ขอเล่าประสบการณ์ของการไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลกรุงเทพให้ฟังหน่อยคะ เพื่อเป็นการเตือนหรือสะท้อนให้เหล่าบรรดาแม่ๆหรือผู้ที่อยู่ในช่วงของการตัดสินใจว่าจะฝากครรภ์ที่ไหนดี
ดิฉันเข้ารับรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าวคะ ตั้งแต่วันที่ดิฉันทราบว่าตัวเองตั้งครรภ์ละมีการรักษามาอย่างต่อเนื่อง ดิฉันตั้งครรภ์แฝดคะ จนกระทั่งถึงวันที่ดิฉัน32สัปดาห์ ดิฉันได้มีการตรวจอัลตร้าซาวน์ครบกำหนดตามนัดหมายทั่วไปเพื่อเป็นการติดตามการตั้งครรภ์ ในวันนั้นเองเป็นวันที่แรกที่คุณหมอเจ้าของไข้ของดิฉันได้บอกว่า ลูกของดิฉันลงมาต่ำนะ แต่ยังไม่เป็นไร เดี๋ยวหมอจะฉีดยากระตุ้นปอดเพื่อไว้ให้
ดิฉันได้รับยากระตุ้นปอดวันนั้นเป็นวันแรก ละต้องฉีดต่อเนื่องเป็นจำนวน4เข็ม จนกระทั่งถึงวันที่ดิฉันต้องได้รับยาเข็มสุดท้าย ดิฉันเดินทางไปรพ.ตามปกติค่ะเพื่อรับยาดังกล่าว แต่เมื่อไปถึงที่นั้นกับเกิดการตรวจดิฉันมากมายทั้งที่ดิฉันมากมาย ทั้งที่ดิฉันไปรพ.เพียงเพื่อรับยาเข็มสุดท้ายเท่านั้น แต่กลับโดนล้วงช่องคลอดเพื่อตรวจการเปิดตัวของมดลูก ดิฉันโดนล้วงถึง2ครั้ง เจ็บละทรมานมาก ดิฉันร้องเหมือนคนคลอดลูก จนสามีดิฉันรีบวิ่งมาดูคิดว่าดิฉันคลอด แต่แล้วยังไม่พอ หลังจากที่ทราบว่าดิฉันนั้นปากมดลูกยังไม่เปิด แต่เนื่องจากหัวเด็กลงต่ำ เลยฉีดยาให้ดิฉันเพิ่มเพื่อยับยั้งการคลอด ละได้มีการใส่สายสวนปัสสาวะ ดิฉันทั้งเจ็บ กังวลว่าเกิดอะไรขึ้นกับดิฉันมากมาย ทรมาน จนกระทั่งระหว่างให้ยา ดิฉันรู้สึกทันทีหลังจากใส่สายสวนปัสสาวะเสร็จ มีน้ำอุ่นๆไหลออกมาจากช่องคลอด ดิฉันบอกกับพยาบาลที่อยู่ข้างๆที่กำลังฉีดยาดิฉัน พยาบาลบอกว่า ดิฉันคิดไปเองไม่ชินกับสายสวนปัสสาสะ จนดิฉันรู้สึกอีกครั้งว่า น้ำไหลออกมาอีกแล้ว ดิฉันบอกกับพยาบาลอีกครั้ง พยาบสลยังคงไม่เชื่อ ดิฉันบอกเป็น 4-5รอบ จนพยาบาลยอมตรวจดู แล้วบอก สงสัยน้ำเดินแล้ว พยาบาลเลยแจ้งไปยังหมอ หมอเข้ามาแล้วพยาบาลใส่เครื่องมือเข้าไปในช่องคลอดดิฉันอีกครั้ง ดิฉันบอกเจ็บมากๆๆ ไม่เอาได้ไม เขาบอกนั้นเปลี่ยนขนาด หลังจากใส่เครื่องมือบอกหมอดิฉันว่า ไม่น่าใช่นะ จนพยาบาลเอาตัวเทสดังกล่าวให้ดู หมอเลยล้วงไปในช่องคลอดละบอกน้ำเดินอีก30นาที ผ่าคลอด
สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ดิฉันมีความรู้สึกว่า หัวเด็กลงต่ำ ดิฉันเองรู้สึกว่าการตรวจรักษาควรทะนุถนอมดิฉัน ไม่ใช่ตรวจหรือจะใส่จะทำอะไรให้คนไหนเจ็บแค่ไหนก็ได้ เนื่องจากผลที่ตามมามันทำให้มดลูกบีบตัว ยิ่งบีบตัว ยิ่งมีผลต่อการคลอด คุณหมอรูุ้ทุกอย่างแต่กลับเรื่องวิธีการรักษาแบบนี้
ดิฉันแคลงใจว่า นี่คือการที่คุณหมอนั้น เรื่องวิธีการรักษาที่ผิดพลาดรึเปล่าค่ะ ละอยู่ๆทำไมถึงต้องมาตรวจหรือทำอะไรมากมายขนาดนี้ทำไม
ต่อจากนั้นมา สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการคลอดก่อนกำหนด นั้นคือ ค่าใช้จ่ายที่ต้แงรับผิดชอบ มากมาย สุดแสนจะแพง เว่อร์ซะกว่ารพ.เอกชนด้วยกันบางแห่งอีกนะ ละยังได้รับการบริการที่ไม่ดีเลย จากคำพูดที่หมอพูดกับเรา เช่น เราแกล้งพูดกับลูกที่นอนในตู้อบ ว่าลูกกินเยอะๆนะ หมอยืนข้างๆบอก ไม่กินเยอะดีละ เดี๋ยวไส้เน่า แค่นี้ก็พอละ ดิฉันขอถามหน่อยเถอะว่า ความรู้สึกของผู้เป็นแม่ที่เห็นลูกตัวเองนอนอยู่ในตู้อบ เห็นสภาวะดังกล่าวนี้หรือ หมอที่บอกมี จิตวิทยาที่ดี หรือนี่หรือที่ใส่ใจความรู้สึกลูกค้า นี่เพียงแค่เหตุการณ์เดียวเท่านั้นที่ดิฉันเล่า การบริการแย่ พยาบาลพูดจาไม่ดี แม้กระทั่งหมอที่อยู่ในห้อง NICU อีกด้วย
จากความไม่ประทับใจมากมายพร้อมทั้งค่าใช้จ่ายที่สูงเกินควร ทำให้ดิฉันตัดสินใจ ย้ายโรงพยาบาล วันที่ย้ายหลังจากหมอที่อยู่ห้องลูกทราบก็ทำสีหน้าไม่พอใจ พูดจาไม่ดีใส่ดิฉันแล้ว ดิฉันนั่งรอการเงินเคลียร์ค่าใช้จ่ายตั้งแต่ช่วง11โมง จนได้รับบริการอีกที4โมงเย็นโดยการที่เราต้องเดินไปที่ห้องการเงินด้วยตัวเอง ระหว่างที่ดิฉันนั่งรอแล้วนั้นลูกดิฉันที่รอการเคลื่อนย้าย เด็กที่ร่างกายไม่แข็งแรงนอนในรถเข็น เพื่อรอการส่งตัว แต่ต้องมานั่งรอการเงิน ละเมื่อดิฉันบอกให้ปล่อยไปก่อน1คนได้ไหม เนื่องจากทางรพ.ปลายทางกำลังรอเคสอยู่รพ.ไม่สนใจอะไรเลยเพียงแค่ขอ่า จ่ายเงินมาให้ครบถึงไปได้ นี่หรือคือการบริการดุจญาติมิตร ที่นี่หรือรพ.ที่ได้รับมาตรฐานต่างๆมากมาย อยากทราบว่า เขาใช้อะไรเป็นการประเมินหรอค่ะเนี่ย
หลังจากนั้นนะค่ะ มีทางโรงพยาบาลติดต่อมาหาทางดิฉัน เพื่อนัดคุยกันคะ ขอไม่ให้ดิฉันเผยแพร่ข้อมูลไปไหนให้เขาไปพูดคุยกันก่อน ปรับความเข้าใจให้ตรงกัน ดิฉันก็ยินดี ทางรพ. ได้มีการเลื่อนนัดเราหลายรอบ จนครั้งล่าสุด ทางรพ. นัดไว้ 11 โมง แต่พอ 9.30 น. ได้รับสายจากทางรพ.ว่า ขอยกเลิกนัด ผู้บริหารมีธุระด่วน การทำแบบนี้นี่เป็นการให้เกียรติลูกค้าหรอ นี่หรอที่บอกใส่ใจลูกค้า แคร์ความรูสีก คุยเพียงถ่วงเวลาเพื่อไม่ให้เราเผยแพร่ข้อมูลคุณหรือปล่าว? เพื่อหวังว่าดิฉันจะได้รับการเข้าใจที่ตรงกัน คุณกลับมาทำให้เรายิ่งรู้สึกแย่เข้าไปอีก ดิฉันแจ้งแล้วด้วยว่า ดิฉันเดินทางมาจากต่างจังหวัด คุณพ่อคุณแม่มาด้วย จากต่างจังหวัดเลย คุณกลับไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ตอบปฏิเสธว่าขอโทษด้วยมีเหตุจริงๆมีธุระ เรื่องของดิฉันนี่ไม่เป็นธุระของทางรพ.เลยหรอค่ะ แล้วไม่เข้าใจมานัดกันทำไม เพื่อถ่วงเวลาหรอ เพื่อไม่ให้เผยแพร่ข้อมูลแค่นั้นหรอ นี่เป็นการแสดงความไม่จริงใจเข้าไปใหญ่ นี่หรอ โรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองมากมาย เขาใช้อะไรเป็นเกณฑ์วัดกันแน่ ดิฉันพอจะส่งเรื่องราวดังกล่าวเพื่อร้องเรียนสิทธิได้ที่ไหนบ้างค่ะ ใครพอมีความรู้ด้านนี้ช่วยดิฉันทีเถอะค่ะ รู้สึกแย่มากๆ แค่เรื่องลูกดิฉันที่ป่วยก็รู้สึกแย่มากแล้ว ยังมาโดนเพิกเฉยแบบนี้ โดนแบบนี้มากๆก็ต้องปกป้องตัวเอง ทำยังไงดีค่ะทุกคน ช่วยบอกที
ฝากครรภ์กับ รพ.กรุงเทพ กับการบริการที่ไม่ประทับใจ และความแคลงใจในการรักษา
ดิฉันเข้ารับรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าวคะ ตั้งแต่วันที่ดิฉันทราบว่าตัวเองตั้งครรภ์ละมีการรักษามาอย่างต่อเนื่อง ดิฉันตั้งครรภ์แฝดคะ จนกระทั่งถึงวันที่ดิฉัน32สัปดาห์ ดิฉันได้มีการตรวจอัลตร้าซาวน์ครบกำหนดตามนัดหมายทั่วไปเพื่อเป็นการติดตามการตั้งครรภ์ ในวันนั้นเองเป็นวันที่แรกที่คุณหมอเจ้าของไข้ของดิฉันได้บอกว่า ลูกของดิฉันลงมาต่ำนะ แต่ยังไม่เป็นไร เดี๋ยวหมอจะฉีดยากระตุ้นปอดเพื่อไว้ให้
ดิฉันได้รับยากระตุ้นปอดวันนั้นเป็นวันแรก ละต้องฉีดต่อเนื่องเป็นจำนวน4เข็ม จนกระทั่งถึงวันที่ดิฉันต้องได้รับยาเข็มสุดท้าย ดิฉันเดินทางไปรพ.ตามปกติค่ะเพื่อรับยาดังกล่าว แต่เมื่อไปถึงที่นั้นกับเกิดการตรวจดิฉันมากมายทั้งที่ดิฉันมากมาย ทั้งที่ดิฉันไปรพ.เพียงเพื่อรับยาเข็มสุดท้ายเท่านั้น แต่กลับโดนล้วงช่องคลอดเพื่อตรวจการเปิดตัวของมดลูก ดิฉันโดนล้วงถึง2ครั้ง เจ็บละทรมานมาก ดิฉันร้องเหมือนคนคลอดลูก จนสามีดิฉันรีบวิ่งมาดูคิดว่าดิฉันคลอด แต่แล้วยังไม่พอ หลังจากที่ทราบว่าดิฉันนั้นปากมดลูกยังไม่เปิด แต่เนื่องจากหัวเด็กลงต่ำ เลยฉีดยาให้ดิฉันเพิ่มเพื่อยับยั้งการคลอด ละได้มีการใส่สายสวนปัสสาวะ ดิฉันทั้งเจ็บ กังวลว่าเกิดอะไรขึ้นกับดิฉันมากมาย ทรมาน จนกระทั่งระหว่างให้ยา ดิฉันรู้สึกทันทีหลังจากใส่สายสวนปัสสาวะเสร็จ มีน้ำอุ่นๆไหลออกมาจากช่องคลอด ดิฉันบอกกับพยาบาลที่อยู่ข้างๆที่กำลังฉีดยาดิฉัน พยาบาลบอกว่า ดิฉันคิดไปเองไม่ชินกับสายสวนปัสสาสะ จนดิฉันรู้สึกอีกครั้งว่า น้ำไหลออกมาอีกแล้ว ดิฉันบอกกับพยาบาลอีกครั้ง พยาบสลยังคงไม่เชื่อ ดิฉันบอกเป็น 4-5รอบ จนพยาบาลยอมตรวจดู แล้วบอก สงสัยน้ำเดินแล้ว พยาบาลเลยแจ้งไปยังหมอ หมอเข้ามาแล้วพยาบาลใส่เครื่องมือเข้าไปในช่องคลอดดิฉันอีกครั้ง ดิฉันบอกเจ็บมากๆๆ ไม่เอาได้ไม เขาบอกนั้นเปลี่ยนขนาด หลังจากใส่เครื่องมือบอกหมอดิฉันว่า ไม่น่าใช่นะ จนพยาบาลเอาตัวเทสดังกล่าวให้ดู หมอเลยล้วงไปในช่องคลอดละบอกน้ำเดินอีก30นาที ผ่าคลอด
สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ดิฉันมีความรู้สึกว่า หัวเด็กลงต่ำ ดิฉันเองรู้สึกว่าการตรวจรักษาควรทะนุถนอมดิฉัน ไม่ใช่ตรวจหรือจะใส่จะทำอะไรให้คนไหนเจ็บแค่ไหนก็ได้ เนื่องจากผลที่ตามมามันทำให้มดลูกบีบตัว ยิ่งบีบตัว ยิ่งมีผลต่อการคลอด คุณหมอรูุ้ทุกอย่างแต่กลับเรื่องวิธีการรักษาแบบนี้
ดิฉันแคลงใจว่า นี่คือการที่คุณหมอนั้น เรื่องวิธีการรักษาที่ผิดพลาดรึเปล่าค่ะ ละอยู่ๆทำไมถึงต้องมาตรวจหรือทำอะไรมากมายขนาดนี้ทำไม
ต่อจากนั้นมา สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการคลอดก่อนกำหนด นั้นคือ ค่าใช้จ่ายที่ต้แงรับผิดชอบ มากมาย สุดแสนจะแพง เว่อร์ซะกว่ารพ.เอกชนด้วยกันบางแห่งอีกนะ ละยังได้รับการบริการที่ไม่ดีเลย จากคำพูดที่หมอพูดกับเรา เช่น เราแกล้งพูดกับลูกที่นอนในตู้อบ ว่าลูกกินเยอะๆนะ หมอยืนข้างๆบอก ไม่กินเยอะดีละ เดี๋ยวไส้เน่า แค่นี้ก็พอละ ดิฉันขอถามหน่อยเถอะว่า ความรู้สึกของผู้เป็นแม่ที่เห็นลูกตัวเองนอนอยู่ในตู้อบ เห็นสภาวะดังกล่าวนี้หรือ หมอที่บอกมี จิตวิทยาที่ดี หรือนี่หรือที่ใส่ใจความรู้สึกลูกค้า นี่เพียงแค่เหตุการณ์เดียวเท่านั้นที่ดิฉันเล่า การบริการแย่ พยาบาลพูดจาไม่ดี แม้กระทั่งหมอที่อยู่ในห้อง NICU อีกด้วย
จากความไม่ประทับใจมากมายพร้อมทั้งค่าใช้จ่ายที่สูงเกินควร ทำให้ดิฉันตัดสินใจ ย้ายโรงพยาบาล วันที่ย้ายหลังจากหมอที่อยู่ห้องลูกทราบก็ทำสีหน้าไม่พอใจ พูดจาไม่ดีใส่ดิฉันแล้ว ดิฉันนั่งรอการเงินเคลียร์ค่าใช้จ่ายตั้งแต่ช่วง11โมง จนได้รับบริการอีกที4โมงเย็นโดยการที่เราต้องเดินไปที่ห้องการเงินด้วยตัวเอง ระหว่างที่ดิฉันนั่งรอแล้วนั้นลูกดิฉันที่รอการเคลื่อนย้าย เด็กที่ร่างกายไม่แข็งแรงนอนในรถเข็น เพื่อรอการส่งตัว แต่ต้องมานั่งรอการเงิน ละเมื่อดิฉันบอกให้ปล่อยไปก่อน1คนได้ไหม เนื่องจากทางรพ.ปลายทางกำลังรอเคสอยู่รพ.ไม่สนใจอะไรเลยเพียงแค่ขอ่า จ่ายเงินมาให้ครบถึงไปได้ นี่หรือคือการบริการดุจญาติมิตร ที่นี่หรือรพ.ที่ได้รับมาตรฐานต่างๆมากมาย อยากทราบว่า เขาใช้อะไรเป็นการประเมินหรอค่ะเนี่ย
หลังจากนั้นนะค่ะ มีทางโรงพยาบาลติดต่อมาหาทางดิฉัน เพื่อนัดคุยกันคะ ขอไม่ให้ดิฉันเผยแพร่ข้อมูลไปไหนให้เขาไปพูดคุยกันก่อน ปรับความเข้าใจให้ตรงกัน ดิฉันก็ยินดี ทางรพ. ได้มีการเลื่อนนัดเราหลายรอบ จนครั้งล่าสุด ทางรพ. นัดไว้ 11 โมง แต่พอ 9.30 น. ได้รับสายจากทางรพ.ว่า ขอยกเลิกนัด ผู้บริหารมีธุระด่วน การทำแบบนี้นี่เป็นการให้เกียรติลูกค้าหรอ นี่หรอที่บอกใส่ใจลูกค้า แคร์ความรูสีก คุยเพียงถ่วงเวลาเพื่อไม่ให้เราเผยแพร่ข้อมูลคุณหรือปล่าว? เพื่อหวังว่าดิฉันจะได้รับการเข้าใจที่ตรงกัน คุณกลับมาทำให้เรายิ่งรู้สึกแย่เข้าไปอีก ดิฉันแจ้งแล้วด้วยว่า ดิฉันเดินทางมาจากต่างจังหวัด คุณพ่อคุณแม่มาด้วย จากต่างจังหวัดเลย คุณกลับไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ตอบปฏิเสธว่าขอโทษด้วยมีเหตุจริงๆมีธุระ เรื่องของดิฉันนี่ไม่เป็นธุระของทางรพ.เลยหรอค่ะ แล้วไม่เข้าใจมานัดกันทำไม เพื่อถ่วงเวลาหรอ เพื่อไม่ให้เผยแพร่ข้อมูลแค่นั้นหรอ นี่เป็นการแสดงความไม่จริงใจเข้าไปใหญ่ นี่หรอ โรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองมากมาย เขาใช้อะไรเป็นเกณฑ์วัดกันแน่ ดิฉันพอจะส่งเรื่องราวดังกล่าวเพื่อร้องเรียนสิทธิได้ที่ไหนบ้างค่ะ ใครพอมีความรู้ด้านนี้ช่วยดิฉันทีเถอะค่ะ รู้สึกแย่มากๆ แค่เรื่องลูกดิฉันที่ป่วยก็รู้สึกแย่มากแล้ว ยังมาโดนเพิกเฉยแบบนี้ โดนแบบนี้มากๆก็ต้องปกป้องตัวเอง ทำยังไงดีค่ะทุกคน ช่วยบอกที