หากใครยังจำกันได้ดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ผ่านๆมาของสมาคมฟุตบอลไทย ซึ่งแฟนบอลทั้งประเทศหรือคนที่ติดตามบอลไทยช่วงนั้นย่อมทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกว่าจะได้นายกสมาคมมา ความโปร่งใส่ของการได้มาถูกต้องหรือไม่ถูกต้องอันนี้แล้วแต่ว่าแฟนบอล ณ ช่วงเวลานั้นเลือกที่จะเชียร์ฝั่งไหน
แต่จากบทเรียนในครั้งนั้นส่วนตัวผมมองว่านี้คือผลกรรมที่สมาคมชุดเดิมได้รับกลับคืนจากการที่เคยใช้วิธีเหล่านี้ชนะเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆมา? ซึ่งหนึ่งในนั้นที่ผมจำได้ขึ้นใจคือสมาคมจะใช้เหตุผลว่าถ้าไม่ทำตามจะโดนฟีฟ่าแบน เลยทำให้คนส่วนใหญ่ที่เห็นแก่ฟุตบอลไทยไม่อยากฟ้องร้องและยอมทำตามที่สมาคมอ้างเหตุผลต่างๆเหล่านี้มา อีกข้อคือการเปลี่ยนกฎทีมใน D2 จากทีมที่ได้อันดับ 1-5 มีสิทธิเลือกนายกสมาคมและสภากรรมการ แต่มาเปลี่ยนกฎกันเองโดยคนบ้างกลุ่มซึ่งแฟนบอลอย่างเราๆรู้ดีว่าเป็นใครให้เปลี่ยนเป็นการเลือกตั้งตัวแทนมา ซึ่งนี้ก็เหมือนกับผลกรรมที่ย้อนกลับมาสู่ตัวเองทั้งนั้น
ถึงอย่างไรก็ดี ส่วนตัวผมอยากให้ทุกฝ่ายมองถึงผลที่จะกระทบกับฟุตบอลไทยมากกว่าผลประโยชน์ตัวเองจะดีกว่า "หากเราไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วจะกลัวไปทำไม ไม่มีใครทำอะไรเราได้แน่นอน"
ปล. เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ และอยากเห็นฟุตบอลไทยเดินหน้า และก้าวไปในแนวทางที่ถูกต้อง
หรือว่านี้คือผลกรรมที่สมาคมชุดเดิมได้รับจากการที่เคยใช้วิธีเหล่านี้ชนะเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆมา?
แต่จากบทเรียนในครั้งนั้นส่วนตัวผมมองว่านี้คือผลกรรมที่สมาคมชุดเดิมได้รับกลับคืนจากการที่เคยใช้วิธีเหล่านี้ชนะเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆมา? ซึ่งหนึ่งในนั้นที่ผมจำได้ขึ้นใจคือสมาคมจะใช้เหตุผลว่าถ้าไม่ทำตามจะโดนฟีฟ่าแบน เลยทำให้คนส่วนใหญ่ที่เห็นแก่ฟุตบอลไทยไม่อยากฟ้องร้องและยอมทำตามที่สมาคมอ้างเหตุผลต่างๆเหล่านี้มา อีกข้อคือการเปลี่ยนกฎทีมใน D2 จากทีมที่ได้อันดับ 1-5 มีสิทธิเลือกนายกสมาคมและสภากรรมการ แต่มาเปลี่ยนกฎกันเองโดยคนบ้างกลุ่มซึ่งแฟนบอลอย่างเราๆรู้ดีว่าเป็นใครให้เปลี่ยนเป็นการเลือกตั้งตัวแทนมา ซึ่งนี้ก็เหมือนกับผลกรรมที่ย้อนกลับมาสู่ตัวเองทั้งนั้น
ถึงอย่างไรก็ดี ส่วนตัวผมอยากให้ทุกฝ่ายมองถึงผลที่จะกระทบกับฟุตบอลไทยมากกว่าผลประโยชน์ตัวเองจะดีกว่า "หากเราไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วจะกลัวไปทำไม ไม่มีใครทำอะไรเราได้แน่นอน"
ปล. เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ และอยากเห็นฟุตบอลไทยเดินหน้า และก้าวไปในแนวทางที่ถูกต้อง