หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR][SR] “ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก” ตะลุยอินโดนีเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ 14 วัน ตอนที่ 11 ซอร์โซกอน ฟิลิปปินส์
กระทู้รีวิว
รถโดยสาร
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
Backpack
“ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก” ตะลุยอินโดนีเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ 14 วัน ตอนที่ 11 ซอร์โซกอน ฟิลิปปินส์
ค่ารถไปซอร์โซกอนคนละ 600 เปโซ รถออกเวลา15.30 น. จอดไปตลอดทาง คนขับจอดหลับเป็นระยะ ผู้โดยสารขึ้นมาใหม่เอาไก่ตัวผู้ขึ้นมาด้วย พอหลังตีหนึ่งก็ขันรับกันจนไม่ต้องหลับต้องนอนกันแล้ว ลุงกับป้าได้ที่ติดเบาะหลังเขาเอาสารพัดกล่องและสัมภาระวางจนอึดอัด ตรงทางเดินก็มีถัง กล่อง กระติก กระเป๋าขวางทางเต็มไปหมด รถจอดให้เข้าห้องน้ำ ต้องตักน้ำไปจากในถังข้างนอกไปราดเอง มีคนนั่งเก็บตังค์อยู่หน้าประตูทางเข้าให้เท่าไรก็ได้ ส้วมเป็นโถเล็กและเตี้ย น้ำเจิ่งพื้นเพราะต้องตักน้ำเข้าไปกันเอง เป็นแบบนั้นตลอดการเดินทาง
ระหว่างที่รอป้าเข้าห้องน้ำ ลุงไปสั่งข้าวได้ข้าวเล็กน้อย กับผัดพริกหมู และแกงจืดกะหล่ำปลีใส่กระดูกอ่อน ทั้งหมูและกะหล่ำปลีแข็งและเหนียว เพราะไม่ได้เคี่ยว แค่ทำให้สุกก็ตักขาย ราคา 100 เปโซ ออกจะโหดไปนิด เรานั่งฝั่งที่เป็นเบาะที่นั่ง 2 คน หนุ่มสาวชาวซอร์โซกอนกับหลานแฝดชายที่นั่ง 4 คนบนที่นั่งสำหรับ 3 คน อีกด้านหนึ่ง เตรียมอาหารมากินกันเอง มีกระติกใส่หวานเย็นที่ทำใส่ถุงมานั่งดูดเป็นของว่าง แนะนำรดรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยว ที่เราจะไปไม่ถึงเพราะมีเวลาน้อยและอยู่ไกล ว่ามีทะเลสาบสวยอยู่กับภูเขาไฟ มีชายหาดและท่าเรือที่สวยงามให้เราเช่ารถสามล้อไป
วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2558 : การเดินทางจากมะนิลาไปซอร์โซกอน ผ่านเมือง คาไวท์ (Cavite) ลากูนา (Laguna) บาตังกัส (Batangas) เกซอน (Quezon) คามารีนส์ ซูร์ (Camarines Sur) พอเข้าเขต Albay ก็เห็นป้ายธนาคาร เลกัสปี้ (Legaspi) ซึ่งอยู่ห่างจาก Sorsogon ประมาณ 30 กิโลเมตร แต่เป็นเมืองท่า และเมืองที่มีเศรษฐกิจดีมาก เพราะใน Sorsogon ก็มีธนาคารเลกัสปี้
วันก่อนหน้าที่เราจะไปถึงมีพายุพัดต้นกล้วยหักระเนระนาด ตั้งแต่เมืองอัลเบย์ เป็นต้นไป หลังคาบ้านที่เป็นสังกะสีเปิดเปิง บ้านเรือนที่ผ่านส่วนใหญ่เก่าแก่และทรุดโทรม แทบจะไม่เห็นบ้านที่มุงหลังคาด้วยกระเบื้อง ส่วนใหญ่เป็นสังกะสีเก่าๆ และใบไม้ ชายหนุ่มบอกเราว่ามีใบไม้ 3 อย่าง ได้แก่ ใบมะพร้าว ใบตาล และใบปรง แต่เราว่า น่าจะมีใบหมากด้วย เพราะดูจากการซ้อนทับกัน แล้วใยที่ติดกันเป็นผืนใหญ่ น่าจะเป็นใบหมาก
พืชที่มีเป็นกล้วยกับมะพร้าว จนเข้าเขตเลกัสปี้และซอร์โซก้อนจึงเห็นมีพืชอย่างอื่นเพิ่มขึ้นมา ดูเหมือนว่าพวกเขาอยู่แบบไม่ได้มีการพัฒนา มีวัว ควาย ทุ่งนา ป่ามะพร้าว ป่ากล้วย และปอซึ่งเป็นที่มาของเชือกมะนิลา
ดินในฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ไม่ได้อุดมสมบูรณ์แต่มีน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ มีหนุ่มน้อยเอากล้วยเสียบไม้ทอดขึ้นไปขาย 3 แผ่น 10 เปโซ เขาไม่ได้ใส่อะไรเลย แค่เอาไม้เสียบกล้วยที่สุกได้ที่เอาไปทอด เป็นรสชาติกล้วยแท้ๆ ก็เก๋ไปอีกแบบ ขนมคล้ายๆ ถ้วยฟูก็มี แต่ไม่ฟู ไม่ได้ใส่สี ถามหนุ่มสาวว่า คือ อะไร พวกเขาบอกว่า มันคือ ข้าว
หนุ่มสาวชาว Sorsogon เดินทางกับหลานแฝดชาย สาวชื่อ Kristine Joy Eva บอกชื่อสถานที่ท่องเที่ยวใน Sorsagon ว่ามี ทะเลสาบบูกลูซาน (Buluzan Lake) หาดปากูริราห์ ที่อยู่บนเกาะ (Pagurirah Beach & Island) หาดบาคอน (Bacon Beach) น้ำตกปากซานฮาน (Pagsanjan Falls) ภูเขาไฟมายอน (Mayon Vaccano) เขาเรียกภูเขาไฟว่า แว็คคาโน เขาบอกว่าอยู่บนเส้นทางที่เราผ่านในเมือง Albay ส่วนทะเลสาบ กับทะเลอยู่ไกลมาก ถ้าเรามีเวลาน้อยก็คงเที่ยวได้แค่ท่าเรือ (Pier) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง Sorsogon ชายหนุ่มแนะนำโรงแรมให้ด้วย เขาบอกว่า บ้านเขาถูกพายุถล่มจนหลังคาพัง เขาต้องรีบซ่อมบ้านก่อนที่จะถึงเวลาฉลองคริสต์มัส
ใช้เวลาเดินทาง 21 ชั่วโมงตอนที่ชายหนุ่มเขาบอกให้เราลงรถ ตรงนั้นเป็นทางแยก ฝนเริ่มลงเม็ด เราถามหาที่พัก คนขี่รถมอเตอร์ไซด์สามล้อชี้ให้เดินไปโรงแรมที่ชื่อ Pang Pang Cuisine เราเข้าไปยืนรออยู่พักใหญ่ไม่มีพนักงานอยู่ที่เคาน์เตอร์ มีแต่แขกเดินมาจากห้องอาหาร แล้วก็เดินขึ้นห้องซึ่งอยู่ชั้นบน ที่ไม่มีลิฟต์ลุงจึงถือโอกาสเข้าห้องน้ำรอ เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที หนุ่มเพศที่สามและสาวน้อยหน้าใส เป็นพนักงานต้อนรับทั้งคู่ เดินเข้ามาที่เคาน์เตอร์ พอป้าสอบถามเรื่องห้องพัก สาวน้อยบอกว่า ห้องเต็มหมดแล้ว มีแต่ห้องสวีท ซึ่งเราไม่สนใจ
ป้าดูว่า ทั้งคู่หน้าตายังเด็ก ๆ จึงชวนคุย พวกเขาบอกว่า อายุเพิ่ง 18 ย่าง 19 แต่จบการโรงแรมแล้ว อัธยาศัยดีมาก พวกเขาแนะนำโรงแรม ซานตา คลาร่า และ โนโวเทลรวมทั้งวิ่งตามไปสั่งรถสามล้อให้ด้วย เราให้สามล้อไปส่งที่กลางเมืองเดินไปหาโรงแรม ซึ่งเราเห็นตามทางผ่าน ว่ามีโรงแรมอยู่ตามตรอก ซอกซอย ให้เลือก เราลองเดินเข้าไปที่โรงแรม ชื่อ Villa Kasanggayahan Hotel พนักงานต้อนรับเป็ดห้องให้ดู มี 3 เตียง สะอาด น่านอน คืนละ 1,000 เปโซ เราจ่ายเงินแล้ว พนักงานต้อนรับให้ช่างเข้ามาเสียบปลั๊กเปิดแอร์ให้ แล้วพวกเขาก็ ไม่ได้สนใจเราเพราะกำลังจะสนุกสนานกับการฉลองคริสต์มาส เราจึงอาบน้ำ ซักผ้า แล้วออกไปเดินเล่น
ตรงข้ามทางเข้าโรงแรมเป็นลานสาธารณะ ที่เขาจัดแต่งโดยใส่จิตวิญญาณของท้องถิ่น เอากะลามะพร้าวตกแต่งเป็นสารพัด สวยงามและมีหุ่นของชนพื้นเมืองดั้งเดิมที่บ่งบอกอาชีพดั้งเดิม มีงานสวนสนุกด้วย เรานั่งกินข้าวร้านท้องถิ่น เป็นข้าวกับมะละกอผัดกับกะทิ ไก่ผัดกะทิ ปลาผัดกะทิ อาหารเกือบทุกอย่างเป็นกะทิ มื้อนั้นอิ่มละ 170 เปโซ น้ำฟรี ทั้งร้อนและเย็น ซื้อส้มแมนดารินที่ปลูกแถวนั้นกก.ละ 30 เปโซ นั่งรถไปท่าเรือคนละ 8 เปโซ ส่งแบงค์ 20 ให้เขาทอนเงินแค่ 3 เปโซ การทอนเงินขาด หรือแกล้งไม่ทอนเงินเป็นเรื่องปกติของชาวปินส์
ความจริงท่าเรืออยู่ไม่ไกลจากตลาด เดินไปได้ ออกไปที่ท่าเรือมองกลับไปเห็นโบสถ์เซนต์ปีเตอร์แอนด์พอล (Saint Peter & Paul Cathedral) ที่เราแวะไปดูเขาสวดกัน ตัวท่าเรือเขาเอาหินถมทะเลเป็นแนวยาวไปจน เชื่อมเกาะที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร เดินได้ครู่หนึ่งลุงออกอาการเอาไม่อยู่ จึงลงทะเลปลดทุกข์ แต่ไม่ได้เล่นน้ำ เพราะน้ำลึกมาก พอปลดทุกข์แล้ว ก็ขึ้นมารอเก็บภาพอาทิตย์ตกทะเล แต่เมฆก็บังดวงอาทิตย์อีก ที่ท่าเรือมีเด็กขอทานเยอะมาก คนขับรถสามล้อคงเห็นว่า จะทำให้เสียบรรยากาศจึงเอาไม้ไปไล่เด็กๆ ที่รบกวนนักท่องเที่ยว เราเดินกลับจากท่าเรือแวะซื้อผลไม้ในห่อ ที่เหมือนลูกพลับลูกเล็กลูกละ 5 เปโซ พอถึงที่พักเปิดออกดูเป็นส้ม รสชาติแย่กว่าส้มแมนดาริน ซึ่งราคาถูกกว่าอีก
ชื่อสินค้า:
ซอร์โซกอน ฟิลิปปินส์
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
“ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก” ตะลุยอินโดนีเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ 14 วัน ตอนที่ 12 ภูเขาไฟมายน ดารากา ฟิลิปปินส์
ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก” ตะลุยอินโดนีเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ 14 วัน ตอนที่ 12 ภูเขาไฟมายน ดาราก้า (Daraga) อัลเบ (Albay) ฟิลิปปินส์ วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม 2558 : ออกจากที่พักเวลา 07.30 น. เดิ
ป้ากับลุง
꧁✿💐⭐️🌺✨🌻💖🍀╭⊱ My garden ปี 10 ✿ ต้นไม้ - ดอกไม้ วันก่อนออกสลากฯ งวด 22 ประจำวันที่ 1 ธ.ค. 67⊱╮🍀💖🌻✨🌺🌟💐✿
กระทู้ประจำวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2567 (วัน ก่อนออกสลาก ฯ ) ขอขอบคุณลุงชู หนุ่มแม่ริม ผู้คิดเกม ทำภาพเกม ภาพเฉลย พร้อมทำภ
สมาชิกหมายเลข 4629021
“ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก” ตะลุยอินโดนีเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ 14 วัน ตอนที่ 10 กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์
“ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก” ตะลุยอินโดนีเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ 14 วัน ตอนที่ 10 กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ พอถึงสนามบินมะนิลา ตางคนก็ต่างลง ถึงสนามบิน มะนิลา ถูกบังคับให้เดินตามป้าย จนถึงทางอ
ป้ากับลุง
“ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก” ตะลุยอินโดนีเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ 14 วัน ตอนที่ 5 สุราบายา อินโดนีเซีย
“ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก” ตะลุยอินโดนีเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ 14 วัน ตอนที่ 5 สุราบายา รถออกจากนาวี่ตอนตีหนึ่งไปถึงสุระบายาหลังตี 2 เล็กน้อย ที่นั่นเราได้อาบน้ำสระผมแล้วนั่งรถซิตี้บัส ค
ป้ากับลุง
ดำน้ำดูฉลามวาฬที่ Oslob และ Sadine run ที่ Moalboal ด้วยการใช้รถโดยสารสาธารณะในเกาะ Cebu ประเทศฟิลิปปินส์
ทริปนี้เป็นการเที่ยวฟิลิปปินส์สั้นๆ 5 วัน 3 คืน ดำน้ำแบบงบประหยัดไม่แพงเกินไป ค่อนข้างเหนื่อยจนนึกถึงคำพูดที่พี่บริษัทว่าไปเที่ยวหรือบำเพ็ญทุกรกริยา แต่ทริปนี้เป็นทริปนำเลยว่าลำบากยังไงเราจะต้องกลับมา
NuuBayMay
꧁✿💐⭐️🌺✨🌻💖🍀╭⊱ My garden ปี 10 ✿ ต้นไม้ - ดอกไม้ วันก่อนออกสลากฯ งวด 20 ประจำวันที่ 1 พ.ย. 67⊱╮🍀💖🌻✨🌺🌟💐✿
กระทู้ประจำวันพฤหัสที่ 31 ตุลาคม 2567 (วัน ก่อนออกสลาก ฯ ) ขอขอบคุณลุงชู หนุ่มแม่ริม ผู้คิดเกม ทำภาพเกม ภาพเฉลย พร้อมทำภาพส
สมาชิกหมายเลข 4629021
ลุงป้าพากินบุฟเฟ่ต์โรงแรม ราคาย่อมเยาว์ ในใจกลางเมือง
ลุงป้าไปกินบุฟเฟ่ต์โรงแรม เป็นมื้อกลางวัน วันธรรมดา โดยซื้อดีลมาได้ราคาคนละ 359 บาท วันที่ไปเป็นวันศุกร์ (25ต.ค.67) โรงแรมที่ว่า คือ โรงแรมฟูราม่า สีลม ที่ตั้งก็เลยตึกสีลมพลาซ่าและเลยซอยสุสานผ่านสามแ
ลุงพากิน ป้าพาทัวร์
✿💐⭐️🌺✨🌻💖🍀╭⊱My garden ครอบครัวต้นไม้-ดอกไม้ กระทู้ปี 10 งวด 19 16/10/67 หลังวันออกสลากฯ ⊱╮🍀💖🌻✨🌺🌟💐✿꧂
กระทู้ประจำวันพฤหัสที่ 17 ตุลาคม 2567 (หลัง วันออกสลาก ฯ) ขอขอบคุณป้าใหม่ ผู้ออกแบบภาพคก. อันสวยงามทุกภาพ มาโดยตลอด ขอขอบคุณ ลุงชู
สมาชิกหมายเลข 4629021
✿💐⭐️🌺✨🌻💖🍀╭⊱My garden ครอบครัวต้นไม้ดอกไม้ ปี 10 คก.สลากฯนำโชคงวด 19 16 ต.ค. 67(วันออกสลาก) ⊱╮🍀💖🌻✨🌺🌟💐✿꧂
กระทู้ประจำวันพุธที่ 16 ตุลาคม 2567 (วัน ออกสลาก ฯ) ขอขอบคุณลุงชู หนุ่มแม่ริม ผู้คิดเกมชิงสลาก ฯ นำโชค และเกมวัดดวง ทำภาพเกม 
สมาชิกหมายเลข 4629021
ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐ เม็กซิโก เมกากลาง เมกาใต้ อัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอน 10 เลียบอ่าวเม็กซิโก ไปยูกาตัง
ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐอเมริกา อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และอัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอนที่ 10 เลียบอ่าวเม็กซิโก ไปรัฐยูกาตัง (ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโห
ป้ากับลุง
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
รถโดยสาร
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
Backpack
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR][SR] “ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก” ตะลุยอินโดนีเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ 14 วัน ตอนที่ 11 ซอร์โซกอน ฟิลิปปินส์
ค่ารถไปซอร์โซกอนคนละ 600 เปโซ รถออกเวลา15.30 น. จอดไปตลอดทาง คนขับจอดหลับเป็นระยะ ผู้โดยสารขึ้นมาใหม่เอาไก่ตัวผู้ขึ้นมาด้วย พอหลังตีหนึ่งก็ขันรับกันจนไม่ต้องหลับต้องนอนกันแล้ว ลุงกับป้าได้ที่ติดเบาะหลังเขาเอาสารพัดกล่องและสัมภาระวางจนอึดอัด ตรงทางเดินก็มีถัง กล่อง กระติก กระเป๋าขวางทางเต็มไปหมด รถจอดให้เข้าห้องน้ำ ต้องตักน้ำไปจากในถังข้างนอกไปราดเอง มีคนนั่งเก็บตังค์อยู่หน้าประตูทางเข้าให้เท่าไรก็ได้ ส้วมเป็นโถเล็กและเตี้ย น้ำเจิ่งพื้นเพราะต้องตักน้ำเข้าไปกันเอง เป็นแบบนั้นตลอดการเดินทาง
ระหว่างที่รอป้าเข้าห้องน้ำ ลุงไปสั่งข้าวได้ข้าวเล็กน้อย กับผัดพริกหมู และแกงจืดกะหล่ำปลีใส่กระดูกอ่อน ทั้งหมูและกะหล่ำปลีแข็งและเหนียว เพราะไม่ได้เคี่ยว แค่ทำให้สุกก็ตักขาย ราคา 100 เปโซ ออกจะโหดไปนิด เรานั่งฝั่งที่เป็นเบาะที่นั่ง 2 คน หนุ่มสาวชาวซอร์โซกอนกับหลานแฝดชายที่นั่ง 4 คนบนที่นั่งสำหรับ 3 คน อีกด้านหนึ่ง เตรียมอาหารมากินกันเอง มีกระติกใส่หวานเย็นที่ทำใส่ถุงมานั่งดูดเป็นของว่าง แนะนำรดรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยว ที่เราจะไปไม่ถึงเพราะมีเวลาน้อยและอยู่ไกล ว่ามีทะเลสาบสวยอยู่กับภูเขาไฟ มีชายหาดและท่าเรือที่สวยงามให้เราเช่ารถสามล้อไป
วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2558 : การเดินทางจากมะนิลาไปซอร์โซกอน ผ่านเมือง คาไวท์ (Cavite) ลากูนา (Laguna) บาตังกัส (Batangas) เกซอน (Quezon) คามารีนส์ ซูร์ (Camarines Sur) พอเข้าเขต Albay ก็เห็นป้ายธนาคาร เลกัสปี้ (Legaspi) ซึ่งอยู่ห่างจาก Sorsogon ประมาณ 30 กิโลเมตร แต่เป็นเมืองท่า และเมืองที่มีเศรษฐกิจดีมาก เพราะใน Sorsogon ก็มีธนาคารเลกัสปี้
วันก่อนหน้าที่เราจะไปถึงมีพายุพัดต้นกล้วยหักระเนระนาด ตั้งแต่เมืองอัลเบย์ เป็นต้นไป หลังคาบ้านที่เป็นสังกะสีเปิดเปิง บ้านเรือนที่ผ่านส่วนใหญ่เก่าแก่และทรุดโทรม แทบจะไม่เห็นบ้านที่มุงหลังคาด้วยกระเบื้อง ส่วนใหญ่เป็นสังกะสีเก่าๆ และใบไม้ ชายหนุ่มบอกเราว่ามีใบไม้ 3 อย่าง ได้แก่ ใบมะพร้าว ใบตาล และใบปรง แต่เราว่า น่าจะมีใบหมากด้วย เพราะดูจากการซ้อนทับกัน แล้วใยที่ติดกันเป็นผืนใหญ่ น่าจะเป็นใบหมาก
พืชที่มีเป็นกล้วยกับมะพร้าว จนเข้าเขตเลกัสปี้และซอร์โซก้อนจึงเห็นมีพืชอย่างอื่นเพิ่มขึ้นมา ดูเหมือนว่าพวกเขาอยู่แบบไม่ได้มีการพัฒนา มีวัว ควาย ทุ่งนา ป่ามะพร้าว ป่ากล้วย และปอซึ่งเป็นที่มาของเชือกมะนิลา
ดินในฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ไม่ได้อุดมสมบูรณ์แต่มีน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ มีหนุ่มน้อยเอากล้วยเสียบไม้ทอดขึ้นไปขาย 3 แผ่น 10 เปโซ เขาไม่ได้ใส่อะไรเลย แค่เอาไม้เสียบกล้วยที่สุกได้ที่เอาไปทอด เป็นรสชาติกล้วยแท้ๆ ก็เก๋ไปอีกแบบ ขนมคล้ายๆ ถ้วยฟูก็มี แต่ไม่ฟู ไม่ได้ใส่สี ถามหนุ่มสาวว่า คือ อะไร พวกเขาบอกว่า มันคือ ข้าว
หนุ่มสาวชาว Sorsogon เดินทางกับหลานแฝดชาย สาวชื่อ Kristine Joy Eva บอกชื่อสถานที่ท่องเที่ยวใน Sorsagon ว่ามี ทะเลสาบบูกลูซาน (Buluzan Lake) หาดปากูริราห์ ที่อยู่บนเกาะ (Pagurirah Beach & Island) หาดบาคอน (Bacon Beach) น้ำตกปากซานฮาน (Pagsanjan Falls) ภูเขาไฟมายอน (Mayon Vaccano) เขาเรียกภูเขาไฟว่า แว็คคาโน เขาบอกว่าอยู่บนเส้นทางที่เราผ่านในเมือง Albay ส่วนทะเลสาบ กับทะเลอยู่ไกลมาก ถ้าเรามีเวลาน้อยก็คงเที่ยวได้แค่ท่าเรือ (Pier) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง Sorsogon ชายหนุ่มแนะนำโรงแรมให้ด้วย เขาบอกว่า บ้านเขาถูกพายุถล่มจนหลังคาพัง เขาต้องรีบซ่อมบ้านก่อนที่จะถึงเวลาฉลองคริสต์มัส
ใช้เวลาเดินทาง 21 ชั่วโมงตอนที่ชายหนุ่มเขาบอกให้เราลงรถ ตรงนั้นเป็นทางแยก ฝนเริ่มลงเม็ด เราถามหาที่พัก คนขี่รถมอเตอร์ไซด์สามล้อชี้ให้เดินไปโรงแรมที่ชื่อ Pang Pang Cuisine เราเข้าไปยืนรออยู่พักใหญ่ไม่มีพนักงานอยู่ที่เคาน์เตอร์ มีแต่แขกเดินมาจากห้องอาหาร แล้วก็เดินขึ้นห้องซึ่งอยู่ชั้นบน ที่ไม่มีลิฟต์ลุงจึงถือโอกาสเข้าห้องน้ำรอ เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที หนุ่มเพศที่สามและสาวน้อยหน้าใส เป็นพนักงานต้อนรับทั้งคู่ เดินเข้ามาที่เคาน์เตอร์ พอป้าสอบถามเรื่องห้องพัก สาวน้อยบอกว่า ห้องเต็มหมดแล้ว มีแต่ห้องสวีท ซึ่งเราไม่สนใจ
ป้าดูว่า ทั้งคู่หน้าตายังเด็ก ๆ จึงชวนคุย พวกเขาบอกว่า อายุเพิ่ง 18 ย่าง 19 แต่จบการโรงแรมแล้ว อัธยาศัยดีมาก พวกเขาแนะนำโรงแรม ซานตา คลาร่า และ โนโวเทลรวมทั้งวิ่งตามไปสั่งรถสามล้อให้ด้วย เราให้สามล้อไปส่งที่กลางเมืองเดินไปหาโรงแรม ซึ่งเราเห็นตามทางผ่าน ว่ามีโรงแรมอยู่ตามตรอก ซอกซอย ให้เลือก เราลองเดินเข้าไปที่โรงแรม ชื่อ Villa Kasanggayahan Hotel พนักงานต้อนรับเป็ดห้องให้ดู มี 3 เตียง สะอาด น่านอน คืนละ 1,000 เปโซ เราจ่ายเงินแล้ว พนักงานต้อนรับให้ช่างเข้ามาเสียบปลั๊กเปิดแอร์ให้ แล้วพวกเขาก็ ไม่ได้สนใจเราเพราะกำลังจะสนุกสนานกับการฉลองคริสต์มาส เราจึงอาบน้ำ ซักผ้า แล้วออกไปเดินเล่น
ตรงข้ามทางเข้าโรงแรมเป็นลานสาธารณะ ที่เขาจัดแต่งโดยใส่จิตวิญญาณของท้องถิ่น เอากะลามะพร้าวตกแต่งเป็นสารพัด สวยงามและมีหุ่นของชนพื้นเมืองดั้งเดิมที่บ่งบอกอาชีพดั้งเดิม มีงานสวนสนุกด้วย เรานั่งกินข้าวร้านท้องถิ่น เป็นข้าวกับมะละกอผัดกับกะทิ ไก่ผัดกะทิ ปลาผัดกะทิ อาหารเกือบทุกอย่างเป็นกะทิ มื้อนั้นอิ่มละ 170 เปโซ น้ำฟรี ทั้งร้อนและเย็น ซื้อส้มแมนดารินที่ปลูกแถวนั้นกก.ละ 30 เปโซ นั่งรถไปท่าเรือคนละ 8 เปโซ ส่งแบงค์ 20 ให้เขาทอนเงินแค่ 3 เปโซ การทอนเงินขาด หรือแกล้งไม่ทอนเงินเป็นเรื่องปกติของชาวปินส์
ความจริงท่าเรืออยู่ไม่ไกลจากตลาด เดินไปได้ ออกไปที่ท่าเรือมองกลับไปเห็นโบสถ์เซนต์ปีเตอร์แอนด์พอล (Saint Peter & Paul Cathedral) ที่เราแวะไปดูเขาสวดกัน ตัวท่าเรือเขาเอาหินถมทะเลเป็นแนวยาวไปจน เชื่อมเกาะที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร เดินได้ครู่หนึ่งลุงออกอาการเอาไม่อยู่ จึงลงทะเลปลดทุกข์ แต่ไม่ได้เล่นน้ำ เพราะน้ำลึกมาก พอปลดทุกข์แล้ว ก็ขึ้นมารอเก็บภาพอาทิตย์ตกทะเล แต่เมฆก็บังดวงอาทิตย์อีก ที่ท่าเรือมีเด็กขอทานเยอะมาก คนขับรถสามล้อคงเห็นว่า จะทำให้เสียบรรยากาศจึงเอาไม้ไปไล่เด็กๆ ที่รบกวนนักท่องเที่ยว เราเดินกลับจากท่าเรือแวะซื้อผลไม้ในห่อ ที่เหมือนลูกพลับลูกเล็กลูกละ 5 เปโซ พอถึงที่พักเปิดออกดูเป็นส้ม รสชาติแย่กว่าส้มแมนดาริน ซึ่งราคาถูกกว่าอีก
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น