เชื่อว่าเวลาวางแผนเที่ยวไปไหนก็ตาม หนึ่งในคำถามยอดฮิต คือ ไปกินอะไรดี หลังจากไปตระเวนกินในลอนดอนมาเป็นเวลาสองปีกว่า หมดค่ากินไปไม่รู้เท่าไหร่ วันนี้จะมาแชร์ร้านที่คิดว่าอร่อย น่าไปลอง
ขอแบ่งประเภทร้านเป็น 4 ระดับ ตามราคาเฉลี่ยต่อคนต่อมื้อ
£ - จ่ายไหว สบายๆ ในราคาไม่เกิน 10 ปอนด์
££ - ยังพอรับได้ ราคา 10-30 ปอนด์
£££ - เริ่มเกินเอื้อมละ ราคา 30-60 ปอนด์
££££ - จะแพงไปไหน ราคาเกิน 60 ปอนด์ขี้นไป
ก่อนอื่นขอแนะนำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่ควรรู้เวลาไปกินอาหารที่ลอนดอนก่อนนะคะ
1) การจองร้าน - ถ้าเป็นร้านดังๆแนะนำให้จองก่อนไปนะคะ แนะนำเว็บ www.opentable.co.uk ที่สามารถค้นหาร้านในลอนดอนได้อย่างง่ายดาย แถมเวลาจองจะได้แต้ม ร้านละ 100 แต้ม ครบ 2,000 แต้มจะได้คูปองไปกินตามร้านที่ร่วมรายการ 10 ปอนด์ค่ะ แต่บางร้านจะได้ 1000 แต้ม ที่สำคัญเว็บนี้จะมีโปรโมชั่นของร้านต่างๆออกมาเรื่อยๆ เช่น ลด 50% เซ็ทเมนูในราคาย่อมเยา การจองร้านอาหารไม่ว่าจะผ่านเว็บนี้ เว็บอื่นๆหรือจองโดยตรงกับทางร้านเอง ไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถยกเลิกได้ตลอดเวลา ยกเว้นร้านดังๆบางร้านที่จะต้องให้เลขบัตรเครดิตตอนจอง และถ้ายกเลิกหลังเวลาที่กำหนด (ส่วนใหญ่ 48-72 ชั่วโมงก่อนเวลาจอง) จะโดนปรับประมาณ 50-60 ปอนด์ค่ะ
2) น้ำดื่ม - แนะนำให้สั่งเป็น Tap water หรือน้ำก็อกนี่แหละค่ะ เพราะไม่เสียตังค์ น้ำก็อกที่นี่กินได้นะคะ สะอาดมากค่ะ
3) การสั่งอาหาร - เมนูจะแบ่งหลักๆเป็น Entrees/Starter, Main Course, Dessert เวลาเสิร์ฟ จะเสิร์ฟที่ละคอร์สพร้อมกันทั้งโต๊ะ เช่น ถ้ามากัน 2 คน คนนึงสั่ง Starter อีกคนไม่สั่ง ทางร้านจะเสิร์ฟ Starter ก่อน อีกคนต้องรอ พอกิน Starter เสร็จ ทางร้านถึงเสิร์ฟ Main Course ของทั้งสองคนพร้อมกัน
4) Service charge - ค่าอาหารที่นี่รวม Tax แล้ว แต่ไม่รวม Service charge นะคะ ส่วนใหญ่ ในอังกฤษจะไม่ได้บวก Service Charge ลงไปเหมือนเมืองไทย ยกเว้นร้านดังๆบางร้าน โดย Service Charge อยู่ที่ 12.5% แต่คนส่วนใหญ่ก็จะให้ทิป 12.5% ถ้าร้านไม่ได้บวกค่าบริการเข้าไป หรือ บริการไม่ได้แย่จนรับไม่ได้
5) การจ่ายเงิน - ร้านส่วนใหญ่รับบัตรเครดิต สามารถแบ่งกันจ่ายได้ เช่นไปกัน 3 คน ก็ให้บัตรเครดิตของแต่ละคนไปเลย 3 ใบ บริกรจะรูดบัตรในราคาที่หารเท่าๆกันให้
6) Dress code - ถ้าไปร้านดังๆ ควรเช็คก่อนนะคะ ว่าทางร้านมี Dress Code หรือไม่ ส่วนใหญ่จะเป็น Smart Casual แปลว่า สุภาพแต่ไม่ทางการมาก หลักๆก็ไม่ควรใส่ยีนส์ รองเท้าแตะ รองเท้ากีฬา กางเกงขาสั้น
7) ช้อนส้อม - ถ้าทางร้านจัดช้อนส้อมเรียงไว้หลายชุด หลักการคือใช้จากข้างนอกมาข้างใน แต่ส่วนใหญ่ ทางร้านจะนำช้อนส้อมของแต่ละจานมาให้ตอนเสิร์ฟจานนั้นๆ พอกินเสร็จก็จะเก็บช้อนส้อมไป พอเสิร์ฟจานใหม่ก็นำช้อนส้อมชุดใหม่มาให้
8) ผับ – มาอังกฤษทั้งที ไม่ควรพลาดเข้าผับ ผับที่นี่มีบริการทั้ง เบียร์ ไวน์ cider (เบียร์ที่ทำจากแอปเปิล รสชาติเปรี้ยว หวาน ซ่า แอลกอฮอลล์ต่ำ สาวๆน่าจะชอบ) เวลาสั่งให้สั่งที่บาร์ จ่ายเงินแล้วรับเครื่องดื่มได้เลย เสร็จแล้วจะไปนั่งดื่มในร้านหรือยืนดื่มนอกร้านก็ได้ คนอังกฤษชอบออกมายืนจับกลุ่มคุยกันข้างนอกร้าน ช่วงฤดูร้อน เบียร์ที่นี่ จะไม่มีใส่น้ำแข็งนะคะ เท่าที่ไปมาทั่วโลก เห็นแค่ประเทศไทยที่ดื่มเบียร์ใส่น้ำแข็ง นอกจากนั้นเวลาดื่ม คนที่นี่ก็ดื่มกันแบบจริงจัง ไม่ค่อยมีกับแกล้มนะคะ
ถ้าไปกับเพื่อนชาวอังกฤษ จะไม่ได้เป็นการจ่ายเงินแบบแชร์กัน แต่จะจ่ายเงินแบบเป็นรอบ เช่น ถ้าไปกับเพื่อน แล้วเราจะไปซื้อเครื่องดื่มเพิ่ม ก็จะถามเพื่อนๆในกลุ่มว่า ใครต้องการอะไรบ้าง เวลาเราไปซื้อ ก็จ่ายเงินให้เพื่อนทุกคนที่สั่งกับเรา เวลาเพื่อนไปซื้อ ก็จะทำแบบเดียวกัน
[CR] [กินแหลก Daekหรู] ไปลอนดอน กินอะไรดี? ตามมาดู จะบอกให้ มากกว่า 50 ร้าน ครบทุกระดับราคา ตั้งแต่ถูกยันแพงยันโคตรแพง
ขอแบ่งประเภทร้านเป็น 4 ระดับ ตามราคาเฉลี่ยต่อคนต่อมื้อ
£ - จ่ายไหว สบายๆ ในราคาไม่เกิน 10 ปอนด์
££ - ยังพอรับได้ ราคา 10-30 ปอนด์
£££ - เริ่มเกินเอื้อมละ ราคา 30-60 ปอนด์
££££ - จะแพงไปไหน ราคาเกิน 60 ปอนด์ขี้นไป
ก่อนอื่นขอแนะนำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่ควรรู้เวลาไปกินอาหารที่ลอนดอนก่อนนะคะ
1) การจองร้าน - ถ้าเป็นร้านดังๆแนะนำให้จองก่อนไปนะคะ แนะนำเว็บ www.opentable.co.uk ที่สามารถค้นหาร้านในลอนดอนได้อย่างง่ายดาย แถมเวลาจองจะได้แต้ม ร้านละ 100 แต้ม ครบ 2,000 แต้มจะได้คูปองไปกินตามร้านที่ร่วมรายการ 10 ปอนด์ค่ะ แต่บางร้านจะได้ 1000 แต้ม ที่สำคัญเว็บนี้จะมีโปรโมชั่นของร้านต่างๆออกมาเรื่อยๆ เช่น ลด 50% เซ็ทเมนูในราคาย่อมเยา การจองร้านอาหารไม่ว่าจะผ่านเว็บนี้ เว็บอื่นๆหรือจองโดยตรงกับทางร้านเอง ไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถยกเลิกได้ตลอดเวลา ยกเว้นร้านดังๆบางร้านที่จะต้องให้เลขบัตรเครดิตตอนจอง และถ้ายกเลิกหลังเวลาที่กำหนด (ส่วนใหญ่ 48-72 ชั่วโมงก่อนเวลาจอง) จะโดนปรับประมาณ 50-60 ปอนด์ค่ะ
2) น้ำดื่ม - แนะนำให้สั่งเป็น Tap water หรือน้ำก็อกนี่แหละค่ะ เพราะไม่เสียตังค์ น้ำก็อกที่นี่กินได้นะคะ สะอาดมากค่ะ
3) การสั่งอาหาร - เมนูจะแบ่งหลักๆเป็น Entrees/Starter, Main Course, Dessert เวลาเสิร์ฟ จะเสิร์ฟที่ละคอร์สพร้อมกันทั้งโต๊ะ เช่น ถ้ามากัน 2 คน คนนึงสั่ง Starter อีกคนไม่สั่ง ทางร้านจะเสิร์ฟ Starter ก่อน อีกคนต้องรอ พอกิน Starter เสร็จ ทางร้านถึงเสิร์ฟ Main Course ของทั้งสองคนพร้อมกัน
4) Service charge - ค่าอาหารที่นี่รวม Tax แล้ว แต่ไม่รวม Service charge นะคะ ส่วนใหญ่ ในอังกฤษจะไม่ได้บวก Service Charge ลงไปเหมือนเมืองไทย ยกเว้นร้านดังๆบางร้าน โดย Service Charge อยู่ที่ 12.5% แต่คนส่วนใหญ่ก็จะให้ทิป 12.5% ถ้าร้านไม่ได้บวกค่าบริการเข้าไป หรือ บริการไม่ได้แย่จนรับไม่ได้
5) การจ่ายเงิน - ร้านส่วนใหญ่รับบัตรเครดิต สามารถแบ่งกันจ่ายได้ เช่นไปกัน 3 คน ก็ให้บัตรเครดิตของแต่ละคนไปเลย 3 ใบ บริกรจะรูดบัตรในราคาที่หารเท่าๆกันให้
6) Dress code - ถ้าไปร้านดังๆ ควรเช็คก่อนนะคะ ว่าทางร้านมี Dress Code หรือไม่ ส่วนใหญ่จะเป็น Smart Casual แปลว่า สุภาพแต่ไม่ทางการมาก หลักๆก็ไม่ควรใส่ยีนส์ รองเท้าแตะ รองเท้ากีฬา กางเกงขาสั้น
7) ช้อนส้อม - ถ้าทางร้านจัดช้อนส้อมเรียงไว้หลายชุด หลักการคือใช้จากข้างนอกมาข้างใน แต่ส่วนใหญ่ ทางร้านจะนำช้อนส้อมของแต่ละจานมาให้ตอนเสิร์ฟจานนั้นๆ พอกินเสร็จก็จะเก็บช้อนส้อมไป พอเสิร์ฟจานใหม่ก็นำช้อนส้อมชุดใหม่มาให้
8) ผับ – มาอังกฤษทั้งที ไม่ควรพลาดเข้าผับ ผับที่นี่มีบริการทั้ง เบียร์ ไวน์ cider (เบียร์ที่ทำจากแอปเปิล รสชาติเปรี้ยว หวาน ซ่า แอลกอฮอลล์ต่ำ สาวๆน่าจะชอบ) เวลาสั่งให้สั่งที่บาร์ จ่ายเงินแล้วรับเครื่องดื่มได้เลย เสร็จแล้วจะไปนั่งดื่มในร้านหรือยืนดื่มนอกร้านก็ได้ คนอังกฤษชอบออกมายืนจับกลุ่มคุยกันข้างนอกร้าน ช่วงฤดูร้อน เบียร์ที่นี่ จะไม่มีใส่น้ำแข็งนะคะ เท่าที่ไปมาทั่วโลก เห็นแค่ประเทศไทยที่ดื่มเบียร์ใส่น้ำแข็ง นอกจากนั้นเวลาดื่ม คนที่นี่ก็ดื่มกันแบบจริงจัง ไม่ค่อยมีกับแกล้มนะคะ
ถ้าไปกับเพื่อนชาวอังกฤษ จะไม่ได้เป็นการจ่ายเงินแบบแชร์กัน แต่จะจ่ายเงินแบบเป็นรอบ เช่น ถ้าไปกับเพื่อน แล้วเราจะไปซื้อเครื่องดื่มเพิ่ม ก็จะถามเพื่อนๆในกลุ่มว่า ใครต้องการอะไรบ้าง เวลาเราไปซื้อ ก็จ่ายเงินให้เพื่อนทุกคนที่สั่งกับเรา เวลาเพื่อนไปซื้อ ก็จะทำแบบเดียวกัน