ผมเผลอใจให้ผู้จัดการ อยากใครรู้เคยเจอแบบนี้กันหรือบ้าว

ณ โรงงานผลิตกระติกน้ำร้อนแถวๆเขตปางปะกงน้ำคงขึ้นๆลงๆแห่งหนึ่ง  เวลาเที่ยงคืนกว่าๆ  ผมกำลังเดินตรวจทั้งงานทั้งงานพนักงานในลายนรก! เอ๊ยพูดผิดครับ  ลายการผลิตธรรมดาๆต่างหาก  แต่แน่นอนว่างานต้องได้ยอดตามที่ตั้งเป้าหมายไว้  มิฉะนั้นทั้งเจ้านายทั้งลูกน้องจะต้องยิ้มทั้งน้ำตาโบกมือลาโรงแห่งนี้เป็นแน่แท้  ส่วนตำแหน่งตอนนี้ของผมคือ ว่าที่ผู้จัดการแผนกครับ สาเหตุก็เนื่องจากว่า ผู้จัดการคนเดิมขอลาออกไป
ในวันเลี้ยงส่งในห้องคาราโอเกะแถวๆปางปะกง แกคงจะอัดอันตันใจเลยแหกปากร้องเพลงของพี่แอดคาราบาว
   ตอนกำลังเมาได้ที่ว่า “ผมอยู่มายยยไหว ยางไงก็ออกกกก ออก! ออก! ออก! ” ทั้งๆที่ท่านประธานก็นั่งอยู่ในห้องด้วย อึ้งกิมกี้ครับงานนี้ หึๆๆ
แล้วอีกอย่างหนึ่งครับ ผู้จัดการแผนกนี้เปลี่ยนมาแล้วสามคน แต่ผมยังคงเป็นแค่ผู้ช่วยผู้จัดการอยู่ดี มันน่าน้อยใจอยู่นิดๆนะ เจ้านายบอกแค่ว่า เดี่ยวเดือนหน้าจะมีผู้จัดการคนใหม่เข้ามา
ในขณะที่เดินตรวจงานอยู่ในลายผลิตกระติกน้ำน้ำร้อน ผมก็สะดุดตากับพนักงานผู้หญิงในชุดฟอร์มคนหนึ่งนั่งอยู่ในลาย เธอกำลังนั่งสัปหงกอยู่สงสัยเป็นพนักงานใหม่ละครับ ท่าทางจะยังไม่ชินกับการทำงานในโรงงานแล้วทำกะดึก ตอนที่ผมเข้ามาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการใหม่ๆแค่ทำโอทีถึงเที่ยงก็ตาแทบไม่ลืมแล้วครับ นับประสาอะไรกับคนนอนตีสามตีสี่ อย่างนี้ต้องไปเปลี่ยนให้เข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาหน่อยก็แล้วกัน  
ปัง! เสียงผมเคาะกระติกน้ำร้อนเข้าบนโต๊ะอย่างแรง บนโต๊ะ พร้อมกับเสียงตะคอกดังๆ
“ทำอะไรน่ะ หึ๊! ”  พนักคนนั้นสะดุ้งตัวโหยง นี่เป็นวิธีปลุกและต้อนรับน้องใหม่ของผมละครับ
เธอหันหน้ามาทางต้นเสียงก็คือผม และเมื่อนั้นผมราวกับถูกมนต์สะกดเพียงแค่ได้เห็นเสี้ยวหน้าของเธอที่หันมา
อึม เออ นี่คนหรือนางฟ้ากันวะเนี่ย สวยเหมือนดาราหนังจีน ญี่ปุ่น อะไรประมาณนั้น
ไอ้ก๊วยซวยแล้ว พูดซิ พูดซิ อย่าเจอคนสวยแล้วมั่วแต่ตะลึงซิ ผมด่าตัวเองในใจ
“เออๆ คือว่า คือว่า น้องน่ะ! พนักงานใหม่เหรอ” ผมทำเสียงเข้มใส่
“ค่ะ”  เธอตอบเสียงสั่นๆ หน้าถอดสี
“ตั้งใจทำงานหน่อย ผมไม่ได้จ้างคุณให้มาหลับนะ!” ผมตะเบ้งแข็ง ทำหน้าโหดใส่  
ว่าแล้วก็รีบๆ จ้วงเดินออกมาเข้าห้องน้ำส่องกระส่องทันที ใจยังเต้นตึกตักๆ นึกอะไรไม่ออกซักอย่างเลยครับ นึกออกแต่ว่า คนอะไรน่ารักมันสะบั่นหันแหลกขนาดนี้ หึๆๆไอ้ก๊วยโว๊ยยย(ชื่อผมเอง)หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้เจอเธออีกเลยจนกระทั้ง
ราวๆสองอาทิตย์ถัดมา คืนนี้ผมต้องมาตรวจกะดึกอีกแล้วทั้งๆไม่อยากผมไม่ได้อยากจะทำมันเลยไอ้โอทีเนี่ย แต่ก็ต้องทำเพราะถ้ายอดงานตกเดี่ยวอีกหน่อยผมก็ต้องคอตกตามยอมด้วยครับ หึๆๆ ถ้าใครเคยทำงานตามโรงงานแล้วเป็นพนักงานกะจะรู้ว่า กะดึกมันทรมานแค่ครับเวลาตีสองตีสามชาวบ้านเค้าหลับเค้านอนกัน ไอ้เราต้องทำงานกันขี้แตกขี้แตนขอบตาดำเป็นหมีเพนด้า ทำไม่ถูกใจยอดไม่ได้เจ้านายก็ด่านี่แหละชีวิตโรงงานครับ  พูดแล้วมันก็ท้อ ตอนเดินตรวจงานตาแทบจะไม่ลืมแล้ว พอตรวจงานเสร็จเปิดประตูห้องทำงานได้ตรงไปโต๊ะทำงานของผมเองแล้วก็ฟลุ๊บหลับมันบนโต๊ะนี่แหละ แอร์เย็นฉ่ำสบายใจขึ้นมาหน่อย
    ในขณะที่กำลังจะเคลิ้มๆอยู่ จู๋ก็มีเสียง ปัง! ดังอยู่ตรงหน้าผมจนต้องสะดุ้ง เงยหน้าก็เห็นน้องพนักงาน(น่ารัก)คนเดิมที่ผมว่าเธอเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว ยืนอยู่ตรงหน้าชักสีหน้าไม่พอใจให้ผม เธอเอายอดการผลิตมาให้ผม ทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่ของเธอพนักงานใหม่ แต่ผมก็ไม่ได้นึกสงสัยอะไรเพราะปกติยอดรายชั่วโมงจะมีพนักงานเอามาให้อยู่แล้ว
“ยอดรายชั่วโมงค่ะ เป็นหัวหน้า เค้าให้ในเวลางานได้ด้วยเหรอค่ะพี่” เธอพูดเสียงเรียบ แถมสีหน้ายังเรียบๆอีก แต่ช่างแทงใจผมเสียกระไร จะแอบหลับทั้งทียังมีคนมาเห็นอีก
“อยากนอนแบบพี่ละซิเรา ฮ่าๆๆ” ผมคุมอารมณ์ตัวเองนิดๆโดยเฉพาะกับผู้หญิง แล้วก็น่ารักด้วย
“อ้อ ไม่หรอกค่ะสบายเกินไป” แล้วเธอก็เดินสะบัดหันกลับออกประตูไป
โดนลูกน้องเอาคืน เหมือนโดนตบหน้าผมหายง่วงทันทีเกือบจะโกรธแล้วด้วยซ้ำไป อาจเป็นเพราะยังเธอไม่รู้ว่า การเป็นหัวหน้านั้นก็ต้องทำงานหนักพอๆกับพนักงานเหมือนกัน เพียงแต่ลักษณะงานไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง
หลังจากนั้นผมก็สำรวจประวัติของน้องพนักงานคนสวยคนนี้ รู้แค่ว่าชื่อข้าวเท่านั้นอายุห่างประมาณสองสามปี(ผมอายุ25) ผมยอมรับว่าเธอสวยน่ารักถูกใจชายหลายๆคนและผมก็หนึ่งในนั้น หน้าตาน่ารัก ปากนิดจมูกหน่อย ผิวพรรณดีขาวหยั่งกล้วยแม่เจ้าประคุณ ซึ่งก็ไม่คิดว่ามีพนักงานโรงงานที่สวยแบบนี้อยู่ด้วย ส่วนใหญ่จะมีก็แต่พวกป้าๆปากจัดๆทั้งหลายที่คอยแอบซุบซฺบนินทาว่าหัวหน้าอย่างผมแล้วก็พูดมันได้ทั้งวัน เห็นแล้วทำให้นึกถึงอนาคตว่า ถ้าผมมีเมียแล้วบ่นแบบพวกป้าๆขอโสดจนตายซะดีกว่าครับ
เวลารับน้องใหม่แล้วโทษฐานมาลูบคมว่าที่ว่าที่ผู้จัดการอย่างผม
หลังจากนั้นผมก็รอให้เธอเปลี่ยนมาอยู่กะกลางวัน เพื่อที่ผมจะได้แกล้งเธอทำมาเรื่อยๆครับหึๆ
“เดี่ยวทำงานเสร็จแล้ว ขนถุงขยะใส่พาเรดแล้วลากไปทิ้งหลังโรงงาน ช่วยพี่หน่อยนะ”
ปกติแล้วผู้ชายเค้าทำกันน่ะครับ แถมแต่ละถุงหนักสองสามกิโลแล้วมีเป็นสิบๆถุง หลังเลิกงานเธอต้องขนขยะจำพวกกระติกน้ำร้อนที่เสียใส่พาเรด เอาไปทิ้ง ตรงจุดทิ้งขยะหลังโรงงานหลายร้อยเมตรอยู่เป็นอาทิตย์ ผมให้สิทธิพิเศษกับเธอเผื่อจะได้ไม่ต้องมีเวลามาจ้องจับผิดผู้ช่วยผู้จัดการอย่างผม ไม่อยากแบ่งบันชาวบ้านดีนัก อิๆๆ และก่อนเข้าทำงานผมจะให้เธอมาปัดกวาดเช็ดถูในไลน์การผลิต ซึ้งเธอก็ทำได้เพียงแค่มองค้อนๆใส่ผมเท่านั้นแหละครับ ฮ่าๆๆ
    พออยู่นานๆไปผมก็พอรู้นิสัยเธอ เพราะผมต้องเดินไปตรวจงานมันอยู่ทุกสองสามชั่วโมง จึงพอรู้บ้าง ว่าน้องข้าวคนนี้เป็นที่นิสิยดีทีเดี่ยว ชอบเรียนรู้งาน แต่ติดตรงที่ว่าเธอไม่ดีกับอยู่ผมคนเดียว ก็แน่ละผมใช้เธอซะขนาดนั้น
1 เดือนให้หลัง
“เดี่ยวพี่ก๊วยไปช่วย พี่ทองยกถุงหน่อยนะค่ะ” เสียงน้องข้าวพูดกับผมหวานเจี๊ยบ
“ครับผม” ผมปันหน้าปันตาพูดเต็มปากเต็มคำ
มิฉะนั้นแล้วผมต้องออกจากโรงงานนี้แน่ๆครับ ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาเป็นผู้จัดการแผนกนี้ หลังจากเดือนแรกศึกษางานด้วยการเป็นพนักงานไปก่อน เพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน วันแรกของผู้จัดการน้องข้าวที่ผมคอยแกล้งอยู่เสมอตอนเป็นพนักงาน ก็เด้งไปสามคน ส่วนตัวผมเหรอครับ โดนผู้บริหารเรียกไปตักเตือนโทษฐานแอบหลับในเวลางาน แต่โชคยังดีเพราะถูกเห็นใจว่าผมทำโอทีถึงเที่ยงคืนต้องมีง่วงกันบ้างก็เลยรอดตัวไปครับ
ตั้งแต่ที่น้องข้าวมาเป็นเจ้านายผม การงานที่เคยอยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำสบาย ก็กลายมาเป็นร้อนใจอุราครับ ทำไมน่ะเหรอเพราะผู้จัดการคนใหม่ใช้ผมไม่เว้นแต่ละวัน
“พี่ก๊วยค่ะ รบกวนไปซ้อมเครื่องแทนช่างหน่อยค่ะ ถ้ารอช่างก็อีกนาน”
“พี่ก๊วยค่ะ ทำไมวันนี้ยอดมันไม่ได้ตามเป้าล่ะค่ะ” เธอจ้องหน้าคาดคั่นผม
“พี่ก๊วยค่ะ ช่วยพนักงานในไลน์หน่อยวันนี้คนไม่พอ”
    “พี่ก๊วยค่ะ พี่ก๊วยค่ะ พี่ก๊วยค่ะ ผมละขยาดคำว่าพี่ก๊วยค่ะจริงๆครับ
เธอเอาคืนผมทุกอย่าง
กระทั้งวันหนึ่งก็พลิกผัน.......
วันนี้เราตรวจงานกะดึก เกือบๆจะเที่ยงคืนแล้วครับในลายการผลิตสุดเดือด ในขณะที่ผมเอายอด    การผลิตมาให้เธอในห้องทำงาน และผมก็แสยะยิ้มในทันที เมื่อยัยข้าวผู้จัดการคนสวยหลับแอบฟลุ๊บหลับอยู่บนโต๊ะ
มองๆไปก็สวยเหมือนกันนะ เธอถอดเสื้อคลุมชั้นนอกออก ตอนเหลือแค่เสื้อตัวสีขาวๆบางๆ
อย่าลืมนะว่าผมเป็นผู้ชาย
ตอนนี้ในห้องมีแค่เราสองคนเท่านั้น ผมขยับตัวอย่างช้าๆ หัวใจแอบสั่นอยู่เหมือนกัน กลัวเธอจะรู้ตัว ใกล้โต๊ะเธอมาเรื่อยๆ เรื่อยๆ และเรื่อยๆ จนในสุดผมก็ยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะเธออย่างเงียบเชียบ ผมล้วงเข้าหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าเสื้อขึ้นมา เพนกล้องไปยังเธอที่หลับอยู่ไม่รู้เรื่องอะไร แล้วผมทำบางอย่างกับเธอ.........
คุณคิดว่าผมจะทำอะไรเธอเหรอครับ ฮ่าๆๆหึๆๆ
ปัง! เสียงผมกระแทกแฟ้มเหล็กตราช้างเข้ากับโต๊ะอย่างแรง
ได้เวลาเอาคืนเธอแล้วครับ เมื่อเดือนก่อนอยากแกล้งผมดีนัก คนจะหลับจะนอนแกล้งกันได้ไง ผมหาโอกาสที่จะเอาคืนผู้จัดการมานานแล้ว โดนเธอรังแกผมมาตลอดครั้งนี้แหละ ไอ้ก๊วยมมีรูปคนอู้งานไปส่งฝ่ายบุคคลแล้วโว๊ยหึๆๆ
แต่ผิดคาด ผมนึกว่าเธอจะตกใจร้องวี๊ดวายตามประสาผู้หญิง เธอกลับไม่หื้ออือสงสัยคงจะง่วงจริงๆนั้นแหละ เพราะเธอก็ทำงานหนักไม่น้อยเหมือนกันแต่ผมโดนเธอใช้งานกว่าอีกละครับ ผมแอบสงสารเธออยู่นิดๆที่ผ่านนิสัยเธอดีมากเลยทีเดียวเพียงแต่ใช้เราสองเหมือนไม่ถูกชะตาก็เท่านนั้นเอง ก็เลยปล่อยให้ผู้จัดการจัดหลับไปก่อนส่วนงานของเธอผมทำให้ไปก่อน พอเห็นเธอหลับแล้วผมกลับรู้สึกแปลกๆขึ้นมาทันที กลับอยากจะดูแลเธอขึ้นมา แตกต่างจากเวลาไม่หลับที่เฉดหัวใช้ผมยิ่งกว่าพนักทั่วไปเสียอีก
เที่ยงคืนหมดเวลาทำโอทีแล้ว ผมเข้ามาห้องในงานยังเห็นเธอหลับอยู่อีก จะปล่อยผู้จัดการนอนทิ้งไว้ จะก็ยังไงเสียอีกหนึ่งก็แอบๆห่วงเธอเหมือนกัน
“ข้าวๆ ไปๆหมดเวลางานแล้ว” ไม่มีสัญณาณตอบรับกลับมา คราวนี้ผมก็เลยถือวิสาสะเข้าไปสะกิดไหล่เธอเบาๆ
อืม.... เนื้อนิ่มจัง เอ้ยไม่ใช้ครับไม่ใช้แบบนั้นแต่ผมก็ไม่ปฏิเสธว่าผมคิดแบบนั้น
ได้ผลครับ เธอขยับตัวเล็กน้อยก่อนที่จะงัวเงียๆขึ้นมา ดูเธอสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไรผมที่ยืนอยู่ตรงหน้าจึงถือวิสาสะอีกรอบเอามือเตะหน้าผากเธอ ซึ่งมันร้อนกว่าปกติมาก
“ไข้เป็นเหรอ” ผมถามในขณะมือยังเตะหน้าผากเธออยู่ ถึงเธอพึ่งตื่นนอนดูตกใจเล็กน้อยที่ผมทำแบบนี้กับเธอ ผมรีบชักมือออกมิฉะนั้นเดี่ยวจะโดนหาว่าโรคจิตเอา
“ไหนค่ะยอด” เธอถามแต่เรื่องงาน
“ฮ่าๆๆ ยัยข้าวโดนไข้แ-ก” ผมพูดลอยๆ
“รอแปป เดี่ยวพี่หายามาให้ นอนๆไปก่อน”  ฉากนี้ออกจะเหมือนในหนังนิดๆ อย่าเพิ่งอ้วกนะครับ ผมเดินไปหยิบเสื้อคลุมที่คลุมอยู่เก้าอี้ผมแล้วเอาไปคลุมไหล่ให้เธอ ดูเธอตกใจเข้าไปอีก จากนั้นชงกาแฟหยิบยาแก้ไข้ที่มีอยู่ลิ้นชักของผมเอามาวางไว้บนโต๊ะเธอ
เธอจ้องผมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลย ทำเอาผมประหม่าอยู่เหมือนกัน ยัยข้าวนะยัยข้าวจะจ้องมันทำไววะปกติคอยแต่จ้องจะด่ากรูอย่างเดียว ที่ประหม่าอาจเป็นเพราะเธอไม่เคยยิ้มให้ผมเลยต่างหาก
“พี่ก๊วยค่ะ” เธอเสียงอ่อนลงกว่าทุกทีที่เคยพูดกับผม
“ครับ” ผมตอบเสียงเข้ม
“พี่ให้ข้าวนอน แต่พี่ชงกาแฟให้ข้าวนี่นะ แถมให้กินกาแฟกับยาด้วย”
“555 เออๆพี่ลืม” ปกติไม่ใช่สิ ผมไม่ปกติเหมือนคนอื่นก็ตรงที่ชอบกินแฟกับยาแก้ต่างๆนี่แหละครับ
โธ่ แอบแปล๊บๆในใจเหมือนกัน ไอ้เราก็นึกว่าเธอปลื้ม ที่แท้ยิ้มให้กับความโง่ของกรูนี่เอง แต่คืนนี้ผมก็ได้ไปส่งที่เธอบ้านครับ
และสุดท้ายผมก็แอบหลงรักน้องข้าว ผู้จัดการของผม
และท้ายที่สุด น้องข้าวก็มีแฟน และคนๆนั้นก็ไม่ใช้ใคร
ผมให้ทายครับ.......
ผมเองไง! 555
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
5555555 น่ารักจัง

มาเล่าบ่อยๆนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่