สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
หลายๆความเห็นในนี้ จะยกเรื่องจดทะเบียนหรือไม่จดขึ้นมาเป็นประเด็นทำไม
จขกท เขาไม่ได้มาเรียกร้องสิทธิ์ตามกฎหมาย แต่เขามาตัดพ้อ มาระบาย ที่ผู้ชายคนนี้ไม่รักษาสัญญาใจที่เคยให้ไว้กับเธอ
คนสองคนที่ตัดสินใจจะร่วมชีวิตกัน ถึงแม้ไม่ได้ทำตามกฎหมาย
มันก็เป็นการยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย ที่ตกลงจะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน
ซึ่งมันก็หมายความว่า เขาทั้งสองตกลงที่จะเป็นของกันและกันนั่นแหละ
คนอื่นจะบอกว่าเขาไม่ได้เป็นสามีภรรยากันได้อย่างไร ในเมื่อเขาสองคนตกลงกันแล้วว่าเขาเป็น
ถ้าฝ่ายไดฝ่ายหนึ่ง แอบไปมีคนใหม่ ในระหว่างสัญญาใจนี้ มันก็คือการมีชู้ การไม่ซื่อสัตย์ ไม่รักษาสัญญา การนอกใจ
จะมาบอกภายหลังว่าเราไม่ได้จดทะเบียน เพราะฉะนั้นฉันยังเป็นโสด มันใช้ได้ที่ไหน
เออ !! ถ้าตอนเริ่มสัญญาบอกว่า เราอยู่กันแบบ open relationship นะ ฝ่ายหญิง ฝ่ายชายจะมีกิ๊ก มีใครกี่คนก็ได้
แบบนั้นค่อยมาอ้างได้ว่า ไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่มีข้อผูกมัดกัน
คนเราทุกวันนี้ หาคนที่มีเกียร์ติ รักษาสัจจะ รักษาสัญญา ได้ยากเต็มที
ให้คำมั่นอะไรไว้ ก็ไม่ต้องทำตามหรอก เพราะมันไม่มีผลทางกฎหมาย
คิดกันแบบเห็นแก่ตัวว่า ไม่มีหลักฐานตามกฎหมาย ข้าไม่ได้ผิดสัญญานะโว้ย
กลืนน้ำลายแล้วกลับคำตัวเองได้ง่ายๆ อย่างไม่ละอายใจ
คือจริงๆถ้าหมดรัก ไม่อยากต่อสัญญาใจแล้ว ก็มาบอกเลิกก่อนก็ได้ ค่อยไปเริ่มกับคนใหม่
แต่ก็อย่างว่าแหละ ถ้ามีสติคิดได้ขนาดนี้ มันคงไม่มีปัญหาเรื่องนอกใจตั้งแต่ทีเเรกแล้ว
จขกท เขาไม่ได้มาเรียกร้องสิทธิ์ตามกฎหมาย แต่เขามาตัดพ้อ มาระบาย ที่ผู้ชายคนนี้ไม่รักษาสัญญาใจที่เคยให้ไว้กับเธอ
คนสองคนที่ตัดสินใจจะร่วมชีวิตกัน ถึงแม้ไม่ได้ทำตามกฎหมาย
มันก็เป็นการยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย ที่ตกลงจะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน
ซึ่งมันก็หมายความว่า เขาทั้งสองตกลงที่จะเป็นของกันและกันนั่นแหละ
คนอื่นจะบอกว่าเขาไม่ได้เป็นสามีภรรยากันได้อย่างไร ในเมื่อเขาสองคนตกลงกันแล้วว่าเขาเป็น
ถ้าฝ่ายไดฝ่ายหนึ่ง แอบไปมีคนใหม่ ในระหว่างสัญญาใจนี้ มันก็คือการมีชู้ การไม่ซื่อสัตย์ ไม่รักษาสัญญา การนอกใจ
จะมาบอกภายหลังว่าเราไม่ได้จดทะเบียน เพราะฉะนั้นฉันยังเป็นโสด มันใช้ได้ที่ไหน
เออ !! ถ้าตอนเริ่มสัญญาบอกว่า เราอยู่กันแบบ open relationship นะ ฝ่ายหญิง ฝ่ายชายจะมีกิ๊ก มีใครกี่คนก็ได้
แบบนั้นค่อยมาอ้างได้ว่า ไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่มีข้อผูกมัดกัน
คนเราทุกวันนี้ หาคนที่มีเกียร์ติ รักษาสัจจะ รักษาสัญญา ได้ยากเต็มที
ให้คำมั่นอะไรไว้ ก็ไม่ต้องทำตามหรอก เพราะมันไม่มีผลทางกฎหมาย
คิดกันแบบเห็นแก่ตัวว่า ไม่มีหลักฐานตามกฎหมาย ข้าไม่ได้ผิดสัญญานะโว้ย
กลืนน้ำลายแล้วกลับคำตัวเองได้ง่ายๆ อย่างไม่ละอายใจ
คือจริงๆถ้าหมดรัก ไม่อยากต่อสัญญาใจแล้ว ก็มาบอกเลิกก่อนก็ได้ ค่อยไปเริ่มกับคนใหม่
แต่ก็อย่างว่าแหละ ถ้ามีสติคิดได้ขนาดนี้ มันคงไม่มีปัญหาเรื่องนอกใจตั้งแต่ทีเเรกแล้ว
ความคิดเห็นที่ 21
สามีภรรยามีทั้งที่จดทะเบียนสมรสกับไม่จดทะเบียนสมรส. การจดทะเบียนเป็นผลทางกฎหมาย
แต่การไม่จดทะเบียนไม่ได้หมายถึงจะไม่เป็นสามีภรรยา ถึงไม่จดทะเบียน ทรัพย์ที่หามาได้ร่วมกันก็ไม่ได้หมาย
ถึงอีกฝ่ายหนึ่งจะไม่มีสิทธิ์. นักศึกษาที่อยู่ด้วยกันอยู่ที่วัตถุประสงค์ว่าจะเป็นแค่คู่นอนหรือตกลงใช้ชีวิตร่วมกัน
ฉันสามีภรรยา ถ้าเป็นคู่นอนก็ไม่ใช่ แต่ถ้าต้องการเป็นสามีภรรยากันจริงๆก็เป็น กรณี จขกท ถือว่าเป็นสามีภรรยาก็
ถูกแล้วเพราะถ้ามีทรัพย์สินหามาได้ระหว่างอยู่กินกัน เช่นค้าขายร่วมกันมีบ้าน ถ้าเลิกกันก็แบ่งทรัพย์แบ่งบ้านได้
ถ้าไม่แบ่งก็ฟ้องได้ ศาลตัดสินมาเยอะแล้ว เป็นกำลังใจให้ครับ ทำใจปล่อยเขาไป
แต่การไม่จดทะเบียนไม่ได้หมายถึงจะไม่เป็นสามีภรรยา ถึงไม่จดทะเบียน ทรัพย์ที่หามาได้ร่วมกันก็ไม่ได้หมาย
ถึงอีกฝ่ายหนึ่งจะไม่มีสิทธิ์. นักศึกษาที่อยู่ด้วยกันอยู่ที่วัตถุประสงค์ว่าจะเป็นแค่คู่นอนหรือตกลงใช้ชีวิตร่วมกัน
ฉันสามีภรรยา ถ้าเป็นคู่นอนก็ไม่ใช่ แต่ถ้าต้องการเป็นสามีภรรยากันจริงๆก็เป็น กรณี จขกท ถือว่าเป็นสามีภรรยาก็
ถูกแล้วเพราะถ้ามีทรัพย์สินหามาได้ระหว่างอยู่กินกัน เช่นค้าขายร่วมกันมีบ้าน ถ้าเลิกกันก็แบ่งทรัพย์แบ่งบ้านได้
ถ้าไม่แบ่งก็ฟ้องได้ ศาลตัดสินมาเยอะแล้ว เป็นกำลังใจให้ครับ ทำใจปล่อยเขาไป
แสดงความคิดเห็น
เมื่อต้องเสียสามีให้ผู้หญิงในโลกออนไลน์
คิดว่าสามีก็คงคุยเล่นสนุกๆ มีออกไปเจอกันจริงๆเวลามีทติ้งกลุ่มเล็กๆ นัดทานข้าวบ้าง
หรือเวลามีเพื่อนๆในโลกออนไลน์แวะเวียนมาหา เราก็เฉยๆ ไม่คิดะไรและไม่คิดว่าสามี
จะจริงจังอะไรไปด้วย
แต่เมื่อประมาณ 4 ปี ทีแล้ว มีผู้หญิงคนนึงเธอเข้ามาจริงจังกับสามีเรา เริ่มจากพูดคุย
ในเฟสบุ้ค ในบล็อก แล้วทั้งสองคนก็มีนัดเจอกัน ทั้งแบบเป็นกลุ่มกับเพื่อนๆ และเจอกันสองต่อสอง ถามว่าในระหว่างนั้นเราระแคะระคายอะไรไหม โธ่ คนเป็นภรรยา สามีมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปทำไมจะไม่รู้ แต่เพราะคำว่า เชื่อใจคำเดียวไงค่ะ เมื่อเริ่มระแวงเราก็สังเกตการสนทนาตอบโต้ของสามีเรากับเธอคนนั้น มีบ้างที่เราไปโพสในเฟสสามีเราด้วยคำพูดที่ใครก็ดูออกว่าเราเป็นสามีภรรยากัน แต่เธอคนนั้นไม่แคร์ค่ะ เธอยังคนเดินหน้าคบหาสามีเราต่อไป
เธอเป็นคนสวยค่ะ ฐานะหน้าที่การงานดี รูปในเฟสบุ้คเธอมีไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยๆ เธอใช้ชีวิตแบบหรูหราประกอบกับรูปร่างหน้าตาสวยงามมาก ทำให้มีคนมาชื่นชมเธอเยอะ ย้ำว่าเธอเป็นคนสวยมากๆค่ะ เราเป็นผู้หญิงยังชอบดูรูปเธอเลย ทั้งสองคนไม่รู้หรอกว่าเรามีอีกล๊อกอินนึงที่ไปแอดเป็นเพื่อนพวกเขาไว้
เราไม่คิดว่าคนอย่างเธอจะมาชอบพออะไรสามีเราจริงจัง คิดว่าเป็นประเภทชอบแย่งของคนอื่นเพื่อความสะใจ หรือสนองอารมณ์ตัวเองมากกว่า สามีเราก็เป็นคนหน้าตาดีคนนึง มีความรู้ด้วย ในเวลานั้นเธอก็อายุสามสิบกว่าแล้ว เธออาจจะอยากมีสามีเป็นตัวตนไม่ให้คนอื่นล้อว่าขึ้นคานก็ได้มั้งค่ะ เราเศร้ามากทำไมเธอไม่หาคนที่ยังโสดเหมือนเธอล่ะ ทำไมถึงมาแย่งคนรักของคนอื่นไปหน้าไม่อายแบบนี้
ตอนแรกๆความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เป็นไปแบบลับๆ แต่หลังจากสามีเราเลือกเธอคนนั้นโดยทิ้งเราไป ทั้งคู่ก็เปิดเผยฐานะ เพื่อนเธอและเพื่อนสามีเราก็มาแซวๆทั้งคู่ว่า หวานบ้าง น่ารักบ้าง เราได้แต่เสียใจค่ะ ทำอะไรไม่ได้ หลายคนคงบอกไม่ต้องไปแคร์ ไม่ต้องสนใจคนอย่างสามีเราที่ทิ้งภรรยาไปได้ลงคอ แต่เรายังอยู่ระหว่างทำใจค่ะ แม้เรื่องจะเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องสามีขึ้นมาเราก็ยังเจ็บอยู่ลึกๆเสมอ ก็คนเคยอยู่ด้วยกันจะให้ทำใจได้เลยคงไม่ง่ายนัก
เราไม่เข้าใจเลยทำไมสังคมถึงยอมรับได้ถึงพฤติกรรมของทั้งคู่เพื่อนๆพวกเขาต่างก็ชื่นชมว่าเหมาะสมกัน ทั้งสวยทั้งหล่อ นัดเจอกันทานข้าวเฮฮา เราไม่รู้สามีเราหัวใจเขาทำด้วยอะไร ทำไมถึงไม่นึกถึงเราบ้างเวลาที่เราร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาไม่ช่วยอะไรเลยจริงๆ เธอคนนั้นก็ช่างใจร้ายจิตใจไม่เหมาะกับหน้าสวยๆของเธอเลย เราคงเล่ารายละเอียดได้เท่านี้ ไม่อยากให้เกิดคดีฟ้องร้องอะไรขึ้น แค่ขอพื้นที่ระบายเท่านั้น ขอบคุณนะคะที่ทนอ่านกัน อาจจะเรียบเรียงคำพูดสับสนไปมาบ้าง ต้องขอโทษด้วยค่ะ