[CR] อุทาหรณ์อาหารเสริม "ลดน้ำหนัก"

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่าที่มาตั้งกระทู้นี้ไม่ได้จะมา discredit สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใดๆทั้งสิ้น
ไม่ได้จะทำให้ใครเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือหน้าที่การงานแต่อย่างใด เพียงแต่มันเป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเราเอง
อะไรที่ดีเราก็บอกว่าดี อะไรที่มันมีผลข้างเคียงเราก็บอกว่ามันมีผลข้างเคียง เราพูดกันตามความจริงตามสิ่งที่เกิดขึ้น
ส่วนใครที่กินแล้วดีกินแล้วไม่มีผลข้างเคียง มันก็อาจจะเป็นเฉพาะบุคคลไปแต่สิ่งที่เราจะเขียนต่อไปนี้ เกิดขึ้นกับเราเองจริงๆ


เข้าเรื่องเลยละกันนะคะ

          ขอเริ่มเรื่องไปตั้งแต่เมื่อ 3-4 ปีที่แล้วตอนที่ยาลดน้ำหนักเป็นยาแคปซูลสีต่างๆ สีขาว-แดง ขาว-เขียว  ขาว-ส้ม ที่ขายกันทั่วไป
เม็ดละ 5 บาท ไม่มี อย. ไม่ใช่ยาคลินิค ถ้าใครจำได้น่าจะรู้จัก ตอนนั้นเราอยู่ช่วง ม.ปลาย ก็อยากสวยอยากผอม  พอดีมีเพื่อนเราได้สั่งยามากิน
ด้วยความที่เราก็สนใจบวกกับราคาถูก แต่อีกใจก็ยังกลัวๆอยู่อีกทั้งแม่ก็ห้ามไม่ให้เรากิน เพราะมีข่าวคนตายเพราะยาลดน้ำหนักให้เห็นอยู่บ่อยๆ
ตอนนั้นเราเลยไม่คิดที่จะกินยาลดน้ำหนักเลย


จุดพีคมันมาอยู่ตอนที่ ม.6 ขึ้น ปี1 ตอนนั้นเป็นช่วงที่ปิดเทอมนานมาก ประมาน6เดือนเราน้ำหนักขึ้นมาประมาน 7-8 โลได้จาก 90 กก.
พอเข้ามหาลัยไปมีแต่คนสวยๆผอมๆ หุ่นดีใส่ทรงเอแล้วสวยแล้วน่ารักทำให้เราเริ่มที่คิดจะกินยาลดน้ำหนัก

ตัวแรกที่เรากินเป็นผลิตภัณฑ์ของดาราสาว มี อย.รับรอง มีการรับประกันว่าจะไม่โยโย่มีรีวิวมากมายเราจึงเริ่มซื้อมากินเพราะคิดว่ายาลดน้ำหนัก
สมัยนี้คงไม่อันตรายเหมือนตอนนั้น แล้วก็แอบแม่กินด้วยกินไป2กล่อง ตอนแรกๆก็ลดไป2-3โล แล้วก็เหมือนเดิม ไม่มีอาการข้างเคียงอะไร เลยหยุดกินไป

ผ่านไประยะหนึ่งเราก็เริ่มอยากผอมอีกแล้วก็เริ่มกินตัวที่สอง  ตัวที่สองที่เรากินเป็นยาสมุนไพร ไม่มีอย. ช่วยเรื่องการขับถ่ายก็กินไปทั้งหมดประมาณ
2 กระปุกครึ่ง กินๆหยุดๆ มีบางช่วงเว้นจากกระปุกที่1ไป 4-5เดือนแล้วจึงเริ่มกระปุกที่สอง ตอนที่กินก็ไม่มีอาการข้างเคียงอะไรใช้ชีวิตได้ปกติ
มีแต่ถ่ายบ่อย ด้วยความที่เราเป็นคนถ่ายยากก็คิดว่าก็ดีที่ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย น้ำหนักก็ไม่ได้ลดเยอะ ลงไป1-2โล แล้วก็กลับมาเหมือนเดิม
พอมาประมาณวันที่ 25 ธ.ค.58 ยาสมุนไพรที่เรากินใกล้จะหมดแล้ว แล้วก็คิดว่ากินไปน้ำหนักก็ไม่ได้ลงทั้งที่ก็กินมาเกือบเดือนแล้วก็เลยว่าจะหยุดกิน
แต่ก็เห็นว่ามีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวใหม่ออกมา เป็นของเน็ตไอดอลที่กินเองแล้วก็ลดเองก็เลยสนใจเข้าไปดูมีรีวิวมากมายมียอดขายมากมาย
แต่ก็ยังไม่มั่นใจก็เลยเข้าไปอ่านรีวิวประมาณ 2 วัน จึงตัดสินใจซื้อ เราสั่งซื้อวันที่ 28 ธ.ค 58 สินค้ามาส่งวันที่ 29 ธ.ค 58


ถ้าถามว่าทำไมเราใช้เวลาตัดสินใจน้อยจัง คือมันเป็นช่วงโปรโมชั่นที่ลดราคาอยู่แล้วจะหมดโปรวันที่29 ธ.ค58 บวกกับไปรษณีย์ส่งวันสุดท้าย
วันที่ 29 ธ.ค.58 ทำให้เราตัดสินใจซื้อ เพราะไม่อยากรอของนานในช่วงวันหยุดปีใหม่

หลังจากได้ของมาก็ทำการกินยาเม็ดแรกเลยวันนั้น ทั้งที่ยาสมุนไพรตัวเก่าก็ยังไม่หมด ( เห่อของใหม่นิดนึง ) ตอนแรกที่เริ่มกินก็ไม่ได้มีอาการอะไร
ประจวบเหมาะกับวันนั้นแฟนบอกเลิกพอดี  ทำให้ร้องไห้เสียใจแล้วก็คิดมากอยู่ประมาณนึง เลยคิดว่าจะกินยาให้ผอมไปเลย
ตอนนั้นเริ่มกินวันละเม็ดก่อน ประมาณวันที่ 1 ม.ค 59 เริ่มกิน 2 เม็ด เช้าเย็น กินไปได้2วัน เข้าวันที่ 3 ม.ค. 59 เริ่มมีอาการหน้ามืด
คือเวลาที่ลุกเร็วๆ จะมีอาการหน้ามืดไปเลยคือจะปวดหัวแล้วภาพที่เห็นจะเป็นสีดำไปเลยต้องหาที่จับหรือพิงแล้วอยู่นิ่งๆไปสักแปปจนมันดีขึ้น
ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะอาจจะลุกเร็วไป เพราะด้วยความที่คิดว่าเราเป็นคนอ้วน แล้ววันนี้รู้สึกไม่หิวเลยไม่อยากกินข้าวไม่อยากกินอะไรเลย
ปกติเป็นคนที่กินจุกจิก เห็นอันนั้นก็อยากกินเห็นอันนี้ก็อยากกินอะไรก็อร่อยไปหมดแต่วันนั้นตอนเช้าเรากินยาไปกว่าจะได้กินอะไรก็อีก 2-3 ช.ม.
พอกินก็กินได้น้อย ไม่หิวไม่อยากกิน ตอนแรกก็คิดว่าอาจจะเป็นเพราะยังเสียใจเรื่องเลิกกับแฟนทำให้ไม่อยากกินอะไร

ต่อมาพอเข้าวันที่ 4 ม.ค 59 ได้ไปเรียนพิเศษ รู้สึกหัวใจเต้นเร็วแต่ก็คิดว่าอาจจะเป็นเพราะเดินมาเรียน มันก็คงเหนื่อยแหละมั่ง
ก็นั่งเรียนในห้องปกติเป็นเวลา 3 ช.ม พอเลิกเรียนลุกขึ้นเก็บของเท่านั้นแหละ มือชาค่ะ
ตอนแรกก็คิดว่าอาจจะนั่งนานไปบวกกับแอร์คงเย็นด้วย ไม่ได้คิดอะไรก็นวดๆมือ กำแบๆไป เกือบ1 ช.มได้ กว่าจะหาย
พอถึงบ้านกินข้าวอาบน้ำเสร็จก็คุยกับแม่ บอกแม่ว่ามือชาเพราะแม่ก็เคยเป็นมือชาเหมือนกันเลยคิดว่าเป็นกรรมพันธุ์รึเปล่าเลยปรึกษาแม่ดู
พอจะนอนคืนนั้นก็คิดว่าจะนอนตั้งแต่ 4ทุ่ม เพราะพรุ่งนี้เปิดเทอมมีเรียนตอนเช้า ก่อนนอนก็เลื่อนดูนั่นนี่ในโทรศัพท์ดูไปดูมาตี4
ไม่ง่วงด้วย แต่ก็คิดว่าปิดเทอมมานานอาจจะยังไม่ชินกับการนอนเร็ว พอตี 4.30 น. ก็เลยทักไปบอกเพื่อนว่าคงไปคาบบ่ายนะยังไม่ได้นอนเลย
เพื่อนก็แอบงอนเพราะคาบเช้าคนไปน้อยแต่ จขกท บอกว่าจะไป เพื่อนเลยจะไปเป็นเพื่อน พอเราบอกไม่ไปเพื่อนก็นอยๆเพราะออกจากบ้านแล้ว
หลังจากนั้นก็ปิดมือถือเตรียมนอน พลิกไปพลิกมา ตี5 น.   ตี5.30 น. 6.30 น. ยังนอนไม่หลับเลยลุกไปอาบน้ำไปมอ สรุปคืนนั้นยังไม่ได้นอน

วันที่ 5 ม.ค. 59 พอถึงมอไม่ได้เจอเพื่อนนานก็เมาส์กันปิดเทอมไปนู้นนี่นั้นปีใหม่ไปไหนมามั่งก็พูดคุยกัน  แต่ตอนพูดคุยกับเพื่อนมันเริ่มไม่เหมือนเดิมแล้ว
เวลาคุยมันเหมือนเราจะพูดติดอ่าง คือสมองช้าลง ปกติเป็นคนที่พูดคล่องคิดอะไรพูดออกไป แต่พอวันนี้เหมือนสมองมันช้าๆคิดไม่ทัน
ตอนแรกก็คิดว่าอาจจะเป็นเพราะไม่ได้นอน  ยังพูดกับเพื่อนอยู่เลยว่าทำไมเดี๋ยวนี้พูดติดอ่างวะ คิดช้าจะพูดอะไรทีนึกๆๆๆๆๆกว่าจะพูดออกมา
พอตกเย็นก็ไปเรียนพิเศษ ก้มๆเงยๆ จดตามกระดานเริ่มปวดหัว เริ่มปวดตาคือตาเริ่มสู้แสงไฟไม่ได้ มันเหมือนเรามองไปแล้วตามันไม่สู้แสง
ตามันจะปิดเหมือนคนง่วงตาจะปิดทั้งที่ไม่ได้ง่วง แล้วมองอะไรที่เป็นแสงไฟนานๆ พอหันไปมองอย่างอื่นก็เหมือนจะเห็นจุดไฟที่เราเพิ่งมองมา
ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรคิดว่าอาจจะเล่นโทรศัพท์มากไปทำให้ตาเสีย  พอกลับมาบ้านก็บอกแม่ว่าปวดหัวปวดตุ้บๆ
(คือเหมือนเวลาที่เราเหนื่อยๆแล้วชีพจรเต้นที่คอที่ข้อมือ)  สักพักเริ่มชา ชาขึ้นไปที่หัวแต่เป็นแค่ซีกขวา
คือเริ่มจากท้ายทอยขึ้นมาถึงกลางศีรษะเหมือนคนขนหัวลุกแต่มันชา เราก็ร้องไห้คิดไปนั่นนี่ กลัวสมองเสื่อม กลัวเนื้องงอกในสมอง
ไม่ได้คิดเรื่องอาหารเสริมลดน้ำหนักเลย แม่ก็เอายาพารามาให้กินแล้วก็ยาที่แม่ไปซื้อจากร้านขายยาเมื่อตอนกลางวันมาให้กิน
แล้วก็ให้นอนพัก แม่บอกพรุ่งนี้จะพาไปหาหมอ คืนนั้นก็นอนตี2 ตื่นตี5

วันที่ 6 ม.ค. 58 ตื่นมาก็ยังหน้ามืดปวดหัวเหมือนเดิม ไปถึงโรงพยาบาลหมอก็ตรวจบอกว่าก็ยังปกติทุกอย่างอาจจะเป็นปลายเส้นประสาทอักเสบ
ก็ให้ยามาทานแล้วก็นัดดูอาการอีกเดือน ตอนนั้นก็ยังกินอาหารเสริมลดน้ำหนักอยู่พร้อมกับยาที่หมอให้มา ตอนรับยาคนจ่ายยาบอกยานี้ทานแล้วจะง่วง
ต้องกินเช้า-เย็น ตอนแรกก็คิดว่าจะไหวไหมต้องไปเรียนเกือบทุกวันมาเจอยาที่กินแล้วง่วงอีก แต่พอกินไปก็ไม่ได้ง่วงอย่างที่คิด
ยังคิดเลยว่ายาก็ไม่ได้แรงมาก  ยังนอนดึกตื่นเช้าเหมือนเดิม ขนาดกินยาแก้แพ้ไปด้วยยังไม่ค่อยจะง่วงเลย  มีบางคืนก็หลับๆตื่นๆ
เหมือนหลับไม่สนิทเพราะกังวล ตื่นทุกๆชั่วโมง นอนก็น้อยแต่พอตื่นมาก็ไม่ง่วง


ช่วงนั้นไม่หิวไม่อยากกินอะไรเลย กินอะไรก็ไม่อร่อยกินได้นิดๆหน่อยๆ  จากคนที่เห็นอะไรก็อยากกินไปหมดกลับเบื่ออาหารขึ้นมาดื้อๆ
วันนึงกินข้าว2ครั้ง  บางวันตื่นมา 10.30 น. แต่กินข้าว 16.00 น. ทั้งที่เมื่อก่อนตื่นปุ๊ปหิวปั๊ปแต่ตอนนี้ไม่มีกินจุกจิกกินแต่น้ำเปล่า
เป็นแบบนั้นมาถึงวันที่ 12 ม.ค. 59 อาการทุกอย่างยังเป็นอยู่ปวดหัวนี่บ่อยมากปวดตานี่เป็นหนักที่หนักที่สุดคือปวดที่ท้ายทอยปวดมากๆๆๆๆๆๆ
ปวดเหมือนคนคอเคล็ด แต่คอเคล็ดนี่พอจับก็จะเจ็บแต่อันนี้จับได้ไม่เจ็บแต่มันปวดอยู่ข้างใน แล้วก็ปวดที่ดั้งระหว่างตาทั้งสองข้าง
ต้องนอนพักแต่พอตื่นมาก็จะปวดหัว ลุกขึ้นมาก็หน้ามืดนั่งอยู่เฉยๆก็ปวดตุ้บๆ เริ่มมีอาการร้อนที่ผิวหนังทั้งที่อยู่ในบ้านตอนกลางคืน
ไม่ได้ร้อนไม่ได้เหงื่อออก แต่ร้อนๆแสบๆที่ผิวหนังต้องไปอาบน้ำให้มันทุเลาลง

ช่วงนั้นน้ำหนักก็ลดลงค่ะ 3โล แล้วก็ท้องผูกไม่ค่อยถ่ายในใจก็คิดว่าไม่ได้กินอะไรจะเอาอะไรไปถ่าย บวกกับเป็นคนถ่ายยากอยู่แล้ว
อาการนอนไม่หลับก็ยังอยู่ บางวันนอน 3 ชม. แต่ตื่นมาไม่มีอาการง่วงเลย เราลองหาข้อมูลในอากู้
อาการมันไปตรงกับคนที่เป็นความดันโลหิตต่ำแล้วเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆในร่างกายไม่พอ แต่ตอนที่ไปหาหมอ
พยาบาลวัดความดันให้ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ เคยไปเจาะเลือดตรวจน้ำตาล ตรวจไขมัน ก็ปกติทุกอย่างก็พยายามไม่เครียดไม่กังวล นอนให้พอ

พอวันที่ 14 ม.ค. 58 แฟนกลับมาขอคืนดีตอนนั้นก็ดีใจไม่ค่อยเครียด ไม่ค่อยคิดมาก อย่างน้อยก็ไม่กังวลใจไม่เสียใจในระดับหนึ่งแล้ว

พอวันที่ 16 ธ.ค. 58 วันนี้เป็นหนักคือปวดหัวมากแล้วปวดข้างเดียว ปวดท้ายทอย ปวดตา ไม่หิวไม่อยากกินอะไรกินยาพอนแสตนก็ไม่หาย
แม่เลยบอกจะพาไปตรวจสุขภาพ เพราะเราอ้วน กลัวเป็นไขมันอุดตันในเส้นเลือด เบาหวาน ความดัน ทั้งที่เมื่อก่อนเราเป็นคนอ้วนแต่แข็งแรงปกติ
ป่วยบ้างไม่สบายบ้าง แต่ไม่เคยเป็นหนักๆแบบนี้ จนเรากินยานอนพักไปตื่นมาก็ปวดหัวตุ้บๆ เหมือนมีอะไรบีบอยู่ในหัว เดินก็เวียนหัว คือต้องนั่งพิงโซฟา

แล้วก็ปวดท้ายทอย   เราเลยลองไปเปิดอากู้หาอาการข้างเคียงของคนที่ทานยาลดน้ำหนัก     คืออาการตรงกับที่เราเป็นทุกอย่างเลย
ตอนนั้นคิดแล้วว่ามันต้องใช่แน่ๆอาการที่เป็นคงมาจากอาหารเสริมตัวนี้แน่ๆ ทำใจอยู่นานว่าจะบอกแม่ดีไหม
แม่ก็บ่นเรื่องอาหารการกิน  เรื่องออกกำลังกาย เราก็ตัดสินใจบอกแม่ไปเลยว่าเรากินอาหารเสริมลดน้ำหนัก
แล้วเราก็อ่านอาการที่คนแพ้ยาหรือว่ายานั้นมีผลข้างเคียงให้แม่ฟัง

คือตอนบอกแม่ก็ตกใจเพราะไม่คิดว่าเรากินแม่ก็บอกว่ากินนานหรือยัง กินไปกี่เม็ด คือเรากินไปประมาณ 30 เม็ดค่ะ 1กล่องแถมกับอีก2แผง
(กินบ้างลืมบ้าง) ยังเหลืออีก2กล่องใหญ่  เราซื้อมาทั้งหมด 3 กล่องค่ะ กล่องละ30เม็ด แม่ก็ให้เลิกกินเลย แม่ก็บอกว่าแบบสาเหตุคงมาจาก
ยาที่เรากินแน่ๆ เราอ่านในอากู้ก็เตรียมใจไว้แล้วว่า บางอย่างคงไม่กลับมาเหมือนเดิม มีบางอันก็บอกว่าเคยกินตอนยังสาวตอนนี้อายุ 30 ก็ยังเบลอๆอยู่

เพราะยามันไปกดประสาทให้เราไม่หิว ถ้าทานไปนานๆก็อาจจะอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต ตอนนี้เราหยุดยาแล้วแต่ก็ยังมีอาการปวดหัว แสบร้อนที่ผิวหนัง
แล้วก็ปวดที่ท้ายทอยอยู่แต่ก็เตรียมใจไว้แล้วว่ามันอาจจะเกิดผลข้างเคียงอะไรตามมาไม่มากก็น้อย


         ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่ออยากจะมาบอกเล่าประสบการณ์และเตือนทุกๆคน  อะไรที่กินมากๆมันก็ไม่ได้เกิดผลดีกับตัวเราเอง  
ขนาดอาหารเสริมที่ผ่าน อย.มีการรับรองจากมาตรฐานสากลทั่วโลก บอกว่าไม่มีผลค้างเคียงใดๆ   ก็ยังมีผลข้างเคียง
เราเปิดไปเจอกระทู้นึงในพันทิปก็มีคนเป็นแบบเราคือนอนไม่หลับเป็นตัวเดียวกันกับที่ จขกท กิน  อันนี้ไม่รู้ว่ามีแค่เราคนเดียวรึเปล่าที่เป็น
แต่อยากออกมาเล่าประสบการณ์ของเราเอง ตอนคิดจะตั้งกระทู้ก็คิดไว้แล้วว่าอาจจะมีคนที่คิดต่างไป มีกระแสต่อต้านต่างๆนาๆ

แต่ถ้าเราไม่ออกมาพูดก็สงสารคนที่เขายังซื้อกินอยู่   ไม่ได้จะบอกว่าห้ามซื้อแต่เรากินแล้วเราเจออาการข้างเคียงแบบนี้
ถ้าใครไม่เจอก็ถือว่าโชคดีมากๆ หรือถ้าใครไม่เชื่อก็ไปลองซื้อมากินดูนะคะ แต่สำหรับเราแล้วเราคงไม่กินยาลดน้ำหนักอีกแล้ว

        ไม่ว่ายาจะมีอย.  มีมาตรฐานรับรองก็จะไม่เอาชีวิตไปเสี่ยงแล้วค่ะ  เพราะตอนที่เป็นมันทรมานมากๆการมีหุ่นสวยมันก็ดีแต่การมีสุขภาพที่ดี
ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ มันดีกว่าเยอะ     ต่อไปนี้ก็จะพยายามควบคุมการกินด้วยตัวเอง ถ้าอาการดีขึ้นหรือกลับมาปกติก็จะไปออกกำลังกายค่ะ
พิมไปก็ปวดหัวปวดตาไป ส่วนใครที่จะคอมเม้นท์ว่าก็ไปซื้อกินเองช่วยไม่ได้   ใช่ค่ะซื้อกินเองแล้วก็ยอมรับผลที่มันเกิดขึ้น
ไม่ได้มาเรียกร้องแต่มาบอกเป็นอุทาหรณ์ บางคนที่กินก็ยังเด็กๆกันทั้งนั้น ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ

ส่วนใครจะคิดจะว่าอะไรยังไงก็ขอน้อมรับไว้ทุกคำติชมค่ะ    ขอบคุณไว้ล่วงหน้าเลยค่ะ
ชื่อสินค้า:   kb
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่