กู้หมดจะแบกรับดอกเบี้ยแบบ CPALL ไหวเหรอครับ
กำไรจาก BIGC ยังสู้ MAKRO ไม่ได้เลย
เสี่ยเจริญ` ให้ BJC รับหน้าซื้อ BIGC เตรียมเทนเดอร์ฯ อีก 41.44% ในราคา 252.88 บาท
จากอีไฟแนนซ์
อัพเดทข้อมูลเพิ่มเติม
ความเห็นกองบรรณาธิการ-
ดีลนี้เป็นไปในลักษณะเดียวกับ CPALL ที่ต้องกู้ 1.8 แสนล้านบาท เพื่อซื้อหุ้น MAKRO-
BJC ต้องเป็นผู้แบกรับค่าใช้จ่ายจากการกู้เงิน 2.2 แสนล้านบาทมาซื้อหุ้น BIGC- ขณะที่พบว่า กำไรของ BIGC ต่อปีที่อยู่ราว 7.2 พันล้านบาท ไม่ครอบคลุมดอกเบี้ยที่ BJC ต้องจ่ายราวปีละเกือบ 1 หมื่นล้านบาท จากการกู้เงิน 2.2 แสนล้านบาท (คิดที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 4.5% ใกล้เคียงกับ CPALL กู้ซื้อ MAKRO)-
ดังนั้นในระยะสั้น BJC จะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับที่ CPALL เคยได้รับหลังจากกู้เงินจำนวนมากซื้อหุ้น MAKRO ซึ่งราคาหุ้นปรับลงอย่างเห็นได้ชัด จากผลการดำเนินงานที่ลดลง หลังต้องแบกค่าใช้จ่ายทั้งการซื้อกิจการ และดอกเบี้ย- มีความเสี่ยงที่ BJC อาจต้องเพิ่มทุนในอนาคต เนื่องจากภายหลังการกู้เงิน 2.2 แสนลบ. ทำให้หนี้สินต่อ EBITDA ของ BJC อาจพุ่งสูงถึง 60-70 เท่า เทียบกับ CPALL ซึ่งอยู่ที่ 5-6 เท่า- ล่าสุด BJC มี D/E ที่ 1.46 เท่า-
ผู้ถือหุ้นใหญ่ BJC ล่าสุด ณ ปิดสมุดทะเบียน1 ก.ย. 58 ประกอบด้วย1. บริษัท ทีซีซี โฮลดิ้ง จำกัด 1,175,584,220 73.83 2. DBS BANK LTD 85,651,600 5.38 3. กองทุนเปิด บัวหลวงหุ้นระยะยาว 42,591,700 2.67 4. กองทุนเปิด บัวหลวงหุ้นระยะยาว 75/25 33,526,800 2.11 5. สำนักงานประกันสังคม 16,624,300 1.04 - ล่าสุด BJC ปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ 35.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท ** คำเตือน : "หมายเหตุกองบรรณาธิการ" ไม่ใช่บทวิเคราะห์และคำแนะนำการลงทุน เป็นเพียงความเห็นของกองบรรณาธิการ"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" จึงไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น
อัพเดทล่าสุด
BJC ยอมรับมีแผนเพิ่มทุน ระดมเงินชำระหนี้ที่กู้มาซื้อ BIGC ราว 2.2 แสนลบ.
เสี่ยเจริญให้ BJC ซื้อ BIGC แบบนี้ต้องเพิ่มทุนไหมครับ สำหรับ BJC เพราะวงเงินตั้ง 2.2 แสนล้านบาท สรุปเพิ่มทุนครับ
กำไรจาก BIGC ยังสู้ MAKRO ไม่ได้เลย
เสี่ยเจริญ` ให้ BJC รับหน้าซื้อ BIGC เตรียมเทนเดอร์ฯ อีก 41.44% ในราคา 252.88 บาท
จากอีไฟแนนซ์
อัพเดทข้อมูลเพิ่มเติม
ความเห็นกองบรรณาธิการ-
ดีลนี้เป็นไปในลักษณะเดียวกับ CPALL ที่ต้องกู้ 1.8 แสนล้านบาท เพื่อซื้อหุ้น MAKRO-
BJC ต้องเป็นผู้แบกรับค่าใช้จ่ายจากการกู้เงิน 2.2 แสนล้านบาทมาซื้อหุ้น BIGC- ขณะที่พบว่า กำไรของ BIGC ต่อปีที่อยู่ราว 7.2 พันล้านบาท ไม่ครอบคลุมดอกเบี้ยที่ BJC ต้องจ่ายราวปีละเกือบ 1 หมื่นล้านบาท จากการกู้เงิน 2.2 แสนล้านบาท (คิดที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 4.5% ใกล้เคียงกับ CPALL กู้ซื้อ MAKRO)-
ดังนั้นในระยะสั้น BJC จะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับที่ CPALL เคยได้รับหลังจากกู้เงินจำนวนมากซื้อหุ้น MAKRO ซึ่งราคาหุ้นปรับลงอย่างเห็นได้ชัด จากผลการดำเนินงานที่ลดลง หลังต้องแบกค่าใช้จ่ายทั้งการซื้อกิจการ และดอกเบี้ย- มีความเสี่ยงที่ BJC อาจต้องเพิ่มทุนในอนาคต เนื่องจากภายหลังการกู้เงิน 2.2 แสนลบ. ทำให้หนี้สินต่อ EBITDA ของ BJC อาจพุ่งสูงถึง 60-70 เท่า เทียบกับ CPALL ซึ่งอยู่ที่ 5-6 เท่า- ล่าสุด BJC มี D/E ที่ 1.46 เท่า-
ผู้ถือหุ้นใหญ่ BJC ล่าสุด ณ ปิดสมุดทะเบียน1 ก.ย. 58 ประกอบด้วย1. บริษัท ทีซีซี โฮลดิ้ง จำกัด 1,175,584,220 73.83 2. DBS BANK LTD 85,651,600 5.38 3. กองทุนเปิด บัวหลวงหุ้นระยะยาว 42,591,700 2.67 4. กองทุนเปิด บัวหลวงหุ้นระยะยาว 75/25 33,526,800 2.11 5. สำนักงานประกันสังคม 16,624,300 1.04 - ล่าสุด BJC ปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ 35.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท ** คำเตือน : "หมายเหตุกองบรรณาธิการ" ไม่ใช่บทวิเคราะห์และคำแนะนำการลงทุน เป็นเพียงความเห็นของกองบรรณาธิการ"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" จึงไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น
อัพเดทล่าสุด
BJC ยอมรับมีแผนเพิ่มทุน ระดมเงินชำระหนี้ที่กู้มาซื้อ BIGC ราว 2.2 แสนลบ.