เรื่องราวของพนักงานออฟฟิตคนหนึ่งที่มีความฝันอยากไปเที่ยวยุโรปสักครั้งในชีวิต แต่อุปสรรคคือเงิน วันลาพักร้อนอันน้อยนิด และหนี้สินรอบกาย ความผันกลายเป็นจริงได้อย่างไร 17 วันกับการเที่ยวในเมืองหลักๆของยุโรป 7 เมือง 5 ประเทศ จาก Amsterdam จบที่ Copenhagen เกิดขึ้นได้อย่าไร ลองติดตามกันดูนะค่ะ
==============================================================================
"อยากไปยุโรป.. อยากไปยุโรป.. อยากไปยุโรป.."
สี่พยางค์นี้เป็นสิ่งที่ก้องกังวาลและฝังอยู่ในหัวมานานนม มันคือความฝัน มันคือความกระหาย มันคือแพลน มันคือแรงกระตุ้น บ่อยครั้งจะบอกตัวเองและเหล่าเพื่อนสาวว่า "แก ปีหน้าฉันจะไปเที่ยวยุโรปให้ได้” เพื่อนทำหน้าเอือม จือปาก มองบน “เฮ้ย จริงๆแก ฉันซีเรียส” ข้าพเจ้าเอ่ยพร้อมสีหน้ามุ่งมั่น พูดแบบนี้จนเพื่อนอยากเอาน้ำส้มตำปูปลาร้าที่เหลือเฉพาะน้ำดำๆกับซากพริกครึ่งสวนสาดหน้าปลุกให้ตื่นจากภวังค์ ปีแล้วปีเล่าดูยังไง้ยังไงฝันนี้ก็ยังอยู่นิ่งๆลึกๆและไม่มีวี่แววว่าจะบังเกิดขึ้นเอาซะเลย เพราะอะไรนะหรือ เหตุผลหลักอย่างเดียวเลยก็คือ "เงิน" เงินตัวเดียวเท่านั้น
หนังสือบางเล่ม บทความบางบท หรือคนบางคนกล่าวไว้ว่า "เงินไม่ใช่ประเด็น อย่าให้เงินเป็นอุปสรรค์ในการเดินตามฝัน คุณสามารถเที่ยวได้โดยที่ไม่ต้องมีเงินมากมาย” บลา บลา บลา อ่านไหม อ่าน ฟังไหม ฟัง เชื่อไหม ฮึ.. บอกตรงๆว่าไม่ค่อยเชื่อ แค่จะย่างก้าวออกจากห้องไปเดินชิวๆแถวสยามแบบไม่ช็อป ไม่กิน หรือไปทำงานตอนเช้าแบบไม่ดื่มกาแฟ มันก็ต้องมีเงินมาเกี่ยวข้องเสียให้ได้ จำได้ว่ามีวันหนึ่งตื่นเช้าแต่งตัวจะออกไปทำงาน วันนั้นรู้สึกตัวเองสวยมากบวกความมั่นหน้าที่หาซื้อที่ไดไม่ได้แล้ว แต่งตัวจัดเต็ม มันต้องเป็นวันที่สดใส พอก้าวออกจากห้องและดึงประตูปิดพร้อมเสียงประตูที่ล็อคจากข้างในดังกล็อกแค่นั้นแหละ สมองก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่ากระเป๋าตังค์พร้อมกุญแจห้องอยู่ข้างใน โอ้แม่เจ้า! ความวิบัตได้มาเยือนแล้วไหมล่ะ เงินทุกบาทบัตรทุกใบอยู่ในกระเป๋าสตังค์หมด รู้สึกเหมือนเป็นอัมพาต หากจะให้เดินไปทำงานแล้วค่อยยืมเงินเพื่อนคงไปถึงที่ทำงานประมาณเที่ยง
นี่ไงถึงได้บอกว่าทุกอย่างคือเงิน เงินไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต แต่การไม่มีเงินคือความลำบากของชีวิต ทำงานเงินเดือนไม่กี่หมื่น ผ่อนบัตรเครดิตผ่อนโน้นนี่นั่น ปาไปแล้ว 60% ของเงินเดือน ไหนจะค่าที่พัก ค่ารถค่าเรือ ค่ากิน ค่าหวย ค่าใช้จ่ายจิปาฐะ คุณพระ!! เดือนชนเดือน บางเดือนแทบไม่ชน หมุนจนไม่รู้จะหมุนยังไงแล้ว แค่จะเก็บเงินไว้ให้ตัวเองชื่นใจยังทำไม่ได้ ยุโรปนะหรืออย่าหวัง คงต้องเก็บมันไว้เป็นความเพ้อฝันกันต่อไป
ลางาน ทิ้งหนี้ หนีตามฝัน ไปลัลล้าที่ยุโรปด้วยงบที่จำกัด: 17 วันกับประสบการณ์เที่ยวยุโรปครั้งแรกคนเดียว 7 เมือง 5 ประเทศ
==============================================================================
"อยากไปยุโรป.. อยากไปยุโรป.. อยากไปยุโรป.."
สี่พยางค์นี้เป็นสิ่งที่ก้องกังวาลและฝังอยู่ในหัวมานานนม มันคือความฝัน มันคือความกระหาย มันคือแพลน มันคือแรงกระตุ้น บ่อยครั้งจะบอกตัวเองและเหล่าเพื่อนสาวว่า "แก ปีหน้าฉันจะไปเที่ยวยุโรปให้ได้” เพื่อนทำหน้าเอือม จือปาก มองบน “เฮ้ย จริงๆแก ฉันซีเรียส” ข้าพเจ้าเอ่ยพร้อมสีหน้ามุ่งมั่น พูดแบบนี้จนเพื่อนอยากเอาน้ำส้มตำปูปลาร้าที่เหลือเฉพาะน้ำดำๆกับซากพริกครึ่งสวนสาดหน้าปลุกให้ตื่นจากภวังค์ ปีแล้วปีเล่าดูยังไง้ยังไงฝันนี้ก็ยังอยู่นิ่งๆลึกๆและไม่มีวี่แววว่าจะบังเกิดขึ้นเอาซะเลย เพราะอะไรนะหรือ เหตุผลหลักอย่างเดียวเลยก็คือ "เงิน" เงินตัวเดียวเท่านั้น
หนังสือบางเล่ม บทความบางบท หรือคนบางคนกล่าวไว้ว่า "เงินไม่ใช่ประเด็น อย่าให้เงินเป็นอุปสรรค์ในการเดินตามฝัน คุณสามารถเที่ยวได้โดยที่ไม่ต้องมีเงินมากมาย” บลา บลา บลา อ่านไหม อ่าน ฟังไหม ฟัง เชื่อไหม ฮึ.. บอกตรงๆว่าไม่ค่อยเชื่อ แค่จะย่างก้าวออกจากห้องไปเดินชิวๆแถวสยามแบบไม่ช็อป ไม่กิน หรือไปทำงานตอนเช้าแบบไม่ดื่มกาแฟ มันก็ต้องมีเงินมาเกี่ยวข้องเสียให้ได้ จำได้ว่ามีวันหนึ่งตื่นเช้าแต่งตัวจะออกไปทำงาน วันนั้นรู้สึกตัวเองสวยมากบวกความมั่นหน้าที่หาซื้อที่ไดไม่ได้แล้ว แต่งตัวจัดเต็ม มันต้องเป็นวันที่สดใส พอก้าวออกจากห้องและดึงประตูปิดพร้อมเสียงประตูที่ล็อคจากข้างในดังกล็อกแค่นั้นแหละ สมองก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่ากระเป๋าตังค์พร้อมกุญแจห้องอยู่ข้างใน โอ้แม่เจ้า! ความวิบัตได้มาเยือนแล้วไหมล่ะ เงินทุกบาทบัตรทุกใบอยู่ในกระเป๋าสตังค์หมด รู้สึกเหมือนเป็นอัมพาต หากจะให้เดินไปทำงานแล้วค่อยยืมเงินเพื่อนคงไปถึงที่ทำงานประมาณเที่ยง
นี่ไงถึงได้บอกว่าทุกอย่างคือเงิน เงินไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต แต่การไม่มีเงินคือความลำบากของชีวิต ทำงานเงินเดือนไม่กี่หมื่น ผ่อนบัตรเครดิตผ่อนโน้นนี่นั่น ปาไปแล้ว 60% ของเงินเดือน ไหนจะค่าที่พัก ค่ารถค่าเรือ ค่ากิน ค่าหวย ค่าใช้จ่ายจิปาฐะ คุณพระ!! เดือนชนเดือน บางเดือนแทบไม่ชน หมุนจนไม่รู้จะหมุนยังไงแล้ว แค่จะเก็บเงินไว้ให้ตัวเองชื่นใจยังทำไม่ได้ ยุโรปนะหรืออย่าหวัง คงต้องเก็บมันไว้เป็นความเพ้อฝันกันต่อไป