ไปรษณีย์ไทยไม่ได้เลวร้ายอย่างคิด ประสบการณ์โดยตรงจากการรับจากต่างประเทศ
ก่อนอื่น ขอออกตัวว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไทยนะคะ...แต่ที่มาในวันนี้คืออยากจะมาพูดในส่วนที่ประทับใจไปรษณีย์ไทยสำหรับการให้การบริการ ส่งพัสดุรวมถึงการให้ความกระจ่างในข้อสงสัยที่เกิดขึ้นจากการรอพัสดุที่มาจากต่างประเทศ...
คือแบบนี้ค่ะ...จะมีพัสดุจากต่างประเทศส่งมาให้ที่เมืองไทย...หลายๆข่าวที่ออกมาส่วนใหญ่ค่อนข้างติดลบกับการบริการมากๆ คนที่ต่างประเทศก็กังวลใจจะส่งมาให้ก็กลัวของไม่ถึงหรือเสียหาย...หาข้อมูลรวมไปถึงการรีวิวเกี่ยวกับการให้การบริการ ทุกๆอย่างเป็นไปในทางเดียวกันหมดคือติดลบ การบริการค่อนข้างแย่ ไม่ควรส่งของโดยผ่านการทำงานจากไปรษณีย์ไทยอย่างเด็ดขาด...ตามข้อมูลข่าวที่ได้รับมาจากทั้งคนในประเทศหรือแม้แต่ทาง net...แต่ในกรณีนี้คือไม่สามารถเอามาให้ด้วยตัวเองได้จริงๆ จึงตัดสินใจที่จะเสี่ยงส่งเป็นพัสดุมา(สวิสฯ-ไทย) จะขอเล่าลำดับเหตุการณ์ให้ฟังนะคะผลคือ...
ครั้งแรกที่ส่ง...รอนานผิดปกติ เพราะจากไปรษณีย์สวิสเองบอกว่า 5-8 วัน(Priority)ก็ถึงผู้รับที่ไทยแล้ว แต่พัสดุนี้เกือบ 2 สัปดาห์ ไม่ใช่เพราะที่ไทยค่ะ แต่ของไปติดที่เยอรมัน อยู่ในขั้นตอนคัดแยกอยู่(ไปรษณีย์สวิสฯต้องผ่านไปเยอรมันก่อนเพราะเป็น Partner กัน จะไม่ตรงมาที่ไทยเลย) ก็เลยค้างที่นั่นหลายวัน เสียเวลาไปเยอะ...พอมาถึงเมืองไทยพัสดุลงทะเบียนมี tracking number สามารถเช็คออนไลน์ได้ตลอด ก็ผ่านการตรวจตามกระบวนการทุกขั้นตอน จนมาถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัย(จังหวัดสงขลา)...กังวลเรื่องภาษีนิดหน่อยแต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี มีค่าบริการนำส่ง(ค่าธรรมเนียม) 7 บาท ของในกล่องสภาพสมบูรณ์ไม่มีส่วนไหนเสียหายเลยแม้แต่รอยข่วน
ครั้งที่สอง...พอเรามีประสบการณ์จากครั้งแรกแล้ว เราก็ไม่มีความกังวลหรือวิตกจริตเท่าครั้งแรกอีก...หมั่นเช็คออนไลน์จากระบบ คอยดูของตลอดว่าอัพเดตล่าสุดพัสดุอยู่ที่ไหน มีอะไรเคลื่อนไหวหรือไม่ เช็คอัพเดตบ่อยๆ แต่...ครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งแรกขึ้นมาอีกขั้น คือของเยอะกว่า กล่องใหญ่กว่า ส่งมา 2 กล่องพร้อมๆกัน แต่มันได้ลุ้นระทึกกับเหตุการณ์นี้ เพราะอย่างนี้ค่ะ กล่องที่ 1 ได้รับที่เมืองไทยในระยะเวลาเพียงแค่ 4 วัน(กล่องมีฉีดขาดด้านข้าง เดี๋ยวจะมีรูปให้ดู) สำหรับอีกกล่องเราก็รอปกติ แต่แปลกใจมาก ไม่มีอะไรอัพเดตเลย ผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์ คือเหมือนว่าอยู่ดีๆก็หายไปจากระบบซ่ะแบบนั้น เริ่มกังวลใจเพราะในกล่องนี้มีพัสดุที่มีราคาแพงกว่าในกล่องแรกพอสมควรเลย....คนทางสวิสฯก็เริ่มใจไม่ดี โทรไปถามที่ไปรษณีย์ ก็หาไม่เจอในระบบ เลยตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะถึงเมืองไทยเเล้ว...ทางนี้ก็เลยไปติดต่อที่ไปรษณีย์ไทย(จังหวัดสงขลา)ขอทราบรายละเอียดและการตรวจสอบการมาของพัสดุกล่องใบที่ 2 เราก็อธิบายถึงความกังวลใจ สงสัย ว่าเพราะอะไรพัสดุทั้ง 2 กล่องที่ส่งมาพร้อมกัน แต่ถึงไม่พร้อมกัน กล่องแรกได้รับเร็วมาก แต่อีกกล่องหายไปไหน?....ทางเจ้าหน้าก็ชี้เเจงอธิบายดีมาก ยิ้มแย้มและก็ช่วยเต็มที่ที่จะให้ข้อมูลกับเรา หาจากระบบให้ก็ไม่พบ เจ้าหน้าจึงอธิบายว่า มี tracking number แบบเรานี้ ถ้าของส่งมาถึงเมืองไทยแล้ว เข้าระบบยังไงก็สามารถตรวจสอบได้ แต่กรณีนี้ไม่พบข้อมูลใดๆเลย อาจจะเป็นไปได้ว่าของอาจใส่ถุงผิดซึ่งเป็นขั้นตอนของทางไปรษณีย์เยอรมันเองที่ผิดพลาด เพราะพัสดุออกจากสวิสฯไปแล้วไปติดอยู่พาสเนอร์ซึ่งก็คือเยอรมัน(ของที่ส่งมาจากสวิสฯจะไม่ตรงมาที่ไทยเลยต้องผ่านเยอรมันก่อนทุกครั้ง)ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลได้หรือตอนใส่ถุงเพื่อส่ง พัสดุอาจจะตกหล่น ไม่ถูกใส่มาพร้อมกับพัสดุที่จะออกต่างประเทศหรือเพราะแยกตามน้ำหนักของพัสดุทำให้กล่องแรกมาถึงก่อนเพราะคัดลำเลียงแยกเป็นน้ำหนักและขนาดของกล่อง....เจ้าหน้าที่ขอให้ทางเราสอบถามจากทางไปรษณีย์สวิสฯก่อน ว่า ถ้าแน่ใจว่าของถึงเมืองไทยแล้วแต่ทางไทยทำหาย ขอเอกสารยืนยันว่าของถึงไทยแล้วจริงๆ ไปรษณีย์จะทำเรื่องรื้อหาพัสดุกล่องนั้นทั้งระบบให้ และจะหาให้จนกว่าจะเจอ...จะเห็นได้ว่าทางเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์สงขลา ช่วยเหลือให้คำตอบเป็นอย่างดี คีย์หาข้อมูลให้ทุกอย่าง การพูดคุยกันในวันนั้นเป็นไปด้วยดี เพราะทางเราก็สอบถามเพื่อเป็นความรู้ให้คลายความสงสัยกังวล อธิบายเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ฟังอย่างสุภาพ ไม่ใส่อารมณ์เพราะเราเองก็ไม่รู้ในขั้นตอน ต้องฟังเจ้าหน้าที่อธิบายก่อน...สรุปค่ะ ที่ช้าเป็นเพราะขั้นตอนล่าช้าจากทางสวิสฯไปติดที่เยอรมันเอง ทำให้กล่องใบที่ 2 ทิ้งเวลานำส่งจากพัสดุกล่องแรกไปนานพอสมควร...พอพัสดุมาถึงเมืองไทย เข้าไปเช็คอัพเดตตามขั้นตอนการนำเข้า ผ่านการตรวจทุกๆอย่างตามขั้นตอน...พัสดุก็มาถึงมือผู้รับค่ะ(ปกติจะใช้เวลาตรวจสอบรวมถึงขนส่งภายในไม่เกิน 4-5 วัน) เหมือนครั้งแรกมีค่าบริการ 7 บาท...สิ้นสุดสำหรับการรอคอยสักที(ยิ้ม)
เมื่อมีครั้งที่ 2 ต่อไปก็มีครั้งที่ 3 ครั้งนี้ส่งมาช่วงมกราคมหลังปีใหม่นี้เอง ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ไม่มีติดขัดเหมือนใน 2 ครั้งที่ผ่านมา เช็คข้อมูลได้ตลอด แต่รอบนี้เปลี่ยนจากทางสงขลา(ภาคใต้) มาเป็นสระแก้ว(ภาคตะวันออก) น้ำหนักของพัสดุ 12 kg. กว่าๆ กล่องใหญ่มาก...จากการเช็คของตลอดก็เลยทราบว่าพัสดุถึงไปรษณีย์สระแก้วแล้ว แต่ที่อยู่ผู้รับเป็นบ้านที่อยู่ในอำเภอจึงไปรับของเอง เพราะสะดวกกว่า ไม่อยากรออีกแล้ว...ภาพตัดมาที่ไปรษณีย์สระแก้ว ตัดภาพมาที่เจ้าที่มองเรา หันกลับไปมองกล่อง สลับไปมาสัก 2-3 ครั้ง แล้วมีคำพูดถามออกมาว่า "รถจอดที่ไหนครับ ผมถือไปส่ง" ทั้งๆที่เจ้าหน้าที่ก็ดูมีอายุและตัวก็สูงกว่าเรานิดหน่อยเองน่าจะไม่ถึง 160 cm. ต้องขอขอบคุณจริงๆค่ะ
ที่เล่ามาทั้งหมดเจตนาคือการพูดถึงในส่วนการทำงานที่ดี เพื่อเป็นอีก 1 ข้อมูลจากการใช้บริการ อยากบอกว่าประทับใจค่ะ อยากเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ดีๆ คนเราถ้าทำดีทำเต็มหน้าที่แล้ว ควรได้รับคำชื่นชม...ขอให้ในต่อๆไป ไปรษณีย์ไทยคัดเลือกเจ้าหน้าดีๆแบบนี้เป็นตัวอย่างที่ดีในการทำงาน รักในงานที่ตัวเองทำ...ขอบคุณจริงๆค่ะ
*สุดท้ายของสุดท้ายนะคะ อยากจะบอกว่าไม่มีไปรษณีย์ที่ไหนประเทศไหนไม่โยนของ...
1. ทางที่ดีเราควรห่ออย่างดี security ของข้างในให้มากที่สุด ห่อด้วย bubble wrap กันกระแทกอีกชั้น เลือกกล่องที่หนาแข็งแรง ไม่เอากล่องบาง ขาดง่าย...ต้องไม่ให้มีพื้นที่ว่างในกล่องเลย หนังสือพิมพ์ bubble wrap กันกระแทก อะไรที่จะเป็นการถนอมของที่อยู่ข้างในได้ทำเถอะค่ะ แล้วจะได้ไม่ต้องกังวัลว่าของข้างในจะเสียหายหรือเปล่า
2. มูลค่าของพัสดุที่ส่งมา กับรายละเอียดของพัสดุ เขียนให้ครบค่ะ เช่นมีกี่ชิ้นในกล่อง อาจไม่ต้องใส่รายละเอียดทุกชิ้นว่าเป็นอะไร แต่ควรเขียนว่าของในกล่องมีทั้งหมดกี่ชิ้น เผื่อมีปัญหาจะได้เอาเป็นหลักฐานในการยืนยันเวลาเกิดอุบัติเหตุทางการนำส่งได้
3. ควรถามเจ้าหน้าที่ทุกครั้งเวลาไปส่งของ ว่าพัสดุใช้เวลากี่วันในการส่ง เพื่อเช็คกำหนดวันในการรอรับของ ถ้ามีความผิดปกติ เช่น เกินระยะเวลาที่เจ้าหน้าที่บอก ให้เข้าไปติดต่อข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ใกล้บ้าน เจ้าหน้าที่สามารถชี้แจงให้ข้อมูลให้เรารับทราบขั้นตอนและข้อมูลที่ถูกต้องกับเรามากที่สุด อย่าไปเขียนถามทาง net เพราะจะไม่ได้คำตอบที่ต้องการ ติดต่อเจ้าหน้าที่ดีที่สุดค่ะ
4. ควรส่งแบบลงทะเบียนทุกครั้งและให้ผู้รับเซ็นชื่อด้วย เพราะมันง่ายในการตรวจเช็ค
5. บางทีการเช็คออนไลน์ข้อมูลอาจจะอัพเดตช้าบ้าง ให้ใจเย็นๆ รอสักนิดก่อน หมั่นตรวจบ่อยๆ พอเห็นว่าอยู่ไปรษณีย์ที่จังหวัดแล้วไม่ต้องรอบุรุษไปรษณีย์มาส่งถึงบ้านก็ได้ ถ้าสามารถไปรับที่ไปรษณีย์จังหวัดได้ไปเองดีกว่า เร็ว ไม่ต้องรออีก...
ภาพถ่ายตอนได้รับพัสดุครั้งแรก สภาพกล่องภายนอกค่อนข้างสมบูรณ์
ของที่อยู่ข้างในสภาพสมบูรณ์
ภาพนี้คือกล่องที่ส่งมาครั้งที่สอง มีขาดนิดหน่อยเห็นตอนแรกก็ตกใจเหมือนกัน แต่พอแกะออกมาแล้วของข้างในอยู่ครบและสภาพสมบูรณ์ทุกชิ้น
กล่องนี้คือกล่องเจ้าปัญหา(ส่งครั้งที่สองมี 2 กล่อง)ที่หายไปจากระบบ ซึ่งเป็นความผิดพลาดของการปิดถุงผิดซึ่งเกิดขึ้นที่ต่างประเทศ พอมาถึงไทยสภาพก็อย่างที่เห็นค่อนข้างสมบูรณ์
กล่องนี้เป็นครั้งที่สามที่ได้รับ จะเห็นว่ากล่องมีรอยฉีกขาด ผ่านการแกะ แต่เป็นการแกะเพื่อตรวจของที่อยู่ข้างในจากไปรษณีย์สวิส
ไปรษณีย์ไทยไม่ได้เลวร้ายอย่างคิด
ก่อนอื่น ขอออกตัวว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไทยนะคะ...แต่ที่มาในวันนี้คืออยากจะมาพูดในส่วนที่ประทับใจไปรษณีย์ไทยสำหรับการให้การบริการ ส่งพัสดุรวมถึงการให้ความกระจ่างในข้อสงสัยที่เกิดขึ้นจากการรอพัสดุที่มาจากต่างประเทศ...
คือแบบนี้ค่ะ...จะมีพัสดุจากต่างประเทศส่งมาให้ที่เมืองไทย...หลายๆข่าวที่ออกมาส่วนใหญ่ค่อนข้างติดลบกับการบริการมากๆ คนที่ต่างประเทศก็กังวลใจจะส่งมาให้ก็กลัวของไม่ถึงหรือเสียหาย...หาข้อมูลรวมไปถึงการรีวิวเกี่ยวกับการให้การบริการ ทุกๆอย่างเป็นไปในทางเดียวกันหมดคือติดลบ การบริการค่อนข้างแย่ ไม่ควรส่งของโดยผ่านการทำงานจากไปรษณีย์ไทยอย่างเด็ดขาด...ตามข้อมูลข่าวที่ได้รับมาจากทั้งคนในประเทศหรือแม้แต่ทาง net...แต่ในกรณีนี้คือไม่สามารถเอามาให้ด้วยตัวเองได้จริงๆ จึงตัดสินใจที่จะเสี่ยงส่งเป็นพัสดุมา(สวิสฯ-ไทย) จะขอเล่าลำดับเหตุการณ์ให้ฟังนะคะผลคือ...
ครั้งแรกที่ส่ง...รอนานผิดปกติ เพราะจากไปรษณีย์สวิสเองบอกว่า 5-8 วัน(Priority)ก็ถึงผู้รับที่ไทยแล้ว แต่พัสดุนี้เกือบ 2 สัปดาห์ ไม่ใช่เพราะที่ไทยค่ะ แต่ของไปติดที่เยอรมัน อยู่ในขั้นตอนคัดแยกอยู่(ไปรษณีย์สวิสฯต้องผ่านไปเยอรมันก่อนเพราะเป็น Partner กัน จะไม่ตรงมาที่ไทยเลย) ก็เลยค้างที่นั่นหลายวัน เสียเวลาไปเยอะ...พอมาถึงเมืองไทยพัสดุลงทะเบียนมี tracking number สามารถเช็คออนไลน์ได้ตลอด ก็ผ่านการตรวจตามกระบวนการทุกขั้นตอน จนมาถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัย(จังหวัดสงขลา)...กังวลเรื่องภาษีนิดหน่อยแต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี มีค่าบริการนำส่ง(ค่าธรรมเนียม) 7 บาท ของในกล่องสภาพสมบูรณ์ไม่มีส่วนไหนเสียหายเลยแม้แต่รอยข่วน
ครั้งที่สอง...พอเรามีประสบการณ์จากครั้งแรกแล้ว เราก็ไม่มีความกังวลหรือวิตกจริตเท่าครั้งแรกอีก...หมั่นเช็คออนไลน์จากระบบ คอยดูของตลอดว่าอัพเดตล่าสุดพัสดุอยู่ที่ไหน มีอะไรเคลื่อนไหวหรือไม่ เช็คอัพเดตบ่อยๆ แต่...ครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งแรกขึ้นมาอีกขั้น คือของเยอะกว่า กล่องใหญ่กว่า ส่งมา 2 กล่องพร้อมๆกัน แต่มันได้ลุ้นระทึกกับเหตุการณ์นี้ เพราะอย่างนี้ค่ะ กล่องที่ 1 ได้รับที่เมืองไทยในระยะเวลาเพียงแค่ 4 วัน(กล่องมีฉีดขาดด้านข้าง เดี๋ยวจะมีรูปให้ดู) สำหรับอีกกล่องเราก็รอปกติ แต่แปลกใจมาก ไม่มีอะไรอัพเดตเลย ผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์ คือเหมือนว่าอยู่ดีๆก็หายไปจากระบบซ่ะแบบนั้น เริ่มกังวลใจเพราะในกล่องนี้มีพัสดุที่มีราคาแพงกว่าในกล่องแรกพอสมควรเลย....คนทางสวิสฯก็เริ่มใจไม่ดี โทรไปถามที่ไปรษณีย์ ก็หาไม่เจอในระบบ เลยตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะถึงเมืองไทยเเล้ว...ทางนี้ก็เลยไปติดต่อที่ไปรษณีย์ไทย(จังหวัดสงขลา)ขอทราบรายละเอียดและการตรวจสอบการมาของพัสดุกล่องใบที่ 2 เราก็อธิบายถึงความกังวลใจ สงสัย ว่าเพราะอะไรพัสดุทั้ง 2 กล่องที่ส่งมาพร้อมกัน แต่ถึงไม่พร้อมกัน กล่องแรกได้รับเร็วมาก แต่อีกกล่องหายไปไหน?....ทางเจ้าหน้าก็ชี้เเจงอธิบายดีมาก ยิ้มแย้มและก็ช่วยเต็มที่ที่จะให้ข้อมูลกับเรา หาจากระบบให้ก็ไม่พบ เจ้าหน้าจึงอธิบายว่า มี tracking number แบบเรานี้ ถ้าของส่งมาถึงเมืองไทยแล้ว เข้าระบบยังไงก็สามารถตรวจสอบได้ แต่กรณีนี้ไม่พบข้อมูลใดๆเลย อาจจะเป็นไปได้ว่าของอาจใส่ถุงผิดซึ่งเป็นขั้นตอนของทางไปรษณีย์เยอรมันเองที่ผิดพลาด เพราะพัสดุออกจากสวิสฯไปแล้วไปติดอยู่พาสเนอร์ซึ่งก็คือเยอรมัน(ของที่ส่งมาจากสวิสฯจะไม่ตรงมาที่ไทยเลยต้องผ่านเยอรมันก่อนทุกครั้ง)ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลได้หรือตอนใส่ถุงเพื่อส่ง พัสดุอาจจะตกหล่น ไม่ถูกใส่มาพร้อมกับพัสดุที่จะออกต่างประเทศหรือเพราะแยกตามน้ำหนักของพัสดุทำให้กล่องแรกมาถึงก่อนเพราะคัดลำเลียงแยกเป็นน้ำหนักและขนาดของกล่อง....เจ้าหน้าที่ขอให้ทางเราสอบถามจากทางไปรษณีย์สวิสฯก่อน ว่า ถ้าแน่ใจว่าของถึงเมืองไทยแล้วแต่ทางไทยทำหาย ขอเอกสารยืนยันว่าของถึงไทยแล้วจริงๆ ไปรษณีย์จะทำเรื่องรื้อหาพัสดุกล่องนั้นทั้งระบบให้ และจะหาให้จนกว่าจะเจอ...จะเห็นได้ว่าทางเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์สงขลา ช่วยเหลือให้คำตอบเป็นอย่างดี คีย์หาข้อมูลให้ทุกอย่าง การพูดคุยกันในวันนั้นเป็นไปด้วยดี เพราะทางเราก็สอบถามเพื่อเป็นความรู้ให้คลายความสงสัยกังวล อธิบายเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ฟังอย่างสุภาพ ไม่ใส่อารมณ์เพราะเราเองก็ไม่รู้ในขั้นตอน ต้องฟังเจ้าหน้าที่อธิบายก่อน...สรุปค่ะ ที่ช้าเป็นเพราะขั้นตอนล่าช้าจากทางสวิสฯไปติดที่เยอรมันเอง ทำให้กล่องใบที่ 2 ทิ้งเวลานำส่งจากพัสดุกล่องแรกไปนานพอสมควร...พอพัสดุมาถึงเมืองไทย เข้าไปเช็คอัพเดตตามขั้นตอนการนำเข้า ผ่านการตรวจทุกๆอย่างตามขั้นตอน...พัสดุก็มาถึงมือผู้รับค่ะ(ปกติจะใช้เวลาตรวจสอบรวมถึงขนส่งภายในไม่เกิน 4-5 วัน) เหมือนครั้งแรกมีค่าบริการ 7 บาท...สิ้นสุดสำหรับการรอคอยสักที(ยิ้ม)
เมื่อมีครั้งที่ 2 ต่อไปก็มีครั้งที่ 3 ครั้งนี้ส่งมาช่วงมกราคมหลังปีใหม่นี้เอง ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ไม่มีติดขัดเหมือนใน 2 ครั้งที่ผ่านมา เช็คข้อมูลได้ตลอด แต่รอบนี้เปลี่ยนจากทางสงขลา(ภาคใต้) มาเป็นสระแก้ว(ภาคตะวันออก) น้ำหนักของพัสดุ 12 kg. กว่าๆ กล่องใหญ่มาก...จากการเช็คของตลอดก็เลยทราบว่าพัสดุถึงไปรษณีย์สระแก้วแล้ว แต่ที่อยู่ผู้รับเป็นบ้านที่อยู่ในอำเภอจึงไปรับของเอง เพราะสะดวกกว่า ไม่อยากรออีกแล้ว...ภาพตัดมาที่ไปรษณีย์สระแก้ว ตัดภาพมาที่เจ้าที่มองเรา หันกลับไปมองกล่อง สลับไปมาสัก 2-3 ครั้ง แล้วมีคำพูดถามออกมาว่า "รถจอดที่ไหนครับ ผมถือไปส่ง" ทั้งๆที่เจ้าหน้าที่ก็ดูมีอายุและตัวก็สูงกว่าเรานิดหน่อยเองน่าจะไม่ถึง 160 cm. ต้องขอขอบคุณจริงๆค่ะ
ที่เล่ามาทั้งหมดเจตนาคือการพูดถึงในส่วนการทำงานที่ดี เพื่อเป็นอีก 1 ข้อมูลจากการใช้บริการ อยากบอกว่าประทับใจค่ะ อยากเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ดีๆ คนเราถ้าทำดีทำเต็มหน้าที่แล้ว ควรได้รับคำชื่นชม...ขอให้ในต่อๆไป ไปรษณีย์ไทยคัดเลือกเจ้าหน้าดีๆแบบนี้เป็นตัวอย่างที่ดีในการทำงาน รักในงานที่ตัวเองทำ...ขอบคุณจริงๆค่ะ
*สุดท้ายของสุดท้ายนะคะ อยากจะบอกว่าไม่มีไปรษณีย์ที่ไหนประเทศไหนไม่โยนของ...
1. ทางที่ดีเราควรห่ออย่างดี security ของข้างในให้มากที่สุด ห่อด้วย bubble wrap กันกระแทกอีกชั้น เลือกกล่องที่หนาแข็งแรง ไม่เอากล่องบาง ขาดง่าย...ต้องไม่ให้มีพื้นที่ว่างในกล่องเลย หนังสือพิมพ์ bubble wrap กันกระแทก อะไรที่จะเป็นการถนอมของที่อยู่ข้างในได้ทำเถอะค่ะ แล้วจะได้ไม่ต้องกังวัลว่าของข้างในจะเสียหายหรือเปล่า
2. มูลค่าของพัสดุที่ส่งมา กับรายละเอียดของพัสดุ เขียนให้ครบค่ะ เช่นมีกี่ชิ้นในกล่อง อาจไม่ต้องใส่รายละเอียดทุกชิ้นว่าเป็นอะไร แต่ควรเขียนว่าของในกล่องมีทั้งหมดกี่ชิ้น เผื่อมีปัญหาจะได้เอาเป็นหลักฐานในการยืนยันเวลาเกิดอุบัติเหตุทางการนำส่งได้
3. ควรถามเจ้าหน้าที่ทุกครั้งเวลาไปส่งของ ว่าพัสดุใช้เวลากี่วันในการส่ง เพื่อเช็คกำหนดวันในการรอรับของ ถ้ามีความผิดปกติ เช่น เกินระยะเวลาที่เจ้าหน้าที่บอก ให้เข้าไปติดต่อข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ใกล้บ้าน เจ้าหน้าที่สามารถชี้แจงให้ข้อมูลให้เรารับทราบขั้นตอนและข้อมูลที่ถูกต้องกับเรามากที่สุด อย่าไปเขียนถามทาง net เพราะจะไม่ได้คำตอบที่ต้องการ ติดต่อเจ้าหน้าที่ดีที่สุดค่ะ
4. ควรส่งแบบลงทะเบียนทุกครั้งและให้ผู้รับเซ็นชื่อด้วย เพราะมันง่ายในการตรวจเช็ค
5. บางทีการเช็คออนไลน์ข้อมูลอาจจะอัพเดตช้าบ้าง ให้ใจเย็นๆ รอสักนิดก่อน หมั่นตรวจบ่อยๆ พอเห็นว่าอยู่ไปรษณีย์ที่จังหวัดแล้วไม่ต้องรอบุรุษไปรษณีย์มาส่งถึงบ้านก็ได้ ถ้าสามารถไปรับที่ไปรษณีย์จังหวัดได้ไปเองดีกว่า เร็ว ไม่ต้องรออีก...
ภาพถ่ายตอนได้รับพัสดุครั้งแรก สภาพกล่องภายนอกค่อนข้างสมบูรณ์
ของที่อยู่ข้างในสภาพสมบูรณ์
ภาพนี้คือกล่องที่ส่งมาครั้งที่สอง มีขาดนิดหน่อยเห็นตอนแรกก็ตกใจเหมือนกัน แต่พอแกะออกมาแล้วของข้างในอยู่ครบและสภาพสมบูรณ์ทุกชิ้น
กล่องนี้คือกล่องเจ้าปัญหา(ส่งครั้งที่สองมี 2 กล่อง)ที่หายไปจากระบบ ซึ่งเป็นความผิดพลาดของการปิดถุงผิดซึ่งเกิดขึ้นที่ต่างประเทศ พอมาถึงไทยสภาพก็อย่างที่เห็นค่อนข้างสมบูรณ์
กล่องนี้เป็นครั้งที่สามที่ได้รับ จะเห็นว่ากล่องมีรอยฉีกขาด ผ่านการแกะ แต่เป็นการแกะเพื่อตรวจของที่อยู่ข้างในจากไปรษณีย์สวิส