การแถลงของ พศ เรื่องผล มส ในวันนี้ แจ่มชัดว่าไม่ปกป้องพระธรรมวินัย ไม่นำผู้ต้องหาตามพระลิขิตเข้าสู่กระบวนการพิจารณาความผิด .. นำหลักกฎเล็กมาข่มพระธรรมใหญ่ ใครก็ตามมีลักษณะแบบนี้ไม่ควรเป็นสังฆราชของเรา
1.พระลิขิต/พระบัญชา ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย "ชอบแล้ว" รับรองแล้วโดย มส แล้ว... โดยจะสนองพระลิขิตที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย.. พระลิขิตย่อมมีการอรรถาธิบายถูกต้องตามพระวินัย ... กฎหมายใดใดที่ขัดต่อการปกป้องพระธรรมวินัยโดยปกติไม่ควรนำมาใช้ตามวัตถุประสงค์ของพรบ.สงฆ์อยู่แล้ว
2.มีพระวินิจฉัยในเรื่องใหญ่ ซึ่งการสนองต้องนำเรื่องที่เกี่ยวข้องนี้มาพิจารณา.. แต่กลับอ้างกฎหมายเล็ก ถึงปัจจุบัน 17 ปีผ่านไปแล้ว ก็ยังจะตอบรายงานดีเอสไอว่า "กระบวนการพิจารณาจบแค่คณะผู้พิจารณาชั้นต้น และยังไม่ถึงขั้นตอนที่จะพิจารณาว่า ต้องอาบัติปาราชิกหรือไม่"
--> สรุปว่าเรื่องใหญ่ที่ควรพิจารณา กลับไม่มีการนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณา
นี่หรือครับการ "ปฏิบัติหน้าที่" อย่างเต็มที่
3.สนองพระลิขิตถึงปี 2549 .. รอคดีสงฆ์ที่รับฟ้องปี 2543 เกือบ 7 ปี แสดงว่าเรื่องยังไม่ยุติ แต่สุดท้ายกลับบอกว่าเรื่องยุติตั้งแต่ปี 2542... เป็นรายงานที่ขัดขาตัวเอง ส่อ "รายงานเท็จ" (ที่จริงเว็บอะลิตเติ้ลบุดดาเตือนไว้แล้วตั้งแต่เมื่อเช้า ก็ยังฝืนข้อเท็จจริงที่จะไม่ตรงกับดีเอสไอ)
4.การยื้อเวลาและอ้างเหตุผลที่จะไม่พิจารณาก็ชัดอย่างยิ่งว่า "ขัดขาตัวเอง"... บอกว่ารอผลคดีทางโลก แม้ถอนฟ้องแต่ก็ชัดและมีลายเซ็นต์ยอมรับผิดและปฏิบัติตามพระลิขิตเกิดขึ้นอย่างชัดแจ้ง กลับถอนฟ้องคดีทางสงฆ์ไปด้วย โดยอ้างขั้นตอนที่จะไม่นำอลัชชีเข้าสู่การพิจารณาศาลสงฆ์แม้ผลทางโลกยืนยันชัดแจ้ง.. ถอนฟ้อง และมีความผิดที่ต้องปฏิบัติตามพระลิขิต.. ไม่ใช่ไม่ผิดนะครับ
17 ปีผ่านไป ไม่มีการพิจารณาความผิดในศาลสงฆ์ อ้างว่ายุติแล้วเพราะไม่ได้เข้ากระบวนการพิจารณา... นี่หรือครับ "ปฏิบัติหน้าที่" สนองพระลิขิตอย่างเต็มที่?
รอคนปฏิบัติหน้าที่ในเว็บนี้นะครับ.. จะมีอะไรที่มีน้ำหนักพอให้ประชาชนไม่เสื่อมศรัทธาหรือไม่
ชัดแจ้ง มส ไม่นำผู้ต้องหาเข้าสู่การพิจารณาตามพระลิขิต แม้มีพระวินิจฉัยแจ่มชัด ว่าเป็นเรื่องใหญ่ควรต้องมีการพิจารณา
1.พระลิขิต/พระบัญชา ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย "ชอบแล้ว" รับรองแล้วโดย มส แล้ว... โดยจะสนองพระลิขิตที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย.. พระลิขิตย่อมมีการอรรถาธิบายถูกต้องตามพระวินัย ... กฎหมายใดใดที่ขัดต่อการปกป้องพระธรรมวินัยโดยปกติไม่ควรนำมาใช้ตามวัตถุประสงค์ของพรบ.สงฆ์อยู่แล้ว
2.มีพระวินิจฉัยในเรื่องใหญ่ ซึ่งการสนองต้องนำเรื่องที่เกี่ยวข้องนี้มาพิจารณา.. แต่กลับอ้างกฎหมายเล็ก ถึงปัจจุบัน 17 ปีผ่านไปแล้ว ก็ยังจะตอบรายงานดีเอสไอว่า "กระบวนการพิจารณาจบแค่คณะผู้พิจารณาชั้นต้น และยังไม่ถึงขั้นตอนที่จะพิจารณาว่า ต้องอาบัติปาราชิกหรือไม่"
--> สรุปว่าเรื่องใหญ่ที่ควรพิจารณา กลับไม่มีการนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณา
นี่หรือครับการ "ปฏิบัติหน้าที่" อย่างเต็มที่
3.สนองพระลิขิตถึงปี 2549 .. รอคดีสงฆ์ที่รับฟ้องปี 2543 เกือบ 7 ปี แสดงว่าเรื่องยังไม่ยุติ แต่สุดท้ายกลับบอกว่าเรื่องยุติตั้งแต่ปี 2542... เป็นรายงานที่ขัดขาตัวเอง ส่อ "รายงานเท็จ" (ที่จริงเว็บอะลิตเติ้ลบุดดาเตือนไว้แล้วตั้งแต่เมื่อเช้า ก็ยังฝืนข้อเท็จจริงที่จะไม่ตรงกับดีเอสไอ)
4.การยื้อเวลาและอ้างเหตุผลที่จะไม่พิจารณาก็ชัดอย่างยิ่งว่า "ขัดขาตัวเอง"... บอกว่ารอผลคดีทางโลก แม้ถอนฟ้องแต่ก็ชัดและมีลายเซ็นต์ยอมรับผิดและปฏิบัติตามพระลิขิตเกิดขึ้นอย่างชัดแจ้ง กลับถอนฟ้องคดีทางสงฆ์ไปด้วย โดยอ้างขั้นตอนที่จะไม่นำอลัชชีเข้าสู่การพิจารณาศาลสงฆ์แม้ผลทางโลกยืนยันชัดแจ้ง.. ถอนฟ้อง และมีความผิดที่ต้องปฏิบัติตามพระลิขิต.. ไม่ใช่ไม่ผิดนะครับ
17 ปีผ่านไป ไม่มีการพิจารณาความผิดในศาลสงฆ์ อ้างว่ายุติแล้วเพราะไม่ได้เข้ากระบวนการพิจารณา... นี่หรือครับ "ปฏิบัติหน้าที่" สนองพระลิขิตอย่างเต็มที่?
รอคนปฏิบัติหน้าที่ในเว็บนี้นะครับ.. จะมีอะไรที่มีน้ำหนักพอให้ประชาชนไม่เสื่อมศรัทธาหรือไม่