จากมติชนออนไลน์
ภายหลังจาก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ส่งหนังสือถึง สมาคมฟุตบอลฯ ให้ บริษัท พัทยา จำกัด ถอนฟ้องที่ไม่ให้นำธรรมนูญใหม่มาลงมติรับรองในการประชุมใหญ่สามัญ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ภายในวันที่ 24 มิ.ย.พร้อมให้จัดการเลือกตั้งใหม่ภายในวันที่ 30 ก.ย.56 หากไม่ทำตามจะโดน ฟีฟ่า แบนแบบไม่มีกำหนด
“บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แสดงความเห็นว่า บุรีรัมย์ ไม่ได้กังวล หาก ฟีฟ่า จะแบนก็แบนไป แต่เข้าใจว่า ฟีฟ่า มีเดดไลน์จนถึงวันที่ 30 ก.ย.56 ฉะนั้นยังเหลือเวลาที่จะจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ภายใต้กฎหมายไทย ไม่ใช่เอาใครมากดดันเหมือนอย่างเช่น นายวรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมฟุตบอลฯ กระทำอยู่ในเวลานี้
“ไม่ใช่ว่าคู่แข่งของ นายวรวีร์ ทั้ง 2 คนจะไม่ยอมรับกฎกติกาของ ฟีฟ่า พวกเขายอมรับด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าไม่เห็นด้วยกับการตัดสิทธิสโมสรสมาชิกจาก 184 เสียง เหลือ 72 เสียง ซึ่งเรื่องคะแนนเสียงโหวตเท่านั้นที่เขาไม่รับ ถ้าจะจำกัดสิทธิก็ควรให้เวลาทีมเหล่านั้น ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็ไปตัดเขาออก” นายเนวิน กล่าว
นายใหญ่แห่งถิ่นเซราะกราว กล่าวอีกว่า ฟีฟ่า ไม่ได้กำหนดให้ต้องใช้ 72 เสียงเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ มีแต่เพียง นายวรวีร์ คนเดียวเท่านั้นที่กำหนดให้เป็นแบบนั้น
“รักษาการนายกฯ ควรจะยึดกฎหมายไทยไปก่อน เมื่อพ้นวาระก็ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 30 วัน พอเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งได้ผู้บริหารใหม่ ผู้บริหารเหล่านั้นก็ต้องทำตามกฎกติกาของ ฟีฟ่า ก็แค่นั้น ผมขอยกตัวอย่าง เช่น กรณีของ คลับไลเซนซิง โดยทาง เอเอฟซี บอกว่าทุกสโมสรต้องมี ต้องทำตาม ไม่งั้นจะไม่ได้เล่นบอลเอเชียรายการต่างๆ ซึ่ง เอเอฟซี เขาก็ให้สโมสรต่างๆ ปรับคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยให้เวลากับสโมสรต่างๆ ในการดำเนินการ แล้วเป็นไง ทุกวันนี้เขาก็ไม่ได้มาแบนอะไร” นายใหญ่เซราะกราว เผย
นายเนวิน ยังเผยด้วยว่า ส่วนกรณีที่ ฟีฟ่า ลงโทษแบนประเทศไทยจริงๆ แล้วมีผลกระทบมายัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในการเล่นฟุตบอล เอเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก นั้นตนไม่มีปัญหาอะไร อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ซึ่งตนคิดไว้แค่เพียงชาติต้องมาก่อนสโมสร
′เนวิน′ ไม่แคร์ชวดเตะ ACL หากฟีฟ่าแบนสมาคมฯ ลั่นชาติต้องมาก่อน
ภายหลังจาก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ส่งหนังสือถึง สมาคมฟุตบอลฯ ให้ บริษัท พัทยา จำกัด ถอนฟ้องที่ไม่ให้นำธรรมนูญใหม่มาลงมติรับรองในการประชุมใหญ่สามัญ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ภายในวันที่ 24 มิ.ย.พร้อมให้จัดการเลือกตั้งใหม่ภายในวันที่ 30 ก.ย.56 หากไม่ทำตามจะโดน ฟีฟ่า แบนแบบไม่มีกำหนด
“บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แสดงความเห็นว่า บุรีรัมย์ ไม่ได้กังวล หาก ฟีฟ่า จะแบนก็แบนไป แต่เข้าใจว่า ฟีฟ่า มีเดดไลน์จนถึงวันที่ 30 ก.ย.56 ฉะนั้นยังเหลือเวลาที่จะจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ภายใต้กฎหมายไทย ไม่ใช่เอาใครมากดดันเหมือนอย่างเช่น นายวรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมฟุตบอลฯ กระทำอยู่ในเวลานี้
“ไม่ใช่ว่าคู่แข่งของ นายวรวีร์ ทั้ง 2 คนจะไม่ยอมรับกฎกติกาของ ฟีฟ่า พวกเขายอมรับด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าไม่เห็นด้วยกับการตัดสิทธิสโมสรสมาชิกจาก 184 เสียง เหลือ 72 เสียง ซึ่งเรื่องคะแนนเสียงโหวตเท่านั้นที่เขาไม่รับ ถ้าจะจำกัดสิทธิก็ควรให้เวลาทีมเหล่านั้น ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็ไปตัดเขาออก” นายเนวิน กล่าว
นายใหญ่แห่งถิ่นเซราะกราว กล่าวอีกว่า ฟีฟ่า ไม่ได้กำหนดให้ต้องใช้ 72 เสียงเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ มีแต่เพียง นายวรวีร์ คนเดียวเท่านั้นที่กำหนดให้เป็นแบบนั้น
“รักษาการนายกฯ ควรจะยึดกฎหมายไทยไปก่อน เมื่อพ้นวาระก็ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 30 วัน พอเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งได้ผู้บริหารใหม่ ผู้บริหารเหล่านั้นก็ต้องทำตามกฎกติกาของ ฟีฟ่า ก็แค่นั้น ผมขอยกตัวอย่าง เช่น กรณีของ คลับไลเซนซิง โดยทาง เอเอฟซี บอกว่าทุกสโมสรต้องมี ต้องทำตาม ไม่งั้นจะไม่ได้เล่นบอลเอเชียรายการต่างๆ ซึ่ง เอเอฟซี เขาก็ให้สโมสรต่างๆ ปรับคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยให้เวลากับสโมสรต่างๆ ในการดำเนินการ แล้วเป็นไง ทุกวันนี้เขาก็ไม่ได้มาแบนอะไร” นายใหญ่เซราะกราว เผย
นายเนวิน ยังเผยด้วยว่า ส่วนกรณีที่ ฟีฟ่า ลงโทษแบนประเทศไทยจริงๆ แล้วมีผลกระทบมายัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในการเล่นฟุตบอล เอเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก นั้นตนไม่มีปัญหาอะไร อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ซึ่งตนคิดไว้แค่เพียงชาติต้องมาก่อนสโมสร