ดู “เดอะ เรเวแนนท์-ต้องรอด”( the revenant )จบ,แล้วก็รู้สึกชอบ-ถึงชอบมากกับหนังที่เข้าชิง 12 รางวัลออสการ์-เรื่องนี้(คว้ามาแล้ว 3 รางวัลลูกโลกทองคำ)
.
ทั้งยังอยากเห็น-ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ได้ออสการ์มากอดซะที(เข้าชิงเป็นครั้งที่ 5 ,ที่ผ่านมา 4 ครั้ง-พลาดหมด)
.
กับบทบาทความอึด,ทรหด เพื่อเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ทั้งบาดเจ็บสาหัส เหน็บหนาว เปล่าเปลี่ยว อ้างว้าง—ทุกข์ทรมาน ชนิดบั่นทอนสภาพกายและสภาพจิตใจ ประดังโถมเข้าใส่แทบบ้าคลั่ง
.
นอกจากต้องเจ็บปวดรวดร้าวกับบาดแผลที่กายแล้ว ยังมีบาดแผลในใจ ที่สุมความแค้นเอาไว้เต็มอก...“ต้องรอด”,จึงเป็นคำสั่งเดียวเท่านั้นที่เขาต้องบอกกับจิตวิญญาณของตัวเอง
.
ที่ชอบมาก ๆ เลยก็น่าจะเป็นงานด้านภาพ โลเกชั่นที่เป็นฉากหลังของเรื่องราวนั้น-งดงามจับจิตจับใจกันเลยเชียวหล่ะ
(ได้ยินมาว่าถ่ายทำภายใต้แสงธรรมชาติล้วน ๆ)
.
ฉากที่พระเอกต่อสู้กับหมีนั้นก็น่าจะติดตรึงเป็นฉากตื่นตาประทับใจ-เข้าขั้นคลาสสิก..ไปอีกนาน
ฉากต่อสู้-ไล่ล่ากับอินเดียแดงก็รังสรรค์ออกมาได้อย่างระทึกใจ
.
ดูจบแล้วก็ได้แง่คิดอะไรดี ๆ หลายอย่าง,อย่างน้อยก็มีกำลังใจ-ได้แรงบันดาลใจในการต่อสู้กับชะตาชีวิต-ต่อไป
.
แม้หนังจะมีความยาว 2 ชั่วโมงครึ่ง แต่มันก็สามารถตรึงเราให้ติดตามไปอย่างลุ้นระทึก ต้องยกเครดิตให้ผู้กำกับฯสุดติ่งกระดิ่งแมวอย่าง-อเลฮานโดร จี. อินาร์ริตู,แกเลย-จริง ๆ (เจ้าของผลงานขั้นเทพ อาทิ amores perros,21 grams,babel,biutiful และ birdman รางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ครั้งที่ผ่านมา)
.
https://www.youtube.com/watch?v=U2z4fb2lk7M
เดอะ เรเวแนนท์-ต้องรอด
.
ทั้งยังอยากเห็น-ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ได้ออสการ์มากอดซะที(เข้าชิงเป็นครั้งที่ 5 ,ที่ผ่านมา 4 ครั้ง-พลาดหมด)
.
กับบทบาทความอึด,ทรหด เพื่อเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ทั้งบาดเจ็บสาหัส เหน็บหนาว เปล่าเปลี่ยว อ้างว้าง—ทุกข์ทรมาน ชนิดบั่นทอนสภาพกายและสภาพจิตใจ ประดังโถมเข้าใส่แทบบ้าคลั่ง
.
นอกจากต้องเจ็บปวดรวดร้าวกับบาดแผลที่กายแล้ว ยังมีบาดแผลในใจ ที่สุมความแค้นเอาไว้เต็มอก...“ต้องรอด”,จึงเป็นคำสั่งเดียวเท่านั้นที่เขาต้องบอกกับจิตวิญญาณของตัวเอง
.
ที่ชอบมาก ๆ เลยก็น่าจะเป็นงานด้านภาพ โลเกชั่นที่เป็นฉากหลังของเรื่องราวนั้น-งดงามจับจิตจับใจกันเลยเชียวหล่ะ
(ได้ยินมาว่าถ่ายทำภายใต้แสงธรรมชาติล้วน ๆ)
.
ฉากที่พระเอกต่อสู้กับหมีนั้นก็น่าจะติดตรึงเป็นฉากตื่นตาประทับใจ-เข้าขั้นคลาสสิก..ไปอีกนาน
ฉากต่อสู้-ไล่ล่ากับอินเดียแดงก็รังสรรค์ออกมาได้อย่างระทึกใจ
.
ดูจบแล้วก็ได้แง่คิดอะไรดี ๆ หลายอย่าง,อย่างน้อยก็มีกำลังใจ-ได้แรงบันดาลใจในการต่อสู้กับชะตาชีวิต-ต่อไป
.
แม้หนังจะมีความยาว 2 ชั่วโมงครึ่ง แต่มันก็สามารถตรึงเราให้ติดตามไปอย่างลุ้นระทึก ต้องยกเครดิตให้ผู้กำกับฯสุดติ่งกระดิ่งแมวอย่าง-อเลฮานโดร จี. อินาร์ริตู,แกเลย-จริง ๆ (เจ้าของผลงานขั้นเทพ อาทิ amores perros,21 grams,babel,biutiful และ birdman รางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ครั้งที่ผ่านมา)
.
https://www.youtube.com/watch?v=U2z4fb2lk7M