วันนี้ (5ก.พ.59) นางศุภสรณ์ โหรชัยยะ ตัวแทน บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์เเซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด กล่าวถึง กรณีที่มีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครือข่ายเอไอเอส ระบบเติมเงินในระบบ 2 จี จำนวนมาก มาร้องเรียนที่ทรูฯว่า ถูกเครือข่ายเอไอเอส ปิดกั้น จนไม่สามารถ ใช้บริการหมายเลข คอลเซ็นเตอร์ 1331 เพื่อสอบถามข้อมูลและดำเนินการย้ายค่ายเบอร์เดิม จากเครือเอไอเอสมายังเครือข่าย ทรูมูฟเอช ในช่วงระหว่างเวลาที่ ทรูมูฟเอช กำลังเปิดแคมเปญ เชิญชวนผู้ใช้งาน ความถี่ 900 เมกะเฮิร์ต หรือระบบ 2 จีเดิม ย้ายค่าย และรับโทรศัพท์มือถือและซิมทรูมูฟฟรี ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินธุรกิจ ของทรูมูฟเอช โดยกรณีที่เกิดขึ้น ถือเป็นการลิดรอนสิทธิมนุษยชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้บริโภค รวมถึงชื่อเสียงของ บริษัททรูฯหลายประการ
ดังนั้น จึงได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทน ของบริษัท เข้ามายื่นหนังสือร้องเรียน ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. พร้อมกับหลักฐานเอกสารและคลิปวีดีโอ ที่แสดงรายละเอียดการปิดกั้นในการเข้าบริการ คอลเซ็นเตอร์ 1331 อาทิ การถูกตัดสายทันที, การตัดเข้าระบบตอบรับด้วยเสียงของเอไอเอส เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าของบริษัท ก่อนตัดสาย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลายพื้นที่ของประเทศ
อย่างไรก็ตามเบื้องต้น ทรูมูฟ ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเอไอเอสจะเป็นผู้ดำเนินการดังกล่าวในกรณีที่เกิดขึ้นเพราะเอไอเอส ก็ถือเป็นเครือข่ายให้บริการหลักของประเทศเช่นเดียวกันทรูมูฟ ดังนั้นจึงต้องให้เวลา ปคบ.และสคบ.ตรวจสอบก่อน ซึ่งระหว่างจะไม่มีการเจรจากับเอไอเอส เพราะจะเป็นการแสดงให้เห็นว่าเอไอเอสเป็นผู้กระทำผิด ขณะนี้ยังไม่มีการสอบสวน หากผลสอบสวนออกมาพบผู้กระทำผิดทรูมูฟ จะดำเนินการตามกฏหมายขั้นเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก
ด้าน พ.ต.อ. อังกูร คล้ายคลึง รองผู้บังคับการ ปคบ. กล่าวว่า หลังได้รับข้อร้องเรียนดังกล่าวเเล้ว จะเร่งดำเนินการตรวจสอบทันที โดยจะส่งข้อมูลหลักฐานทั้งหมดให้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือสคบ.พิจารณา ภายใน 15 วัน
ที่มา:
http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=90783&t=news
ทรูร้องกองปราบ หลังถูกคู่แข่งสกัดการย้ายค่าย
ดังนั้น จึงได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทน ของบริษัท เข้ามายื่นหนังสือร้องเรียน ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. พร้อมกับหลักฐานเอกสารและคลิปวีดีโอ ที่แสดงรายละเอียดการปิดกั้นในการเข้าบริการ คอลเซ็นเตอร์ 1331 อาทิ การถูกตัดสายทันที, การตัดเข้าระบบตอบรับด้วยเสียงของเอไอเอส เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าของบริษัท ก่อนตัดสาย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลายพื้นที่ของประเทศ
อย่างไรก็ตามเบื้องต้น ทรูมูฟ ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเอไอเอสจะเป็นผู้ดำเนินการดังกล่าวในกรณีที่เกิดขึ้นเพราะเอไอเอส ก็ถือเป็นเครือข่ายให้บริการหลักของประเทศเช่นเดียวกันทรูมูฟ ดังนั้นจึงต้องให้เวลา ปคบ.และสคบ.ตรวจสอบก่อน ซึ่งระหว่างจะไม่มีการเจรจากับเอไอเอส เพราะจะเป็นการแสดงให้เห็นว่าเอไอเอสเป็นผู้กระทำผิด ขณะนี้ยังไม่มีการสอบสวน หากผลสอบสวนออกมาพบผู้กระทำผิดทรูมูฟ จะดำเนินการตามกฏหมายขั้นเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก
ด้าน พ.ต.อ. อังกูร คล้ายคลึง รองผู้บังคับการ ปคบ. กล่าวว่า หลังได้รับข้อร้องเรียนดังกล่าวเเล้ว จะเร่งดำเนินการตรวจสอบทันที โดยจะส่งข้อมูลหลักฐานทั้งหมดให้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือสคบ.พิจารณา ภายใน 15 วัน
ที่มา: http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=90783&t=news