เสียดายที่ตายก่อน

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะพวกเราเด็กนักเรียนจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง วันนี้จะมาเล่าเรื่องเรื่องหนึ่งให้ชาวพันทิปได้อ่านกันนะคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตของวัยรุ่นในปัจจุบันหรือไม่ว่าจะวัยใดก็แล้วแต่ ไปชมกันเลยค่ะ
มีครอบครับอยู่ครอบครัวหนึ่ง สมาชิกในครอบครับมี แม่ พี่สาว น้องสาว อาศัยอยู่ในบ้านสามคน พี่สาวชื่อพรีม ส่วนน้องสาวชื่อพิงค์

  พรีมผู้ที่เป็นพี่สาวชอบจุกจิกจู้จี้น้องสาวอยู่เรื่อย แต่จริงๆแล้วก็เพราะเป็นห่วงน้องสาวเช่นเดียวกับแม่ เพราะพิงค์กำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่น แต่น้องกลับคิดว่าพี่ชอบบ่นอยู่เรื่อย น่ารำคาญ

จนพิงค์เริ่มรำคาญและรู้สึกเบื่อที่บ้านมากๆ เลยไม่ชอบอยู่บ้าน และชอบไปอยู่กับเพื่อนตามประสาวัยรุ่น พิงค์เป็นคนที่ติดเพื่อนมาก เชื่อเพื่อน จึงทำให้พิงค์ ทำตัวเหลวไหลขึ้นทุกวัน เช่น โดดเรียน ลองสิ่งเสพติด ไม่ตั้งใจเรียน

ส่วนแม่และพี่พรีมก็จะนั่งรอพิงค์เลิกเรียน เพื่อที่จะกินข้าวด้วยกันทุกวัน แต่พิงค์ก็กลับบ้านดึกทุกวัน

จนหลายๆครั้งแม่ต้องทะเลาะกับพิงค์ แม่จึงหาวิธีเพื่อที่จะให้พิงค์ไม่ออกไปไหน จึงขังพิงค์ไว้ในห้องไม่ให้ออกไปไหน

ในขณะนั้น มายซึ่งเป็นเพื่อนในกลุ่มของพิงค์ก็ได้ทักแชทมาในกลุ่มไลน์ เพื่อที่จะชวนออกไปปาร์ตี้กัน พิงค์จึงตอบตกลง แล้วก็หนีออกจากบ้านในคืนนั้น

และในคืนนั้นพิงค์ก็สนุกสนานกับเพื่อนๆ และได้พบรักกับเพื่อนของเพื่อน ทั้งสองมีท่าทีว่าจะชอบคอกัน

  จนกระทั่งพิงค์และผู้ชายคนนั้นเมาจนหลับไปตอนเช้า แล้วก็ไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นแต่รู้ตัวอีกทีพิงค์ก็นอนอยู่บนเตียงกับชายคนนั้น พิงค์จึงรีบซื้อยาคุมกันเนิดป้องกันไว้ พิงค์จึงรีบกลับบ้าน ก็เจอแม่ที่นั่งรอพิงค์อยู่

แต่พิงค์กลับไม่สนใจ แล้วก็เข้าห้องน้ำไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พิงค์ได้วางกระเป๋าไว้หน้าห้องน้ำ แม่จึงไปค้นกระเป๋าพิงค์ก็พบยาคุมกำเนิดอยู่ในกระเป๋าพิงค์


พอพิงค์ออกจากห้องน้ำก็ได้เจอกับแม่พร้อมกับยาคุมในมือ แม่จึงถามพิงค์ว่า
แม่:เมื่อคืนไปไหนมา?
พิงค์:แม่มาค้นของหนูทำไม!?
แม่:แล้วเมื่อคืนไปไหนมา ไปทำอะไรมา??!!
พิงค์:แม่หนูโตแล้วนะ อย่ามายุ่งกับหนู หนูอยากมีชีวิตอิสระเหมือนกับคนอื่นแม่อย่ามายุ่งได้มั๊ย!!
พิงค์ก็ขึ้นห้องพร้อมกับปิดประตูเสียงดัง พิงค์รู้สึกเครียดจึงออกจากบ้านไปหาเพื่อน เพื่อนจึงพาพิงค์ใช้สารเสพติดต่างๆ เมื่อพิงค์ได้ลองจึงรู้สึกดีขึ้น

พี่พรีมเมื่อรู้ความจริงว่าน้องสูบบุหรี่และยุ่งกับสิ่งเสพติดจึงตักเตือนน้องสาวของตน
พรีม:พิงค์ สูบบุหรี่เหรอ?
พิงค์:พี่พรีมมายุ่งอะไรกับพิงค์ พิงค์จะทำอะไรมันก็เรื่องของพิงค์
พรีม:พี่แค่เป็นห่วงแก ไม่อยากให้แกทำตัวแบบนี้ แกเป็นผู้หญิงนะ และก็สงสารแม่บ้าง พี่หวังดีนะ ถ้าวันนึงแกไม่มีพี่กับแม่ แกจะเป็นยังไง
พิงค์:จบยัง? ออกไปจากห้องพิงค์ได้และ

จากนั้นพิงค์ก็ปิดประตูพร้อมกับให้พี่พรีมออกไป หลังจากวันนั้นพรีมก็เริ่มตักเตือนน้องน้อยลง พิงค์จึง ติดเพื่อน ยุ่งกับสิ่งเสพติด ไปเที่ยว โดดเรียน ทำตัวเหลวไหลมากขึ้นทุกวัน พรีมจะตักเตือนเท่าไหร่พิงค์ก็ไม่ฟัง

เช้าวันต่อมา แม่และพี่พรีมรอพิงค์มากินข้าวเช้าตามปกติ พิงค์ก็ลงมาจากบ้านเพื่อที่จะไปโรงเรียนก็เจอแม่และพี่พรีมนั่งรอกินข้าว แม่ได้เอ่ยปากชวนพิงค์กินข้าว พิงค์จึงตอบกลับไปว่า "เดี๋ยวพิงค์ไปกินที่โรงเรียนกลับเพื่อน กินข้าวกับแม่กินเมื่อไหร่ก็ได้"

ผู้เป็นแม่ได้ยินดังนั้นจึงรู้สึกเสียใจอย่างมาก พรีมคอยก็ปลอบแม่อยู่ข้างๆ

พอถึงเวลาเย็นคุณครูได้เชิญผู้ปกครองมาโรงเรียนและยื่นใบเชิญลาออกให้กับพิงค์ เพราะพฤติกรรมต่างๆของพิงค์ที่ทำผิดกฎของโรงเรียนมามาก

ตกเย็นพิงค์ก็ได้กลับบ้านดึกตามปกติ เห็นแม่ซึ้งนั่งรอกินข้าว
แม่:พิงค์ต้องตั้งใจเรียน อย่าดื้อกับพี่พรีมนะ
พิงค์:รู้หน่า แล้วอยู่ดีๆทำไมมาพูดแบบนี้
แม่:ไม่มีอะไรหรอก แม่ก็ห่วงอนาคตหนู เผื่อวันไหนแม่ไม่อยู่ หนูกับพรีมจะได้   อยู่ดูแลกัน
พิงค์:แม่พูดเหมือนจะไปไหนอะ
แม่:แม่ก็อยู่นี่ไง ไม่ได้ไปไหนหรอก

ในขณะที่แม่กำลังคุยกับพิงค์ พี่พรีมก็ได้แอบไปร้องไห้ เพราะทราบความจริงว่า แม่เป็นโรคหัวใจวายแต่แม่สั่งพรีมว่าห้ามบอกพิงค์เป็นเด็ดขาดเพราะไม่อยากให้พิงค์มาเครียดหรือลำบากใจกับแม่

หลายวันต่อมา ในขณะที่พิงค์อยู่บ้านเพื่อนก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ซึ่งเป็นสายจากพี่พรีม
พิงค์:โทรมามีอะไร
พรีม:พิงค์อยู่ไหน (พูดไปพร้อมกับเสียงร้องไห้)
พิงค์:อยู่บ้านเพื่อน และพี่พรีมเป็นไรอะไรเนี้ย ร้องไห้ทำไม
พรีม:แม่หัวใจวายตอนนี้อยู่โรงพยาบาล

พิงค์ได้ยินดังนั้นจึงรีบวางโทรศัพท์แล้วขับรถจักรยานยนต์ ออกไปเพื่อที่จะไปโรงพยาบาล

ในขณะนั้นพิงค์รู้สึกใจคอไม่ดี และขาดสติในการขับรถโดยไม่นึกถึงความปลอดภัยของตนพิงค์จึงได้ประสบอุบัติเหตุในระหว่างขับรถ โดยรถกระบะชนประสานกับรถจักรยานยนต์ของพิงค์

ในขณะที่พิงค์กำลังจะสิ้นลมหายใจ พิงค์ได้นึกถึงตอนที่พิงค์ยังมีชีวิตอยู่ ว่าตนได้ทำกรรมอะไรไว้ นึกเสียดายกับเรื่องราวที่ผ่านมา ว่าทำไมตนถึงไม่ทำตัวให้ดีกว่านี้ พิงค์รู้สึกว่าตนยังไม่อยากที่จะตาย และนึกในใจว่า "แม่ พี่พรีม พิงค์รู้แล้วว่าทำไมแม่กับพี่พพรีมถึงบ่นดุด่าว่าพิงค์ขนาดนี้ ถ้าตอนที่มีชีวิตพิงค์ใส่ใจและทำตัวดี พิงค์จะไม่เสียดายเลย หนูขอโทษแม่ พี่พรีมได้ยินมั๊ย หนูขอโทษ"

ในขณะที่คุณยังมีชีวิต คุณควรใช้ชีวิตที่มีค่านี้ อยู่อย่างมีสติ จะได้ไม่ต้องมาเสียใจหรือรู้สึกเสียดายว่าในตอนที่มีชีวิตทำไมคุณถึงไม่ทำ เริ่มทำความดีตั้งแต่ตอนนี้ในตอนที่คุณยังมีลมใจหายใจอยู่

หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่