สวัสดีครับเพื่อนๆ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผมนะครับ อยากเอาประสบการณ์ที่ไปเที่ยว มาแชร์กัน
ทริปนี้มีสมาชิกทั้งหมด 12 คน ผู้ใหญ่ 10 เด็ก 2 เป้าหมายเราคือ LAKE HEAVEN RESORT ที่ตัวผมเองเคยเข้าไปอ่านรีวิวใน Pantip อยู่บ่อยๆ จึงรู้สึกอยากไป เห็นมีคนเอามารีวิวกันเยอะแยะมากมาย
ว่ากันแล้วก็ไปลุยกันเลยครับ ...
เราออกเดินทางจาก กทม. 08.30 น. ไปเรื่อยๆ บนถนนเพชรเกษม ผ่านนครปฐม เข้าสู่เมืองกาญจนบุรี
....จากนั้นเราแวะกินข้าวกันที่ ร้านปังเตี๋ยวเต็ก
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง พอพวกเราอิ่มกันแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ ไปกันเลยเย้ !!!
ช่วงระยะเวลาการเดินทางผมขอตัดไปนะครับ เพราะไม่มีอะไรน่าสนใจก็แค่วิ่งไปตามเส้นทาง เป้าหมายเราคือ  LAKE HEAVEN RESORT หมู่ 5 241 ตำบล ท่ากระดาน อำเภอ ศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี 71250
แต่เอ๊ะเดี๋ยวก่อน ผมลืมบอกไปสำหรับคนที่ยังไม่เคยมาแบบผมอาจจะหลงได้นะ เพราะพอเลยตัวเมืองกาญจนบุรีมา ผมก็หยิบโทรศัพท์คู่ใจออกมาเปิด app google map ฮ่าาๆๆ หาที่ตั้งของ LAKE HEAVEN ทันทีทันใด ระหว่างที่จะไปผมก็ดูเส้นทางตามใน google map บ้างดูป้ายบอกทางบ้าง ก็สนุกดีนะ ไปในที่ที่ยังไม่เคยไปลุ้นๆๆๆ ลุ้นว่าจะหลงไปไกลซักแค่ไหน ฮ่าาๆ พอล่ะๆๆ เริ่มไม่มีสาระล่ะ มาๆๆๆ ต่อๆๆๆ
ก็ขับรถมาจนถึง 7-11 (สุดท้าย) ป้ายบอกว่างั้นอ่ะ ตัวใหญ่มากกกก พอขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่มี 7-11 เลยจริงๆด้วย มีแต่ร้านชำเล็กๆน้อยๆ .....
และแล้ว....ก็มาถึง  LAKE HEAVEN RESORT สุดยอดไปเลย

เช็คอินเสร็จเรียบร้อย ทีนี้เราก็มาดูที่ที่เราจะใช้ซุกหัวนอนกันคืนนี้ อิอิอิ
พอถึงที่พัก ก็เอากระเป๋าเสื้อผ้าเก็บ เก็บในที่นี้คือผมเอากองๆไว้ แล้วก็เอาชุดที่จะเปลี่ยนเพื่อไปเล่นน้ำออกมา...ไม่รีรอเพราะผมจะไปเล่นสไลด์เดอร์ ก่อนอื่นลืมบอกไปที่นี่เค้าบังคับ ให้ใส่เสื้อชูชีพด้วยนะครับ ต้องใส่ทุกคนเจ้าหน้าที่แนะนำว่าเลือกตัวที่แน่นๆกระชับๆกับตัวเราให้มากที่สุด (ในภาพเป็นสมาชิกในแก๊งค์กำลังเตรียมพร้อมจะเล่นน้ำ ฮ่าาาๆๆ )     
มองไกลๆก็ไม่เท่าไหร่นะ แต่พอขึ้นไปเล่นจริงก็เอาเรื่องอยุ่เหมือนกัน ^^
จากนั้นก็ไม่มีภาพแล้วครับ เพราะฝากกล้องไว้กับเจ้าหน้าที่ แล้วผมก็เล่นน้ำอย่างเดียวเลย ปีนขึ้นปีนลงสไลด์เดอร์ เหนื่อยแต่มันส์ เล่นเอาล้าเหมือนกันนะเล่นกันเรียกได้ว่าไม่เป่านกหวีดไล่ไม่ขึ้นนะครับขอบอก
หลังจากเล่นน้ำเสร็จก็กลับมาที่ห้องพักอาบน้ำแต่งตัว ไปรับประทานมื้อเย็นที่โต๊ะอาหาร แต่ไม่มีภาพประกอบนะครับเพราะไม่ได้เอากล้องไปบวกกับหิวมาก ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นนอกจาก กินกินกินแล้วก็...กิน หลังจากรับประทานอาหารเสร็จสิ้น อิ่มหมีพีมัน ก็กลับมาที่ห้องพักโดยเราได้เลือกห้องศูนย์กลางเอาไว้สำหรับนั่งเสวนากันตามประสา โดยที่ห้องๆนั้นมีเสบียงเพียบพร้อม ฮ่าาาๆๆ
ค่ำคืนนั้นเราก็เสวนาพาเพลินกันจนถึงตี2ก็แยกย้ายห้องใครห้องมัน...
อ้าว...เช้าแล้ว Good morning อากาศช่วงนี้เย็นๆกำลังดี  
เช้าแล้ว.. อาบน้ำแต่งตัวแล้วก็ออกไปรับประทานอาหารเช้าที่เค้าได้จัดเตรียมไว้ให้เรา  จากนั้นก็กลับมายังห้องพักเตรียมเก็บของเช็คเอ้าท์..และเดินทางต่อไปยังเหมืองปิล็อก..  
ระหว่างทางที่เราได้ออกจาก LAKE HEAVEN RESORT และมุ่งหน้าสู่เหมืองปิล็อก ก็แวะเขื่อนศรีนครินทร์กันซักหน่อย จริงๆแล้วสำหรับเขื่อนศรีนครินทร์ตัวผมเองเคยไปมาหลายครั้งมาก ส่วนใหญ่ก็ไม่มีอะไรนอกจากถ่ายรูปกันแค่นั้นเอง..
อิอิ อันนี้แอบถ่ายพ่อแม่ลูกเค้าเซลฟี่กัน
มาถึงข้างบนก็ไม่มีไรมาก เดินถ่ายรูปนู่น นี่ นั่น เรื่อยเปื่อย...



กว่าจะขึ้นมาถึงก็อะนะ หิวกันบ้างไรบ้าง  อิอิ

จากนั้นเดินทางต่อ Let's go..เหมืองปิล็อก


ทองผาภูมิ 399โค้งสู่เหมืองปิล๊อกบ้านอีต่อง เวลาก็ผ่านไปนานพอสมควรกับการขับรถขึ้นเขา-ลงเขา และแล้วก็ถึงแว้ววว บ้านอีต่องทองผาภูมิ

ครั้งนี้เราไม่ได้จองห้องพักเอาไว้แต่อย่างใด คือมาแบบลูกทุ่งๆ เดินหากันเอา เจอที่ไหนถูกใจก็เอาเลย เพราะเรามีอาหารทะเลมาด้วย ปู กุ้ง ปลา หมึก เราจึงต้องเลือกที่พักที่สามารถทำปิ้งย่างกินกันได้ เดินสอบถามอยู่ก็หลายที่ ราคาไม่ค่อยหนีกันเท่าไหร่ สุดท้ายเราก็ตกลงกับสมาชิกร่วมก๊วนว่าเอาที่นี่แล้วกัน  อาร์มโฮมสเตย์ บ้านอีต่อง เพราะคุยกับเจ้าของบ้านพัก ว่าเราจะทำปิ้งย่างกัน เค้าก็ตอบตกลงทำได้ ไม่มีปัญหา พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้เราเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ เขียง ครก มีด จาน ชาม ช้อน บลาๆๆๆ (ป้าเค้าใจดีสุดๆ แถมใส่ทองเส้นใหญ่ด้วยที่คอ ผมเดาว่าน่าจะประมาณ 6-7 บาท อิอิอิ)
ห้องพักก็จะเป็นแบบนี้นะครับ

เอาล่ะๆๆๆ จะช้าอยู่ทำไม ปิ้งย่างสิคร๊าบ

สาวๆทั้งหลาย ลงมือล้างผัก ล้างปลา กุ้ง หมึก เป็นแม่ครัวกันอย่างเต็มที่ (ส่วนผู้ชายอย่างผมก็รอกินสิคร๊าบ ฮ่าาาๆๆ )

อะนี่ !!! ของสำหรับทำน้ำจิ้มมาแล้วนะ .....

ตัวจริงเรื่องปิ้งย่าง ฮ่าๆๆ

เตรียมพร้อมๆๆ...

ค่ำคืนนั้นก็เป็นค่ำคืนอันแสนวิเศษ ฟิน อิ่มแปล้บวกกับอากาศที่ค่อนข้างหนาว...
รุ่งเช้า..กับบรรยากาศบริเวณรอบๆ อาร์มโฮมสเตย์ บ้านอีต่อง

ร้านกาแฟสด.....




ทางเข้าเหมืองปิล็อก

ย้อนอดีต ปิล๊อกไปเมื่อหลาย 10 ปีก่อน มีผู้พบเห็นชาวพม่าเข้ามาลักลอบขุดแร่ในพื้นที่ตำบลปิล๊อกไปขายให้ ทหารอังกฤษ คำเล่าลือนี้ทำให้ กรมทรัพยากรธรณีสมัยนั้นนำคณะนายช่างมาสำรวจก็ถึงกับตะลึง เมื่อพบว่าพื้นที่แถบนี้ี่มีแร่ดีบุกและวุลแฟรมอยู่มากมายรองลงมาและมักอยู่ปะปนกัน คือ แร่ทังสะเตน และยังมีสายแร่ทองคำ ปะปนอยู่กับ สายแร่ดีบุกต่อมา ปี พ.ศ. 2483 องค์การเหมืองแร่ กรมโลหะกิจ ได้เปิด“เหมืองปิล๊อก”ขึ้นเป็น แห่งแรกที่บ้านอีต่อง ต.ปิล๊อก จากการเปิดเหมืองในครั้งนั้นได้เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจกับกรรมกรพม่า เพราะฝ่ายไทยห้ามกรรมกรพม่านำแร่ ไปขายให้อังกฤษ แต่กรรมกรพม่าฝ่าฝืน จึงเกิดการปะทะกันทำให้มีผู้บาด เจ็บและล้มตายจำนวนมาก ในอดีตชาวบ้านเรียกว่า "เหมืองผีหลอก" ต่อมาเพี้ยนเป็น "ปิล๊อก" ซึ่งกลายเป็นชื่อ เหมืองแร่และตำบลในเวลาต่อมา หลังจากนั้นก็ได้มีเหมืองแร่อื่นๆทยอยเปิดตามกันมาอีกมากมายทั้ง เหมืองเล็ก เหมืองใหญ่ ราว 50-60 เหมือง โดยผู้คนพากันเรียกบรรดาเหมืองทั้งหลายในพื้นที่แถบนี้แบบเหมารวมว่า “เหมืองปิล๊อก” ดินแดนแห่งนี้ เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ของ บรรดานายเมืองทั้งหลายที่ต่างหลั่งไหลเข้ามาผู้แสวง โชคมีทั้งคนไทย พม่า และที่มาจากแถบอินเดีย เหมืองแร่จึง สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ชุมชนโดยรอบเป็นอย่างมากเนื่องนิยายเหมืองแร่แห่งปิล๊อกดำเนินเรื่องราวอยู่หลายสิบปี ก่อนประสบภาวะราคาแร่โลกตกต่ำในปี พ.ศ. 2528 บรรดาเหมืองแร่ทยอยปิดตัวลง ไม่เว้น แม้แต่เหมืองปิล๊อก ทิ้งไว้เพียงตำนานเมืองเหมืองอันรุ่งโรจน์
เครดิต http://www.paiduaykan.com/76_province/central/kanjanaburi/pilock.html
จริงๆแล้วจะให้ดีต้องหน้าฝนครับ อันนี้แนะนำเลย...


เดินชมเหมืองเก่ากันเป็นที่เรียบร้อย ก็ออกเดินทางไปหาป้าเกล็นกันเลยครับ....Go Go Go

ถึงแล้วครับเหมืองสมศักดิ์บ้านป้าเกล็น



ขอบอกก่อนเลยนะครับ มารอบนี้กะว่าจะมาชิมเค้กแสนอร่อยฝีมือป้าเกล็น พลาด !!!
ใช่ครับ พลาด ป้าบอกว่าเตาอบเสีย กำลังจะซื้อใหม่อยู่ แหม่ ผมนี่เสียดายเลยครับ



ขอบคุณครับ..