สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ผมขอตอบในฐานะคนเคยเป็นเจ้าหน้าที่ประนอมหนี้นะครับ
คุณควรเช่าอยู่ครับ ไม่ดี ไม่ไหว มีสิทธิย้ายหนี้ได้ กู้ซื้อถ้าไม่ไหวแก้ไขยากมีปัญหาตามมามากมาย
คนซื้อบ้านส่วนใหญ่มองแต่แง่ดี แต่ไม่มองแง่เสีย
บ้านยิ่งใช้หรือไม่ใช้ มีแต่เสื่อมลงทุกวัน ต้องเสียค่าบำรุงรักษา
ถ้าเป็นหมู่บ้านจัดสรร ต้องจ่ายส่วนกลาง บางที่แพงกว่าค่าน้ำค่าไฟในบ้านเรา
ถ้ากู้ซื้อวันหนึ่งเราผ่อนไม่ไหวจะขายปลดหนี้ ขายยากมักไม่มีคนซื้อ แต่ถ้าบ้านเป็นของเราแล้วขายแบบซิวๆ คนซื้อต่อคิวตรึม
ซื้อบ้านไม่สามารถเปลี่ยนที่อยู่ได้บ่อยๆ ในกรณีที่เปลี่ยนที่ทำงาน ลูกย้ายโรงเรียน
บ้านราคานัน่าจะผ่อนเดือนละ 1.3 หมื่น เหลือเงิน 7 พันต่อเดือนกับ 3 คน ถ้ามีบางเดือนโชคไม่ดีเจ็บป่วยจะทำอย่างไร
ลูกยิ่งโดยิ่งใช้เงินมาก เงินเดือนที่ขึ้นแต่ละปีไม่ทันค่าใช้จ่าย
ถ้าเป็นผม
1.เลือกเช่าครับ เอาทำเลที่ใกล้ที่ทำงานของใครก็ได้คนหนึ่ง เน้นว่าต้องเป็นคนที่ขี้เกียจ(คูณหรือสามีต้องมีคนหนึ่งขึ้เกียจกว่าอีกคน)และต้องดูแลลูก ส่วนค่าเช่าจะต้องทำประมาณการรายรับจ่ายครับ
2.ทำประมาณการรายรับ-จ่าย ครอบครัว เช่น ค่าอาหารค่าเดินทาง ค่าเลี้ยงดูบุตร ค่าเทอมลูกในอนาคต เงินเก็บ และอื่นๆ ว่าเป็นเงินเท่าไหร่
3.นำประมาณการในข้อ 2 ไปหักออกจากรายได้ของคุณ คุณจะรู้ว่าได้ทันทีว่าจะเช่าได้สูงสุดที่เดือนละเท่าไหร่ (ค่าเช่าอย่าลืมบวกค่าน้ำ+ค่าไฟด้วยนะครับ)
4.ถ้าคุณทำตามที่ผมบอกและอยู่ในกรุงเทพฯ คุณจะรู้เลยว่าคุณไม่มีสิทธิซื้อบ้านเลยครับแม้แต่เช่าอยู่ยังยาก
สุดท้ายนะครับอยากฝากไว้สำหรับคนอยากมีบ้านแต่ต้องผ่อน
บ้านทุกคนอยากมีแต่บ้านเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตคนเหล่าน้นติดกับอยู่กับกับดัก ไม่สามารถทำอะไรได้กล่าวคือไม่กล้าออกจากงาน ไม่กล้ามองหางานหรืออื่นๆ ที่ท้าทายทำ, ไม่กล้าเถึยงเจ้านายในส่วนที่ถูกต้อง และอื่นๆ เพราะว่ากลัวตกงานไม่มีเงินผ่อนบ้าน
บ้านเป็นหนี้ที่แย่มากมันทำให้คุณเป็นหนี้อย่างน้อย 20 ปี คือครึ่งหนึ่งของชีวิตการทำงานของคุณ เวลาเดือนร้อนเรื่องเงินขายยาก
แต่ก็มีส่วนดี ถ้าทำเลดีเมื่อเวลาผ่านไปราคามันมักจะขึ้น แต่ถ้าคำนวนจริงแล้วคุณมักไม่ได้กำไรอะไร เพราะค่าผ่อนบวกดอกเบี้ยมันก็พอๆกันกับราคาบ้านที่คุณขายได้ (อาจได้กำไรอยู่) หรือส่วนดีอื่นๆ แล้วแต่ความคิดแต่ละคน
ลูกน้อยวัย 2 ปี เค้าไม่รู้หรอกครับว่าบ้านคืออะไร เค้ารู้แต่เพียงว่าเค้าหิวต้องได้กิน ง่วงต้องได้นอน เจ็บป่วยต้องได้รับการรักษาที่รวดเร็วและทันท่วงที มีพ่อแม่คอยดูแลและเล่นด้วย แค่นี้จริงๆครับที่เด็กต้องการ จะซื้ออยู่หรือเช่าเค้าไม่สนใจ แล้วเราเป็นพ่อแม่จะไปกัเงินซื้อบ้านทำไมถ้าเงินเหลือจากการผ่อนบ้านมีจำนวนน้อยแล้วมันไม่สามารถต่อลมหายใจครอบครัวและลูกๆ ได้ (ธนาคารรวยแต่ครอบครัวคุณจะแย่ครับ)
เอาไว้เงินเดือนคุณเกิน 40,000 บาทก่อนแล้วค่อยคิดเรื่องซื้อบ้านดีกว่าครับ ซื้อเมื่อพร้อมแต่ราคาแพงดีกว่าซื้อของถูกแต่คุณไม่พร้อมครับ
อาจมีถ้อยคำบางคำที่รุนแรงต้องขออภัยนะครับ แต่เตือนไว้ด้วยความหวังดี
ขอบคุณครับที่เสียเวลาอ่าน
คุณควรเช่าอยู่ครับ ไม่ดี ไม่ไหว มีสิทธิย้ายหนี้ได้ กู้ซื้อถ้าไม่ไหวแก้ไขยากมีปัญหาตามมามากมาย
คนซื้อบ้านส่วนใหญ่มองแต่แง่ดี แต่ไม่มองแง่เสีย
บ้านยิ่งใช้หรือไม่ใช้ มีแต่เสื่อมลงทุกวัน ต้องเสียค่าบำรุงรักษา
ถ้าเป็นหมู่บ้านจัดสรร ต้องจ่ายส่วนกลาง บางที่แพงกว่าค่าน้ำค่าไฟในบ้านเรา
ถ้ากู้ซื้อวันหนึ่งเราผ่อนไม่ไหวจะขายปลดหนี้ ขายยากมักไม่มีคนซื้อ แต่ถ้าบ้านเป็นของเราแล้วขายแบบซิวๆ คนซื้อต่อคิวตรึม
ซื้อบ้านไม่สามารถเปลี่ยนที่อยู่ได้บ่อยๆ ในกรณีที่เปลี่ยนที่ทำงาน ลูกย้ายโรงเรียน
บ้านราคานัน่าจะผ่อนเดือนละ 1.3 หมื่น เหลือเงิน 7 พันต่อเดือนกับ 3 คน ถ้ามีบางเดือนโชคไม่ดีเจ็บป่วยจะทำอย่างไร
ลูกยิ่งโดยิ่งใช้เงินมาก เงินเดือนที่ขึ้นแต่ละปีไม่ทันค่าใช้จ่าย
ถ้าเป็นผม
1.เลือกเช่าครับ เอาทำเลที่ใกล้ที่ทำงานของใครก็ได้คนหนึ่ง เน้นว่าต้องเป็นคนที่ขี้เกียจ(คูณหรือสามีต้องมีคนหนึ่งขึ้เกียจกว่าอีกคน)และต้องดูแลลูก ส่วนค่าเช่าจะต้องทำประมาณการรายรับจ่ายครับ
2.ทำประมาณการรายรับ-จ่าย ครอบครัว เช่น ค่าอาหารค่าเดินทาง ค่าเลี้ยงดูบุตร ค่าเทอมลูกในอนาคต เงินเก็บ และอื่นๆ ว่าเป็นเงินเท่าไหร่
3.นำประมาณการในข้อ 2 ไปหักออกจากรายได้ของคุณ คุณจะรู้ว่าได้ทันทีว่าจะเช่าได้สูงสุดที่เดือนละเท่าไหร่ (ค่าเช่าอย่าลืมบวกค่าน้ำ+ค่าไฟด้วยนะครับ)
4.ถ้าคุณทำตามที่ผมบอกและอยู่ในกรุงเทพฯ คุณจะรู้เลยว่าคุณไม่มีสิทธิซื้อบ้านเลยครับแม้แต่เช่าอยู่ยังยาก
สุดท้ายนะครับอยากฝากไว้สำหรับคนอยากมีบ้านแต่ต้องผ่อน
บ้านทุกคนอยากมีแต่บ้านเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตคนเหล่าน้นติดกับอยู่กับกับดัก ไม่สามารถทำอะไรได้กล่าวคือไม่กล้าออกจากงาน ไม่กล้ามองหางานหรืออื่นๆ ที่ท้าทายทำ, ไม่กล้าเถึยงเจ้านายในส่วนที่ถูกต้อง และอื่นๆ เพราะว่ากลัวตกงานไม่มีเงินผ่อนบ้าน
บ้านเป็นหนี้ที่แย่มากมันทำให้คุณเป็นหนี้อย่างน้อย 20 ปี คือครึ่งหนึ่งของชีวิตการทำงานของคุณ เวลาเดือนร้อนเรื่องเงินขายยาก
แต่ก็มีส่วนดี ถ้าทำเลดีเมื่อเวลาผ่านไปราคามันมักจะขึ้น แต่ถ้าคำนวนจริงแล้วคุณมักไม่ได้กำไรอะไร เพราะค่าผ่อนบวกดอกเบี้ยมันก็พอๆกันกับราคาบ้านที่คุณขายได้ (อาจได้กำไรอยู่) หรือส่วนดีอื่นๆ แล้วแต่ความคิดแต่ละคน
ลูกน้อยวัย 2 ปี เค้าไม่รู้หรอกครับว่าบ้านคืออะไร เค้ารู้แต่เพียงว่าเค้าหิวต้องได้กิน ง่วงต้องได้นอน เจ็บป่วยต้องได้รับการรักษาที่รวดเร็วและทันท่วงที มีพ่อแม่คอยดูแลและเล่นด้วย แค่นี้จริงๆครับที่เด็กต้องการ จะซื้ออยู่หรือเช่าเค้าไม่สนใจ แล้วเราเป็นพ่อแม่จะไปกัเงินซื้อบ้านทำไมถ้าเงินเหลือจากการผ่อนบ้านมีจำนวนน้อยแล้วมันไม่สามารถต่อลมหายใจครอบครัวและลูกๆ ได้ (ธนาคารรวยแต่ครอบครัวคุณจะแย่ครับ)
เอาไว้เงินเดือนคุณเกิน 40,000 บาทก่อนแล้วค่อยคิดเรื่องซื้อบ้านดีกว่าครับ ซื้อเมื่อพร้อมแต่ราคาแพงดีกว่าซื้อของถูกแต่คุณไม่พร้อมครับ
อาจมีถ้อยคำบางคำที่รุนแรงต้องขออภัยนะครับ แต่เตือนไว้ด้วยความหวังดี
ขอบคุณครับที่เสียเวลาอ่าน
แสดงความคิดเห็น
อยากซื้อบ้านราคา 1,700,000 ร่วมกับสามี รายได้รวมกัน 19,400 บาทต่อเดือน ต้องมีเงินเก็บในบัญชีเท่าไหร่ถึงจะพอกู้บ้าน