ลาขาด กล้องยี่ห้อ Fuji ไม่คิดว่าคุณภาพจะห่วยแตกได้ขนาดนี้ ชาตินี้ทั้งชาติคงไม่ใช้ผลิตภัณฑ์จาก Fuji อีกต่อไปละค่าาา

ตอนประมาณ กันยา ปี 2557 เราอยากได้กล้อง Mirrorless ตัวแรกในชีวิต
ก็ลังเลอยู่ระหว่าง Nikon 1 AW 1 กับ Fuji x-m1

จนกระทั่งปลายเดือน พฤศจิกา 2557 เราได้ตัดสินใจซื้อ Fuji x - a1 ที่งานกล้องไบเทคบางนา กับทาง Power buy เนื่องจากการออกแบบกล้องที่สวยงามเหมาะสำหรับบุคลิคน่ารักอย่างเราเป็นที่ซู๊ดดด (น่ารักอยู่คนเดียวในโลกส่วนตัว 5555++สาวแว่น) และเชื่อมั่นใน Fuji ว่ากล้องต้องดีและมีคุณภาพ

ตอนเราซื้อกล้อง ทาง Power buy ก็มีประกันศูนย์มาให้ 1 ปี

หลังจากได้กล้องมา เราก็ใช้ปกติ ถนอมมาก และถ่ายไม่เยอะด้วย เนื่องจากใช้ไม่ค่อยจะเป็น 555+++

ไม่เคยกระแทกแรง ไม่เคยตกน้ำ ไม่เคยเปลี่ยนเลนส์นอกบ้าน เพราะกลัวฝุ่นเข้า เปลี่ยนเลนส์น้อยมาเช่นกัน ส่วนใหญ่จะใช้ Kit
หลังจากซื้อมาไม่กี่เดือน กล้องก็มีอาการดับติด อยู่ประมาณ 2-3 ครั้ง แต่พอปิดแล้วเปิดใหม่ ก็กลับมาใช้ได้ปกติ เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก

เค้าว่ากันว่ารถมักจะชนกันตอนหมดประกัน กล้อง Fuji ของอิช้าน ก็เช่นกันค่าา ท่านผู้โช้มมมมFacepalm

ได้ถ่ายครั้งล่าสุดก็ทริปไปเที่ยวฮ่องกง ก่อนกล้องเกิดอาการงอแง คือช่วงกลางเดือน พฤศจิกายน 2558 หลังจากนั้นก็ไม่ได้เปิดใช้จนกระทั่งวันที่ 25 ธค. 2558 วันเกิดน้องชายเรา จะเอากล้องมาถ่ายรูป พอเปิดกล้องถ่ายไป 1-2 รูป ก็ดับ เราก็กดเปิดใหม่ จนดับติดดับติด คิดว่าแบตหมด ก็ชาจแบตเอามาเปิดใหม่จากนั้น ก็ไม่ติดอีกเล้ยยย
คิดในใจซวยแท้ จะมาพังอะไรตอนหมดประกันเนี่ย แถมช่วงนั้นอยู่ ตจว ก็แบบ เฮ้ย จะเอาไปซ่อมที่ไหนเนี่ย รอไป กทม ก่อนแล้วกัน

เมื่อเรามากทม วันที่ 1 กพ ก็ได้เอากล้องไปซ่อมที่ศูนย์ Fuji ตามปกติ

เวลาผ่านไปล่วงเลย จนกระทั่งวันนี้ ได้โทรไปถามข่าวคราว ว่ากล้องจะเสร็จเมื่อไหร่ (ห่างหายจากอกแม่ไปนานคิดถึ๊งคิดถึง)
พนักงานบอก เดี๋ยวจะโทรกลับไปแจ้งอาการ ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ตัวเซนเซอร์หรือเป็นที่ สวิสซ์

พอบ่ายๆ พนักงานก็โทรมาแจ้งว่า ตัวเซนเซอร์เสีย ต้องเปลี่ยนใหม่ ค่าซ่อม 11,250 บาท คิดในใจ แม่เจ้า!!!! แพงขนาดนี้เพิ่มตังค์อีกนิส ได้ Body ใหม่แล้วเนี่ย เราก็บอกพนักงานไป ว่าทำไมแพงจัง ราคานี้เพิ่มตังก็ซื้อตัวใหม่ได้แล้ว แล้วก็ถามเพิ่มเติมว่าทำไมถึงเสีย เพราะเราใช้กล้องน้อยมาก ไม่เคยพาลูกน้อย Fuji X A1 ของเราไปตกน้ำ หรือกระแทกที่ไหนเลย ทางพนักงานคนนั้นก็ให้เรารอสายคุยกับช่าง
ก็ได้ความว่า ตอนแรกคิดว่า สวิสซ์เสีย แต่พอเอามาเช็คแล้ว ปรากฏว่าไม่ใช่ เลยเอาเข้าเครื่อง (เครื่องหรือโปรแกรมอะไรสักอย่าง เช็คทั้งระบบอย่างละเอียด) สรุปคือ Sensor กล้องเสีย เราก็ถาม ที่เซ็นเซอร์เสีย เกิดจากสาเหตุ อะไร เพราะเราใช้ไม่เยอะ ไม่ตกน้ำ ไม่กระแทก บลาๆๆๆๆๆ  

ทางช่างก็ให้คำตอบว่า อุปกรณ์มันเสื่อมสภาพ ก็ต้องเปลี่ยนใหม่ มันก็เหมือนทีวีที่ใช้ไปนานๆแล้วพัง
OMG เราก็ตอบช่างไป ว่า เฮ้ย เราใช้ไปปีกว่าเอง (1 ปี 1 เดือน นับจากวันที่พัง) เสื่อมสภาพแล้วหรอ มันเร็วไปมั้ยค่ะ ไม่คิดมาก่อนว่ามันจะเสื่อมเร็วขนาดนี้ ตอนแรก คิดว่า มันจะมีอายุการใช้งานได้นานกว่านี้ แล้วเราควรจะทำยังไงดีค่ะ ราคาค่าซ่อมขนาดนี้เนี่ย เพิ่มตังค์นิดเดียวเราซื้อ Body ใหม่ได้แล้ว
ทางช่างก็บอกว่า จะคุยกับทาง ซุปเปอไวเซอร์ให้ แล้วจะโทรมาแจ้งเราอีกที

จากนั้น ทางศูนย์ Fuji ก็โทรมาแจ้งเรา ว่าลดราคาให้ 20% จากราคา 11,250 บาท ก็จะเหลือ 8 พันกว่าบาท ถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
หลังจากนั้นพนักงานก็ให้เราคุยกับ Superviser ทาง ซูปก็รับฟัง เราบอกลดราคาได้แค่นี้ จริงๆ เป็นราคาทีพิเศษแล้วจริง ของซื้อมาก็ต้องเสื่อมสภาพตามกาลเวลา เหมือนทีวีที่เราซื้อมาใช้แล้วพัง (เหมือนคำพูดคุณช่างเป๊ะๆ) เราก็บอกมันพังเร็วไปนะค่ะ หมดประกันไปเดือนเดียวก็พังแล้ว มาตรฐานของกล้อง Fuji อยู่ตรงไหน คือซ่อมราคานี้กับซื้อใหม่แทบไม่ได้ต่างกัน ทางซุปก็ยืนยันมันเสื่อมสภาพตามกาลเวลา เราก็บอก เย้ย มันเสื่อมเร็วมาก ประกันเราหมดปลายเดือน พย. พอเดือน ธค. วันที่ 25 มารู้ตัวอีกทีกล้องก็พัง แถมพอมาซ่อม ราคาก็สูงมากแทบจะซื้อใหม่ได้

ทางซุปก็บอกว่า ถ้ามาซ่อมเร็วกว่านี้อาจจะช่วยได้ เพราะประกันยังขาดไม่นาน แต่เราเอามาซ่อมเดือน กุมภาพันธ์แล้ว
เราก็บอก ลดหน่อยไม่ได้หรอค่ะ ราคานี้มันสูงเกินกว่าจะรับได้ ทางซุปก็บอก ประกัน 1 ปีหมดแล้ว ทำอะไรไม่ได้แล้ว
ตอนที่ซื้อมาก็น่าจะรุ้อยู่แล้วว่ากล้องมันรับประกันหนึ่งปี เราบอกเรารู้แล้วว่ากล้องงะรับประกันหนึ่งมี แต่นี่พอประกันหมดก็พังเลย เรารับไม่ได้กับความไม่มีคุณภาพของกล้อง ที่จริงมันควรจะมีอายุการใช้งานนานกว่านี้ มารตรฐานฟูจิอยู่ตรงใน

ทางซุปก็ย้ำอีก ว่ากล้องรับประกัน 1 ปี ตอนที่ซื้อเค้าก็บอกว่ารับประกันหนึ่งปี (พูดแนวๆให้เราเข้าใจว่า คือกล้องมันประกันหนึ่งปี หลังจากนี้อะไรพังมันก็ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของเราไม่ใช่ทาง Fuji) แล้วก็บอกให้เรากลับไปคิดดูว่าจะซ่อมราคาส่วนลด 20% หรือไม่ซ่อมเลย เนื่องจากลดให้ไม่ได้แล้ว อะไหล่ส่งมาจากญี่ปุ่นราคาสูงมาก

สรุป เราเสียความรู้สึกมากกับคุณภาพของกล้อง Fuji ไม่คิดว่าจะพังเร็วได้ขนาดนี้ ใครที่จะซื้อกล้อง Fuji ระวังให้ดีนะคะ คุณอาจจะโชคร้ายเหมือนเราที่ได้กล้อง เซนเซอร์เสื่อมคุณภาพอย่างไว  

ผิดหวังมาก คิดว่า เราซื้อกล้องมา หนึ่งตัว จะใช้ได้นาน 3-4 ปี แต่ที่ไหนได้ ครบหนึ่งปี ก็เสื่อมสภาพและตายลง
ตอนแรกหลังจากซ่อมเสร็จกะว่าจะซื้อเลนซ์ fuji 35mm f1.4 ตอนนี้ใช้อยู่ 2 เลนส์คือ Kit กับ 50-230 เง้อ

ถ้าคุณเป็นเรา คุณจะซ่อมมั้ยค่ะ

เซ็ง ฝากถึงบริษัท Fuji flim ค่ะ เราคงทำอะไรคุณไม่ได้หรอกค่ะ ได้แต่ฝากเป็นอุทาหรณ์เตือนใจผู้บริโภค เพราะเราก็เป็นแค่ผู้บริโภคตัวน้อยๆ ที่เก็บตังค์ซื้อกล้องของคุณเพื่อมาบันทึกภาพถ่ายความทรงจำของเรา  เราเลือกคุณเพราะเราไว้วางใจคุณ ว่าคุณจะมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีและคุ้มค่าให้แก่เรา อย่างที่เรารักและไว้วางใจในแบรนด์ของคุณ ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อกล้องของ Fuji นั้น เราได้คิดว่าและหาข้อมูลมาดีแล้ว แต่ก็คิดผิดจนได้

เราหวังว่าจากนี้ไปทาง Fuji จะผลิตกล้องที่มีคุณภาพ คงทนและไม่พังเร็วเหมือนของเรา มาให้ผู้บริโภคใช้กันนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่