื้อที่ดิน แล้วโอนให้นายถาวร ซึ่งเป็นลูกศิษย์ จริงหรือไม่ครับ?