จากครั้งที่แล้วที่เริ่มจากออกเดินทางจากสถานี Emeryville, Oakland ไปยัง Portland, OR นั่นเอง
http://ppantip.com/topic/34742868
สำหรับคนที่ยังไม่ได้เริ่มอ่านในช่วงแรก
สามารถอ่านตอนแรกได้จากลิ้งค ตามข้างบนนัครับ
งั้นเรามาต่อกันเลยดีกว่าครับ
จากความเดิมครั้งล่าสุดคือ
ผมเดินทางมาถึงสถานี Union Station in Portland, OR หรือ ทางตอนเหนือ ของ California
สรุป ตอนนั้นไปถึงประมาณ 5:30 PM ของวัน ที่ 30 มกราคม
ตอนนั้นค่อนข้างเย็นมากละครับ
ปล. ทั้งอากาศ และก็ เวลาด้วยครับ ถ้าจำไม่ผิด อากาศน่าจะประมาณ 34 - 39 f หรือ 4 C นั่นเอง กะเอาเองนะไม่ได้แม่นยำมากเรืองนี้
รู้แค่ว่าหนาวจนเจ็บมือเลยล่ะครับ
งงง ... จริงจริง
พอลงจากรถไฟ แล้วผมก็เดินต่อแบกกระเป๋าหนักหนักนี่ล่ะ เดิน เดิน เข้าไปในสถานี
แล้วก็หาทางออก เพื่อที่จะต้องเดินออกไปหาถนน ที่ง่ายที่สุดที่ไปยัง โฮสเทล หรือ ที่ที่ ผมจะพักที่นั่นนั่นเอง
สรุปว่า พอเดินออกจากสถานีปุ๊ป เอ๋อ-ครับ
หลงทิศละไง แล้วไม่รุ้ว่า ต้องไปทางไหน รู้แค่ว่าต้องหาชื่อถนนให้เจอก่อน
สุดท้ายก็เจอถนนที่ต้องการเดินครับ เพียงแค่ หนึ่งบล็อคห่างจากสถานีรถไฟนั่นเอง
แต่ทว่า เพื่อนไร้บ้าน หรือ ที่เราเรียกกันว่า โฮมเลส เยอะมากกกกกกก ครับ หรือขอทานดีดีนั่นเองเมื่อเทียบกับบ้านเรา
แต่ที่นี่ค่อนข้างน่ากลัวนิดหน่อยหากเราทำตัวแบบ ไม่รู้ทางหรือว่าทำท่าทางกลัวพวกเขา เขาก็จะเข้ามาล้อมขอเงินเราได้ง่ายๆ
เอาเป็นว่า ส่วนใหญ่ ขอทานที่นี่จะไม่ทำร้ายเราง่ายๆหรอกครับ หากเราไม่ได้ไปทำอะไรเขาก่อน
เพียงแค่บอกว่าไม่ ไม่ให้เงิน หรือขอโทษ หรือ เสียใจ ก็ว่ากันไปตามระดับภาษาที่เราพึงมี ฮ่าๆๆๆ
ขอข้าม เรื่องชื่อถนน ไปเลยละกันนะครับ
แต่ว่าโฮสเทลที่ผมจะพักเนี่ย ต้องเดินประมาณสักพัก ถ้าจำไม่ผิด 10 -15 บล็อคครับ ซึ่งเป็นบล็อคสั้นๆ ใช้เวลาเดินชิวชิวประมาณ 20 -25 นาที
HI - Portland Hostel เป็นทางเลือกนึงที่ผมเลือกพักที่เมืองนี้ครับ [ซึ่งเครือข่ายโฮสเทลนี่จะมีอยู่ตามเมืองใหญ่ใหญ่ และที่ท่องเที่ยวดังๆครับราคาค่อนข้างเป็นธรรม]
$20-30 per night
ห้องพักที่ผมเลือกจะเรียกว่าเป็นหอ หรือ Dorm
แล้วแต่ว่าเราจะเลือกแบบไหน
Male / Female / Mixed
เราสามารถเลือกได้ครับส่วน เว็บไซต์
ตามลิ้งค์ข้างล่างนี่เลยครับ
สมัครก่อนเพื่อความง่ายต่อการใช้งานครับ
http://www.hostelworld.com
ส่วนนี่คือรูป ของโฮสเทล
เอาเป็นว่า รูปภาพประกอบของโฮสเทล ผมจะขออนุญาติ เอาของทางเว็บไซต์ของที่นั่นเอามาใช้นะครับ และเลือกแต่ภาพที่เกี่ยวข้อง หรือ ใกล้เคียงกับที่นอนผมมากที่สุดละกัน
พอดีบางภาพหาไม่เจอ หรือ เหนื่อยจนไม่มีเวลาเก็บสถานที่ที่พักก็มี
เหนื่อยจริงนะ เดินทางคนเดียวเนี่ยยยยยย ฮ๋าๆๆ
และรูปท้ายสุดคล้ายกับห้องที่ผมนอนมากสุดเลยครับ
ขอบรรยายนิดนึงส์ละกันสำหรับภาพคร่าวๆของโฮสเทลที่นี่
โฮสเทล หรือ ที่พักของนักท่องเที่ยวราคาประหยัด
คล้ายๆอยู่บ้านหรืออพาทเมนต์ แต่ว่าอยู่กันหลายคน
จะต้องแชร์ ครัว ห้องน้ำ และจะมีเจ้าหน้าที่พนักงานคอนต้อนรับและให้ข้อมูลกับนักท่องเที่ยวแทบจะตลอดเวลาเลยทีเดียว
ถ้าหากต้องการความเป็นส่วนตัว
ทางโฮสเทลก็มีให้ครับ ห้องน่ำในตัว หรือ ไม่ต้องนอนร่วมกับคนอื่นหลายคน
ส่วนราคาย่อม สูงต่ำ ตามความเหมาะสมครับ
รับประกันว่า เมื่อเทียบกับโรงแรมแล้วเนี่ย ราคาเหมาะสม ถูกมากครับ
และเรายังสามารถเลือกโฮสเทลที่อยากพักได้ เพราะ แต่ละเมือง มีให้เลือกมากมายเลยทีเดียว
เพื่อนร่วมทาง หรือ รูมเมทส่วนใหญ่ จะเป็น นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเยอะครับ และ คนอเมริกันก็มีบ้างประปราย
คืนแรกของที่นี่ ผมนอนเตียงล่าง แชร์ กับ คนอื่นประมาณ 12 คน สองห้องย่อย ห้องละ 6 คนนั่นเอง นึกภาพออกนะ
รูมเมทผม มีหลายแบบเลยทีเดียว
แบ่งประเภทแปป
พวกสายอยู่นาน เป็นวีคๆ
พวกสายมานอนคืนเดียวก็ไปก็มี
พวกนักเรียนต่างขาติมานอนหาห้องก็มี
พวกสายกรน
พวกสายเที่ยวกลางคืนนอนดึก
พวกสายโซเชียล ทั้งคืน เห็นมันเล่นแต่โทรศัพท์
นอกจากนั้นยังมี
นักท่องเที่ยวปกติธรรมดา มา สองสามวัน แล้วก็ไปก็มี
นักท่องเที่ยวลุยเดี่ยว มาเป็นกลุ่ม หรือ จะคู่รัก คู่หูดูโอ้ มีหมด
สารพัดครับ
เผอิญ ผมอยู่ ที่เมืองนี้ อาทิตย์ นึง จึงเปลี่ยนเพื่อนนอน หมายถึง เพื่อนร่วมห้องหลายคนเลยทีเดียว
หลังจาก เช็คอิน จ่ายเงิน และทำการวางของไว้ที่ข้างเตียง [ลืมบอกไป ที่โฮสเทลจะมีล็อกเกอร๋ให้เราด้วยแต่เราจะต้องหาแม่กุญแจเอาเองหรือเช่าเอาก็ได้
ในราคามาตรฐานของทุกที่ $3] ผมได้ออกไปหาไรกินเลยครับท่าน หิวโคตรรรรรรรรรร
ทางเลือกแรกคงไม่พ้นอาหารไทยใกล้ที่พัก
เพราะจะได้หาข้อมูลนิดหน่อยที่เราควรรู้จากคนพื้นที่และ ยังเป็นคนไทยอีกด้วย
คืนนั้นผมเลือกไปร้านอาหารไทย ชื่อว่า Khao San หรือ ข้าวสาร นั่นเอง
อาหารที่นี่อร่อยดีครับชอบ ผมมากินบ่อยมากกกกก เพราะว่ามันใกล้
สรุปคืนนั้น จัดไปนิดหน่อย
ปล. sale tax free ที่นี่ครับ
บางคนคงงงว่า คืออะไร แต่ทุกครั้งที่เราซื้อของเราจะต้องจ่ายภาษีอยู่แล้วแต่ราคาอาหาร หรือของทุกอย่างในประเทศนี้
จะยังไม่รวมภาษีนั่นเองเนื่องจาก แต่ละเมืองภาษีต่างกัน และที่นี่ จะไม่ต้องเสียภาษีอะไรเลย
คนส่วนมากจึงมาที่โดยที่ไม่มีใครพลาดการช้อปปิ้งแน่นอน
วันแรกของที่นี่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากทานข้าวเสร็จเรียบร้อยผมตัดสินใจเดินย่อยสักหน่อย เลยเลือกออกไปเดินใน Downtown ซึ่งห่างจากที่พักพอสมควร ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที
ประมาณ 10 -12 บล็อค ฮ่าๆๆๆ สำหรับคนที่ไม่ชอบเดิน คงเหนื่อยแต่ผมชิวละ เดินที่ซานฟรานจนชิน
วันนั้นอากาศอย่างที่บอกเชี้ยมากจริง หนาวจนน้องหด มือแข็งเจ็บเกิ๊นนขนาดใส่ถุงมือละนะ
เดินได้สักพัก ก็ถึงใจกลางเมืองนั่นเอง และพอไปถึง แอบตกใจนิดหน่อย คน
หายไปไหนหมดทั้งที่ใกล้ปีใหม่แล้วแท้ๆ
เห็นแค่ไม่กี่คน ไม่กี่คนจริงๆ ย้ำเลย
เดินไปอีกหน่อย จะเห็นต้นคริสมาสต์ประดับอยู่
สุดท้ายเลยตัดสินใจสั่งโกโก้ร้อน สตาบัค แก้วนึงตรงนั้นแล้วก็เดินกลับที่พักครับ
Day 3 ~ Jan 31 2015
Happy New Year's eve ครับ
และวันนี้ ก็เป็นวันที่สามของการเดินทาง และเป็นวันที่สอง ในพอร์ทแลนครับ
ปรากฎว่า ตอนที่ผมมาถึงที่นี่เนี่ย ผมเห็นเพื่อนที่ซานฟรานยังคงอัพเดตในเฟชบุคว่ายังอยู่ พอร์ทแลน โดยที่ผมทราบอยู่แล้วว่าเค้ามาแต่ไม่คิดว่าจะอยู่นานแค่ไหน แล้วเมื่อคืนก็เลยทักแชทในเฟชบุคไป สรุปไอเพื่อนคนนี้มันยังอยุ่ในเมืองนี้ครับ
วันนี้เลยนัดเจอกันเผื่อได้ไปไหนด้วยกันสักหน่อย นานทีจะได้เจอเพื่อน เพราะตอนอยู่ซานฟรานก็ไม่ค่อยได้เจอกันหรอกครับน่าตลกสิ้นดีจริงๆๆ
นางชื่อ หยิมครับ ตัวละครลับออกมาแล้วหนึ่งตัว
นางชอบทำกิจกรรมกลางแจ่งอย่าง เล่นสโนวบอร์ด ตีเทนนิส ก็ว่ากันไป
และเหตุผลที่หยิมมาเมืองนี้คือ มาหาเพื่อนและไปเล่น สโนวบอร์ดกับครอบครัวของเพื่อนนางครับ
เราสองคนนัดเจอกันใกล้ๆๆ ที่พักของผมครับเพราะง่ายต่อการเจอด้วย
เรานัดเจอกันประมาณ สิบโมงเช้า
และเมื่อเจอกันก็นัดกันเลยว่าจะไปทานข้าวมันไก่ชื่อดังของเมือง พอร์ทแลน
ก็เดิน เดิน เดินเรื่อยๆ ซึ่งร้านที่ว่าเนี่ย น่าจะเป็นสาขาย่อย และขายแบบเป็นร้านเล็กๆๆ เราเรียกกันว่า รถ Truck ครับ
แน่นอน มาร้านนี้อาหารก็ไม่ต้องเลือกแล้วว่าจะกินไร ก็มันมีอยู่อย่างเดียว
เลือกได้แค่เพิ่มข้าว ไก่ ซอส ก็ว่ากันไป เพิ่มเงินทั้งนั้น ฮ่าๆๆๆ
เราก็เลือกแบบธรรมดาสิครับ
แพ็ตเกจเค้าน่ารักใช่ได้เลยฮ่าๆๆๆ
และนี่คือโฉมหน้าของเจ้าข้าวมันไก่ชื่อดังของที่นี่ ที่คนไทยได้สร้างชื่อเสียงเอาไว้
พอจ่ายเงินปุ๊บก็รีบเดินไปยัง ตรงดาวทาวน์นั่นเอง ที่นี่เค้าเรียกว่า ' Pioneer Square '
คนก็ยังน้อยเหมือนเดิม ผมว่าเพราะว่ามันเป็นเมืองเล็กๆๆ และก็หน้าหนาว อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ค่อนข้างเหมาะแก่การออกไปนอกเมือง
เดินเขา เล่นหิมะมากกว่าแถมวันนี้ยังเป็นวันส่งท้ายปีเก่า
ใครใครก็เตรียมจัดปาร์ตี้ล่ะมั้ง
เมื่อพูดถึงปาร์ตี้ผมได้รับการเชิญชวนจาก คุณหญิง หยิม ให้ไปทานข้าวกับครอบครัวของเพื่อนนางที่ ชื่อ
อุ๊ ครับ
แล้วผมก็ตอบตกลงไปเพราะว่า ไม่มีแพลนอะไรอยู่แล้วเลย ตอบปากรับง่ายๆๆ ฮ๋าๆๆ
ต่อจากทานข้าวมันไก่อันแสนอร่อยแล้ว ก็ตัดสินใจไปยังร้านอื่นต่อ
'VooDoo Donuts' เห็นเค้าบอกว่าที่ดังและอร่อย ก็เลยไปสิครับ ไหนไหน เพื่อนก็ว่างและยังไม่เคยไปก็เลยลองไปกันดู
หน้าร้านครับ คิวยาวตั้งแต่หน้าร้านเลยทีเดียว
เป็นไง เยอะสาสสสสสสสส เลือกไปดิอยากกินไร ฮ่าๆๆ
สุดท้ายก็ไม่อยากเลือกอะไรแปลกๆๆ เท่าไหร่ กลัวกระเดือกไม่ลง
อย่างพวกโดนัสเบคอน ตอนได้ยินนี่แบบ อะไรนะ !!!
ฟังไม่ผิดใช่มะนั่น
พอพอละกับรูปร้านนี้ ไม่ได้ค่าโปรโมท
เอาเป็นว่า ก็อร่อยแต่ไม่ได้มากมายอะไร ฮ่าๆๆ
หลังจากนั้น ก็เดินกลับครับ ไปเอาเสื้อผ้าที่โฮสเทลกับถุงมือเนื่องจาก ทนอากาศ ไม่ไหวจริงๆ
ทรมานสาสสสสส
เจ็บมือไปหมดเลย
เมื่อถึงเวลา ก็ไปนั่งรอเพื่อนของเพื่อน หรือ อุ๊นั่นเองครับ เพราะเราจะมีปาร์ตี้เล็กส่งท้ายปีใหม่กับครอบครัวของอุ๊ ครับ ระหว่างรอนั้น เราก็ไปร้าน กาแฟใกล้ๆแถวนั้น สรุปได้ของกินมาอีก เพลียกับตัวเองและเพื่อน
ถึงเวลาอุ๊เลิกงาน ก็ขับรถกลับบ้านนางครับ แต่ก่อนหน้านั้น เราไปแวะตรงชุดชมวิว กันก่อนเดินทางกลับครับ อิอิ
เพื่อนทั้งสอง ใจดี อิอิ
นี่คือ วิวที่ว่า ไกลนิดแต่สวยดีนะตอนนั้น กล้องห่วยอ่ะ ฮ่าๆๆๆ ถ่ายได้แค่นี้ล่ะครับ
จำไม่ได้ว่าภูเขาที่เห็นชื่อว่าอะไร เดี๋ยวถ้า อุ๊มาอ่าน นางอาจตอบเราได้ครับ
งั้น ข้ามไปเลย ไปถึงตอนปาร์ตี้เลยครับ เพราะ ก่อนหน้านั้นเราแค่ไปซื้อของ อาหาร มาทำกินเพื่อปาร์ตี้ครับ
มาชมภาพกันเลยดีกว่า......
ซ้ายสุด เพื่อนครับ หรือ อุ๊ นั่นเอง ขวาสุดไม่ต้องสงสัยไรมากครับ คู่ชีวิตของนางเอง ฮ่าๆๆ แต่งงานกันแล้วครับบบบบ
ส่วนเพื่อนผม ก็ยัย ญ หน้าเอเชียอีกคนนั่นล่ะครับ ฮ่าๆๆๆ ส่วนผม คงเดาไม่ยาก
หน้าบ้านๆๆๆ คนเอเชีย ช มันมีอยู่คนเดียวครับ ฮ๋าๆๆๆๆ
ทำอาหารเยอะกันไปหน่อย
กินไม่หมดสิ ฮ๋าๆๆๆ เสียดายเกิ๊น สุดท้ายก็ต้องเก็บไว้กินวันถัดไปครับ
[CR] Backpacker 45 Days in US [ By Train - Amtrak ] ~ 2
http://ppantip.com/topic/34742868
สามารถอ่านตอนแรกได้จากลิ้งค ตามข้างบนนัครับ
งั้นเรามาต่อกันเลยดีกว่าครับ
จากความเดิมครั้งล่าสุดคือ
ผมเดินทางมาถึงสถานี Union Station in Portland, OR หรือ ทางตอนเหนือ ของ California
สรุป ตอนนั้นไปถึงประมาณ 5:30 PM ของวัน ที่ 30 มกราคม
ตอนนั้นค่อนข้างเย็นมากละครับ
ปล. ทั้งอากาศ และก็ เวลาด้วยครับ ถ้าจำไม่ผิด อากาศน่าจะประมาณ 34 - 39 f หรือ 4 C นั่นเอง กะเอาเองนะไม่ได้แม่นยำมากเรืองนี้
รู้แค่ว่าหนาวจนเจ็บมือเลยล่ะครับ งงง ... จริงจริง
พอลงจากรถไฟ แล้วผมก็เดินต่อแบกกระเป๋าหนักหนักนี่ล่ะ เดิน เดิน เข้าไปในสถานี
แล้วก็หาทางออก เพื่อที่จะต้องเดินออกไปหาถนน ที่ง่ายที่สุดที่ไปยัง โฮสเทล หรือ ที่ที่ ผมจะพักที่นั่นนั่นเอง
สรุปว่า พอเดินออกจากสถานีปุ๊ป เอ๋อ-ครับ
หลงทิศละไง แล้วไม่รุ้ว่า ต้องไปทางไหน รู้แค่ว่าต้องหาชื่อถนนให้เจอก่อน
สุดท้ายก็เจอถนนที่ต้องการเดินครับ เพียงแค่ หนึ่งบล็อคห่างจากสถานีรถไฟนั่นเอง
แต่ทว่า เพื่อนไร้บ้าน หรือ ที่เราเรียกกันว่า โฮมเลส เยอะมากกกกกกก ครับ หรือขอทานดีดีนั่นเองเมื่อเทียบกับบ้านเรา
แต่ที่นี่ค่อนข้างน่ากลัวนิดหน่อยหากเราทำตัวแบบ ไม่รู้ทางหรือว่าทำท่าทางกลัวพวกเขา เขาก็จะเข้ามาล้อมขอเงินเราได้ง่ายๆ
เอาเป็นว่า ส่วนใหญ่ ขอทานที่นี่จะไม่ทำร้ายเราง่ายๆหรอกครับ หากเราไม่ได้ไปทำอะไรเขาก่อน
เพียงแค่บอกว่าไม่ ไม่ให้เงิน หรือขอโทษ หรือ เสียใจ ก็ว่ากันไปตามระดับภาษาที่เราพึงมี ฮ่าๆๆๆ
ขอข้าม เรื่องชื่อถนน ไปเลยละกันนะครับ
แต่ว่าโฮสเทลที่ผมจะพักเนี่ย ต้องเดินประมาณสักพัก ถ้าจำไม่ผิด 10 -15 บล็อคครับ ซึ่งเป็นบล็อคสั้นๆ ใช้เวลาเดินชิวชิวประมาณ 20 -25 นาที
$20-30 per night
ห้องพักที่ผมเลือกจะเรียกว่าเป็นหอ หรือ Dorm
แล้วแต่ว่าเราจะเลือกแบบไหน
Male / Female / Mixed
เราสามารถเลือกได้ครับส่วน เว็บไซต์
ตามลิ้งค์ข้างล่างนี่เลยครับ
สมัครก่อนเพื่อความง่ายต่อการใช้งานครับ
http://www.hostelworld.com
ส่วนนี่คือรูป ของโฮสเทล
เอาเป็นว่า รูปภาพประกอบของโฮสเทล ผมจะขออนุญาติ เอาของทางเว็บไซต์ของที่นั่นเอามาใช้นะครับ และเลือกแต่ภาพที่เกี่ยวข้อง หรือ ใกล้เคียงกับที่นอนผมมากที่สุดละกัน
พอดีบางภาพหาไม่เจอ หรือ เหนื่อยจนไม่มีเวลาเก็บสถานที่ที่พักก็มี
เหนื่อยจริงนะ เดินทางคนเดียวเนี่ยยยยยย ฮ๋าๆๆ
และรูปท้ายสุดคล้ายกับห้องที่ผมนอนมากสุดเลยครับ
โฮสเทล หรือ ที่พักของนักท่องเที่ยวราคาประหยัด
คล้ายๆอยู่บ้านหรืออพาทเมนต์ แต่ว่าอยู่กันหลายคน
จะต้องแชร์ ครัว ห้องน้ำ และจะมีเจ้าหน้าที่พนักงานคอนต้อนรับและให้ข้อมูลกับนักท่องเที่ยวแทบจะตลอดเวลาเลยทีเดียว
ถ้าหากต้องการความเป็นส่วนตัว
ทางโฮสเทลก็มีให้ครับ ห้องน่ำในตัว หรือ ไม่ต้องนอนร่วมกับคนอื่นหลายคน
ส่วนราคาย่อม สูงต่ำ ตามความเหมาะสมครับ
รับประกันว่า เมื่อเทียบกับโรงแรมแล้วเนี่ย ราคาเหมาะสม ถูกมากครับ
และเรายังสามารถเลือกโฮสเทลที่อยากพักได้ เพราะ แต่ละเมือง มีให้เลือกมากมายเลยทีเดียว
เพื่อนร่วมทาง หรือ รูมเมทส่วนใหญ่ จะเป็น นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเยอะครับ และ คนอเมริกันก็มีบ้างประปราย
คืนแรกของที่นี่ ผมนอนเตียงล่าง แชร์ กับ คนอื่นประมาณ 12 คน สองห้องย่อย ห้องละ 6 คนนั่นเอง นึกภาพออกนะ
รูมเมทผม มีหลายแบบเลยทีเดียว
แบ่งประเภทแปป
พวกสายอยู่นาน เป็นวีคๆ
พวกสายมานอนคืนเดียวก็ไปก็มี
พวกนักเรียนต่างขาติมานอนหาห้องก็มี
พวกสายกรน
พวกสายเที่ยวกลางคืนนอนดึก
พวกสายโซเชียล ทั้งคืน เห็นมันเล่นแต่โทรศัพท์
นอกจากนั้นยังมี
นักท่องเที่ยวปกติธรรมดา มา สองสามวัน แล้วก็ไปก็มี
นักท่องเที่ยวลุยเดี่ยว มาเป็นกลุ่ม หรือ จะคู่รัก คู่หูดูโอ้ มีหมด
สารพัดครับ
เผอิญ ผมอยู่ ที่เมืองนี้ อาทิตย์ นึง จึงเปลี่ยนเพื่อนนอน หมายถึง เพื่อนร่วมห้องหลายคนเลยทีเดียว
หลังจาก เช็คอิน จ่ายเงิน และทำการวางของไว้ที่ข้างเตียง [ลืมบอกไป ที่โฮสเทลจะมีล็อกเกอร๋ให้เราด้วยแต่เราจะต้องหาแม่กุญแจเอาเองหรือเช่าเอาก็ได้
ในราคามาตรฐานของทุกที่ $3] ผมได้ออกไปหาไรกินเลยครับท่าน หิวโคตรรรรรรรรรร
ทางเลือกแรกคงไม่พ้นอาหารไทยใกล้ที่พัก
เพราะจะได้หาข้อมูลนิดหน่อยที่เราควรรู้จากคนพื้นที่และ ยังเป็นคนไทยอีกด้วย
คืนนั้นผมเลือกไปร้านอาหารไทย ชื่อว่า Khao San หรือ ข้าวสาร นั่นเอง
อาหารที่นี่อร่อยดีครับชอบ ผมมากินบ่อยมากกกกก เพราะว่ามันใกล้
สรุปคืนนั้น จัดไปนิดหน่อย
ปล. sale tax free ที่นี่ครับ
บางคนคงงงว่า คืออะไร แต่ทุกครั้งที่เราซื้อของเราจะต้องจ่ายภาษีอยู่แล้วแต่ราคาอาหาร หรือของทุกอย่างในประเทศนี้
จะยังไม่รวมภาษีนั่นเองเนื่องจาก แต่ละเมืองภาษีต่างกัน และที่นี่ จะไม่ต้องเสียภาษีอะไรเลย
คนส่วนมากจึงมาที่โดยที่ไม่มีใครพลาดการช้อปปิ้งแน่นอน
วันแรกของที่นี่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากทานข้าวเสร็จเรียบร้อยผมตัดสินใจเดินย่อยสักหน่อย เลยเลือกออกไปเดินใน Downtown ซึ่งห่างจากที่พักพอสมควร ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที
ประมาณ 10 -12 บล็อค ฮ่าๆๆๆ สำหรับคนที่ไม่ชอบเดิน คงเหนื่อยแต่ผมชิวละ เดินที่ซานฟรานจนชิน
วันนั้นอากาศอย่างที่บอกเชี้ยมากจริง หนาวจนน้องหด มือแข็งเจ็บเกิ๊นนขนาดใส่ถุงมือละนะ
เดินได้สักพัก ก็ถึงใจกลางเมืองนั่นเอง และพอไปถึง แอบตกใจนิดหน่อย คนหายไปไหนหมดทั้งที่ใกล้ปีใหม่แล้วแท้ๆ
เห็นแค่ไม่กี่คน ไม่กี่คนจริงๆ ย้ำเลย
เดินไปอีกหน่อย จะเห็นต้นคริสมาสต์ประดับอยู่
สุดท้ายเลยตัดสินใจสั่งโกโก้ร้อน สตาบัค แก้วนึงตรงนั้นแล้วก็เดินกลับที่พักครับ
Day 3 ~ Jan 31 2015
Happy New Year's eve ครับ
และวันนี้ ก็เป็นวันที่สามของการเดินทาง และเป็นวันที่สอง ในพอร์ทแลนครับ
ปรากฎว่า ตอนที่ผมมาถึงที่นี่เนี่ย ผมเห็นเพื่อนที่ซานฟรานยังคงอัพเดตในเฟชบุคว่ายังอยู่ พอร์ทแลน โดยที่ผมทราบอยู่แล้วว่าเค้ามาแต่ไม่คิดว่าจะอยู่นานแค่ไหน แล้วเมื่อคืนก็เลยทักแชทในเฟชบุคไป สรุปไอเพื่อนคนนี้มันยังอยุ่ในเมืองนี้ครับ
วันนี้เลยนัดเจอกันเผื่อได้ไปไหนด้วยกันสักหน่อย นานทีจะได้เจอเพื่อน เพราะตอนอยู่ซานฟรานก็ไม่ค่อยได้เจอกันหรอกครับน่าตลกสิ้นดีจริงๆๆ
นางชื่อ หยิมครับ ตัวละครลับออกมาแล้วหนึ่งตัว
นางชอบทำกิจกรรมกลางแจ่งอย่าง เล่นสโนวบอร์ด ตีเทนนิส ก็ว่ากันไป
และเหตุผลที่หยิมมาเมืองนี้คือ มาหาเพื่อนและไปเล่น สโนวบอร์ดกับครอบครัวของเพื่อนนางครับ
เราสองคนนัดเจอกันใกล้ๆๆ ที่พักของผมครับเพราะง่ายต่อการเจอด้วย
เรานัดเจอกันประมาณ สิบโมงเช้า
และเมื่อเจอกันก็นัดกันเลยว่าจะไปทานข้าวมันไก่ชื่อดังของเมือง พอร์ทแลน
ก็เดิน เดิน เดินเรื่อยๆ ซึ่งร้านที่ว่าเนี่ย น่าจะเป็นสาขาย่อย และขายแบบเป็นร้านเล็กๆๆ เราเรียกกันว่า รถ Truck ครับ
แน่นอน มาร้านนี้อาหารก็ไม่ต้องเลือกแล้วว่าจะกินไร ก็มันมีอยู่อย่างเดียว
เลือกได้แค่เพิ่มข้าว ไก่ ซอส ก็ว่ากันไป เพิ่มเงินทั้งนั้น ฮ่าๆๆๆ
เราก็เลือกแบบธรรมดาสิครับ
แพ็ตเกจเค้าน่ารักใช่ได้เลยฮ่าๆๆๆ
และนี่คือโฉมหน้าของเจ้าข้าวมันไก่ชื่อดังของที่นี่ ที่คนไทยได้สร้างชื่อเสียงเอาไว้
พอจ่ายเงินปุ๊บก็รีบเดินไปยัง ตรงดาวทาวน์นั่นเอง ที่นี่เค้าเรียกว่า ' Pioneer Square '
คนก็ยังน้อยเหมือนเดิม ผมว่าเพราะว่ามันเป็นเมืองเล็กๆๆ และก็หน้าหนาว อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ค่อนข้างเหมาะแก่การออกไปนอกเมือง
เดินเขา เล่นหิมะมากกว่าแถมวันนี้ยังเป็นวันส่งท้ายปีเก่า
ใครใครก็เตรียมจัดปาร์ตี้ล่ะมั้ง
เมื่อพูดถึงปาร์ตี้ผมได้รับการเชิญชวนจาก คุณหญิง หยิม ให้ไปทานข้าวกับครอบครัวของเพื่อนนางที่ ชื่อ อุ๊ ครับ
แล้วผมก็ตอบตกลงไปเพราะว่า ไม่มีแพลนอะไรอยู่แล้วเลย ตอบปากรับง่ายๆๆ ฮ๋าๆๆ
ต่อจากทานข้าวมันไก่อันแสนอร่อยแล้ว ก็ตัดสินใจไปยังร้านอื่นต่อ
'VooDoo Donuts' เห็นเค้าบอกว่าที่ดังและอร่อย ก็เลยไปสิครับ ไหนไหน เพื่อนก็ว่างและยังไม่เคยไปก็เลยลองไปกันดู
หน้าร้านครับ คิวยาวตั้งแต่หน้าร้านเลยทีเดียว
เป็นไง เยอะสาสสสสสสสส เลือกไปดิอยากกินไร ฮ่าๆๆ
สุดท้ายก็ไม่อยากเลือกอะไรแปลกๆๆ เท่าไหร่ กลัวกระเดือกไม่ลง
อย่างพวกโดนัสเบคอน ตอนได้ยินนี่แบบ อะไรนะ !!!
ฟังไม่ผิดใช่มะนั่น
พอพอละกับรูปร้านนี้ ไม่ได้ค่าโปรโมท
เอาเป็นว่า ก็อร่อยแต่ไม่ได้มากมายอะไร ฮ่าๆๆ
หลังจากนั้น ก็เดินกลับครับ ไปเอาเสื้อผ้าที่โฮสเทลกับถุงมือเนื่องจาก ทนอากาศ ไม่ไหวจริงๆ
ทรมานสาสสสสส เจ็บมือไปหมดเลย
เมื่อถึงเวลา ก็ไปนั่งรอเพื่อนของเพื่อน หรือ อุ๊นั่นเองครับ เพราะเราจะมีปาร์ตี้เล็กส่งท้ายปีใหม่กับครอบครัวของอุ๊ ครับ ระหว่างรอนั้น เราก็ไปร้าน กาแฟใกล้ๆแถวนั้น สรุปได้ของกินมาอีก เพลียกับตัวเองและเพื่อน
ถึงเวลาอุ๊เลิกงาน ก็ขับรถกลับบ้านนางครับ แต่ก่อนหน้านั้น เราไปแวะตรงชุดชมวิว กันก่อนเดินทางกลับครับ อิอิ
เพื่อนทั้งสอง ใจดี อิอิ
นี่คือ วิวที่ว่า ไกลนิดแต่สวยดีนะตอนนั้น กล้องห่วยอ่ะ ฮ่าๆๆๆ ถ่ายได้แค่นี้ล่ะครับ
จำไม่ได้ว่าภูเขาที่เห็นชื่อว่าอะไร เดี๋ยวถ้า อุ๊มาอ่าน นางอาจตอบเราได้ครับ
งั้น ข้ามไปเลย ไปถึงตอนปาร์ตี้เลยครับ เพราะ ก่อนหน้านั้นเราแค่ไปซื้อของ อาหาร มาทำกินเพื่อปาร์ตี้ครับ
มาชมภาพกันเลยดีกว่า......
ซ้ายสุด เพื่อนครับ หรือ อุ๊ นั่นเอง ขวาสุดไม่ต้องสงสัยไรมากครับ คู่ชีวิตของนางเอง ฮ่าๆๆ แต่งงานกันแล้วครับบบบบ
ส่วนเพื่อนผม ก็ยัย ญ หน้าเอเชียอีกคนนั่นล่ะครับ ฮ่าๆๆๆ ส่วนผม คงเดาไม่ยาก
หน้าบ้านๆๆๆ คนเอเชีย ช มันมีอยู่คนเดียวครับ ฮ๋าๆๆๆๆ
ทำอาหารเยอะกันไปหน่อย
กินไม่หมดสิ ฮ๋าๆๆๆ เสียดายเกิ๊น สุดท้ายก็ต้องเก็บไว้กินวันถัดไปครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น