องค์การเภสัชกรรม ผลิตยาต้านไวรัสเอชไอวี ประสิทธิภาพเทียบเท่ายาต้นแบบ

ด้านนายแพทย์สุวัช  เซียศิริวัฒนา ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า ในปี 2557-2559 มียาต้านไวรัสเอชไอวีที่อยู่ระหว่างวิจัยและพร้อมผลิตออกมารองรับผู้ป่วยอีก 3 รายการ ประกอบด้วย ยาเนวิราพีน/ลามิวูดีน/ซิโดวูดีน (Nevirapine/Lamivudine/Zidovudine) tablet 50/30/60 mg เป็นสูตรยาผสม(fixed dose combination) สำหรับเด็ก  ซึ่งยาสูตรผสมดังกล่าวช่วยเพิ่มความสะดวกในการรับประทานยาของผู้ป่วย โดยลดจำนวนเม็ดยาที่ต้องรับประทานเหลือเพียงครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง  ยาอะบาคาเวียร์ (Abacavir) tablet ขนาด 60 และ300 mg เป็นยาสูตรทางเลือกในกรณีผู้ป่วยมีผลข้างเคียงหรือดื้อยาสูตรตั้งต้น และยาริโทนาเวียร์ (Ritonavir) tablet ขนาด 50 และ100 mg สำหรับใช้ร่วมกับยาต้านไวรัสเอดส์อื่น  โดยผลิตในรูปของยาเม็ด(Heat stable tablet) ที่สามารถเก็บไว้ได้ในอุณหภูมิห้องที่ 30 องศาเซลเซียส   ซึ่งยาเดิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นยาแคปซูลชนิดนิ่ม ซึ่งจะต้องเก็บไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ทำให้ไม่สะดวกในการเก็บรักษาและการนำไปใช้              
          นอกจากนั้น เพื่อสร้างความมั่นคงด้านยา ลดการพึ่งพาวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ และเพื่อให้สามารถผลิตยาได้ทั้งกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำคือตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงเป็นยาสำเร็จรูป สถาบันวิจัยและพัฒนา องค์การเภสัชกรรม ได้ประสบความสำเร็จในการสังเคราะห์วัตถุดิบกลุ่มยาต้านไวรัสเอดส์ในระดับห้องปฏิบัติการ และระดับกึ่งอุตสาหกรรมได้แก่ วัตถุดิบยาทีโนโฟเวียร์ (Tenofovir) ยา ไดโซพรอซิลฟูมาเรท (disoproxilfumarate) และวัตถุดิบยาเอฟาไวเรนซ์ (Efavirenz) ขึ้นได้เองและอยู่ระหว่างดำเนินการในยาชนิดอื่นอีกหลายรายการ และการศึกษาความเป็นไปได้ ความเหมาะสมและคุ้มค่ากับการยกระดับสำหรับการผลิตวัตถุดิบสู่ระดับอุตสาหกรรม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก    gpo.or.th

Report by LIV APCO
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่