ฟังที่คุณพิสุทธิ์จากกสิกรพูด ถ้า dtac ไม่เอาคลื่น 900 ให้ราคา 59.6 บาท
ถ้า dtac เอา 900 ให้ราคา 47 บาท
เพราะมองว่า 900 ค่ายอื่นก็มี การที่ dtac เอา 900 มา ก็คงไม่ได้ช่วยให้ dtac ดึงลูกค้ามาจากค่ายอื่นเท่าไร
ตรงนี้มองว่าการที่ dtac เน้น 4G 2100/2300 ให้มาก หลักๆก็ได้เรื่องความเร็ว coverage ก็ได้อยู่ แต่ coverage ก็ยังเป็นรองคู่แข่งอยู่บ้าง แต่ถ้ามีทั้ง 4G 900/2100/2300 จะเป็นค่ายที่ได้ทั้ง coverage และความเร็วครบถ้วน เป็นค่ายที่น่าสนใจและน่าเลือกใช้บริการมากยิ่งขึ้น
ปกติเน้นโครงข่าย 2100 ได้ความครอบคลุม 94% ของประชากร
ถ้าได้ 900 มาอุดช่องโหว่ น่าจะทำให้ความครอบคลุม dtac ได้ถึง 98% ของประชากรก็เป็นได้ ตรงไหนที่ 4G 2100 ยิงสัญญาณไม่ถึง ก็เอา 4G 900 ยิงเข้าไป ส่วนตามป่าเขาก็คงใช้ 3G 900 ยิงเข้าไป เพื่อให้เกิดความครอบคลุม เพราะไปได้ไกลกว่า หรือจะแบ่งทำ 4G 3 mhz 2G 2 mhz ก็ได้ ให้ได้ระยะทาง voice และ data ที่มีความเร็วดี
ตอนแรกคิดว่า dtac ไม่ควรเอา 900 มา เพราะราคาแพงเกิน แต่ในเมื่อเอามาแล้ว ก็ต้องทำให้เกิดประโยชน์ที่สุด เอา 900 มาทำทั้ง 2G 3G 4G 5G ได้ยิ่งดี โดยแบ่งไปเป็นพื้นที่ๆไป ถ้า 4G ก็น่าจะติดระบบ 256/64qam mimo 2×2 นะ
ไม่รู้ว่า 5G 5 mhz นี่ จะได้ความเร็วถึง 200-300 mbps มั้ย ถ้าได้ก็พอใช้งานล่ะ
ตอนใช้ 4G ความเร็ว 10 mbps กับความเร็ว 100 mbps ก็ใช้งานได้ไม่ต่างกัน
ถ้า 5G ความเร็ว 200 mbps กับความเร็ว 2,000 mbps ก็คงใช้งานได้หลายๆกรณีไม่ต่างกันมั้ง อย่างน้อยก็ดู youtube,เล่นเกมส์ไหวล่ะ
ภายในปีหน้าไม่แน่ว่าจะได้ติดอุปกรณ์ 5G บนคลื่น 900 ก็ได้ แล้วนำ 4G/5G 900 ไปยิงสัญญาณอุดช่องโหว่บริเวณสัญญาณ 4G 2100/2300 ยิงไปไม่ถึง
เช่น ตึกแถวๆถนนวิทยุ ถ้าเปลี่ยนจาก 3G เดิม 10 mhz เป็น 3G 5 mhz แล้วเอาไปยิงเข้าตึก data คงพังอ่ะ ใช้ 4G 900 5 mhz ยิงเข้าไปดีกว่า เพื่อรักษาระดับความเร็วให้ไม่ต่ำกว่าเดิม
หรือแถวๆนครปฐม ซึ่งเสาอยู่ไกลยิง 4G 900 ก็ได้
พื้นที่ลักษณะนี้ เน้นยิง 4G 900 เต็ม 5 mhz เพื่อ data และ 2G 1800,3G 2100 อย่างละ 5 mhz เพื่อ voice และ 4G 2100 10 mhz/4G 2300 60 mhz ทำหน้าที่ data อยู่แล้ว
ต่อไปพื้นที่โล่งแจ้ง สวนสาธารณะ ป้ายรถเมล์ หรือพื้นที่ๆดูแล้วว่าการเปิด 4G 2100 เต็ม 15 mhz ก็ยังทำให้ 4G 2100 นั้นครอบคลุมดี ก็เปิด 3G 900 5 mhz 2G 1800 5 mhz เพื่อให้ 2G/3G ทำหน้าที่ voice แทนก็ได้ data ให้ 4G 2100 15 mhz/4G 2300 60 mhz ช่วยรับหน้าที่ไป
ต่อไปพื้นที่ตามป่าเขา ซึ่งคนใช้ทั้ง voice และ data น้อย ให้เลือกได้ 2 แบบ แบบแรก 4G 3 mhz 2G 2 mhz แบบที่สอง 3G 5 mhz
ขอเลือก 4G 3 mhz 2G 2 mhz เพราะได้ data ที่มีคุณภาพ มีความเร็วดีกว่า และได้ voice 2G ซึ่งระยะทางส่งได้ไกลกว่า และยิง 2G 1800 หนุนมาบ้าง เพื่อให้สัญญาณ voice ช่วงไม่ไกลจากเสาดี และช่วยแบ่งเบาภาระ 2G 900 ในระยะไกล ถ้าตรงไหนคลื่น 900 ที่เป็น 4G 3 mhz 2G 2 mhz ช่องสัญญาณไม่พอ ก็เพิ่มติดอุปกรณ์ 900 บนเสา 2100 ที่อยู่ใกล้เคียงกันก็ได้ คงติดเพิ่มไม่มาก จากที่ติด 900 1 เสาก็เป็น 2 เสา จาก 2 เสาก็อาจเป็น 3 หรือ 4 เสา ก็คงเพียงพอสำหรับช่องสัญญาณในพื้นที่แบบนั้น
เพราะฉะนั้น คลื่น 900 น่าจะเป็นส่วนเติมเต็มกับคลื่น 2100/2300 ให้ dtac มีทั้งความครอบคลุมและความเร็ว เป็นค่ายที่น่าใช้บริการมากขึ้น
แต่ในช่วงใกล้ๆนี้ คงเปิด 4G 2100 เต็ม 15 mhz ไม่ได้ เพราะมือถือ house brand dtac มีแต่รองรับ 3G 850/2100 จะบริหารคลื่น 900 ในรูปแบบไหน ก็ต้องให้มี 3G 2100 5 mhz อยู่ดีอ่ะ
คลื่น 900 ราคาประมาณนี้ ประมูลมาแล้ว ก็ควรรีบจ่ายตังค์ เพื่อเอา 900 มาเติมเต็มศักยภาพโครงข่าย ไม่ต้องรอให้ใช้ 850 ครบ 2 ปีหรอก รีบไปจ่ายตังค์ แล้วติด 900 บนเสาเดิม เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่ที่มีรอยโหว่สัญญาณเลย อย่างน้อยมือถือ dtac ก็มีรองรับ 2G/4G 900 อยู่
ลง 900 บนเสาเดิม ก็คงไม่เกิน 2,500 เสามั้ง เพื่ออุดช่องโหว่ 2100 ทำให้ความครอบคลุมโดยรวมก็น่าจะได้ 98% ของประชากร เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ในประเทศ 3G/4G 2100 อย่างละ 5 และ 10 mhz กับ 4G 2300 ก็รองรับได้ทั้ง voice และ data อยู่
ที่บอกว่าค่าเปลี่ยนอุปกรณ์ 10,000 ล้าน ไม่น่าใช่ปัญหานะ เพราะคือตังค์ที่ทยอยเปลี่ยน ทยอยติด 900 ไปเรื่อยๆ ทยอยจ่ายเงิน ไม่ใช่ลงตูมเดียว 10,000 ล้านนี่ เนื่องจากคลื่น 2100/2300 ที่มีอยู่และการจัดสรรตอนนี้ รองรับได้ทั้ง voice และ data อยู่แล้ว
อีกนิดนึง คือ ถ้าจะมี 2G 1800 ก็ลงเพิ่มได้ แต่ไม่ต้องเยอะ ซัก 3,000 กว่าเสาคงพอ จากเดิมที่มีราวๆ 12,000 เสา ให้ครอบคลุมพื้นที่ของประเทศ เกิน 90% ของประชากร ก็คงพอ เพราะคงต้องดูทิศทางก่อนว่า อีก 2-3 ปีข้างหน้า คนจะนิยมคุยแบบ voice โดยตรง 2G หรือ VoLTE และ โทรผ่านเน็ตมากกว่า
หากคนนิยมคุยบน VoLTE และ โทรผ่านเน็ตมากกว่า ก็น่าจะเอา 1800 ไปทำ 4G มากกว่า 2G รอดูอีกซักพักนึง ช่วงต้นปี 63 ก็น่าจะรู้แล้วว่า คลื่น 1800 ควรเป็น 2G หรือ 4G
ตอนนี้น่าจะให้เน้นลงทุนคลื่น 900 เพิ่ม coverage และแก้จุดอับสัญญาณไปก่อนจะดีกว่า ค่อยๆไล่จากรอบนอกเข้ามาข้างใน หรือพื้นที่รอบในที่คลื่นความถี่สูงยากที่จะเข้าถึง
แต่จะเปิด 4G 2100 เต็ม 15 mhz คงต้องรอซัก 2 ปีขึ้นไป เพราะเครื่อง house brand รุ่นเก่า ไม่รองรับ 3G 900 เลย คงต้องรอทำเครื่องใหม่ซักพักนึง ถึงจะเปิด 4G 2100 เต็ม 15 ได้
ได้คลื่น 900 มาเร็ว จะได้รีบเพิ่ม coverage จะได้รีบแก้ไขปัญหาจุดอับสัญญาณได้เร็ว เพราะที่ผ่านมาก็ได้ขยายโครงข่าย 2100 ทับ coverage เดิมของ 850 ไปเยอะแล้ว ต้องรีบเอา 900 มาสร้าง coverage ใหม่เพิ่มเติมจาก coverage เดิมของ 850/2100 เอาประมาณว่า สิ้นปีนี้ 3 ค่ายมีพื้นที่ครอบคลุมใกล้เคียงกันหมด ทั้ง voice และ data
เพราะฉะนั้น ถ้าแผนไม่ชัดเจน ลงทุนช้า ปล่อยให้เป็น 850 ไปเรื่อย ความครอบคลุมแบบเดิมๆ คงให้ราคาหุ้นน่าจะอยู่ที่ 48 บาท
ถ้าแผนชัดเจน ลงทุนเร็ว เพิ่ม coverage เร็ว ให้ราคาหุ้นน่าจะอยู่ 51 บาท
DTAC ได้ 900 มา น่าจะแบ่งทำ 2G 3G 4G แต่ละพื้นที่ไป เพื่อให้เกิดประโยชน์สูง หุ้นน่าจะซัก 50-51 บาทได้มั้ย
ถ้า dtac เอา 900 ให้ราคา 47 บาท
เพราะมองว่า 900 ค่ายอื่นก็มี การที่ dtac เอา 900 มา ก็คงไม่ได้ช่วยให้ dtac ดึงลูกค้ามาจากค่ายอื่นเท่าไร
ตรงนี้มองว่าการที่ dtac เน้น 4G 2100/2300 ให้มาก หลักๆก็ได้เรื่องความเร็ว coverage ก็ได้อยู่ แต่ coverage ก็ยังเป็นรองคู่แข่งอยู่บ้าง แต่ถ้ามีทั้ง 4G 900/2100/2300 จะเป็นค่ายที่ได้ทั้ง coverage และความเร็วครบถ้วน เป็นค่ายที่น่าสนใจและน่าเลือกใช้บริการมากยิ่งขึ้น
ปกติเน้นโครงข่าย 2100 ได้ความครอบคลุม 94% ของประชากร
ถ้าได้ 900 มาอุดช่องโหว่ น่าจะทำให้ความครอบคลุม dtac ได้ถึง 98% ของประชากรก็เป็นได้ ตรงไหนที่ 4G 2100 ยิงสัญญาณไม่ถึง ก็เอา 4G 900 ยิงเข้าไป ส่วนตามป่าเขาก็คงใช้ 3G 900 ยิงเข้าไป เพื่อให้เกิดความครอบคลุม เพราะไปได้ไกลกว่า หรือจะแบ่งทำ 4G 3 mhz 2G 2 mhz ก็ได้ ให้ได้ระยะทาง voice และ data ที่มีความเร็วดี
ตอนแรกคิดว่า dtac ไม่ควรเอา 900 มา เพราะราคาแพงเกิน แต่ในเมื่อเอามาแล้ว ก็ต้องทำให้เกิดประโยชน์ที่สุด เอา 900 มาทำทั้ง 2G 3G 4G 5G ได้ยิ่งดี โดยแบ่งไปเป็นพื้นที่ๆไป ถ้า 4G ก็น่าจะติดระบบ 256/64qam mimo 2×2 นะ
ไม่รู้ว่า 5G 5 mhz นี่ จะได้ความเร็วถึง 200-300 mbps มั้ย ถ้าได้ก็พอใช้งานล่ะ
ตอนใช้ 4G ความเร็ว 10 mbps กับความเร็ว 100 mbps ก็ใช้งานได้ไม่ต่างกัน
ถ้า 5G ความเร็ว 200 mbps กับความเร็ว 2,000 mbps ก็คงใช้งานได้หลายๆกรณีไม่ต่างกันมั้ง อย่างน้อยก็ดู youtube,เล่นเกมส์ไหวล่ะ
ภายในปีหน้าไม่แน่ว่าจะได้ติดอุปกรณ์ 5G บนคลื่น 900 ก็ได้ แล้วนำ 4G/5G 900 ไปยิงสัญญาณอุดช่องโหว่บริเวณสัญญาณ 4G 2100/2300 ยิงไปไม่ถึง
เช่น ตึกแถวๆถนนวิทยุ ถ้าเปลี่ยนจาก 3G เดิม 10 mhz เป็น 3G 5 mhz แล้วเอาไปยิงเข้าตึก data คงพังอ่ะ ใช้ 4G 900 5 mhz ยิงเข้าไปดีกว่า เพื่อรักษาระดับความเร็วให้ไม่ต่ำกว่าเดิม
หรือแถวๆนครปฐม ซึ่งเสาอยู่ไกลยิง 4G 900 ก็ได้
พื้นที่ลักษณะนี้ เน้นยิง 4G 900 เต็ม 5 mhz เพื่อ data และ 2G 1800,3G 2100 อย่างละ 5 mhz เพื่อ voice และ 4G 2100 10 mhz/4G 2300 60 mhz ทำหน้าที่ data อยู่แล้ว
ต่อไปพื้นที่โล่งแจ้ง สวนสาธารณะ ป้ายรถเมล์ หรือพื้นที่ๆดูแล้วว่าการเปิด 4G 2100 เต็ม 15 mhz ก็ยังทำให้ 4G 2100 นั้นครอบคลุมดี ก็เปิด 3G 900 5 mhz 2G 1800 5 mhz เพื่อให้ 2G/3G ทำหน้าที่ voice แทนก็ได้ data ให้ 4G 2100 15 mhz/4G 2300 60 mhz ช่วยรับหน้าที่ไป
ต่อไปพื้นที่ตามป่าเขา ซึ่งคนใช้ทั้ง voice และ data น้อย ให้เลือกได้ 2 แบบ แบบแรก 4G 3 mhz 2G 2 mhz แบบที่สอง 3G 5 mhz
ขอเลือก 4G 3 mhz 2G 2 mhz เพราะได้ data ที่มีคุณภาพ มีความเร็วดีกว่า และได้ voice 2G ซึ่งระยะทางส่งได้ไกลกว่า และยิง 2G 1800 หนุนมาบ้าง เพื่อให้สัญญาณ voice ช่วงไม่ไกลจากเสาดี และช่วยแบ่งเบาภาระ 2G 900 ในระยะไกล ถ้าตรงไหนคลื่น 900 ที่เป็น 4G 3 mhz 2G 2 mhz ช่องสัญญาณไม่พอ ก็เพิ่มติดอุปกรณ์ 900 บนเสา 2100 ที่อยู่ใกล้เคียงกันก็ได้ คงติดเพิ่มไม่มาก จากที่ติด 900 1 เสาก็เป็น 2 เสา จาก 2 เสาก็อาจเป็น 3 หรือ 4 เสา ก็คงเพียงพอสำหรับช่องสัญญาณในพื้นที่แบบนั้น
เพราะฉะนั้น คลื่น 900 น่าจะเป็นส่วนเติมเต็มกับคลื่น 2100/2300 ให้ dtac มีทั้งความครอบคลุมและความเร็ว เป็นค่ายที่น่าใช้บริการมากขึ้น
แต่ในช่วงใกล้ๆนี้ คงเปิด 4G 2100 เต็ม 15 mhz ไม่ได้ เพราะมือถือ house brand dtac มีแต่รองรับ 3G 850/2100 จะบริหารคลื่น 900 ในรูปแบบไหน ก็ต้องให้มี 3G 2100 5 mhz อยู่ดีอ่ะ
คลื่น 900 ราคาประมาณนี้ ประมูลมาแล้ว ก็ควรรีบจ่ายตังค์ เพื่อเอา 900 มาเติมเต็มศักยภาพโครงข่าย ไม่ต้องรอให้ใช้ 850 ครบ 2 ปีหรอก รีบไปจ่ายตังค์ แล้วติด 900 บนเสาเดิม เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่ที่มีรอยโหว่สัญญาณเลย อย่างน้อยมือถือ dtac ก็มีรองรับ 2G/4G 900 อยู่
ลง 900 บนเสาเดิม ก็คงไม่เกิน 2,500 เสามั้ง เพื่ออุดช่องโหว่ 2100 ทำให้ความครอบคลุมโดยรวมก็น่าจะได้ 98% ของประชากร เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ในประเทศ 3G/4G 2100 อย่างละ 5 และ 10 mhz กับ 4G 2300 ก็รองรับได้ทั้ง voice และ data อยู่
ที่บอกว่าค่าเปลี่ยนอุปกรณ์ 10,000 ล้าน ไม่น่าใช่ปัญหานะ เพราะคือตังค์ที่ทยอยเปลี่ยน ทยอยติด 900 ไปเรื่อยๆ ทยอยจ่ายเงิน ไม่ใช่ลงตูมเดียว 10,000 ล้านนี่ เนื่องจากคลื่น 2100/2300 ที่มีอยู่และการจัดสรรตอนนี้ รองรับได้ทั้ง voice และ data อยู่แล้ว
อีกนิดนึง คือ ถ้าจะมี 2G 1800 ก็ลงเพิ่มได้ แต่ไม่ต้องเยอะ ซัก 3,000 กว่าเสาคงพอ จากเดิมที่มีราวๆ 12,000 เสา ให้ครอบคลุมพื้นที่ของประเทศ เกิน 90% ของประชากร ก็คงพอ เพราะคงต้องดูทิศทางก่อนว่า อีก 2-3 ปีข้างหน้า คนจะนิยมคุยแบบ voice โดยตรง 2G หรือ VoLTE และ โทรผ่านเน็ตมากกว่า
หากคนนิยมคุยบน VoLTE และ โทรผ่านเน็ตมากกว่า ก็น่าจะเอา 1800 ไปทำ 4G มากกว่า 2G รอดูอีกซักพักนึง ช่วงต้นปี 63 ก็น่าจะรู้แล้วว่า คลื่น 1800 ควรเป็น 2G หรือ 4G
ตอนนี้น่าจะให้เน้นลงทุนคลื่น 900 เพิ่ม coverage และแก้จุดอับสัญญาณไปก่อนจะดีกว่า ค่อยๆไล่จากรอบนอกเข้ามาข้างใน หรือพื้นที่รอบในที่คลื่นความถี่สูงยากที่จะเข้าถึง
แต่จะเปิด 4G 2100 เต็ม 15 mhz คงต้องรอซัก 2 ปีขึ้นไป เพราะเครื่อง house brand รุ่นเก่า ไม่รองรับ 3G 900 เลย คงต้องรอทำเครื่องใหม่ซักพักนึง ถึงจะเปิด 4G 2100 เต็ม 15 ได้
ได้คลื่น 900 มาเร็ว จะได้รีบเพิ่ม coverage จะได้รีบแก้ไขปัญหาจุดอับสัญญาณได้เร็ว เพราะที่ผ่านมาก็ได้ขยายโครงข่าย 2100 ทับ coverage เดิมของ 850 ไปเยอะแล้ว ต้องรีบเอา 900 มาสร้าง coverage ใหม่เพิ่มเติมจาก coverage เดิมของ 850/2100 เอาประมาณว่า สิ้นปีนี้ 3 ค่ายมีพื้นที่ครอบคลุมใกล้เคียงกันหมด ทั้ง voice และ data
เพราะฉะนั้น ถ้าแผนไม่ชัดเจน ลงทุนช้า ปล่อยให้เป็น 850 ไปเรื่อย ความครอบคลุมแบบเดิมๆ คงให้ราคาหุ้นน่าจะอยู่ที่ 48 บาท
ถ้าแผนชัดเจน ลงทุนเร็ว เพิ่ม coverage เร็ว ให้ราคาหุ้นน่าจะอยู่ 51 บาท