ตุ๊กตาผีสิง

Wish to tell โดย อ.อัจฉราวดี วงศ์สกล
       
       เห็นกรณีคนหันไปเลี้ยงตุ๊กตาที่ใส่ชื่อว่าเป็นตุ๊กตาลูกเทพ แล้วรู้สึกสลดสังเวชใจที่อะไรจะลุ่มหลงงมงายกันได้ขนาดนี้ ที่มาที่ไปเป็นยังไงก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า จิตใดที่ไปฝังอยู่ในที่ว่าง ๆ ที่มีลักษณะให้พออาศัยได้นั่นคือจิตโอปปาติกะเร่ร่อน คือพวกตายก่อนอายุขัยแล้วไม่มีที่สิงสถิตย์ พวกที่ดีหน่อยก็ไปสถิตย์อยู่ที่วัด พวกเกเรไม่เอาศีลธรรมก็เร่ร่อนไปตามกลุ่มพวกที่มีจริตวิสัยเดียวกัน เช่นไปสิงอยู่ในบ่อนพนันสิงในผับบาร์ สิงตามบ้านร้าง และก็สิงตามตุ๊กตาที่มีลักษณะรูปทรงเหมือนมนุษย์นี่โดยเฉพาะที่แววตา พอมีคนเกิดไปอุ้มชูขึ้นมา ก็ติดใจ คนอุ้มชูจิตอ่อนหรือขาดการพิจารณาธรรม ถูกชี้นำเข้าก็ไปปักใจเชื่อแล้วก็มายกยอผีให้กลายเป็นเทพ ปรนเปรอบำเรอ เปิดประตูพาผีเข้ามาสิงอยู่ในบ้านและสิงครอบจิตตนโดยไม่รู้ตัว

ลักษณะและคุณที่ทำให้ได้เป็นเทพ

       
       จิตของมนุษย์ที่ตายแล้วจะเป็นเทพได้ต้องมีศีลห้า ทำความดี ทำบุญสุนทาน ดูแลบุพการี ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยใจจริงจึงได้เป็นเทพ และต้องตายตามอายุขัย หากตายก่อนอายุขัยก็ยังไม่ได้เป็นเทพต้องไปเป็นโอปปาติกะก่อนพอหมดอายุขัยจึงไปจุติเป็นเทพ ส่วนผู้ที่ไม่ได้ทำความดีเช่นนั้นมา หากติดอยู่ในสภาวะโอปปาติกะแล้ว พอถึงอายุขัยจริงก็มักไปเกิดในอบายภูมิ คือนรก เปรต อสูรกาย และสัตว์เดรัจฉาน ลักษณะของเทพเมื่อสัมผัสแล้วจิตจะโปร่งเบา ไม่รู้สึกหวาดหวั่น จิตใจจะตั้งมั่นและสงบ ไม่รู้สึกหวิวใจแบบแปลกๆ หรือที่เรียกว่า ขนพองสยองเกล้า วัตถุหรือรูปเคารพที่มีเทพมาอารักขาจะเป็นสิ่งที่สูงส่งและต้องตั้งอยู่อย่างควร เช่น พระพุทธรูปหรือรูปเคารพของบุคคลสำคัญ ภพภูมิของเทวดาในชั้นเทวโลกมีอยู่ 6 ชั้นตามพระไตรปิฎกล่างสุดคือจาตุมหาราชิกา อยู่ใกล้โลกมนุษย์ที่สุด อย่างน้อย ๆ ก็สถิตย์ใช้วิมานเป็นต้นไม้
       
       
ตุ๊กตาเทพต่างจากกุมารทองอย่างไร

       
       กุมารทองก็เป็นโอปปาติกะที่รอเวลาไปเกิดเหมือนกัน ไม่ได้เป็นเทพ
       
       
การเล่นตุ๊กตาธรรมดา ให้ผลต่างจากตุ๊กตาเทพอย่างไร

       
       ตุ๊กตาธรรมดาทั้งที่เด็กและผู้ใหญ่ถือครอง ไม่ได้มีการโยงถึงเรื่องวิญญาณ เป็นการครอบครองทั่วไปให้รู้สึกมีเพื่อน หรือบางคนเห็นตุ๊กตาแล้วก็รู้สึกจิตใจอ่อนโยน ไม่ผิดอะไร แต่กรณีเลี้ยงดูตุ๊กตาลูกเทพ เป็นความมืดบอดงมงายขนาดมีการบูชาสะสม เมื่อเต็มใจบำรุงบำเรอเอาจิตไปผูกด้วยตลอดเวลา ต่อไปจะถูกครอบงำและมัวเมามากขึ้น จิตจะตกเป็นทาสผี...ลองสังเกตดู แค่เห็นภาพจิตก็รู้สึกหวั่น ๆ แล้ว บางคนสะสมในห้องเป็นสิบเป็นร้อยตัวดูแล้วจิตก็ยิ่งหมองและสยอง หนักและมึน ซึ่งไม่ได้เกิดจากการมโนไปเอง แต่จิตไปสัมผัสความรู้สึกวังเวงจากการรวมตัวของผีที่อยู่ในห้องนั้น
       
       
จะรู้ได้อย่างไรว่าตุ๊กตาไหนมีจิตวิญญาณมาฝังอยู่

       
       หากไม่ได้ปฏิบัติธรรมหรือมีญาน ย่อมรู้ได้ยากแต่อย่างน้อยเมื่อเห็นตุ๊กตาที่มีผีมาอาศัยอยู่ จะรู้สึกแปลก ๆ หวั่น ๆ ไปจนขนพองสยองเกล้า ไม่ได้ให้ความรู้สึกเบาสบายใจหรือเกิดความมั่นคง จิตจะรู้สึกหนักมึน ๆ และถูกชี้นำได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อจ้องไปที่ดวงตาของตุ๊กตานั้น เพราะดวงตาเป็นสื่อที่มีพลังแทรกแซงจิตมากที่สุด หากเห็นตุ๊กตาใดแล้วรู้สึกหวั่นใจหรือกลัว ๆ ...ถอยดีกว่า
       
       
การหลงบูชาตุ๊กตาลูกเทพส่งผลอย่างไร?

       
       1. ทำให้พุทธศาสนาเสื่อม ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นชาวพุทธแต่กลับไม่คิดพิจารณา ไปบูชาสิ่งอันไม่ควรที่แสดงถึงความงมงาย ขาดเหตุผล เป็นแบบอย่างที่ไม่ดี
       
       2. ผู้งมงายเมื่อตายจากภูมินี้ไปแล้ว หากมีโอกาสได้เกิดเป็นมนุษย์ จะไปเกิดในที่ ๆ ไม่มีพระพุทธศาสนา เกิดเป็นคนป่าในบ้านป่าเมืองเถื่อน เพราะเมื่อสมัยเป็นมนุษย์ทางแห่งปัญญามีแต่ไม่รู้จักคิด
       
       3. หมิ่นสถานะความเป็นเทพ คือเอาสถานะของผู้มีคุณงามความดีที่ควรแก่การเคารพมาเป็นของเล่น ไม่เคารพผู้ที่พึงเคารพส่งผลเป็นอกุศล ผลที่ได้ต่อไปจะถูกกดสถานะอยู่เป็นนิจ การเคารพผู้ที่พึงเคารพคือบุญข้อ อปจายนมัย
       
       
แล้วจะเชื่ออาจารย์ได้อย่างไร?

       
       ดูจากวัตรปฏิบัติแม้จะเป็นฆราวาสแต่ปฏิบัติวิปัสสนามา 10 ปี ภาวนามากว่า 10,000 ชั่วโมง สอนวิปัสสนากรรมฐานสติปัฏฐานสี่ในสายเตโชวิปัสสนาแก่ศิษย์หลายพันคนให้หนักแน่นในศีลและมุ่งมั่นสู่นิพพาน ไม่ได้ให้สอนให้มัวเมาในกิน เกียรติ กาม ความโลภ โมโทสันทั้งปวง ไม่ให้ เซ่นเจ้าไหว้ผี เป็นพุทธช่างขอได้แต่ขอพรและความสำเร็จจากเทวดา แต่ไม่คิดเพียรแม้แต่จะรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ได้แต่เดินสายขอพรกับบูชาของขลัง
       
       อาจารย์เขียนเตือนไม่ใช่เพราะไล่ตามกระแส แต่เพราะกระแสนี้นำไปสู่ความมืดบอดที่ปกติก็มืดอยู่แล้ว อย่างน้อยก็ขอให้ผู้ที่เผลอไผลลืมคิดไป ได้ฉุกคิดขึ้นมาบ้าง ดีกว่าเห็นสิ่งใดไม่ชอบแล้วไม่กล้าหาญท้วงติง จะเป็นการปล่อยปละละเลย
       
       
การท้วงติงเป็นการก้าวก่ายสิทธิความเชื่อส่วนบุคคลหรือไม่?

       
       ความเชื่อก็เรื่องนึง สิทธิก็เรื่องนึง สิทธิส่วนบุคคลต้องอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องชอบธรรม ส่วนความเชื่อก็แล้วแต่ปัญญาของแต่ละคน ต่อเมื่อความเชื่อนี้นำไปสู่ความไม่ชอบทางธรรมจึงต้องเตือน หากยังชอบกันอยู่ ก็ต้องพร้อมที่จะรับผลที่ตามมาด้วยเพราะบุคคลสร้างเหตุไว้เช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น
       
       หมายเหตุ : เทวดาจะเป็นมิตรแก่ผู้ที่มีศีลมั่นคง เพราะผู้มีศีลกายทิพย์จะหอม เทวดาจึงอยากมาเกื้อกูลจะได้ร่วมสร้างบารมี เทวดาไม่ลดตัวลงมาเป็นของอุ้มเล่นของมุนษย์
       
       อ.อัจฉราวดี วงศ์สกล
       26 มกราคม 2558
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่