เรื่องสั้น - หัวใจนกปรอด

กระทู้สนทนา
ว่ากันว่าเขากวางเป็นหนึ่งเกียรติยศสำหรับใช้อวดข่มกัน เขาเงางามคดเคี้ยวแผ่กว้างน่าเกรงขาม หากแต่ ณ วินาทีแห่งความเป็นตาย เขาอันแสนภาคภูมิใจนั้นกลับเป็นอุปสรรคในการวิ่งหนีจ้าวแห่งสัตว์ป่าผู้หิวโหย ความตายเข้าตะครุบไร้เมตตา เกียรติยศเพียงปลิวหายไปพร้อมลมแผ่วเบานำพาชีวิ_ตดวงน้อยๆไปด้วย

    นกปรอดโปรดปรานลมพายุเป็นที่สุด มันสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ เมื่อใบไม้ปลิวไหว มันรู้สึกราวกับพระพายมารับนักโทษที่ถูกคุมขัง เชื้อเชิญมันไปสู่ฟ้าสูง ติดเพียงกรงไม้ประดู่มาขวางกั้นเอาไว้

"เหล่าพิราบและกระจอกช่างน่าอิจฉาเหลือเกิน " มันคิดในใจ
"หากฉันออกไปได้ ฉันจะหนีไปให้ไกลสุดขอบฟ้า หายหนีไปในกลีบเมฆ และจะไม่มีมนุษย์ผู้ใดได้เห็นฉันอีก "

    ใจหนึ่งนกปรอดก็ยอมรับชีวิตในกรงได้แล้ว มันเกิดในกรง เติบโตในกรง มีชีวิตอยูในกรง -โลกเล็กๆของมัน และถ้าจะต้องตายลงในกรงก็คงเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ แม้จะคิดเช่นนั้น แต่ในใจลึกๆมันก็หวังว่าใครสักคนจะมาช่วยมันให้หลุดพ้นจากคุกแห่งนี้ มันอยากหนีตามเสียงกระซิบของสายลมนั้น นกปรอดจึงได้แต่เฝ้ารอคอย สักวันหนึ่ง มันคิด สิ้นความคิด ทันใดนั้นเอง สายลมกระโชกกรีดกระทบใบไม้ พายุหมุนเล็กๆก่อตัว ต้นหญ้ายึดผืนดินเอาไว้ไม่ให้ต้องหลุดลอย อะไรบางอย่างปลิวลิ่วมาชนกรงไม้โดยไม่ทันได้ตั้งตัว นกเขนสีฟ้าตัวหนึ่งถูกพัดมากระทบบานประตู กรงนกหล่นลงมาหักดังเป๊าะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าไม้จะเปราะบางปานนี้

    เมื่อมันหลุดออกมาสู่โลกภายนอก คำอธิษฐานก็กลายเป็นจริง ปีกทั้งสองข้างกางออกเต็มที่ นกปรอดโผบินขึ้นไป สูงและสูงขึ้นไปอีก มันได้ยินเสียงเพลงแว่วเข้ามา เมื่อเหลือบมองไปเหนือก้อนเมฆ นกเขนน้อยตัวนั้นเอง ดูเหมือนว่าเธอปลอดภัยดี แม้เพิ่งจะพุ่งชนบ้านของมันไปเมื่อสักครู่ ไหนๆก็หลุดออกมาได้แล้ว คงต้องไปขอบคุณเธอเสียหน่อย

    เสียงใสๆดังขึ้นทุกครั้งพร้อมๆกับการกระพือปีกของนกเขน เสียงไพเราะราวกับตัวเธอเป็นเครื่องดนตรีเมื่อสายลมพัดผ่านชวนให้นกปรอดเคลิ้มฝัน เพลงเช่นนี้เองทำให้คนเลี้ยงนกจับตัวมันไว้และเฝ้ารอฟังจากตัวมัน เสียงหวานๆแบบนี้เองทำให้มันต้องตกเป็นนักโทษ แต่น่าเสียดายเพราะไม่มีใครเคยสอนให้มันร้องเพลงเลย มันคงลืมวิธีส่งเสียงไว้ในเปลือกไข่ตอนเกิดมา

“คะ คุณมาจากไหนหรือครับ” ในที่สุดนกปรอดก็ได้ยินเสียงของตนเป็นครั้งแรก
“ไซบีเรีย ไกลแสนไกล หนาวเหน็บ แต่ไม่ว่าจะที่นี่หรือที่ไหนจิตใจมนุษย์ก็เยือกเย็นยิ่งกว่า” นกเขนสีฟ้าตอบ
“ที่นี่มีแต่ฤดูร้อนเท่านั้นแหละครับ ในบางวันสายลมพาความชุ่มชื่นจากผืนป่ามาให้ แต่บางวันก็พาความเหือดแห้งจากทะเลทรายจนกระหายน้ำ”
“ส่วนลมหนาวแห้งยิ่งกว่านั้น มันมาพร้อมความตาย เราหนีมา การเดินทางเป็นโอกาสรอดเพียงหนึ่งเดียวของเรา”
“เธอจะไปที่แห่งใด โปรดบอกกล่าว”
“คุณคงตามมาหากเราจะไปไซบีเรีย ?”
“แม้เธอจะไปสุดขอบโลกฉันก็จะตามไป”
“ต้องเสียใจด้วย เพราะเราจะไปยังสุดปลายสายลม ไม่มีใครจะตามเราไปได้หรอกนะ คุณควรรู้ไว้ว่าผืนดินนี้ไม่มีจุดสิ้นสุด”
“ฉันไปได้แม้จะเป็นสุดปลายสายลม เพียงแค่ได้ไปกับเธอ”
“ขอขอบคุณในความหวังดี คุณจงตามมาเท่าที่ปีกคู่นั้นจะบินไหว แต่เมื่อใดที่เราหายลับขอบฟ้าไปขอจงจำไว้ว่าการจากลาของเราในครานี้คือการเดินทางเพื่อมาเจอกันอีกทีในปีหน้า เราสัญญาว่าจะกลับมา ”

     ว่ากันว่าความรักครั้งแรกมักจะจบลงด้วยความผิดหวัง นกปรอดไม่คิดว่าการรอคอยจะเป็นความหมายของรัก มันจึงกระพือปีกสุดแรงเกิดบินตามเงาของเขนน้อยไป แต่เมื่อตะวันลับขอบฟ้าเรี่ยวแรงของมันก็หมดลง สำหรับนกเขนไซบีเรียค่ำคืนยังอีกยาวไกล เธอต้องรีบกลับบ้านเกิดให้ทัน ฝูงนกอพยพนำหน้าไปไกลแล้ว เธอรั้งอยู่ท้ายสุด ลมพายุเมื่อเช้าทำเธอพลัดหลงกับเพื่อนๆ เธอไม่รู้ว่าปรอดตัวนั้นหมดแรงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ สำหรับเธอค่ำคืนยังอีกยาวไกล

         เมื่อนกปรอดตื่นเช้ามา เงาของเขนน้อยตัวนั้นก็หายไปแล้ว เพียงแต่เขายังสามาารถจดจำเสียงเพลงของเธอ ครั้งหน้าที่เจอกัน มันจะไม่ให้เธอต้องรออีกแล้ว นกปรอดตั้งใจไว้เช่นนั้น นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา นกปรอดเริ่มหัดร้องบทเพลงแห่งความรัก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่