[REVIEW] Periphery - Juggernaut Alpha,Omega (2015)




ดนตรีRockถือว่าเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่แข็งแรงที่สุดของโลก และมีการกลายพันธุ์และแพร่กระจายแตกกิ่งก้านสาขาออกไปอย่างไม่สิ้นสุด
หากจะย้อนกลับไปสักยุคต้น 90'sได้มีวงMetal อันมีนามว่าMeshuggah ซึ่งเป็นวงระดับบรมครูแก่คนรุ่นหลังอีกหลายคน
โดยMeshuggah เป็นวงExtreme Metal ที่มีกลิ่นอายความเป็นProgressive มีลูกเล่นสะใจหลายๆคนยิ่งนัก
วันและเวลาได้ผ่านไปจนกระทั่ง.....

ในช่วงสักประมาณปี2005 ได้มีหนุ่มลูกครึ่ง Americanเชื้อสายIndia อันมีนามว่าMisha Mansoorได้ทำการ ฟอร์มวงเล็กๆวงหนึ่งอันมีนามว่า Periphery โดยระยะเวลาครบรอบ 1 ทศวรรษที่วงดนตรีเล็กได้เติบโต ผ่านการผัดเปลี่ยนสมาชิก

รวมไปถึงร่วมทัวร์ด้วยกับวงรุ่นใหญ๋ๆอย่าง Deftones ,Dream Theaterและรวมไปถึงหลายๆวง และPeripheryถือเป็นอีก1วงที่ฝากคำศัพท์ที่ติดปากวัยรุ่นยุค2000'sปลายๆอย่างคำว่า Djentเอาไว้

Djent (อ่านว่า เจนท์)คือการเลียนเสียงของฝรั่งโดยจะมีเสียงกีตาร์เสียงแตกๆต่ำๆของสายบนทั้งหลายเช่น สาย6,7รวมไปถึง8
และนิยมนำมาผสมกับดนตรีทางด้านProgressive และMetal รวมทั้งการใช้ผู้เล่นที่มากกว่า2คนขึ้นไปมาผสาน ถือได้ว่าเป็นการกลายพันธุ์ของดนตรีRockในยุค2000's
โดย Misha Mansoorเคยกล่าวเอาไว้ว่าแม้ Meshuggahจะไม่ไช่วงที่เล่นดนตรีแนว Djentแต่ก็ถือว่า ไม่มีMeshuggahที่เป็นผู้ให้กำเนิดของผู้ให้กำเนิดอีกทีก็อาจไม่มีดนตรี Djentแพร่หลายอย่างทุกวันนี้แน่นอน

Sumerian Records คือค่ายนอกกระแสที่ผลิตวงชั้นสุดยอดที่เน้นวงฝีมือจัดจ้านไว้ก่อนจริงๆ โดย Periphery คืออีก1วงระดับหัวกะทิจากค่ายยอดมนุษย์ที่ว่านั้น
และPeripheryนี่เอง เป็นอีกวงที่เน้นการแสดงออกทางด้านฝีมือด้วยภาคดนตรีเข้มข้น ซับซ้อนและน่าค้นหาด้วยสมาชิกที่มีถึง6คน โดดเด่นด้วยมือกีตาร์ฝีมือจัดจ้านถึง3คน พร้อมกับภาคริทึ่มที่แข็งแรงของกลองและเบส จึงหายห่วงเลยว่า เราจะได้รับสาระทางดนตรีในอัลบัมอย่างอัดแน่นแน่นอน
เป็นเวลากว่าา3ปีที่ห่างหายจากการทำอัลบัม นับตั้งแต่ This Time It's Personal ที่เป็นอัลบัมเต็มชุดที่2 โดยมีผลงานEP Clearที่เป็นผลงานด้านการทดลองของสมาชิกในวงที่ เข้ามามีบทบาทในด้านการโปรดิวเซอร์เพื่อปล่อยสกิลและทักษะมาคั่นกลาง ก่อนที่จะออก สุดยอดอัลบัมชิ้นนี่

Juggernaut Alpha : Omegaคืออัลบัมคู่ที่มีจำนวนในแพคเกจถึง2CDและ1DVD
ด้วยเพลงระดับมหากาพย์ที่มีความยาวกว่า80นาที  โดยเป็นครั้งแรกที่ได้ทำอัลบัมออกมาคอนเซ็ปต์อัลบัมที่นับจากตัว อักษรตัวแรกและตัวสุดท้ายในภาษากรีกที่มีเรื่องราวออกจะเป็นมหากาพย์ที่ว่าด้วย
จุดกำเนิด และ จุดสิ้นสุด
ครั้งแรก และ ครั้งสุดท้าย
รวมไปถึง การเกิดและความตาย

ผลงานชุดนี้เพิ่มความเป็นเมนสตรีมที่ทำให้ฟังง่ายและสามารถเข้าถึงได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นนักดนตรี และวงได้ทำการทดลองที่จะเอาส่วนอื่น เข้ามาผสมเช่นเสียงคีย์บอร์ดและเปียนโน,กีตาร์คลาสสิค เปียนโนเพลงบรรลง รวมไปถึงการนำตรีFusion-Jazzเข้ามาบ้าง ไม่กระโชกโฮกฮากแบบชุดก่อนๆ ซาวด์สังเคราะห์รองพื้นสวยๆรวมไปถึงซาวด์จากวิดีโอเกมส์ที่เอามาผสมผสานได้อย่างลงตัว

และภาคดนตรีที่เสมือนเป็นหน้าเป็นตาให้กับวงยังคงเป็น กีตาร์ที่มาจากMisha,JakeและMarkเรียกได้เลยว่ายิ่งรบยิ่งเจนศึกสงครามยิ่งนัก มีการเรียบเรียงการแยกและผสานได้อย่างสวยงามทั้ง ริฟฟ์,ริทึ่มและโซโล่ และมีการใช้เครื่องไม้เครื่องมือหลากหลายเช่นกีตาร์6 7 รวมไปถึง8สาย

ภาคการร้องนั้นยังคงใช้ Spencer Sotelo เช่นเดิมโดยชุดนี้มีการแสดงออกหลากหลายเช่น การใข้คีย์การร้องกลางๆและโหนสูง รวมไปถึงสครีม ที่ทรงพลัง
โดยทั้งหมดทั้งสิ้นSpencerก็ได้เป็น Vocal Directorที่กำกับการร้องด้วยตนเองในทุกๆการบันทึกเสียงในอัลบัม นอกจากนี้ก็ทำอัลบัมDead Trees และออกทัวร์กับFrom First to Lastด้วย

ในยุคหลังๆที่ดนตรีPost-hardcore,Metalcoreหรือ Rock เมนสตรีมทั้งหลายแหล่ที่ออกมากลาดเกลื่อนชนกันมั่ว Juggernaut Alpha : Omega อัลบัมคู่นี้ได้ทำการเปิดโลกทัศน์ในการฟังเพลงของผู้เขียนไปอีกด้านหนึ่งแล้วครับ และขอแนะนำที่ใครอยากจะศึกษาดนตรีแนวนี้อัลบัมคือผลงานที่น่าควรเอามาศึกษาดูเป็นอย่างยิ่งครับ

Juggernaut Alpha : Omega  เรียกได้ว่าเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ10ปีของวงที่พัฒนาเกินตัวของวงนี้ได้อย่างสมศักดิ์ศรีและมั่นใจเหลือเกิน ว่าในเวลาอีกสัก10ปี ผลงานชุดนี้จะเป็นที่กล่าวถึงและปีนไปถึงระดับที่เรีกว่าเป็น ตำนานได้อย่างแน่นอนครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่