ขออนุญาตตั้งนามสมมุติตัวการนะคะ
นาง ก. (ภรรยาน้อย)
นาง ข. (ภรรยาที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย)
นาย ค. (บุตรโดยชอบธรรม)
นาย ง. (บิดาและสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของ นาง ข.และนาย ค.) ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว
เรื่องราวเกิดขึ้นช่วงที่นาย ง. ป่วยหนัก เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายและเข้ารับการรักษาแอดมิดอยู่โรงพยาบาล นาง ก. ได้ไปธนาคารแห่งหนึ่ง และแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าขอเอกสารการเปิดบัญชี มีคนจะเปิดบัญชีซึ่งไม่สามารถมาเปิดเองได้ ทางธนาคารได้มอบเอกสารการเปิดบัญชีให้ นาง ก. นำกลับ และนาง ก. ได้นำเอกสารการเปิดบัญชีและมีลายมือชื่อเซ็นเรียบร้อยมามอบให้ทางธนาคาร พร้อมสำเนาบัตรประชาชน และเงินในการเปิดบัญชี 1000 บาท (ไม่ใช่ลายมือชื่อ นาย ง.) บัญชีถูกเปิดโดยที่ นาย ง. พักรักษาตัวอยู่ รพ.ในกรุงเทพ ส่วนธนาคารที่เปิดบัญชีอยู่ต่างจังหวัด และช่วงระยะเวลาที่ นาย ง.พักรักษาตัวอยู่ นาง ก.ไม่ได้ขึ้นมาเยี่ยมหรือดูแล เนื่องจาก นาย ง.อยู่ในความดูแลของนาย ค.และบุตรโดยชอบธรรม ต่อมา มีเช็คเข้าบัญชีที่ถูกลักลอบเปิด จำนวนเงิน ล้านกว่าๆ และถูกถอนออกไป และต่อมาในขณะที่ นาย ง. ป่วยหนักกลับมารักษาตัวในต่างจังหวัด ช่วงที่พักรักษาตัวอยู่ ICU รพ.ต่างจังหวัด (จังหวัดเดียวกับที่เปิดบัญชี) บัญชีเล่มนี้ถูกปิดและหลังใบปิดบัญชียังมีการกรอกข้อมูลมอบฉันทะด้านหลังสลิป ข้อมูลทุกอย่างบนใบถอนที่ใช้ปิดบัญชีไม่ใช่ลายมือ นาย ง. จากนั้นไม่นาน นาย ง. ได้เสียชีวิตลง
หลังจากที่ นาง ข.และนาย ค. เปิดพินัยกรรมเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ไปเช็คข้อมูลกับธนาคารเรื่องบัญชีเงินฝากต่างๆ ที่นอกเหนือจากที่ระบุในพินัยกรรม ทำให้ทราบเรื่องบัญชีเล่มนี้ และได้ขอดูเอกสารใบเปิดบัญชี สลิปถอนเงินและการปิดบัญชี ทำให้ นาง ข. และนาย ค. ทราบว่าผู้ตายไม่ได้เปิดบัญชีเอง และวันที่บัญชีถูกเปิดและถูกปิด ผู้ตายพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลทั้งหมด จึงเรียกร้องให้ทางธนาคารรับผิดชอบ และได้ปรึกษากับทนายความ ธนาคารบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ แจ้งว่าลูกค้ารายใหญ่สามารถให้เอกสารไปเซ็นได้ และวันที่เซ็นเอกสารพนักงานธนาคารอยู่ด้วย แต่จากการตรวจสอบลายมือแล้วไม่ตรงกับลายมือนาย ง. เนื่องจากนาย ง. เขียนภาษาจีน ส่วนเปิดบัญชีเขียนภาษาไทย และลายมือเหมือนกับลายมือ นาง ก. และผู้มาเปิดบัญชีและปิดบัญชีคือนาง ก.
ปรึกษาทนายความ ทนายความแจ้งว่าไม่สามารถฟ้องร้องได้ เนื่องจากช่วงที่เกิดเหตุการณ์ คือช่วงที่ผู้เสียหายยังมีชีวิตอยู่ นาง ข.และ นาย ค.ไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องแทนได้ หากจะฟ้องร้องจะต้องปรึกษากับอัยการ ไม่สามารถให้ทนายความฟ้องร้องได้
รบกวนถามผู้รู้คะ เนื่องจากช่วงที่เกิดเหตุการณ์ผู้เสียหายไม่ทราบว่ามีการเปิดบัญชี และผู้เสียหายไม่ได้เปิดบัญชีเอง ผู้เสียหายไม่ได้ลงลายมือชื่อเอง ธนาคารทำผิดระเบียบ จะมีวิธีการใดให้ธนาคารออกมารับผิดชอบได้บ้างคะ
ในพินัยกรรมที่เขียนขึ้นก็เขียนหลังจากที่บัญชีเล่มนี้ถูกเปิด และพินัยกรรมระบุให้ นาง ข.และนาย ค. เป็นผู้จัดการมรดกผู้ตาย และไม่ได้ลงรายละเอียดที่เป็นบัญชีเงินฝาก ทำให้ทายาทต้องสอบถามข้อมูลบัญชีเงินฝากจากแบงก์เอง และปกติผู้ตายมีบัญชีเงินฝากของธนาคารนี้อยู่แล้วเป็นชื่อผู้ตายคนเดียวสามารถนำเช็คเข้าได้เลย แต่มีการเปิดใหม่ลายมือชื่อใหม่เพื่อนำเช็คเข้า(เช็คตี account payee only) และถอนออกไม่ผู้ตายไม่ได้กระทำการเอง
รบกวนขอความรู้จากผู้รู้หน่อยคะ T T
อยากฟ้องร้องแบงก์เรื่องให้บุคคลอื่นลักลอบเปิดบัญชี ทนายดูท่าทางบ่ายเบี่ยงไม่ทำคดีให้
นาง ก. (ภรรยาน้อย)
นาง ข. (ภรรยาที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย)
นาย ค. (บุตรโดยชอบธรรม)
นาย ง. (บิดาและสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของ นาง ข.และนาย ค.) ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว
เรื่องราวเกิดขึ้นช่วงที่นาย ง. ป่วยหนัก เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายและเข้ารับการรักษาแอดมิดอยู่โรงพยาบาล นาง ก. ได้ไปธนาคารแห่งหนึ่ง และแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าขอเอกสารการเปิดบัญชี มีคนจะเปิดบัญชีซึ่งไม่สามารถมาเปิดเองได้ ทางธนาคารได้มอบเอกสารการเปิดบัญชีให้ นาง ก. นำกลับ และนาง ก. ได้นำเอกสารการเปิดบัญชีและมีลายมือชื่อเซ็นเรียบร้อยมามอบให้ทางธนาคาร พร้อมสำเนาบัตรประชาชน และเงินในการเปิดบัญชี 1000 บาท (ไม่ใช่ลายมือชื่อ นาย ง.) บัญชีถูกเปิดโดยที่ นาย ง. พักรักษาตัวอยู่ รพ.ในกรุงเทพ ส่วนธนาคารที่เปิดบัญชีอยู่ต่างจังหวัด และช่วงระยะเวลาที่ นาย ง.พักรักษาตัวอยู่ นาง ก.ไม่ได้ขึ้นมาเยี่ยมหรือดูแล เนื่องจาก นาย ง.อยู่ในความดูแลของนาย ค.และบุตรโดยชอบธรรม ต่อมา มีเช็คเข้าบัญชีที่ถูกลักลอบเปิด จำนวนเงิน ล้านกว่าๆ และถูกถอนออกไป และต่อมาในขณะที่ นาย ง. ป่วยหนักกลับมารักษาตัวในต่างจังหวัด ช่วงที่พักรักษาตัวอยู่ ICU รพ.ต่างจังหวัด (จังหวัดเดียวกับที่เปิดบัญชี) บัญชีเล่มนี้ถูกปิดและหลังใบปิดบัญชียังมีการกรอกข้อมูลมอบฉันทะด้านหลังสลิป ข้อมูลทุกอย่างบนใบถอนที่ใช้ปิดบัญชีไม่ใช่ลายมือ นาย ง. จากนั้นไม่นาน นาย ง. ได้เสียชีวิตลง
หลังจากที่ นาง ข.และนาย ค. เปิดพินัยกรรมเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ไปเช็คข้อมูลกับธนาคารเรื่องบัญชีเงินฝากต่างๆ ที่นอกเหนือจากที่ระบุในพินัยกรรม ทำให้ทราบเรื่องบัญชีเล่มนี้ และได้ขอดูเอกสารใบเปิดบัญชี สลิปถอนเงินและการปิดบัญชี ทำให้ นาง ข. และนาย ค. ทราบว่าผู้ตายไม่ได้เปิดบัญชีเอง และวันที่บัญชีถูกเปิดและถูกปิด ผู้ตายพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลทั้งหมด จึงเรียกร้องให้ทางธนาคารรับผิดชอบ และได้ปรึกษากับทนายความ ธนาคารบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ แจ้งว่าลูกค้ารายใหญ่สามารถให้เอกสารไปเซ็นได้ และวันที่เซ็นเอกสารพนักงานธนาคารอยู่ด้วย แต่จากการตรวจสอบลายมือแล้วไม่ตรงกับลายมือนาย ง. เนื่องจากนาย ง. เขียนภาษาจีน ส่วนเปิดบัญชีเขียนภาษาไทย และลายมือเหมือนกับลายมือ นาง ก. และผู้มาเปิดบัญชีและปิดบัญชีคือนาง ก.
ปรึกษาทนายความ ทนายความแจ้งว่าไม่สามารถฟ้องร้องได้ เนื่องจากช่วงที่เกิดเหตุการณ์ คือช่วงที่ผู้เสียหายยังมีชีวิตอยู่ นาง ข.และ นาย ค.ไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องแทนได้ หากจะฟ้องร้องจะต้องปรึกษากับอัยการ ไม่สามารถให้ทนายความฟ้องร้องได้
รบกวนถามผู้รู้คะ เนื่องจากช่วงที่เกิดเหตุการณ์ผู้เสียหายไม่ทราบว่ามีการเปิดบัญชี และผู้เสียหายไม่ได้เปิดบัญชีเอง ผู้เสียหายไม่ได้ลงลายมือชื่อเอง ธนาคารทำผิดระเบียบ จะมีวิธีการใดให้ธนาคารออกมารับผิดชอบได้บ้างคะ
ในพินัยกรรมที่เขียนขึ้นก็เขียนหลังจากที่บัญชีเล่มนี้ถูกเปิด และพินัยกรรมระบุให้ นาง ข.และนาย ค. เป็นผู้จัดการมรดกผู้ตาย และไม่ได้ลงรายละเอียดที่เป็นบัญชีเงินฝาก ทำให้ทายาทต้องสอบถามข้อมูลบัญชีเงินฝากจากแบงก์เอง และปกติผู้ตายมีบัญชีเงินฝากของธนาคารนี้อยู่แล้วเป็นชื่อผู้ตายคนเดียวสามารถนำเช็คเข้าได้เลย แต่มีการเปิดใหม่ลายมือชื่อใหม่เพื่อนำเช็คเข้า(เช็คตี account payee only) และถอนออกไม่ผู้ตายไม่ได้กระทำการเอง
รบกวนขอความรู้จากผู้รู้หน่อยคะ T T