" .. พระพุทธศาสนาสอนให้ "เชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม" ผู้ใดทำกรรมดีย่อมได้รับผลของกรรมดี ผู้ทำกรรมชั่วย่อมได้รับผลของกรรมชั่ว คนอื่นจะรับแทนไม่ได้ ๑ สอนให้ "ทำทาน" การสละสิ่งข

พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ... ผู้ภาวนาต้องเห็นอนัตตาเสียก่อนแล้วก็อนิจจัง ทุกขัง สามอย่างนี้ก็อยู่ด้วยกันนั่นแหละ เห็นอะไรก็เอาเถอะ เห็นเหมือนกันนั่นแหละ แ

"ศีล สมาธิ ปัญญา" " .. ปัญญาจะเกิดขึ้นก็เพราะสมาธิหนักแน่น สมาธิที่จะหนักแน่นได้ก็เพราะมีศีลบริสุทธิ์เสียก่อน สมาธิก็ต้องอาศัยปัญญา คอยช่วยด้วยเหมือนกัน ต้องมีอุบายแยบคาย สำหรับที่จะ

"ธรรมเป็นของละเอียด ยากที่ผู้มีปัญญาทั้งหลาย จะอธิบายให้ถูกต้องถึงเนื้อแท้ของธรรมได้บริบูรณ์ " แต่ที่ถูกต้องคือเป็นผู้หวังดีต่อผู้อื่น" แล้วพยายามอธิบายธรรมนั้น ๆ เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจ

XXXXXXหนังสือหมดแล้วXXXXXXX ลงวันที่ 3 พย. 67 มีพระสงฆ์รูปหนึ่งท่านนั่งรถไฟมาจากอุดรธานีมากทม. และยอมแบกหนังสือหลวงปู่เทสก์ เทสรังสีมาเพื่อให้จขกทนำไปแจกเป็นธรรมทาน เป็นหนังสือที่รวบรวมหนังสือที่หลวง

พระพุทธศาสนา: ศาสตร์แห่งสัจจะ ทนต่อการพิสูจน์ ในโลกที่ความเชื่อและความจริงถูกท้าทายอยู่เสมอ พระพุทธศาสนาโดดเด่นด้วยคำสอนที่เชิญชวนให้มนุษย์ใช้ปัญญาและการพิสูจน์เพื่อเข้าถึงความจริง 

" .. ปัญญา ก็มีหลัก คือ ความรู้ความเข้าใจในการเห็นสิ่งทั้งปวงหมดเป็นธรรม รู้ผิดรู้ถูก รู้ดีรู้ชั่ว รู้สิ่งที่ควรหรือไม่ควร แม้แต่ผู้จะทำทาน รักษาศีล ทำสมาธิ ก็ต้องมีปัญญาเสียก่อนจึงทำได้ ปัญญา

http://tesray.com/about http://tesray.com/about ในการศึกษาธรรมะ ข้อควรคำนึงเป็นเบื้องต้น คือพระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมนั้น ครั้นแล้วทรงแสดงมรรคและปฏิปทา เพื่อประโยชน์สุขแก่หมู่สัตว์ ให้รู้แจ้งวิชชา ละทุ

".. ถ้าหากว่า เห็นชัดตามเป็นจริงของมันแล้ว ของเหล่านั้น ไม่มีอะไรหรอก สมมุติบัญญัติกันเฉย ๆ นี่เอง ว่าตน ว่าตัว ว่าเขา ว่าเรา สมมุติทั้งนั้น ถ้าไปเห็นสมมติบัญญัติแล้ว เราไม่ยึดถือ ก็เป็นวิมุติ