ผมลองทำบทวิเคราะห์เรื่องราวต่างๆที่เกิดกับ AIS หลังจากที่เปิดให้บริการ 4G เต็มรูปแบบแล้ว ณ วันนี้
อาจจะพอตอบข้อสงสัยบางเรื่อง ของบางท่านได้ ลองพิจารณาดูครับ
1. สิ่งที่คุณคิด สิ่งที่คุณเข้าใจว่า AIS เอาใจลูกค้าใหม่ โดยไม่สนใจลูกค้าเก่า ตรงนี้ผมมองว่า มันคือเรื่องของการตลาด
- เรื่องนี้ ในมุมมองส่วนตัวของผม ผมมองว่า
ลูกค้าใหม่ ย่อมต้องการความรู้สึกที่ดีกว่าเมื่อตัดสินใจเปลียนจากสิ่งเดิม ดังนั้นจุดนี้ผมเข้าใจได้ว่า AIS ก็ต้องสร้างจุดขายที่ทำให้เกิดลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ถ้าย้ายมาแล้วไม่ดีเท่าคนที่อยู่เดิมหรือดีกว่า ใครจะย้ายล่ะ
ส่วนลูกค้าเก่า ถ้าคุณสนใจที่จะรักษาสิทธิที่คุณมีให้คงที่หรือดีขึ้น ก็ต้องบวกลบคูณหารดูว่า เงินที่จ่ายไปสมเหตสมผลหรือไม่ กับราคาค่าบริการ และแพคเกจการใช้งาน ณ ปัจจุบันหรือไม่ ถ้าไม่สอดคล้องก็ต้องตรวจสอบโปรโมชั่นที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน สอบถามและเปลี่ยนแปลงครับ ต้องรักษาสิทธิของตัวเอง
ตัวผมเองก่อนหน้านี้ก็ได้รับข่าวสารจากเพื่อนที่ย้ายค่ายมา AIS ว่าได้รับโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ผมได้ฟังผมก็สนใจว่าผมสามารถจะเปลี่ยนไปใช้โปรเดียวกันได้หรือไม่ ซึ่ง CC AIS ก็ประสานงานเดินเรื่องให้ได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร (พูดง่ายๆผมก็ได้รับการปรับเปลี่ยนโปรโมชั่นให้ดีเท่าเทียมกันกับที่ลูกค้าใหม่ได้รับนั่นแหละครับ)
โปรโมชั่น พวกนี้ จะไม่มีวันตายตัว มันคือการแข่งขันของผู้ให้บริการซึ่งเป็นสิ่งที่ดี ยิ่งนานไป ค่าบริการในโปรโมชั่นใหม่ๆ จะต้องถูกลงหรือคุ้มค่ามากขึ้นไปเรือยๆ
ส่วนตัวผมมองว่า ลูกค้าเก่าไม่ควรที่จะใช้โปรโมชั่นใดๆโปรโมชั่นหนึ่งต่อเนื่องกันนานเกินไป ควรหมั่นตรวจสอบโปรโมชั่นที่ใช้อยู่บ่อยๆ อย่างน้อยสองสามเดือนครั้ง เพื่อที่จะปรับเปลียนให้ได้โปรโมชั่นที่ถูกลง ซึ่งอาจจะไม่ได้โปรโมชั่นเดียวกันกับลูกค้าใหม่ แต่ก็จะใกล้เคียง
ลูกค้าเก่า ควรที่จะติดตามข่าวสาร ตรวจสอบ และเปลี่ยนแปลงโปรโมชั่นให้สอดคล้องกับการใช้งานอยู่เรื่อยๆให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าต่อเงินที่เสียไปให้มากที่สุด
2.แพคเกจ 4G ของ AIS ที่สามารถทำแคมเปญแบบนี้ออกมาได้ เพราะไม่ต้องพะวงเรื่องหนี้สิ้น หรือการบริหารการเงินมากมายนักเนื่องจากสภาพคล่อง ณ ปัจจุบันที่มีสูงมาก (จากการที่ไม่พยายามดึงคลืน 900 เอาไว้)
ความสามารถในการบริหารคลื่นความถี่ของ AIS นั้นมีสูงกว่าคู่แข่งมาก เอาง่ายๆ ในช่วงเวลาที่ AIS ยังไม่มี 2100 (มีแค่ 900) ก็ยังสามารถให้บริการ 2G/3G ได้ และเมื่อได้ 2100 มาก็ยังบริหารให้อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจมากขึ้นในภาพรวม ทั้งๆที่มีลูกค้าจำนวนมากมายเกินกว่าปริมาณคลื่นจะรองรับได้ในขณะนั้น แต่ ปัจจุบัน AIS ได้คลื่น 1800 มาเพิ่มอีก + กับพันธมิตรอย่าง TOT ทำให้การบริหาร 3G/4G มีสเถียรภาพกว่าเดิมมาก
ผมมองว่าถ้าคุณยังใช้ Cellular มากกว่า Data (โทรมากกว่าเนท) การย้ายค่ายไปหาค่ายที่มี Low band ในมือน่าจะดีกว่า
แต่ถ้าคุณมอง Trend ขาดหน่อย คุณจะรู้ว่า การใช้งาน Data มันเริ่มเข้ามาแทนที่การใช้งาน Cellular แบบเดิมๆ (2G) ที่ละน้อยๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ smartphone เติบโตจนกลืนตลาด feature phone ไปแทบสิ้น
AIS มองต่างและคิดว่า ต่อไปในอนาคต 2G จะต้องหายไปจากระบบ เหมือนดั่งเช่นหลายๆประเทศที่เริ่มปิดระบบ 2G ไปแล้ว
อีกหน่อย ระบบโทรศัพท์ Cellular Call จะลดบทบาทลงเรื่อยๆ และถูกแทนที่โดย Internet call หรือ Video call มากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อการใช้งาน DATA ถูกลงเรื่อยๆ ความจำเป็นของการโทร Cellular Call ก็จะลดบทบาทลงเรื่อยๆเช่นกัน
เราจะเห็นว่า การโทรหากันต่างประเทศ เราใช้ Facetime หรือ Line Call , Facebook Messenger คุยกันแบบเห็นหน้าได้แล้ว ไม่เสียเงินด้วย
การมา ของ 4G ที่ราคาถูกลง / มีประสิทธิภาพและครอบคลุมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจะทำให้เราใช้งานสิ่งเหล่านี้ได้ในทุกที่ ทุกเวลา แทนการโทรศัพท์แบบเดิมๆ
สมัยนี้ LINE โทรเข้าเบอมือถือได้แล้ว ผมเชื่อว่าบางคนไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่า Instant Messenger อย่าง Whatsapp หรือ Skype เองก็โทรเข้าเบอร์มือถือได้โดยตรงตั้งนานแล้ว (เสียค่าบริการนิดหน่อย)
ยิ่งถ้าอยู่บ้าน ต่อ wifi แล้วจะโทร Cellular Call กันทำไม ในเมื่อ HD Voice call มีให้ใช้แล้วใน facebook messenger !! และที่สำคัญ มันฟรี (เมื่อโทรหาคนที่ใช้ facebook mes
เ
มื่อมองในเชิงลึก จะรู้ว่า AIS นั้นเดินตามแพลนที่จะ ขยาย 3G base / 4G และจะปิดระบบ 2G ในที่สุด ซึ่งก็คือ model ที่กำลังเกิดขึ้นในหลายๆประเทศในโลกนี้ที่ได้มีการเริ่มปิดระบบ 2G ไปแล้ว
และนั่นก็คือเหตผลว่าทำไม AIS ถึงปล่อยให้ 900 หลุดมือไปนั่นเอง
3.แพคเกจ 4G ใหม่ ทำไมไม่มี FUP ???
ก่อนอื่นใด ผมอยากจะให้หลายๆท่านที่ไม่รู้จัก FUP ได้กดไปอ่านก่อนนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่มีความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับการใช้งาน Cellular data
จริงๆส่วนหนึ่งก็เป็นความผิดของ Carrier ด้วยที่ไม่เคยมีเจ้าไหนสื่อสารกับลูกค้าให้ชัดเจนว่า
"3G/4G เป็นทรัพยากรที่จำกัดนะโว้ย เป็นทรัพยากรที่ต้องใช้ร่วมกัน"
คำว่า ใช้เน็ตได้ไม่อั้น นี่แหละที่เป็นบ่อเกิดของความ
วงการสื่อสารไทย
และทำให้คนหลายล้านคนเข้าใจผิด คิดว่ามันคือบุฟเฟ่ -ได้ไม่อั้น ต้องเอาให้คุ้ม
จริงๆแล้ว FUP ถูกกำหนดมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการ จำกัดการใช้งานให้ถูกต้องและเหมาะสม
ไม่ให้เอา cellular bandwidth ไปใช้งานผิดประเภท จนเกิดปัญหาการจราจรแออัด
การที่ผู้ให้บริการกำหนด FUP มาไม่ได้มีไว้เพื่อให้ผู้ใช้บริการหาผลประโยชน์จากความเร็วตรงนี้ แต่มีไว้ เพื่อปกป้องไม่ให้ผู้ใช้บริการใช้บริการเกินกว่าขีดความสามารถในการชำระค่าบริการ
พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นไปอีก สั้นๆ FUP มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้คุณต้องกระเป๋าแหก เวลาคุณใช้ DATA เกินกว่าที่คุณได้รับอนุญาตินั่นแหละ
แต่คนส่วนใหญ่ ที่ไม่เข้าใจก็จะบ่นว่า เห้ยทำไมเน็ตชั้น พอเข้า FUP แล้วทำไรไม่ได้เลย ก็ไม่แปลกนี่ครับ มันไม่ได้ไว้ทำอะไรอยู่แล้ว
มันมีไว้เพื่อไม่ให้คุณต้องกระเป๋าแหก แค่นั้นแหละ มีไว้ให้พอได้ใช้งานเล็กๆน้อยๆ เช่นส่งข้อความใน instant msg แค่นั้นแหละสำหรับ FUP
AIS เริ่มที่จะลองเปิดรูปแบบใหม่ของการให้บริการ ที่ตัดเอาความจำเป็นของการกำหนดขั้นต่ำของ DATA ออกไป
ตรงนี้ผมถือว่าเป็นความท้าทายของ AIS ที่จะลองเปิดมุมมองการใช้งานใหม่ๆให้ลูกค้า
หลังจากที่เปิดให้บริการ 4G เต็มรูปแบบ
AIS อาจจะมีความมั่นใจอยู่ลึกๆว่า ด้วยปริมาณ bandwidth ที่มีในมือปัจจุบันนั้น บวกกับความสามารถในการบริหารคลืน
จะทำให้ตนเองสามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้ออกเคมเปญที่วัดใจ ผู้บริโภคกันไปเลยว่า
ถ้าจะเร็ว จะแรงก็ต้องเร็วแบบไม่มีกั๊ก ไม่ต้องมากั๊กที่ limit FUP กันอีกแล้ว
การไม่กำหนด FUP หลังจากใช้งาน DATA ครบ นั้นจะขจัดปัญหาที่คาราคาซังของลูกค้าที่บ่นว่า เนทช้าเป็นเรือเกลือเมื่อใช้งาน DATA ครบแพคเกจไปแล้ว แน่นอนละ ก็มันไม่มีการลดความเร็วแล้วนี่ แต่เก็บส่วนเกินแทนคิดตามปริมาณใช้งานจริงเลย !!
ความเสี่ยงคือ ผลตอบรับจากการใช้งานของลูกค้าในรูปแบบนี้ ที่หากไม่มีการบริหารจัดการควบคุมปรืมาณการใช้งานให้เหมาะสม
ก็จะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายแอบแฝงจำนวนมหาศาล ซึ่งถ้า AIS ทำเกมมาดี มีการรองรับแนวทางการแก้ไขปัญหานี้มาแล้ว
(โดยใช้วิธีโทรหาลูกค้าโดยตรงเมื่อ DATA ใกล้หมด และเสนอแพ็คเสริมให้เป็นรายครั้งแทน)
AIS จูงใจลูกค้าด้วยปริมาณ DATA ที่ให้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างมากแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังรอต้องรอการพิสูจน์ว่าแคมเปญนี้จะรุ่งหรือร่วง
ที่แน่ๆ พฤติกรรมผู้บริโภคที่สะท้อนออกมาหลังจากนี้ จะเป็นตัวชี้วัดว่า AIS มาถูกทางหรือไม่
4.โดนแย่งคลื่น 900 ไปแล้ว จะไปเหลืออะไรสู้คู่แข่ง ต่างจังหวัดก็ตายพอดี
ในความเป็นจริงที่คุณอาจยังไม่รู้ AIS นั้นดูเหมือนจะพลาดที่ไม่ได้ดึงดันที่จะเอาคลื่น 900 มาไว้กับตัว แต่มันยังมีคลื่นที่ AIS สนใจมากกว่าอยู่ก็คือ 2300/2600 ที่จะทยอยเปิดประมูลในอีกไม่ช้านี้ และมันสามารถทำ 4G LTE-A High band ได้ (1800/2100/2300/2600) ซึ่งผมมองว่าถ้า AIS วางหมากไว้แบบนี้ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจ่ายแพงเกินไปนักกับ 900Mhz
ผมมองว่า AIS มองขาดในเรื่องการทำตลาด 4G High band เพราะมันคือ Trend ของอนาคต
ถ้าค่ายคู่แข่ง คิดว่าตัวเองจะถือ 850/900/1800/2100 แล้วจะ Integrate 2G+3G+4G LTE-A ให้ครอบคลุมทั้งประเทศก่อนเพื่อน
AIS ในอีกไม่นานก็จะมี คลื่น 1800/2100/2300/2600 (สองคลื่นหลังกำลังจะถูกหยิบมาประมูลในไม่ช้านี้) โดยวางระบบ 3G base + 4G LTE-A ให้ครอบคลุมทั้งประเทศเช่นกัน โดยแทบจะไม่ต้องทำอะไรมากเลย เพราะสามารถใช้เสาเดิมตอนที่ติดตั้ง 900 ต่อได้ทันที
เท่ากับว่า การพลาดคลื่น 900 ในหนนี้ ในมุมมองส่วนตัวผมแทบจะเรียกได้ว่าไม่ได้เสียหายอะไรเลย เพียงแต่ต้องรอเวลาที่เหมาะสมที่จะได้ขยายเครือข่ายให้กลับมาครอบคลุมอีกครั้งเมื่อได้คลื่นใหม่มาในทันที
ซึ่งถ้าเป็นไปตามการคาดการณ์ของผม อย่างน้อยๆ การประมูลคลื่นความถี่ในอนาคตนี้ AIS จะต้องอย่างน้อย 1 ใน 2 คลื่นนี้ (2300/2600) มาเพื่อทำ
3CA ซึ่งจะเป็นมาตรฐานใหม่ของ 4G LTE ในอนาคต ก่อนเข้าสู่ยุค 5G อย่างแน่นอน
ทั้งหมดนี้ก็คือสิ่งที่ผมมองว่า AIS คิด และดำเนินการอยู่ เป็นข้อมูลสำหรับหลายๆท่านที่ลังเลและสงสัยว่า
AIS ยังเชื่อใจได้อยู่ไหม ลองพิจารณาดูละกันครับ ขอบคุณครับ
คนไม่พอใจ AIS ทุกเรื่อง (4G เอาใจแต่ลูกค้าใหม่,ทำไมไม่มี FUP,ทำไมใจไม่ถึงไม่สู้เอาคลื่น 900) เข้ามาอ่านกันนะครับ
อาจจะพอตอบข้อสงสัยบางเรื่อง ของบางท่านได้ ลองพิจารณาดูครับ
1. สิ่งที่คุณคิด สิ่งที่คุณเข้าใจว่า AIS เอาใจลูกค้าใหม่ โดยไม่สนใจลูกค้าเก่า ตรงนี้ผมมองว่า มันคือเรื่องของการตลาด
- เรื่องนี้ ในมุมมองส่วนตัวของผม ผมมองว่า ลูกค้าใหม่ ย่อมต้องการความรู้สึกที่ดีกว่าเมื่อตัดสินใจเปลียนจากสิ่งเดิม ดังนั้นจุดนี้ผมเข้าใจได้ว่า AIS ก็ต้องสร้างจุดขายที่ทำให้เกิดลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ถ้าย้ายมาแล้วไม่ดีเท่าคนที่อยู่เดิมหรือดีกว่า ใครจะย้ายล่ะ
ส่วนลูกค้าเก่า ถ้าคุณสนใจที่จะรักษาสิทธิที่คุณมีให้คงที่หรือดีขึ้น ก็ต้องบวกลบคูณหารดูว่า เงินที่จ่ายไปสมเหตสมผลหรือไม่ กับราคาค่าบริการ และแพคเกจการใช้งาน ณ ปัจจุบันหรือไม่ ถ้าไม่สอดคล้องก็ต้องตรวจสอบโปรโมชั่นที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน สอบถามและเปลี่ยนแปลงครับ ต้องรักษาสิทธิของตัวเอง
ตัวผมเองก่อนหน้านี้ก็ได้รับข่าวสารจากเพื่อนที่ย้ายค่ายมา AIS ว่าได้รับโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ผมได้ฟังผมก็สนใจว่าผมสามารถจะเปลี่ยนไปใช้โปรเดียวกันได้หรือไม่ ซึ่ง CC AIS ก็ประสานงานเดินเรื่องให้ได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร (พูดง่ายๆผมก็ได้รับการปรับเปลี่ยนโปรโมชั่นให้ดีเท่าเทียมกันกับที่ลูกค้าใหม่ได้รับนั่นแหละครับ)
โปรโมชั่น พวกนี้ จะไม่มีวันตายตัว มันคือการแข่งขันของผู้ให้บริการซึ่งเป็นสิ่งที่ดี ยิ่งนานไป ค่าบริการในโปรโมชั่นใหม่ๆ จะต้องถูกลงหรือคุ้มค่ามากขึ้นไปเรือยๆ
ส่วนตัวผมมองว่า ลูกค้าเก่าไม่ควรที่จะใช้โปรโมชั่นใดๆโปรโมชั่นหนึ่งต่อเนื่องกันนานเกินไป ควรหมั่นตรวจสอบโปรโมชั่นที่ใช้อยู่บ่อยๆ อย่างน้อยสองสามเดือนครั้ง เพื่อที่จะปรับเปลียนให้ได้โปรโมชั่นที่ถูกลง ซึ่งอาจจะไม่ได้โปรโมชั่นเดียวกันกับลูกค้าใหม่ แต่ก็จะใกล้เคียง
ลูกค้าเก่า ควรที่จะติดตามข่าวสาร ตรวจสอบ และเปลี่ยนแปลงโปรโมชั่นให้สอดคล้องกับการใช้งานอยู่เรื่อยๆให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าต่อเงินที่เสียไปให้มากที่สุด
2.แพคเกจ 4G ของ AIS ที่สามารถทำแคมเปญแบบนี้ออกมาได้ เพราะไม่ต้องพะวงเรื่องหนี้สิ้น หรือการบริหารการเงินมากมายนักเนื่องจากสภาพคล่อง ณ ปัจจุบันที่มีสูงมาก (จากการที่ไม่พยายามดึงคลืน 900 เอาไว้)
ความสามารถในการบริหารคลื่นความถี่ของ AIS นั้นมีสูงกว่าคู่แข่งมาก เอาง่ายๆ ในช่วงเวลาที่ AIS ยังไม่มี 2100 (มีแค่ 900) ก็ยังสามารถให้บริการ 2G/3G ได้ และเมื่อได้ 2100 มาก็ยังบริหารให้อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจมากขึ้นในภาพรวม ทั้งๆที่มีลูกค้าจำนวนมากมายเกินกว่าปริมาณคลื่นจะรองรับได้ในขณะนั้น แต่ ปัจจุบัน AIS ได้คลื่น 1800 มาเพิ่มอีก + กับพันธมิตรอย่าง TOT ทำให้การบริหาร 3G/4G มีสเถียรภาพกว่าเดิมมาก
ผมมองว่าถ้าคุณยังใช้ Cellular มากกว่า Data (โทรมากกว่าเนท) การย้ายค่ายไปหาค่ายที่มี Low band ในมือน่าจะดีกว่า
แต่ถ้าคุณมอง Trend ขาดหน่อย คุณจะรู้ว่า การใช้งาน Data มันเริ่มเข้ามาแทนที่การใช้งาน Cellular แบบเดิมๆ (2G) ที่ละน้อยๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ smartphone เติบโตจนกลืนตลาด feature phone ไปแทบสิ้น
AIS มองต่างและคิดว่า ต่อไปในอนาคต 2G จะต้องหายไปจากระบบ เหมือนดั่งเช่นหลายๆประเทศที่เริ่มปิดระบบ 2G ไปแล้ว
อีกหน่อย ระบบโทรศัพท์ Cellular Call จะลดบทบาทลงเรื่อยๆ และถูกแทนที่โดย Internet call หรือ Video call มากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อการใช้งาน DATA ถูกลงเรื่อยๆ ความจำเป็นของการโทร Cellular Call ก็จะลดบทบาทลงเรื่อยๆเช่นกัน
เราจะเห็นว่า การโทรหากันต่างประเทศ เราใช้ Facetime หรือ Line Call , Facebook Messenger คุยกันแบบเห็นหน้าได้แล้ว ไม่เสียเงินด้วย
การมา ของ 4G ที่ราคาถูกลง / มีประสิทธิภาพและครอบคลุมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจะทำให้เราใช้งานสิ่งเหล่านี้ได้ในทุกที่ ทุกเวลา แทนการโทรศัพท์แบบเดิมๆ
สมัยนี้ LINE โทรเข้าเบอมือถือได้แล้ว ผมเชื่อว่าบางคนไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่า Instant Messenger อย่าง Whatsapp หรือ Skype เองก็โทรเข้าเบอร์มือถือได้โดยตรงตั้งนานแล้ว (เสียค่าบริการนิดหน่อย)
ยิ่งถ้าอยู่บ้าน ต่อ wifi แล้วจะโทร Cellular Call กันทำไม ในเมื่อ HD Voice call มีให้ใช้แล้วใน facebook messenger !! และที่สำคัญ มันฟรี (เมื่อโทรหาคนที่ใช้ facebook mes
เมื่อมองในเชิงลึก จะรู้ว่า AIS นั้นเดินตามแพลนที่จะ ขยาย 3G base / 4G และจะปิดระบบ 2G ในที่สุด ซึ่งก็คือ model ที่กำลังเกิดขึ้นในหลายๆประเทศในโลกนี้ที่ได้มีการเริ่มปิดระบบ 2G ไปแล้ว
และนั่นก็คือเหตผลว่าทำไม AIS ถึงปล่อยให้ 900 หลุดมือไปนั่นเอง
3.แพคเกจ 4G ใหม่ ทำไมไม่มี FUP ???
ก่อนอื่นใด ผมอยากจะให้หลายๆท่านที่ไม่รู้จัก FUP ได้กดไปอ่านก่อนนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
AIS เริ่มที่จะลองเปิดรูปแบบใหม่ของการให้บริการ ที่ตัดเอาความจำเป็นของการกำหนดขั้นต่ำของ DATA ออกไป
ตรงนี้ผมถือว่าเป็นความท้าทายของ AIS ที่จะลองเปิดมุมมองการใช้งานใหม่ๆให้ลูกค้า
หลังจากที่เปิดให้บริการ 4G เต็มรูปแบบ
AIS อาจจะมีความมั่นใจอยู่ลึกๆว่า ด้วยปริมาณ bandwidth ที่มีในมือปัจจุบันนั้น บวกกับความสามารถในการบริหารคลืน
จะทำให้ตนเองสามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้ออกเคมเปญที่วัดใจ ผู้บริโภคกันไปเลยว่า
ถ้าจะเร็ว จะแรงก็ต้องเร็วแบบไม่มีกั๊ก ไม่ต้องมากั๊กที่ limit FUP กันอีกแล้ว
การไม่กำหนด FUP หลังจากใช้งาน DATA ครบ นั้นจะขจัดปัญหาที่คาราคาซังของลูกค้าที่บ่นว่า เนทช้าเป็นเรือเกลือเมื่อใช้งาน DATA ครบแพคเกจไปแล้ว แน่นอนละ ก็มันไม่มีการลดความเร็วแล้วนี่ แต่เก็บส่วนเกินแทนคิดตามปริมาณใช้งานจริงเลย !!
ความเสี่ยงคือ ผลตอบรับจากการใช้งานของลูกค้าในรูปแบบนี้ ที่หากไม่มีการบริหารจัดการควบคุมปรืมาณการใช้งานให้เหมาะสม
ก็จะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายแอบแฝงจำนวนมหาศาล ซึ่งถ้า AIS ทำเกมมาดี มีการรองรับแนวทางการแก้ไขปัญหานี้มาแล้ว
(โดยใช้วิธีโทรหาลูกค้าโดยตรงเมื่อ DATA ใกล้หมด และเสนอแพ็คเสริมให้เป็นรายครั้งแทน)
AIS จูงใจลูกค้าด้วยปริมาณ DATA ที่ให้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างมากแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังรอต้องรอการพิสูจน์ว่าแคมเปญนี้จะรุ่งหรือร่วง
ที่แน่ๆ พฤติกรรมผู้บริโภคที่สะท้อนออกมาหลังจากนี้ จะเป็นตัวชี้วัดว่า AIS มาถูกทางหรือไม่
4.โดนแย่งคลื่น 900 ไปแล้ว จะไปเหลืออะไรสู้คู่แข่ง ต่างจังหวัดก็ตายพอดี
ในความเป็นจริงที่คุณอาจยังไม่รู้ AIS นั้นดูเหมือนจะพลาดที่ไม่ได้ดึงดันที่จะเอาคลื่น 900 มาไว้กับตัว แต่มันยังมีคลื่นที่ AIS สนใจมากกว่าอยู่ก็คือ 2300/2600 ที่จะทยอยเปิดประมูลในอีกไม่ช้านี้ และมันสามารถทำ 4G LTE-A High band ได้ (1800/2100/2300/2600) ซึ่งผมมองว่าถ้า AIS วางหมากไว้แบบนี้ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจ่ายแพงเกินไปนักกับ 900Mhz
ผมมองว่า AIS มองขาดในเรื่องการทำตลาด 4G High band เพราะมันคือ Trend ของอนาคต
ถ้าค่ายคู่แข่ง คิดว่าตัวเองจะถือ 850/900/1800/2100 แล้วจะ Integrate 2G+3G+4G LTE-A ให้ครอบคลุมทั้งประเทศก่อนเพื่อน
AIS ในอีกไม่นานก็จะมี คลื่น 1800/2100/2300/2600 (สองคลื่นหลังกำลังจะถูกหยิบมาประมูลในไม่ช้านี้) โดยวางระบบ 3G base + 4G LTE-A ให้ครอบคลุมทั้งประเทศเช่นกัน โดยแทบจะไม่ต้องทำอะไรมากเลย เพราะสามารถใช้เสาเดิมตอนที่ติดตั้ง 900 ต่อได้ทันที
เท่ากับว่า การพลาดคลื่น 900 ในหนนี้ ในมุมมองส่วนตัวผมแทบจะเรียกได้ว่าไม่ได้เสียหายอะไรเลย เพียงแต่ต้องรอเวลาที่เหมาะสมที่จะได้ขยายเครือข่ายให้กลับมาครอบคลุมอีกครั้งเมื่อได้คลื่นใหม่มาในทันที
ซึ่งถ้าเป็นไปตามการคาดการณ์ของผม อย่างน้อยๆ การประมูลคลื่นความถี่ในอนาคตนี้ AIS จะต้องอย่างน้อย 1 ใน 2 คลื่นนี้ (2300/2600) มาเพื่อทำ
3CA ซึ่งจะเป็นมาตรฐานใหม่ของ 4G LTE ในอนาคต ก่อนเข้าสู่ยุค 5G อย่างแน่นอน
ทั้งหมดนี้ก็คือสิ่งที่ผมมองว่า AIS คิด และดำเนินการอยู่ เป็นข้อมูลสำหรับหลายๆท่านที่ลังเลและสงสัยว่า
AIS ยังเชื่อใจได้อยู่ไหม ลองพิจารณาดูละกันครับ ขอบคุณครับ