คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
คนรอบข้าง จขกท.มองตัวเงินมากกว่าความสุขที่ จขกท.จะได้รับครับ ตัวเงินอาจจะมีความจำเป็นในการดำรงชีพก็จริง แต่เมื่อตัวเงินที่มากกว่าต้องแลกกับความเหนื่อยยากลำบากใจและชีวิตที่แทบไม่มีความสุขกับการทำงาน กับอีกทางที่ตัวเงินอาจมีจำนวนน้อยกว่าแต่โดยรวมคุณภาพชีวิตมิได้ลดลงเลย แต่อาจกลับมีความสุขมากยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องครอบครัว เพียงเท่านี้ จขกท.คงมีคำตอบอยู่ในใจได้บ้างแล้วนะครับ
ด้วยความเคารพ ประเด็นปัญหาของ จขกท.ขอมีความเห็นว่า
ประเด็นแรก หน.งานไม่ยอมเดินเรื่องลาออกให้ และเหมือนจะกักตัวไม่ให้ออก แถมพูดจาเหน็บแนม ด้วยความเคารพในความรู้สึกของ จขกท. อย่าโลกสวยครับ การลาออกเป็นสิทธิของเรา หน.งานไม่มีสิทธิแม้แต่จะพูดแบบนั้นด้วยซ้ำครับ เราทำงานแลกเงิน ไม่ได้เป็นทาสรับใช้นะครับ คำพูดของ หน.งานที่ด่าว่า เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่เพื่อนร่วมงานที่จะเหนื่อยถ้า จขกท.ออกไป เอ่อ จขกท.ครับ มันเรื่องของเค้าครับ จขกท.เป็นแค่พนักงานคนนึงนะครับ เราออก เค้าเหนื่อยเพิ่มขึ้น ขาดคน ก็เรื่องของเค้าครับ หน.งาน จขกท.นั่นหล่ะครับ ที่น่าจะโดนจัดหนัก อย่าโลกสวย อย่ายอมแพ้ครับ ประเด็นนี้เราควบคุมได้ครับ เราลาออกต้องได้ออกครับ ไม่มีใครมาห้ามเราได้ มันเป็นสิทธิของเรา
ประเด็นที่สอง พ่อแม่พูดเชิงเตือนสติ ไม่อยากให้ทำงานองค์กรเล็ก อยากจะลองก็ตามใจ ด้วยความเคารพอีกรอบ แม้ท่านจะหวังดี แต่ไม่ว่าจะองค์กรเล็ก หรือองค์กรใหญ่ ก็ต้องทำงานแลกเงินเหมือนกันทั้งนั้นครับ อย่ายึดติดตามกระแส หรือคิดว่าหากทำงานองค์กรใหญ่กว่าจะดูดีมีหน้ามีตาในสังคม ดูโก้เก๋กว่าทำงานในองค์กรเล็กๆ เมื่อความคิดแบบนี้เป็นเพียงแค่ค่านิยมในสังคม ก็อย่านำมาเป็นเหตุให้ต้องกังวลใจและมีผลกับการตัดสินใจของ จขกท.เลยครับ จงใช้ความรู้สึกและความคิดของ จขกท. และความสุขของ จขกท.ที่จะได้รับเป็นหลักในการตัดสินใจดีกว่านะครับ อีกอย่างด้วยความเคารพ คนที่จะทำงานคือตัวเรา ไม่ใช่พ่อแม่ครับ
ประเด็นสุดท้าย แฟนไม่อยากให้เปลี่ยนงาน และด่าหาว่าเห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ครอบครัว ไม่ขอเคารพในความคิดเห็นของแฟน จขกท. แฟน จขกท.เห็นแก่ตัวชัดๆ และไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษสักนิดเลยครับ และไม่เห็นแก่ความสุขของเมียและแม่ของลูกเลยครับ แม้แฟน จขกท.จะมีรายได้ และเห็นว่าหากเปลี่ยนงานใหม่ รายได้จะไม่มั่นคง เพียงแค่นี้แฟน จขกท.ก็ไม่มีสิทธิพูดเพื่อทำลายและทำร้ายจิตใจ จขกท.นะครับ ควรจะให้กำลังใจและเป็นเพื่อนคู่คิดที่ดีมากกว่านะครับ แม้รายได้อาจจะน้อยลง และ จขกท.ก็ยังเหนื่อยนะครับ แต่ความสุขในชีวิตและเวลาที่จะให้กับครอบครัวมันมีมีมากกว่านะครับ แฟน จขกท.ไม่ได้มองที่ความสุขของ จขกท.เลย เมียเหนื่อยไม่เป็นไร ขอเงินมากเข้าว่าให้อภัย หน้าเงินและหน้าตัว mia ชัดๆ ขอโทษและขออภัยหากรุนแรงเกินไปครับ
ขอให้ จขกท.ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องนะครับ และมีสติ มีเหตุมีผล แม้เงินจะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต แต่ก็จำเป็นในการดำรงชีพ แต่ก็อย่าให้มันมีบทบาทและควบคุมชีวิตเรานะครับ มันคือความจริงครับว่าเงินไม่สามารถซื้อทุกอย่างได้ แต่ทุกอย่างที่อยากได้ก็ต้องใช้เงินทั้งสิ้น แต่ขอให้ จขกท.พึงตระหนักว่าเหนือสิ่งอื่นใด ความสุขที่ จขกท.จะได้รับ แม้จะตีค่าเป็นตัวเงินไม่ได้แต่ก็มีค่ามากพอกว่าเงินเดือนที่จะเข้าบัญชีในแต่ละเดือนครับ ^_^
ด้วยความเคารพ ประเด็นปัญหาของ จขกท.ขอมีความเห็นว่า
ประเด็นแรก หน.งานไม่ยอมเดินเรื่องลาออกให้ และเหมือนจะกักตัวไม่ให้ออก แถมพูดจาเหน็บแนม ด้วยความเคารพในความรู้สึกของ จขกท. อย่าโลกสวยครับ การลาออกเป็นสิทธิของเรา หน.งานไม่มีสิทธิแม้แต่จะพูดแบบนั้นด้วยซ้ำครับ เราทำงานแลกเงิน ไม่ได้เป็นทาสรับใช้นะครับ คำพูดของ หน.งานที่ด่าว่า เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่เพื่อนร่วมงานที่จะเหนื่อยถ้า จขกท.ออกไป เอ่อ จขกท.ครับ มันเรื่องของเค้าครับ จขกท.เป็นแค่พนักงานคนนึงนะครับ เราออก เค้าเหนื่อยเพิ่มขึ้น ขาดคน ก็เรื่องของเค้าครับ หน.งาน จขกท.นั่นหล่ะครับ ที่น่าจะโดนจัดหนัก อย่าโลกสวย อย่ายอมแพ้ครับ ประเด็นนี้เราควบคุมได้ครับ เราลาออกต้องได้ออกครับ ไม่มีใครมาห้ามเราได้ มันเป็นสิทธิของเรา
ประเด็นที่สอง พ่อแม่พูดเชิงเตือนสติ ไม่อยากให้ทำงานองค์กรเล็ก อยากจะลองก็ตามใจ ด้วยความเคารพอีกรอบ แม้ท่านจะหวังดี แต่ไม่ว่าจะองค์กรเล็ก หรือองค์กรใหญ่ ก็ต้องทำงานแลกเงินเหมือนกันทั้งนั้นครับ อย่ายึดติดตามกระแส หรือคิดว่าหากทำงานองค์กรใหญ่กว่าจะดูดีมีหน้ามีตาในสังคม ดูโก้เก๋กว่าทำงานในองค์กรเล็กๆ เมื่อความคิดแบบนี้เป็นเพียงแค่ค่านิยมในสังคม ก็อย่านำมาเป็นเหตุให้ต้องกังวลใจและมีผลกับการตัดสินใจของ จขกท.เลยครับ จงใช้ความรู้สึกและความคิดของ จขกท. และความสุขของ จขกท.ที่จะได้รับเป็นหลักในการตัดสินใจดีกว่านะครับ อีกอย่างด้วยความเคารพ คนที่จะทำงานคือตัวเรา ไม่ใช่พ่อแม่ครับ
ประเด็นสุดท้าย แฟนไม่อยากให้เปลี่ยนงาน และด่าหาว่าเห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ครอบครัว ไม่ขอเคารพในความคิดเห็นของแฟน จขกท. แฟน จขกท.เห็นแก่ตัวชัดๆ และไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษสักนิดเลยครับ และไม่เห็นแก่ความสุขของเมียและแม่ของลูกเลยครับ แม้แฟน จขกท.จะมีรายได้ และเห็นว่าหากเปลี่ยนงานใหม่ รายได้จะไม่มั่นคง เพียงแค่นี้แฟน จขกท.ก็ไม่มีสิทธิพูดเพื่อทำลายและทำร้ายจิตใจ จขกท.นะครับ ควรจะให้กำลังใจและเป็นเพื่อนคู่คิดที่ดีมากกว่านะครับ แม้รายได้อาจจะน้อยลง และ จขกท.ก็ยังเหนื่อยนะครับ แต่ความสุขในชีวิตและเวลาที่จะให้กับครอบครัวมันมีมีมากกว่านะครับ แฟน จขกท.ไม่ได้มองที่ความสุขของ จขกท.เลย เมียเหนื่อยไม่เป็นไร ขอเงินมากเข้าว่าให้อภัย หน้าเงินและหน้าตัว mia ชัดๆ ขอโทษและขออภัยหากรุนแรงเกินไปครับ
ขอให้ จขกท.ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องนะครับ และมีสติ มีเหตุมีผล แม้เงินจะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต แต่ก็จำเป็นในการดำรงชีพ แต่ก็อย่าให้มันมีบทบาทและควบคุมชีวิตเรานะครับ มันคือความจริงครับว่าเงินไม่สามารถซื้อทุกอย่างได้ แต่ทุกอย่างที่อยากได้ก็ต้องใช้เงินทั้งสิ้น แต่ขอให้ จขกท.พึงตระหนักว่าเหนือสิ่งอื่นใด ความสุขที่ จขกท.จะได้รับ แม้จะตีค่าเป็นตัวเงินไม่ได้แต่ก็มีค่ามากพอกว่าเงินเดือนที่จะเข้าบัญชีในแต่ละเดือนครับ ^_^
แสดงความคิดเห็น
ทะเลาะกับที่บ้านหนักมาก เพราะอยากลาออกจากงาน
มั่นคงดี แต่งานหนักมาก ฐานเงินเดือนน้อย แต่ค่าคอมเยอะ รายได้โดยรวมโอเค
แต่งานหนักจนบางวันไม่ได้หลับได้นอน เคยไม่นอนนานสุด 2 วัน ทำงานติดกัน 40 กว่า ชม.
วันหยุดถ้างานเยอะก็ต้องมาทำงาน แทบไม่มีวันหยุด
กินไม่เป็นเวลา บางทีทำงานหนัก รู้ตัวอีกทีก็เลิกงานแล้ว ยังไม่ได้กินข้าวเลย
นอนไม่เป็นเวลา บางทีทำงานหนัก งานเข้า ทำยันเที่ยงคืน หรือถึงเช้าก็มี
ร่างกายพักผ่อนไม่เคยเพียงพอ รู้สึกเลยว่าสุขภาพทรุดโทรมมาก
แถมเวลาให้ครอบครัวก็ไม่มี บางที 2 อาทิตย์ไม่ได้คุยกับลูกเลย เพราะกลับบ้านหลังลูกหลับ และไปทำงานก่อนลูกตื่น
สรุปเราเลยคิดจะลาออกจากงาน
เราหางานใหม่ ได้เป็นบริษัทเล็กๆที่น่าสนใจ ฐานเงินเดือนดีกว่าที่เก่า แต่ไม่มีค่าคอม
รวมแล้วรายได้เลยอาจจะน้อยลง แต่กลับบ้านเป็นเวลา มีเวลาให้ครอบครัวและตัวเองมากขึ้น
แต่ปัญหาอย่างแรก คือ หัวหน้างานไม่ยอมเดินเรื่องลาออกให้ ทำเพิกเฉย ให้ทำงานต่อไปเรื่อยๆ
พอไปทวงถามก็บอกว่า ไม่ให้ออก ไม่ก็ด่ากลับมาว่า เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่เพื่อนร่วมงานที่จะเหนื่อยถ้าเราออกไป
และเค้าก็หาคนมาแทนทันทีไม่ได้
ปัญหาอย่างที่สอง คือ พ่อแม่ ซึ่ง ไม่ค่อยสนับสนุนเราไปทำงานองค์กรเล็กๆ
แต่ท่านก็แค่เตือน ให้คิดดีๆ ไม่ได้ห้าม ถ้าเราจะไปทำจริงๆ อยากลองก็ตามใจ
ปัญหาอย่างสุดท้าย คือ ครอบครัว เรา ซึ่งเราทะเลาะกับแฟนบ่อยมาก แทบทุกวัน
แฟนเราไม่อยากให้เราเปลี่ยนงาน เพราะงานนี้มันมั่นคง รายได้ดีกว่า (แลกกับความเหนื่อยยากของเรา)
และก็มีสวัสดิการที่ดีกว่า (ที่ใหม่ไม่มีสวัสดิการอะไรมากมาย)
(เราทำงานข้างนอก ส่วนแฟนเลี้ยงลูกอยู่บ้าน + ขายของออนไลน์)
พอเราบอกว่าเราไม่ไหวจริงๆ อยากลาออกไปทำอย่างอื่นที่มันไม่หนักแบบนี้
ก็โดนด่าว่าเราเห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ครอบครัว ว่าจะลำบาก ถ้าเราออกจากงานเก่า
(จริงๆก็ไม่ได้ลำบากมาก เงินเดือนโดยรวมต่างกันไม่กี่พัน และถ้าเราได้ค่าคอมน้อย เงินที่เก่าก็น้อยกว่า)
ที่ทำงานใหม่ก็โทรมาเร่งให้ไปเริ่มงานเร็วๆ
ตอนนี้เราเครียดมาก
อยากลาออกแต่ก็เหมือนโดนปิดกั้นทุกทาง ปิดโอกาสไม่ให้เราลาออก
เหมือนว่าถ้าเราลาออก เราก็ต้องมีปัญหา ทะเลาะกับที่บ้าน ทะเลาะกับเพื่อนร่วมงาน (อีก 1 เดือน)
ไม่มีใครสนับสนุน หรือ เห็นด้วยกับการที่เราลาออกเลย
แต่เราเหนื่อย เราไม่ไหวแล้ว ไม่มีความสุขในการทำงาน
เราเหมือนเป็นโรคซึมเศร้า ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากคุยกับใคร
ไม่รู้จะหาทางออกให้ปัญหายังไงดีแล้วค่ะ