[หนังแผ่นเรื่องที่ 3] Chef/เชฟจ๋า ; (Jon Favreau, 2014)
คะแนน : 7/10
เรื่องย่อ : เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ คาร์ล แคสเปอร์ (Jon Favreau)เชฟมากประสบการณ์ที่บังเอิญไปทวีตและมีปากเสียงกับนักวิจารณ์อาหารชื่อดังแห่งโลกโซเชียลเข้า จนสุดท้ายต้องผันตัวเองไปทำกิจการ 'ฟู้ดทรัค' ที่ตัวเองอยากลองทำมาตลอด ในขณะเดียวกันคาร์ลก็ต้องพยายามเชื่อมความสัมพันธ์กับลูกชายวัยอยากรู้อยากเห็นอย่าง เพอร์ซี่ (Emjay Anthony) ให้ได้
ถือว่าเป็นหนังฟีลกู้ดอีกเรื่องหนึ่งที่ทำออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ขายได้ง่าย หนังจะเน้นหนักไปที่ประเด็นของความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ-ลูกโดยมีฉากหลังเป็นวงการทำอาหารที่ค่อนข้างเข้มงวด ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าฉากทำ อาหารของเรื่องนี้ทำออกมาได้น่ากินมากกกก คือบรรดาเมนูทั้งหลายนี่อุดมไปด้วยชีสและมันเลื่อมๆชนิดท้าทายกระเพาะคนดูยามดึกเหลือเกิน ในส่วนของดีเทลอาหารนั้นจึงอยู่ในวิสัยที่พึงชื่นชม
รูปแบบความสัมพันธ์ของพ่อลูกที่หนังพยายามถ่ายทอดออกมาก็อยู่ในระดับที่พอจะลากกันไปได้ กระนั้นจอน ฟาฟโร ยังมีส่วนผสมที่ขาดๆเกินๆในการสื่อตัวละครออกมาจนไม่น่าจดจำซักเท่าไหร่ การแสดงที่หลวมๆไปนิดทำให้เราเชื่อไม่ค่อยสนิทใจว่าคนคนนี้เป็นพ่อของเจ้าหนูเพอร์ซี่จริงๆ โชคดียังดีที่ตัวละครเสริมอย่าง มาร์ติน (John Leguizamo) ก็ยังช่วยสอดแทรกช่องโหว่ตรงนั้นมาเป็นสีสันได้
กระนั้นถ้าลงลึกในดีเทลของหนังจริงๆเราจะเห็นว่าข้อเสียของหนังเรื่องนี้คือหนังไม่ได้ให้โอกาสเราในการทำความรู้จักตัวละครในเรื่องจริงๆซักคน ไม่ว่าจะเป็นเมียเก่านักธุรกิจ อิเนส (Sofia Vergara) ที่ผุบๆโผล่ๆออกมาตามฉาก หรือว่าคนรู้ใจใหม่ของคาร์ลอย่าง มอลลี่ (Scarlett Johansson) ที่วางบทไว้เหมือนจะมีความสำคัญในตอนต้นเรื่อง แต่สุดท้ายก็โดนทิ้งขว้างหายจากจอไปเลยตลอดเรื่อง และตัวอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งความผิวเผินของตัวละครตรงนี้มันไม่ได้จูงใจให้เราอินกับความรู้สึกของตัวละครเท่าไหร่ จนทำให้ฉากอารมณ์ทั้งหลายมันถ่ายทอดออกมาไม่ดี
ในแง่ของเซนส์หนังก็ยังถือว่าชวนตะขิดตะขวงใจอยู่บ้าง คือในบางฉากหนังให้ความรู้สึกอึดอัดจากการที่ตัวละครทั้งหลายพยายามแย่งกันพูดชนิดจับใจความแทบไม่ได้ (ฟังก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง) จนผู้เขียนเกิดมีความคิดว่าบางทีผู้กำกับก็อาจจะขาดตกบกพร่องในรายละเอียดหนังไปเยอะโข เพราะจริงๆแค่อยากสนองนี้ดตัวเองในการสร้างหนัง 'พยายามฟีลกู้ด' แบบนี้ขึ้นมารึเปล่า ทั้งการพยายามดึงดาราระดับแม่เหล็กทั้งหลายเข้ามาเป็นตัวประกอบก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นนัก (ผกก./นักแสดงนำเป็นโปรดิวเซอร์ของไอรอนแมน+อเวนเจอร์)
Chef ถือเป็นหนังฟีลกู้ดที่ย่อยง่าย-อาจจะง่ายเกินไปหน่อยสำหรับหนังที่พยายามจับประเด็นครอบครัวมาเล่น แต่จุดเด่นก็ยังคงอยู่ที่การเดินเรื่องสบายๆและมุกตลกที่ชวนอมยิ้มได้บางครั้งคราว เหมาะจะเป็นหนังที่ดูเล่นๆสบายๆที่ดูได้ทั้งครอบครัว แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีอะไรให้น่าจดจำซักเท่าไหร่
ป.ล.เกลียดฉากนกทวีตบินของหนังมาก
หากชื่นชอบรีวิวสามารถติดตามเพจได้ที่
https://www.facebook.com/expensivemovie หรือค้นหาคำว่า "ตั๋วหนังมันแพง" ได้ที่หน้า FB ครับ
[หนังแผ่นเรื่องที่ 3] Chef/เชฟจ๋า by ตั๋วหนังมันแพง
[หนังแผ่นเรื่องที่ 3] Chef/เชฟจ๋า ; (Jon Favreau, 2014)
คะแนน : 7/10
เรื่องย่อ : เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ คาร์ล แคสเปอร์ (Jon Favreau)เชฟมากประสบการณ์ที่บังเอิญไปทวีตและมีปากเสียงกับนักวิจารณ์อาหารชื่อดังแห่งโลกโซเชียลเข้า จนสุดท้ายต้องผันตัวเองไปทำกิจการ 'ฟู้ดทรัค' ที่ตัวเองอยากลองทำมาตลอด ในขณะเดียวกันคาร์ลก็ต้องพยายามเชื่อมความสัมพันธ์กับลูกชายวัยอยากรู้อยากเห็นอย่าง เพอร์ซี่ (Emjay Anthony) ให้ได้
ถือว่าเป็นหนังฟีลกู้ดอีกเรื่องหนึ่งที่ทำออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ขายได้ง่าย หนังจะเน้นหนักไปที่ประเด็นของความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ-ลูกโดยมีฉากหลังเป็นวงการทำอาหารที่ค่อนข้างเข้มงวด ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าฉากทำ อาหารของเรื่องนี้ทำออกมาได้น่ากินมากกกก คือบรรดาเมนูทั้งหลายนี่อุดมไปด้วยชีสและมันเลื่อมๆชนิดท้าทายกระเพาะคนดูยามดึกเหลือเกิน ในส่วนของดีเทลอาหารนั้นจึงอยู่ในวิสัยที่พึงชื่นชม
รูปแบบความสัมพันธ์ของพ่อลูกที่หนังพยายามถ่ายทอดออกมาก็อยู่ในระดับที่พอจะลากกันไปได้ กระนั้นจอน ฟาฟโร ยังมีส่วนผสมที่ขาดๆเกินๆในการสื่อตัวละครออกมาจนไม่น่าจดจำซักเท่าไหร่ การแสดงที่หลวมๆไปนิดทำให้เราเชื่อไม่ค่อยสนิทใจว่าคนคนนี้เป็นพ่อของเจ้าหนูเพอร์ซี่จริงๆ โชคดียังดีที่ตัวละครเสริมอย่าง มาร์ติน (John Leguizamo) ก็ยังช่วยสอดแทรกช่องโหว่ตรงนั้นมาเป็นสีสันได้
กระนั้นถ้าลงลึกในดีเทลของหนังจริงๆเราจะเห็นว่าข้อเสียของหนังเรื่องนี้คือหนังไม่ได้ให้โอกาสเราในการทำความรู้จักตัวละครในเรื่องจริงๆซักคน ไม่ว่าจะเป็นเมียเก่านักธุรกิจ อิเนส (Sofia Vergara) ที่ผุบๆโผล่ๆออกมาตามฉาก หรือว่าคนรู้ใจใหม่ของคาร์ลอย่าง มอลลี่ (Scarlett Johansson) ที่วางบทไว้เหมือนจะมีความสำคัญในตอนต้นเรื่อง แต่สุดท้ายก็โดนทิ้งขว้างหายจากจอไปเลยตลอดเรื่อง และตัวอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งความผิวเผินของตัวละครตรงนี้มันไม่ได้จูงใจให้เราอินกับความรู้สึกของตัวละครเท่าไหร่ จนทำให้ฉากอารมณ์ทั้งหลายมันถ่ายทอดออกมาไม่ดี
ในแง่ของเซนส์หนังก็ยังถือว่าชวนตะขิดตะขวงใจอยู่บ้าง คือในบางฉากหนังให้ความรู้สึกอึดอัดจากการที่ตัวละครทั้งหลายพยายามแย่งกันพูดชนิดจับใจความแทบไม่ได้ (ฟังก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง) จนผู้เขียนเกิดมีความคิดว่าบางทีผู้กำกับก็อาจจะขาดตกบกพร่องในรายละเอียดหนังไปเยอะโข เพราะจริงๆแค่อยากสนองนี้ดตัวเองในการสร้างหนัง 'พยายามฟีลกู้ด' แบบนี้ขึ้นมารึเปล่า ทั้งการพยายามดึงดาราระดับแม่เหล็กทั้งหลายเข้ามาเป็นตัวประกอบก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นนัก (ผกก./นักแสดงนำเป็นโปรดิวเซอร์ของไอรอนแมน+อเวนเจอร์)
Chef ถือเป็นหนังฟีลกู้ดที่ย่อยง่าย-อาจจะง่ายเกินไปหน่อยสำหรับหนังที่พยายามจับประเด็นครอบครัวมาเล่น แต่จุดเด่นก็ยังคงอยู่ที่การเดินเรื่องสบายๆและมุกตลกที่ชวนอมยิ้มได้บางครั้งคราว เหมาะจะเป็นหนังที่ดูเล่นๆสบายๆที่ดูได้ทั้งครอบครัว แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีอะไรให้น่าจดจำซักเท่าไหร่
ป.ล.เกลียดฉากนกทวีตบินของหนังมาก
หากชื่นชอบรีวิวสามารถติดตามเพจได้ที่ https://www.facebook.com/expensivemovie หรือค้นหาคำว่า "ตั๋วหนังมันแพง" ได้ที่หน้า FB ครับ