เทรนด์การสร้างหนังจากเหตุการณ์จริงกำลังได้รับความนิยมในฮอลลีวู้ด โดยเมื่อดูจากรายชื่อภาพยนตร์ที่เข้าชิงรางวัล ออสการ์ 2016 สาขา Best Picture มีหนังที่ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงกว่าครึ่งหนึ่ง (4เรื่อง) The Revenant คือ 1 ในนั้น แถมยังเป็นตัวเต็งอีกด้วย ขณะเดียวกันหลายคนจับตามองกันว่าหนังเรื่องนี้อาจส่งให้ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ นักแสดงนำได้สัมผัสตุ๊กตาทองครั้งแรก กับสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
The Revenant เป็นภาพยนตร์ดราม่าที่อ้างอิงมาจากการสำรวจป่าสหรัฐอเมริกาที่ไม่ถูกบันทึกลงแผนที่ของ ฮิวจ์ กลาส ในช่วงปี 1820 ผลงานของผู้กำกับชาวเม็กซิโก อเลฮังโดร อินาร์ริตู เจ้าของรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมเวที ออสการ์ 2015 จาก Birdman โดยทีมกองถ่ายหนังเรื่องนี้ลำบากลำบนกันพอสมควร เพราะลงทุนไปถ่ายทำในสถานที่จริงทั้งหมด(ไม่มีการถ่ายในสตูดิโอ) ส่วนคิวถ่ายก็ไล่ตั้งแต่ฉากแรกไปฉากสุดท้ายไม่มีสลับจึงใช้เวลานาน8เดือน บางช่วงพวกเขาต้องเผชิญอากาศหนาวเหน็บ ติดลบกว่า25องศา ที่บ้ากว่านั้นคือ เอ็มมานูเอล ลูเบสกี้ ผู้กำกับภาพยืนยันจะใช้แสงธรรมชาติล้วนๆ
ตัวหนังเล่าถึง ฮิวจ์ กลาส พรานที่นำทางคณะสำรวจเข้ามาในป่าลึก ก่อนที่พวกเขาจะถูกโจมตีจากชนพื้นเมือง ระหว่างหลบหนี ฮิวจ์ พลาดท่าถูกหมีกริซลีจู่โจมจนบาดเจ็บสาหัส ต่อมา จอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ หนึ่งในคณะเดินทางจะปลิดชีพเขา แต่ ฮอร์ค ลูกชายเชื้อสายอินเดียนแดงมาขวางทำให้ถูกฆ่าตาย ฮิวจ์ ถูกดินกลบทิ้งไว้ในหลุม กระนั้นเขากลับสามารถฟื้นจากหลุมขึ้นมาได้ด้วยความเคียดแค้นเต็มเปี่ยมในอก
The Revenant คือหนังดราม่าเอาชีวิตรอดในอารมณ์หนักหน่วง เต็มไปด้วยความดิบเถื่อน รุนแรง ดุดัน ไปจนถึง หดหู่ ชะตากรรมของตัวละครนำโหดร้ายพอๆกับสภาพอากาศในหนัง บทเข้มข้นพอสมควรกับความทรหดอดทนของชายคนหนึ่ง เพียงแต่มันก็ไม่ได้แปลกใหม่หรือคาดเดายากนัก งานภาพสวยเด่นจนกลบทุกอย่าง แสงแดดในเรื่องงดงามคุ้มค่ากับการรอคอยของทีมงาน หนังพักสายตาคนดูบ่อยๆด้วยการถ่ายภาพมุมเงยกว้างๆ ช้อนจากพื้นขึ้นไปบนท้องฟ้า
ส่วนซาวน์ประกอบในหนังก็ดีไม่แพ้กัน การใช้ความเงียบทำให้เราได้ยินเสียงสิ่งต่างๆรอบตัวชัดเจน ทั้ง น้ำไหล กิ่งไม้หัก ลืมหวีด สัตว์ร้อง และฟืนไฟแตกปะทุ เข้ากับดนตรีประกอบบางๆฝีมือของ Ryuichi Sakamoto ด้าน อเลฮังโดร อินาร์ริตู ก็โชว์ฝีมือเต็มที่กับฉากลองเทคที่มาเป็นระยะเกือบตลอดเรื่อง ควบคู่ไปกับการถ่ายโคลสอัพใกล้ๆใบหน้านักแสดง เขานำเสนอสังคมอเมริกันยุคบุกเบิกด้วยสายตาคนนอก จึงเน้นเสียดสีคนขาว และเห็นอกเห็นใจชาวพื้นเมือง เจ้าของแผ่นดินเดิมซึ่งถูกพรากทุกอย่างไปจากชีวิต (ยิ่งกว่าที่ ฮิวจ์ กลาส โดน)
อีกครั้งที่เราได้เห็นการแสดงที่ดีของ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ คนดูน่าจะรับรู้ได้กับความทุ่มเทของเขาในบทบาทนี้ (ไว้ผมยาว หนวดเคราเฟิ้ม กินเนื้อดิบ คลานไปมาในป่า แก้ผ้ากลางหิมะ ฯ) แม้จะไม่ใช่การแสดงที่ดีที่สุดของเขา แต่ก็ถือว่าน่าจดจำไม่น้อย ข้อนี้ต้องให้เครดิต ทอม ฮาร์ดี้ ที่เล่นเป็น ฟิตซ์เจอรัลด์ การแสดงของเขาช่วยส่งเสริมตัวละครของ ลีโอ มาก
ทว่าหนังก็มีข้อเสียตรงความยาวถึง 156 นาที ซึ่งถือว่าเป็นการเดินทางที่นานไปหน่อย เทคนิคการแช่ภาพถูกนำมาใช้มากเกินจนดูซํ้าๆ เช่นเดียวกับเหตุการณ์ร้ายๆที่ประดังประเดเข้าหา ฮิวจ์ เรื่อยๆ แรกทีเดียวก็ทำให้ผู้ชมลุ้นอยู่บ้าง แต่พอหลายๆครั้งเข้ามันก็ไม่ขลัง เมื่อเราแน่ใจว่ายังไงเขาต้องรอดมาได้อีก
The Revenant มีฉากหน้าเป็นการตามไล่ล่าล้างแค้นธรรมดา แต่มีฉากหลังตีแผ่ความเลวร้ายของมนุษย์ที่กระทำต่อคนต่างชาติต่างภาษา เคลือบแฝงด้วยประเด็นความเชื่อของชาวอินเดียน เกี่ยวกับความตายและการหลุดพ้นจากความเจ็บปวด ไม่ว่าจะทางกาย หรือ ทางใจ
คะแนน 8/10
โดย นกไซเบอร์
เครดิต
https://www.facebook.com/cyberbirdmovie
ตัวอย่างหนัง
http://movie.bugaboo.tv/watch/200055/?link=4
รีวิวหนัง : The Revenant ชายผู้ฟื้นจากหลุม
เทรนด์การสร้างหนังจากเหตุการณ์จริงกำลังได้รับความนิยมในฮอลลีวู้ด โดยเมื่อดูจากรายชื่อภาพยนตร์ที่เข้าชิงรางวัล ออสการ์ 2016 สาขา Best Picture มีหนังที่ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงกว่าครึ่งหนึ่ง (4เรื่อง) The Revenant คือ 1 ในนั้น แถมยังเป็นตัวเต็งอีกด้วย ขณะเดียวกันหลายคนจับตามองกันว่าหนังเรื่องนี้อาจส่งให้ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ นักแสดงนำได้สัมผัสตุ๊กตาทองครั้งแรก กับสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
The Revenant เป็นภาพยนตร์ดราม่าที่อ้างอิงมาจากการสำรวจป่าสหรัฐอเมริกาที่ไม่ถูกบันทึกลงแผนที่ของ ฮิวจ์ กลาส ในช่วงปี 1820 ผลงานของผู้กำกับชาวเม็กซิโก อเลฮังโดร อินาร์ริตู เจ้าของรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมเวที ออสการ์ 2015 จาก Birdman โดยทีมกองถ่ายหนังเรื่องนี้ลำบากลำบนกันพอสมควร เพราะลงทุนไปถ่ายทำในสถานที่จริงทั้งหมด(ไม่มีการถ่ายในสตูดิโอ) ส่วนคิวถ่ายก็ไล่ตั้งแต่ฉากแรกไปฉากสุดท้ายไม่มีสลับจึงใช้เวลานาน8เดือน บางช่วงพวกเขาต้องเผชิญอากาศหนาวเหน็บ ติดลบกว่า25องศา ที่บ้ากว่านั้นคือ เอ็มมานูเอล ลูเบสกี้ ผู้กำกับภาพยืนยันจะใช้แสงธรรมชาติล้วนๆ
ตัวหนังเล่าถึง ฮิวจ์ กลาส พรานที่นำทางคณะสำรวจเข้ามาในป่าลึก ก่อนที่พวกเขาจะถูกโจมตีจากชนพื้นเมือง ระหว่างหลบหนี ฮิวจ์ พลาดท่าถูกหมีกริซลีจู่โจมจนบาดเจ็บสาหัส ต่อมา จอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ หนึ่งในคณะเดินทางจะปลิดชีพเขา แต่ ฮอร์ค ลูกชายเชื้อสายอินเดียนแดงมาขวางทำให้ถูกฆ่าตาย ฮิวจ์ ถูกดินกลบทิ้งไว้ในหลุม กระนั้นเขากลับสามารถฟื้นจากหลุมขึ้นมาได้ด้วยความเคียดแค้นเต็มเปี่ยมในอก
The Revenant คือหนังดราม่าเอาชีวิตรอดในอารมณ์หนักหน่วง เต็มไปด้วยความดิบเถื่อน รุนแรง ดุดัน ไปจนถึง หดหู่ ชะตากรรมของตัวละครนำโหดร้ายพอๆกับสภาพอากาศในหนัง บทเข้มข้นพอสมควรกับความทรหดอดทนของชายคนหนึ่ง เพียงแต่มันก็ไม่ได้แปลกใหม่หรือคาดเดายากนัก งานภาพสวยเด่นจนกลบทุกอย่าง แสงแดดในเรื่องงดงามคุ้มค่ากับการรอคอยของทีมงาน หนังพักสายตาคนดูบ่อยๆด้วยการถ่ายภาพมุมเงยกว้างๆ ช้อนจากพื้นขึ้นไปบนท้องฟ้า
ส่วนซาวน์ประกอบในหนังก็ดีไม่แพ้กัน การใช้ความเงียบทำให้เราได้ยินเสียงสิ่งต่างๆรอบตัวชัดเจน ทั้ง น้ำไหล กิ่งไม้หัก ลืมหวีด สัตว์ร้อง และฟืนไฟแตกปะทุ เข้ากับดนตรีประกอบบางๆฝีมือของ Ryuichi Sakamoto ด้าน อเลฮังโดร อินาร์ริตู ก็โชว์ฝีมือเต็มที่กับฉากลองเทคที่มาเป็นระยะเกือบตลอดเรื่อง ควบคู่ไปกับการถ่ายโคลสอัพใกล้ๆใบหน้านักแสดง เขานำเสนอสังคมอเมริกันยุคบุกเบิกด้วยสายตาคนนอก จึงเน้นเสียดสีคนขาว และเห็นอกเห็นใจชาวพื้นเมือง เจ้าของแผ่นดินเดิมซึ่งถูกพรากทุกอย่างไปจากชีวิต (ยิ่งกว่าที่ ฮิวจ์ กลาส โดน)
อีกครั้งที่เราได้เห็นการแสดงที่ดีของ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ คนดูน่าจะรับรู้ได้กับความทุ่มเทของเขาในบทบาทนี้ (ไว้ผมยาว หนวดเคราเฟิ้ม กินเนื้อดิบ คลานไปมาในป่า แก้ผ้ากลางหิมะ ฯ) แม้จะไม่ใช่การแสดงที่ดีที่สุดของเขา แต่ก็ถือว่าน่าจดจำไม่น้อย ข้อนี้ต้องให้เครดิต ทอม ฮาร์ดี้ ที่เล่นเป็น ฟิตซ์เจอรัลด์ การแสดงของเขาช่วยส่งเสริมตัวละครของ ลีโอ มาก
ทว่าหนังก็มีข้อเสียตรงความยาวถึง 156 นาที ซึ่งถือว่าเป็นการเดินทางที่นานไปหน่อย เทคนิคการแช่ภาพถูกนำมาใช้มากเกินจนดูซํ้าๆ เช่นเดียวกับเหตุการณ์ร้ายๆที่ประดังประเดเข้าหา ฮิวจ์ เรื่อยๆ แรกทีเดียวก็ทำให้ผู้ชมลุ้นอยู่บ้าง แต่พอหลายๆครั้งเข้ามันก็ไม่ขลัง เมื่อเราแน่ใจว่ายังไงเขาต้องรอดมาได้อีก
The Revenant มีฉากหน้าเป็นการตามไล่ล่าล้างแค้นธรรมดา แต่มีฉากหลังตีแผ่ความเลวร้ายของมนุษย์ที่กระทำต่อคนต่างชาติต่างภาษา เคลือบแฝงด้วยประเด็นความเชื่อของชาวอินเดียน เกี่ยวกับความตายและการหลุดพ้นจากความเจ็บปวด ไม่ว่าจะทางกาย หรือ ทางใจ
คะแนน 8/10
โดย นกไซเบอร์
เครดิต https://www.facebook.com/cyberbirdmovie
ตัวอย่างหนัง http://movie.bugaboo.tv/watch/200055/?link=4