หลังจากจมอยู่กับความด้อยพัฒนามาครึ่งศตวรรษ
มาถึงวันนี้ "พม่า" ประเทศรั้วติดกันกับเราเริ่ม "ติดปีก" แล้วครับ
BBC โปรยหัวข่าวว่า "Myanmar begins new parliament session ending military-only rule"
"เมียนม่าเปิดประชุมสภา หมดยุคของเผด็จการทหารครองเมือง"
แม้การเมืองพม่าแซงหน้าไทยไปแล้ว
แต่ฝ่ายประชาธิปไตยของพม่ายังดีใจได้ไม่เต็มที่หรอก
เพราะพอเปิดเข้าไปดูในเนื้อข่าวแล้ว BBC เขาบอกไว้ว่า
"But a quarter of all seats are reserved for the military, which also retains control of key ministries"
"แต่ 1 ใน 4 ของที่นั่งยังคงเป็นของทหาร เพราะทหารยังคงไม่ปล่อยมือจากกระทรวงสำคัญๆ"
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร
ถึงตอนนี้พม่าชนะไทยแล้ว
เพราะเขาได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ได้ประชาธิปไตยคืนมา "ค่อนใบ" หลังจากที่จมปลักมา 50 ปี
http://www.bbc.com/news/world-asia-35456982
ถึงจะชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย
แต่ อองซาน ซู จี ก็ไม่สามารถขึ้นเป็นผู้นำได้
เพราะโดน "รัฐธรรมนูญฉบับมีชัยของพม่า" มัดมือมัดเท้าเอาไว้
เนื่องจากมีอยู่มาตราหนึ่งที่ "ห้าม" คนที่แต่งงานกับคนต่างชาติเป็นนายกรัฐมนตรี
ใช่ครับ...
ซูจีมีผัวฝรั่งมั่งค่า
และไม่สามารถเป็นนายกฯได้ตามกติกาที่เขียนมาเพื่อ "กันคนๆเดียว" แบบนี้
แหมมมมม....ไอ้คนเขียนนี่มันดู "ตัวอย่างที่เลว" มาจากประเทศไหนหนอ...????
รัฐธรรมนูญพม่าฉบับนี้
กำหนดให้ทหารมีที่นั่งในสภา 1 ใน 4
เลยทำให้ไม่ว่าใครจะชนะเลือกตั้งอย่างไร
แต่ทหารก็ยังมีเอี่ยวในการบริหารประเทศอย่างแน่นอน
CNN พาดหัว "มันส์" เลยขอรับ
เขาบอกว่า "From military junta to democracy"
"จากเผด็จการทหารสู่ความเป็นประชาธิปไตย"
http://edition.cnn.com/asia
อัลจาซีร่าก็รายงานว่า
พรรคของซูจีได้ให้สัญญาประชาคม
ว่าจะทำทุกทางเพื่อหาทาง "แก่รัฐธรรมนูญฉบับมีชัยของพม่า" ให้ได้
แต่อัลจาซีร่าเชื่อว่า "ยากมาก"
เพราะจำนวนที่นั่งในสภาของทหารนั้น
"มีมากพอที่จะ Block การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้"
http://www.aljazeera.com/news/2016/02/myanmar-era-parliament-holds-historic-session-160201043336484.html
ใช่ครับ........
การจะ "แก้ รธน."
เพื่อที่จะกำจัด "กติกาที่ไม่เป็นธรรม"
ในทางปฏิบัติก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยซักนิด
เพราะทหารมีที่นั่งในสภาแน่ๆแล้ว 1 ใน 4
แต่การที่จะลงชื่อแก้ รธน.พม่านั้น ต้องใช้เสียงถึง 3 ใน 4
มิหนำซ้ำ
สส.อีก 1 ใน 4 ของสภา
ยังมาจาก "การลากตั้ง" โดยทหารอีกต่างหาก
โห......แบบนี้ใครหน้าไหนมันจะมีปัญญแก้ รธน.ได้ล่ะ ...?????
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร
การเดินหน้าเป็นประชาธิปไตยนั้น
คือ "ชัยชนะของหงสา" ที่ยืดอกได้อย่างเต็มภาคภูมิอวดเพื่อนบ้านรั้วติดกันได้เลย
จะมีก็แต่เพื่อนบ้านรั้วติดกันของพม่านี่แหละครับ
ที่ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาถึง 50 ปี ในการหลุดจาก "ปลัก" ที่ว่านี้หรือเปล่า
ขอบคุณ "น้องพรผู้น่ารัก" ที่สละล็อคอินมาให้จ่าลุยต่อครับ
จ่าพิเชษฐ์
@@@@@-----เฮ้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ............นี่เราต้องจมปลักถึง 50 ปี รึเปล่าเนี่ย..?????-----@@@@@
หลังจากจมอยู่กับความด้อยพัฒนามาครึ่งศตวรรษ
มาถึงวันนี้ "พม่า" ประเทศรั้วติดกันกับเราเริ่ม "ติดปีก" แล้วครับ
BBC โปรยหัวข่าวว่า "Myanmar begins new parliament session ending military-only rule"
"เมียนม่าเปิดประชุมสภา หมดยุคของเผด็จการทหารครองเมือง"
แม้การเมืองพม่าแซงหน้าไทยไปแล้ว
แต่ฝ่ายประชาธิปไตยของพม่ายังดีใจได้ไม่เต็มที่หรอก
เพราะพอเปิดเข้าไปดูในเนื้อข่าวแล้ว BBC เขาบอกไว้ว่า
"But a quarter of all seats are reserved for the military, which also retains control of key ministries"
"แต่ 1 ใน 4 ของที่นั่งยังคงเป็นของทหาร เพราะทหารยังคงไม่ปล่อยมือจากกระทรวงสำคัญๆ"
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร
ถึงตอนนี้พม่าชนะไทยแล้ว
เพราะเขาได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ได้ประชาธิปไตยคืนมา "ค่อนใบ" หลังจากที่จมปลักมา 50 ปี
http://www.bbc.com/news/world-asia-35456982
ถึงจะชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย
แต่ อองซาน ซู จี ก็ไม่สามารถขึ้นเป็นผู้นำได้
เพราะโดน "รัฐธรรมนูญฉบับมีชัยของพม่า" มัดมือมัดเท้าเอาไว้
เนื่องจากมีอยู่มาตราหนึ่งที่ "ห้าม" คนที่แต่งงานกับคนต่างชาติเป็นนายกรัฐมนตรี
ใช่ครับ...
ซูจีมีผัวฝรั่งมั่งค่า
และไม่สามารถเป็นนายกฯได้ตามกติกาที่เขียนมาเพื่อ "กันคนๆเดียว" แบบนี้
แหมมมมม....ไอ้คนเขียนนี่มันดู "ตัวอย่างที่เลว" มาจากประเทศไหนหนอ...????
รัฐธรรมนูญพม่าฉบับนี้
กำหนดให้ทหารมีที่นั่งในสภา 1 ใน 4
เลยทำให้ไม่ว่าใครจะชนะเลือกตั้งอย่างไร
แต่ทหารก็ยังมีเอี่ยวในการบริหารประเทศอย่างแน่นอน
CNN พาดหัว "มันส์" เลยขอรับ
เขาบอกว่า "From military junta to democracy"
"จากเผด็จการทหารสู่ความเป็นประชาธิปไตย"
http://edition.cnn.com/asia
อัลจาซีร่าก็รายงานว่า
พรรคของซูจีได้ให้สัญญาประชาคม
ว่าจะทำทุกทางเพื่อหาทาง "แก่รัฐธรรมนูญฉบับมีชัยของพม่า" ให้ได้
แต่อัลจาซีร่าเชื่อว่า "ยากมาก"
เพราะจำนวนที่นั่งในสภาของทหารนั้น
"มีมากพอที่จะ Block การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้"
http://www.aljazeera.com/news/2016/02/myanmar-era-parliament-holds-historic-session-160201043336484.html
ใช่ครับ........
การจะ "แก้ รธน."
เพื่อที่จะกำจัด "กติกาที่ไม่เป็นธรรม"
ในทางปฏิบัติก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยซักนิด
เพราะทหารมีที่นั่งในสภาแน่ๆแล้ว 1 ใน 4
แต่การที่จะลงชื่อแก้ รธน.พม่านั้น ต้องใช้เสียงถึง 3 ใน 4
มิหนำซ้ำ
สส.อีก 1 ใน 4 ของสภา
ยังมาจาก "การลากตั้ง" โดยทหารอีกต่างหาก
โห......แบบนี้ใครหน้าไหนมันจะมีปัญญแก้ รธน.ได้ล่ะ ...?????
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร
การเดินหน้าเป็นประชาธิปไตยนั้น
คือ "ชัยชนะของหงสา" ที่ยืดอกได้อย่างเต็มภาคภูมิอวดเพื่อนบ้านรั้วติดกันได้เลย
จะมีก็แต่เพื่อนบ้านรั้วติดกันของพม่านี่แหละครับ
ที่ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาถึง 50 ปี ในการหลุดจาก "ปลัก" ที่ว่านี้หรือเปล่า
ขอบคุณ "น้องพรผู้น่ารัก" ที่สละล็อคอินมาให้จ่าลุยต่อครับ
จ่าพิเชษฐ์