ขอความรู้เพื่อนสมาชิกด้วยนะครับ
เรื่องคือ เมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้วมีคนมาปลูกบ้านข้างๆ โดยที่เค้าปลูกชิดกับแนวรั้วเลย มีหน้าต่างระเบียงด้านที่ติดกับฝั่งบ้านเราและกันสาดชั้นสองล้ำเข้ามาในที่เรานิดหน่อย รั้วที่กั้นระหว่างบ้านก็เป็นเพียงรั้วสังกะสีเก่าๆไม่ได้เป็นรั้วถาวร (แต่ด้านหน้าที่ติดถนนมีรั้วปูนถาวรตลอดแนว ซึ่งทำตามระยะหมุดดั้งเดิม) ตอนแรกเค้าก็จะเอาเอกสารมาให้เซ็นต์ยินยอมแต่เราไม่ยอมเซ็นต์เพราะรู้ว่ามันผิดกฎหมาย และเราก็ไม่อยากให้เค้าทำแบบนั้นด้วยแต่พูดอะไรไม่ได้ (คนที่มาปลูกเป็นพวกค่อนข้างมีอิทธิพลในท้องถิ่น ถ้ามีปากเสียงกันจะอยู่ลำบากแน่นอน บ้านเราอยู่ในที่เปลี่ยวด้วย) ก็ได้แต่ปล่อยให้เข้าสร้างไปแต่ไม่ได้มีการเซ็นยินยอมอะไร ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็ยึดแนวเขตตามแนวรั้วสังกะสีเดิมที่มีอยู่
ต่อมาเมื่อเร็วๆนี้ที่ที่อยู่ข้างบ้านเราอีกฝั่งมาทำรังวัด (บ้านเราอยู่ตรงกลาง) เราก็เลยให้ช่างรังวัดวัดหน้ากว้างที่ของเราด้วย ก็ปรากฎว่าความกว้างของรั้วถาวรหน้าบ้านเราก็ตรงตามโฉนด พอเราเห็นว่าได้รับการบอกจากช่างรังวัดแล้วว่าหน้ากว้างที่เราตรงตามโฉนด เราก็เลยอยากที่จะทำรั้วถาวรให้เป็นเรื่องเป็นราวซะเลย ทีนี้ก็เลยบอกข้างบ้านที่มีปัญหากันว่า ต้องการจะรื้อรั้วสังกะสีและทำรั้วถาวร
คราวนี้แหล่ะครับที่เกิดปัญหา ข้างบ้านบอกว่า รั้วของเรานั้นได้ล้ำเข้าไปในเขตของเขาประมาณครึ่งเมตร เราก็งงเลย ทั้งๆทีตอนเขามาปลูกบ้านเขาก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร แถมยังจะเอาเอกสารมาให้เซ็นต์เพราะรู้ว่าตัวเองได้มาปลูกบ้านติดกับรั้ว อ่อ หลังๆนี่ ได้สร้างขอบที่ปลูกต้นไม้ตรงหน้าบ้านล้ำเข้ามาในที่เราประมาณครึ่งเมตรตามที่อ้างด้วย เหมือนเตรียมแผนการไว้แล้ว
เท่าที่ดูเกมแล้วคือมีความเป็นไปได้มากๆ ที่เค้าน่าจะต้องการเอาไอ้ที่ครึ่งเมตรนั้นไปเป็นที่ตัวเอง อาจจะเพื่อที่จะได้กำจัดปัญหาเรื่องการปลูกบ้านชิดกำแพง เรามั่นใจมากๆว่าที่เรานั้นตรงตามโฉนดเพราะเคยเอาที่นี้เข้าธนาคารมาแล้ว และครอบครัวเราก็ไม่กล้าที่จะเอาเปรียบใคร
คำถามคือ
1. ถึงแม้ว่าไม่ได้มีการเซ็นต์ยินยอม แต่การที่เราปล่อยให้เขาสร้างบ้านโดยไม่ได้มีการแจ้งคัดค้านต้งแต่แรก จนเวลาล่วงเลยมาหลายปีแล้วนั้น ในทางกฎหมายจะถือเป็นการยอมรับไปโดยปริยายหรือไม่ครับ
2. หากต้องการจะแจ้งคัดค้านเรื่องที่เค้าปลูกบ้านชิดกำแพงในภายหลังจะสามารถทำได้ไหมครับ หากจะทำจะต้องทำภายในระยะเวลากี่ปี ก่อนที่จะสายเกินไป
3. การแก้ปัญหานี้ ควรทำอย่างไรครับ
รบกวนขอความช่วยเหลือด้วยนะครับ
เจอข้างบ้านแบบนี้ คือซวยแล้วใช่ไหมครับเนี่ย จะแก้ยังไงดี
เรื่องคือ เมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้วมีคนมาปลูกบ้านข้างๆ โดยที่เค้าปลูกชิดกับแนวรั้วเลย มีหน้าต่างระเบียงด้านที่ติดกับฝั่งบ้านเราและกันสาดชั้นสองล้ำเข้ามาในที่เรานิดหน่อย รั้วที่กั้นระหว่างบ้านก็เป็นเพียงรั้วสังกะสีเก่าๆไม่ได้เป็นรั้วถาวร (แต่ด้านหน้าที่ติดถนนมีรั้วปูนถาวรตลอดแนว ซึ่งทำตามระยะหมุดดั้งเดิม) ตอนแรกเค้าก็จะเอาเอกสารมาให้เซ็นต์ยินยอมแต่เราไม่ยอมเซ็นต์เพราะรู้ว่ามันผิดกฎหมาย และเราก็ไม่อยากให้เค้าทำแบบนั้นด้วยแต่พูดอะไรไม่ได้ (คนที่มาปลูกเป็นพวกค่อนข้างมีอิทธิพลในท้องถิ่น ถ้ามีปากเสียงกันจะอยู่ลำบากแน่นอน บ้านเราอยู่ในที่เปลี่ยวด้วย) ก็ได้แต่ปล่อยให้เข้าสร้างไปแต่ไม่ได้มีการเซ็นยินยอมอะไร ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็ยึดแนวเขตตามแนวรั้วสังกะสีเดิมที่มีอยู่
ต่อมาเมื่อเร็วๆนี้ที่ที่อยู่ข้างบ้านเราอีกฝั่งมาทำรังวัด (บ้านเราอยู่ตรงกลาง) เราก็เลยให้ช่างรังวัดวัดหน้ากว้างที่ของเราด้วย ก็ปรากฎว่าความกว้างของรั้วถาวรหน้าบ้านเราก็ตรงตามโฉนด พอเราเห็นว่าได้รับการบอกจากช่างรังวัดแล้วว่าหน้ากว้างที่เราตรงตามโฉนด เราก็เลยอยากที่จะทำรั้วถาวรให้เป็นเรื่องเป็นราวซะเลย ทีนี้ก็เลยบอกข้างบ้านที่มีปัญหากันว่า ต้องการจะรื้อรั้วสังกะสีและทำรั้วถาวร
คราวนี้แหล่ะครับที่เกิดปัญหา ข้างบ้านบอกว่า รั้วของเรานั้นได้ล้ำเข้าไปในเขตของเขาประมาณครึ่งเมตร เราก็งงเลย ทั้งๆทีตอนเขามาปลูกบ้านเขาก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร แถมยังจะเอาเอกสารมาให้เซ็นต์เพราะรู้ว่าตัวเองได้มาปลูกบ้านติดกับรั้ว อ่อ หลังๆนี่ ได้สร้างขอบที่ปลูกต้นไม้ตรงหน้าบ้านล้ำเข้ามาในที่เราประมาณครึ่งเมตรตามที่อ้างด้วย เหมือนเตรียมแผนการไว้แล้ว
เท่าที่ดูเกมแล้วคือมีความเป็นไปได้มากๆ ที่เค้าน่าจะต้องการเอาไอ้ที่ครึ่งเมตรนั้นไปเป็นที่ตัวเอง อาจจะเพื่อที่จะได้กำจัดปัญหาเรื่องการปลูกบ้านชิดกำแพง เรามั่นใจมากๆว่าที่เรานั้นตรงตามโฉนดเพราะเคยเอาที่นี้เข้าธนาคารมาแล้ว และครอบครัวเราก็ไม่กล้าที่จะเอาเปรียบใคร
คำถามคือ
1. ถึงแม้ว่าไม่ได้มีการเซ็นต์ยินยอม แต่การที่เราปล่อยให้เขาสร้างบ้านโดยไม่ได้มีการแจ้งคัดค้านต้งแต่แรก จนเวลาล่วงเลยมาหลายปีแล้วนั้น ในทางกฎหมายจะถือเป็นการยอมรับไปโดยปริยายหรือไม่ครับ
2. หากต้องการจะแจ้งคัดค้านเรื่องที่เค้าปลูกบ้านชิดกำแพงในภายหลังจะสามารถทำได้ไหมครับ หากจะทำจะต้องทำภายในระยะเวลากี่ปี ก่อนที่จะสายเกินไป
3. การแก้ปัญหานี้ ควรทำอย่างไรครับ
รบกวนขอความช่วยเหลือด้วยนะครับ