วันนี้(19/4/59)ผมไปดู The Jungle Book แบบ IMAX3D ที่ พารากอน รอบ 15.50
------
ตอนแรกก็ดูตัวอย่างไปเรื่อยแถวหน้าก็ยังคงว่างอยู่ หนังเริ่มฉายสามที่ข้างหน้าก็ยังว่างอยู่ พอหนังฉายไปสักพักก็มี 3 คน(น่าจะเป็นวัยรุ่น)เดินเข้ามานั่งสามที่ข้างหน้าพวกผม ประเด็นคือถ้าพวกเขามาแล้วรีบนั่งดูหนังไม่บังจอก็คงจะไม่ใช่ปัญหา แต่พอมาถึงก็มายืนเลือกที่นั่งแล้วก็แย่งกันอารมณ์ประมาณนั่งนู้นกูนั่งนี้
พอนั่งเสร็จ ไอ้คนหน้าผมก็ควักโทรศัพท์ออกมาเปิด ซึ่งตอนแรกคิดว่าจะเปิดเช็คหรือปิดเสียงธรรมดา ไม่เลย มันเปิดไลน์เปิดเฟสบุ๊คเล่นเลย เห็นนั่งเลื่อนจอๆ ด้วยความที่ดู IMAX3D โรงมืดๆจอใหญ่ๆแต่แสงโทรศัพท์มันแยงตา เลยเตือนไปด้วยการไอกระแอม เขาก็เอาลงไป
สักพักดูไปเรื่อยๆมันก็บ่นๆคุยกันๆแต่ไม่นาน แล้วก็ควักโทรศัพท์มาเล่นอีก ไม่ได้ควักแค่มันนะ เพื่อนมันก็ควักออกมาแล้วก็ปิดไป แต่ไอ้นี่ยังไม่ปิด เลยใช้มาตรการเอาขาดันเก้าอี้ให้รู้สึกตัวสักหน่อย มันก็เลยปิด
อ่าห์ดูไปสักพัก ไอ้เพื่อนมันที่หยิบโทรศัพท์มาก็เหมือนเพิ่งชาร์ตแบตสำรองเสร็จเลยส่งให้ไอ้ข้างหน้าผมต่อ มันก็เปิดหน้าจอโทรศัพท์ดูอีก คือตอนนี้ไม่ได้เตือนเพราะหนังมันเข้าด้ายเข้าเข็มเลยขี้เกียจเสียอารมณ์
พอหลังฉากสู้ตอนจบจบ โรงก็เปิดไฟแต่หนังยังไม่จบเหมือนผิดพลาดทางเทคนิค พอเห็นไฟเปิดเท่านั้นละ พวกหน่อนี่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเช็คเข้าเฟสบุ๊คเข้าไลน์ทันที เราก็แบบคิดในใจ ยังต้องให้กูเตือนอีกเหรอ สักพักพนักงานก้รีบเข้ามาปิดไฟในโรง แต่หนังมันใกล้จบแล้วละ ไอ้คนหน้าผทเห็นว่าเขาปิดไฟมันเลยพักหน้าจอ แต่มันแค่กดล๊อกนะ ไม่ได้กดดับหน้าจอ อื้อหือออ กดปุ่มเดิมอีกสักครั้งมันจะเดือดร้อนมั้ยครับ แล้วสักพัก
ถึงจะเอาโทรศัพท์ลงไป แต่อีกสักพักมันก็เอาขึ้นมาใหม่ พอหนังจบโรงเปิดไฟมันก็หยิบโทรศัพท์ลุกขึ้นมาตอนแรกก็คิดว่าจะหันมามองหน้าตรูมั้ย แต่มันไม่มอง(แต่ตรูมองหน้ามันอยู่)
ก็ไม่ได้อะไรหรอกมาบ่นประสบการณ์แสงแยงตาในโรงหนังเฉยๆ คือแบบว่าถ้าพวกนายไม่สามารถขาดโทรศัพท์ได้ แนะนำว่ารอออกแผ่นแล้วซื้อไปดูที่บ้านดีกว่านะ จะได้เล่นโทรศัพท์ได้เต็มที่ด้วย นะจ้ะๆ
-------------------
มาพูดเรื่องหนังกันดีกว่า The Jungle Book เวอร์ชันนี้กำกับโดย Jon Favreau ที่ทำ Iron Man 1-2 นั่นแหละ
ตอนแรกก็หวั่นๆมากเลยนะเพราะพอแกไม่ทำมนุษย์เตารีดแล้วไปทำ Cowboys & Aliens แล้วฟอร์มตกก็หวั่นงานแกมาตลอด พอมาทำเรื่อง Chef ก็ยังไม่ได้ดู พอมาทำเรื่องนี้ก็หวั่นแต่พอห็นคำวิจารณ์แล้ว อื้อหืออไม่ดูไม่ได้ละ
เนื้อเรื่องสนุกดี มีช่วงให้ลุ้นตื่นเต้นอยู่พอควร มีฉากตลกแทรกเข้ามาด้วยส่วนใหญ่มาจากเจ้าหมีบาลู
ชอบเสียงพากย์ของแต่ละคนมาก แต่ที่ขอบสุดคือ Bill Murray ที่เป็นบาลู เสียงกับคาแรคเตอร์มันใช่เลยอ่ะหมอ
มาถึงระบบบ้าง หนังถ่ายด้วยกล้อง 3D บนจอกรีนสกรีนโดยมีแต่ไอ้เด็กเมาคลีแล้วค่อยทำCGพวกสัตว์อื่นทีหลัง ก็เลยค่อนข้างวางใจในระบบ 3D พอมาดู IMAX ก็ยิ่งไม่ผิดหวัง เพราะภาพสามมิติสวยมากกมีมิติลึกดี แล้วมีทะลุจอด้วย แถมหนังใช้อัตราส่วนเกือบเต็มจอของ IMAX ด้วย แต่ภาพสวยๆจะอยู่ฉากกลางวัน ฉากกลางคืนรู้สึกว่ามืดเกิน แล้วเสียงก็กระหึ่มใช้ได้เลยนะ แจ๋วมากๆ
----
แต่อย่างว่าละ หนังมันคงจะสนุกกว่านี้ ถ้าไม่มีเด็กผีมารังควานสายตา
วันนี้ไปดู The Jungle Book ที่ IMAX พารากอน หนังจะสนุกกว่านี้ถ้าสามที่ข้างหน้าไม่เล่นโทรศัพท์
------
ตอนแรกก็ดูตัวอย่างไปเรื่อยแถวหน้าก็ยังคงว่างอยู่ หนังเริ่มฉายสามที่ข้างหน้าก็ยังว่างอยู่ พอหนังฉายไปสักพักก็มี 3 คน(น่าจะเป็นวัยรุ่น)เดินเข้ามานั่งสามที่ข้างหน้าพวกผม ประเด็นคือถ้าพวกเขามาแล้วรีบนั่งดูหนังไม่บังจอก็คงจะไม่ใช่ปัญหา แต่พอมาถึงก็มายืนเลือกที่นั่งแล้วก็แย่งกันอารมณ์ประมาณนั่งนู้นกูนั่งนี้
พอนั่งเสร็จ ไอ้คนหน้าผมก็ควักโทรศัพท์ออกมาเปิด ซึ่งตอนแรกคิดว่าจะเปิดเช็คหรือปิดเสียงธรรมดา ไม่เลย มันเปิดไลน์เปิดเฟสบุ๊คเล่นเลย เห็นนั่งเลื่อนจอๆ ด้วยความที่ดู IMAX3D โรงมืดๆจอใหญ่ๆแต่แสงโทรศัพท์มันแยงตา เลยเตือนไปด้วยการไอกระแอม เขาก็เอาลงไป
สักพักดูไปเรื่อยๆมันก็บ่นๆคุยกันๆแต่ไม่นาน แล้วก็ควักโทรศัพท์มาเล่นอีก ไม่ได้ควักแค่มันนะ เพื่อนมันก็ควักออกมาแล้วก็ปิดไป แต่ไอ้นี่ยังไม่ปิด เลยใช้มาตรการเอาขาดันเก้าอี้ให้รู้สึกตัวสักหน่อย มันก็เลยปิด
อ่าห์ดูไปสักพัก ไอ้เพื่อนมันที่หยิบโทรศัพท์มาก็เหมือนเพิ่งชาร์ตแบตสำรองเสร็จเลยส่งให้ไอ้ข้างหน้าผมต่อ มันก็เปิดหน้าจอโทรศัพท์ดูอีก คือตอนนี้ไม่ได้เตือนเพราะหนังมันเข้าด้ายเข้าเข็มเลยขี้เกียจเสียอารมณ์
พอหลังฉากสู้ตอนจบจบ โรงก็เปิดไฟแต่หนังยังไม่จบเหมือนผิดพลาดทางเทคนิค พอเห็นไฟเปิดเท่านั้นละ พวกหน่อนี่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเช็คเข้าเฟสบุ๊คเข้าไลน์ทันที เราก็แบบคิดในใจ ยังต้องให้กูเตือนอีกเหรอ สักพักพนักงานก้รีบเข้ามาปิดไฟในโรง แต่หนังมันใกล้จบแล้วละ ไอ้คนหน้าผทเห็นว่าเขาปิดไฟมันเลยพักหน้าจอ แต่มันแค่กดล๊อกนะ ไม่ได้กดดับหน้าจอ อื้อหือออ กดปุ่มเดิมอีกสักครั้งมันจะเดือดร้อนมั้ยครับ แล้วสักพักถึงจะเอาโทรศัพท์ลงไป แต่อีกสักพักมันก็เอาขึ้นมาใหม่ พอหนังจบโรงเปิดไฟมันก็หยิบโทรศัพท์ลุกขึ้นมาตอนแรกก็คิดว่าจะหันมามองหน้าตรูมั้ย แต่มันไม่มอง(แต่ตรูมองหน้ามันอยู่)
ก็ไม่ได้อะไรหรอกมาบ่นประสบการณ์แสงแยงตาในโรงหนังเฉยๆ คือแบบว่าถ้าพวกนายไม่สามารถขาดโทรศัพท์ได้ แนะนำว่ารอออกแผ่นแล้วซื้อไปดูที่บ้านดีกว่านะ จะได้เล่นโทรศัพท์ได้เต็มที่ด้วย นะจ้ะๆ
-------------------
มาพูดเรื่องหนังกันดีกว่า The Jungle Book เวอร์ชันนี้กำกับโดย Jon Favreau ที่ทำ Iron Man 1-2 นั่นแหละ
ตอนแรกก็หวั่นๆมากเลยนะเพราะพอแกไม่ทำมนุษย์เตารีดแล้วไปทำ Cowboys & Aliens แล้วฟอร์มตกก็หวั่นงานแกมาตลอด พอมาทำเรื่อง Chef ก็ยังไม่ได้ดู พอมาทำเรื่องนี้ก็หวั่นแต่พอห็นคำวิจารณ์แล้ว อื้อหืออไม่ดูไม่ได้ละ
เนื้อเรื่องสนุกดี มีช่วงให้ลุ้นตื่นเต้นอยู่พอควร มีฉากตลกแทรกเข้ามาด้วยส่วนใหญ่มาจากเจ้าหมีบาลู
ชอบเสียงพากย์ของแต่ละคนมาก แต่ที่ขอบสุดคือ Bill Murray ที่เป็นบาลู เสียงกับคาแรคเตอร์มันใช่เลยอ่ะหมอ
มาถึงระบบบ้าง หนังถ่ายด้วยกล้อง 3D บนจอกรีนสกรีนโดยมีแต่ไอ้เด็กเมาคลีแล้วค่อยทำCGพวกสัตว์อื่นทีหลัง ก็เลยค่อนข้างวางใจในระบบ 3D พอมาดู IMAX ก็ยิ่งไม่ผิดหวัง เพราะภาพสามมิติสวยมากกมีมิติลึกดี แล้วมีทะลุจอด้วย แถมหนังใช้อัตราส่วนเกือบเต็มจอของ IMAX ด้วย แต่ภาพสวยๆจะอยู่ฉากกลางวัน ฉากกลางคืนรู้สึกว่ามืดเกิน แล้วเสียงก็กระหึ่มใช้ได้เลยนะ แจ๋วมากๆ
----
แต่อย่างว่าละ หนังมันคงจะสนุกกว่านี้ ถ้าไม่มีเด็กผีมารังควานสายตา