[CR] Kyoto Slow Walker, เกียวโต เดินช้า ท้าลมหนาว...ตอนที่ 3

ความเดิมจากกระทู้ตอนที่ 1
http://ppantip.com/topic/34744720
และการเดินทางในตอนที่ 2
http://ppantip.com/topic/34760501

เต้าหู้ขาว ธาราใส ป่าไผ่ในฤดูเหมันต์ เดินท่ามกลางปุยหนาวขาวบริสุทธิ์…ที่อาราชิยาม่า

ตึ่ง-ติง-ติง-ตึ้ง-ตึง เสียงนาฬิกาจากโทรศัพท์ดังขึ้นกี่ครั้ง ผมจำไม่ได้ ผมตื่นขึ้นมาในเวลาเช้ามืด ในคืนอันเหน็บหนาวกว่าคืนที่ผ่านมา ด้วยความเพลียประจวบกับอุณหภูมิที่ติดลบ ทำให้ผมไม่อยากลุกขึ้นมาจากเตียงเลย ไม่ได้การ! ผมรีบลุกขึ้นมาจากที่นอน ก่อนที่จะเผลองีบไปอีกครั้ง วันนี้ผมมีนัดกับตัวเองว่า ผมจะเดินทางออกนอกเมืองเพื่อไปสัมผัสกับสถานที่พักตากอากาศอันลือชื่อของเกียวโต…อาราชิยาม่า (Arashiyama)

อาราชิยาม่า เป็นย่านสวรรค์ ที่พักตากอากาศ ของเหล่าชนชั้นซามุไร มาตั้งแต่ยุคสมัยเฮอัน (ค.ศ.794-1185) ผมคิดไปว่าคงคล้ายๆกับ หัวหินของบ้านเรากระมัง ลองจินตนาการดูนะครับ หากผมเป็นซามุไรในสมัยนั้น หรือไม่สิ ผมคงเป็นได้แค่คนหามเกี้ยวให้เจ้านาย ถ้าเราไม่ได้เดินทางมาชมความงามของสายน้ำ หุบเขา ความสงบที่นี่ เราคงไม่เก๋ไก๋ ได้เป็นซามุไรตกยุคเป็นแน่

ผมแต่งตัวด้วยชุดที่หนาขึ้นกว่าทุกวัน พร้อมกับขยำถุงทำความร้อนที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ เดินออกจากที่พักในย่านกิอง เพื่อขึ้นรถบัสไปยังสถานี SHIJO-OMIYA การจราจรในเวลาเช้ามืดในย่านกลางเมือง ไม่ติดขัดนัก ทำให้ผมเดินทางถึงสถานีอย่างรวดเร็ว จากนั้นผมก็ขึ้นรถราง Randen Arashiyama Line เป็นรถรางที่รูปร่างสี่เหลี่ยมสุดคลาสสิค สีเปลือกมังคุดดูน่ารัก ผู้คนยามนี้ช่างบางตา

เมื่อรถออกจากสถานี ภายนอกนั้นปุยสีขาวกำลังล่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าตัดกับสีกรมท่าปนมืดของท้องฟ้ายามเช้าอย่างช้าๆดูงดงามจับตา

บนรถรางคันนี้มีเพียงเด็กผู้หญิงอายุประมาณมัธยมคนหนึ่งหน้าตาเธอดูนิ่งๆแต่สดใส เธอควักขนมปังเมล่อนออกมาทานพร้อมดื่มนมอย่างเอร็ดอร่อย ผมไม่รอช้า ข้าวปั้นและกาแฟร้อนถูกหยิบออกมาจากถุงร้านสะดวกซื้อ และความหิวกระหายของผมได้พัดพาให้ข้าวปั้นก้อนจิ๋วหายไปอย่างรวดเร็ว เรายิ้มให้กัน และก้มหน้าก้มตาทานต่อไปเงียบๆ เราผ่านสถานีแล้วสถานีเล่า ผู้คนเริ่มหนาตาขึ้นแต่ยังมีที่ว่างเหลืออยู่มาก ไม่นานนัก ผมก็มาถึงสถานีปลายทาง อาราชิยาม่า

เงียบ ขาว และหนาว ความรู้สึกแรกที่ผมได้รับหลังลง จากรถราง Randen ผมหยอดเหรียญ 210 เยน แล้วผ่านประตูสถานี อาราชิยาม่า ทุกสิ่งทุกอย่างดูเงียบสงัด ผิดกับความวุ่นวาย ขวักไขว่ ในรูปภาพ และรายการโทรทัศน์ที่ผมเคยพบเห็นมา พื้นสีขาวราวกับสำลี ที่มีร่องรอยของการเหยียบย่ำเบาบาง ทำให้รู้ได้เลยว่าผมเป็นนักท่องเที่ยวคนแรกๆที่มาถึงอาราชิยาม่าในเช้าวันนี้

ผมเคว้งคว้างเดินออกจากสถานี พร้อมกับความหนาว มีวิธีเดียวที่จะทำได้ตอนนี้ คือสอบถามทางจากชาวบ้านละแวกนั้น ซึ่งผมโชคดีได้พบปะกับชาวบ้านที่น่ารัก ไม่ว่าจะเป็นคุณป้าแม่บ้าน น้องๆนักศึกษา หรือพระนิกายเซนที่กำลังปัดกวาดลานวัด ได้ช่วยบอกทางให้ผมเดินไปยังป่าไผ่เป้าหมายของการเดินทางในทริปนี้ของผมได้


ป่าไผ่ในฤดูเหมันต์

ฉากหนึ่งใน Memoirs of geisha ท่านนายพลชวนไมโกะ-ซายูริไปงานชมซากุระที่บ้าน โดยที่บ้านของท่านนายพลถูกสมมุติให้อยู่ในเขตอาราชิยาม่า ฉากที่รถโบราณค่อยๆเคลื่อนผ่านป่าไผ่นั้น เป็นฉากหนึ่งที่ภาพยนตร์ได้พยายามแสดงให้เห็นถึงกลิ่นไอ ในความงามของทัศนียภาพแห่งเมืองเกียวโตได้เป็นอย่างดี

ป่าไผ่ในฤดูหนาว ใครต่อใครถามว่าผมจะไปเพื่อสิ่งใด แสงสีทึมๆหม่นๆ ดูเหงาๆ ไม่มีการจัดแสงไฟ light up มีก็เพียงแต่กิ่งไผ่กับความหนาวยะเยือกเท่านั้น แต่สำหรับผมถนนที่เหมือนกับปูด้วยพรมสีขาวผืนยาว ตัดกับแนวทิวไผ่สีหม่น ช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนวิเศษ ที่ไม่มีฤดูใดจะได้สัมผัส ภาพวาดที่ธรรมชาติเป็นผู้แต่งแต้มแห่งนี้

ผมเดินผ่านรั้วกิ่งไผ่สีน้ำตาล ผ่านทิวไผ่ running bamboo ไปตามถนนสีขาว ผมโค้งให้ผู้คนที่สวนมาบ้างประปราย พร้อมกล่าวทักทาย โอ-ไฮ-โย่ จนกระทั่งเดินมาจนสุดถึงมุมหนึ่ง มีคุณลุงช่างภาพชาวญี่ปุ่นกางขาตั้งกล้องขนาดใหญ่อยู่ สอบถามได้ความว่า แกชื่อคุณลุงโยชิดะ มาจากโอซาก้า มารอแสงเพื่อเก็บภาพตั้งแต่ 6 โมงเช้า!!! ผมทึ่งในความพยายามของแกมากในสภาพอากาศหนาวจนติดลบเช่นนี้ เราจึงได้สนทนากันอยู่พักหนึ่ง และต่างก็เก็บภาพถ่ายป่าไผ่ในฤดูเหมันต์ในมุมมองของแต่ละคนอย่างประทับใจ บางทีมิตรภาพต่างแดนที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆแค่เรามีรอยยิ้ม

พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว อากาศยังไม่อุ่นขึ้นเลย ผมเดินออกจากป่าไผ่ พร้อมกับสังเกตเห็นเสาโทริอิที่ยังมีเปลือกไม้ ไม่ทาสีแดง เป็นลักษณะเสาโทริอิแบบโบราณ คุโรกิ โทริอิ อ่อ!ผมพบกับศาลเจ้าโบราณเข้าให้แล้ว ศาลเจ้าเล็กๆที่เงียบสงบ ไม่มีผู้คนใดๆ

ผมจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเป็น ศาลเจ้า Nonomiya ศาลเจ้าในตำนานเก็งกิ ที่มีชื่อเสียงเรื่องช่วยให้สมหวังในความรักและการแต่งงาน ผมคิดว่าหากมีคู่รักมาด้วยกันที่นี่ ในเวลาที่อากาศหนาวแบบนี้ แม้ไม่ได้ขอพร ก็คงจะมีความสุข และสมหวังในความรักแน่นอน...เหรียญ 5 เยนในมือของผม ถูกใส่ลงไปในกล่องรับบริจาคอย่างรวดเร็ว…

วัดมังกรสวรรค์ เทนริวจิ มรดกโลก

ความตั้งใจของผมที่จะต้องเข้าไปพิสูจน์ สวนเซนของวัดที่ว่ากันว่าวิจิตรพิศดาร หยิบยืมเอาภูมิทัศน์จากฉากหลัง มาเป็นส่วนหนึ่งของสวนได้อย่างลงตัว ว่ากันว่าหากนั่งชมสวนด้วยจิตใจสงบ จะพบมังกรบินทะยานจากน้ำขึ้นสู่สรวงสวรรค์เลยทีเดียว

วัดเทนริวจิเป็น 1ใน5  วัดเซนที่สำคัญที่สุดของเกียวโต  และเป็นมรดกโลก World Heritage ของ UNESCO ที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ในยุคสมัยเฮอัน วันนี้ผมเลือกที่จะชำระค่าธรรมเนียมเพื่อไปนั่งชมสวนเซนอย่างสงบ มิได้ชมตัวอาคาร ห้องแสดงธรรม และภาพวาดมังกรในหมู่เมฆอันมีชื่อเสียง

อาคารไม้สีน้ำตาลเข้ม กับม้านั่งที่ว่างเปล่าในยามเช้า นักท่องเที่ยวบางตา ความสงบ ในสายลมหนาว มันทำให้ผมสุขใจและรื่นรมย์อย่างไม่น่าเชื่อ

สายน้ำที่สงบนิ่ง ก้อนหินแต่ละก้อน ใบไม้ที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยปุยหิมะ ความงามเหนือจินตนาการ ที่ไม่อาจถ่ายทอดได้ในภาพหรือคำบรรยายใดๆ

ทุกสิ่งในสวนเซน ล้วนเป็นปรัชญา ก้อนหิน เมฆา สายน้ำ และกิ่งพฤกษา ผมนั่งพิจารณาความหมายของความสงบของสวนนี้และจิตใจของตัวเรา

อากาศเริ่มอุ่นขึ้นแล้ว แผ่นทำความร้อนยังคงทำงานได้ดี ผมยังคงนั่งนิ่งอยู่บนม้านั่งตัวเดิม ยังไม่ได้พบมังกรบิน ที่ทะยานออกจากสระแม้แต่ตนเดียว

นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเข้ามา บรรยากาศเริ่มคึกคัก ถึงเวลาที่ ผมจะต้องออกจากภวังค์ความสงบของที่แห่งนี้แล้ว

ผมเดินออกจากวัดพร้อมกับตั้งใจแน่วแน่ว่า คราวหน้า จะต้องมาเยือนอีกครั้ง พร้อมกับการตามหามังกรทะยานให้ได้

นอกเหนือจากจินตนาการที่ปรุงแต่งของเรา เนื้อแท้ภายใต้ความสงบภายใต้ความหมายของสวนเซน คืออะไร? คำตอบนั้นอยู่ที่จิตของเรา

ในสระจะมีมังกรหรือไม่มีอยู่ ความหมายลึกซึ้งแยบยลอย่างไร ต้องลองใช้ปัจเจกปัญญาพินิจพิเคราะห์กันดูครับ

สะพานผ่านจันทรา อาราชิยาม่าในความฝัน

ผมเดินออกจากประตูวัดเทนริวจิช้าๆ อากาศอุ่นขึ้น สองข้างทาง เต็มไปด้วยสีสันแห่งชีวิต แสงแดดที่สดใส หิมะเริ่มละลาย ร้านค้าน้อยใหญ่เริ่มเปิดให้บริการ ร้านค้ารดน้ำล้าง หน้าร้านเพื่อละลายหิมะไม่ให้ลูกค้าลื่นไถล

ถนนสีขาวดุจสำลีในยามเช้า ถูกเปลี่ยนไปเป็นถนนหนทางปกติ เสียงเพื่อนๆนักเดินทางมากหน้าหลายตาเริ่มส่งเสียงจอแจ รถยนต์ขวักไขว่ ความรู้สึกเปลี่ยนไป ผมรู้สึกมีความสุขกับเสียงอึกทึกนี้ มันเต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา และเสียงหัวเราะที่แสนสนุกสนาน

สะพานโทเง็ตสึเคียว – Togetsukyo Bridge ทอดยาวข้ามแม่นํ้าโฮสึ โดยมีภูเขาอาราชิยาม่าเป็นฉากหลัง สัญลักษณ์ ของอาราชิยาม่า  เป็นสะพานที่งดงามจนองค์จักรพรรดิคะเมะยะมะ ตรัสเปรียบเปรยว่า “เปรียบดั่งข้ามดวงจันทร์ที่ไร้เงามืด”

ผมเดินตามทางย่านการค้าที่คึกคัก ไปยังต้นสะพานโทเง็ตสึเคียส แล้วเดินเล่นทอดน่องเรียบทางเดินแม่น้ำโฮสึ ในเวลานี้ ไม่มีอะไรสวยงามไปกว่าวิถีชีวิตผู้คน

พ่อหนุ่มรถลากกำลังลากรถให้กับนักท่องเที่ยวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

ร้านค้าที่เริ่มเรียกลูกค้าด้วยเสียงคึกคัก

ร้านกาแฟริมแม่น้ำที่แสนจะ hipster

แสงแดดกระทบกับผิวน้ำในเวลานี้สวยงามเหมาะแก่การนั่งรับแสงแดดอันอบอุ่น ผมเดินเรียบฝั่งแม่น้ำไปจนกระทั่งผ่านย่านเรียวกัง เรียวกังราคาแพงที่เปิดมานับร้อยปีริมแม่น้ำโฮสึ ทำให้ผมได้พบกับวัฒนธรรมที่น่าประทับใจ

สักครู่ มาต่อนะครับ...
ชื่อสินค้า:   อาราชิยามะ เกียวโต ญี่ปุ่น
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่