รีวิวนี้พาไปชิมตั้งแต่ไอติมแท่งละ 1.20 เหรียญ ไปจนถึงข้าวจานละ 2 เหรียญกว่าเท่านั้น...เพราะสิงคโปร์ไม่ได้มีแค่ข้าวมันไก่ ^^
ตามไปชิมอาหารในสิงคโปร์หลายรูปแบบกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอาหารขึ้นชื่อ ขึ้นเหลา ขึ้นห้าง ศูนย์อาหาร ร้านพื้นบ้านรถเข็นข้างถนน ฯลฯ
เริ่มจากอาหารขึ้นชื่อ เลื่องลือ ใครไปก็ต้องตามไปเช็คอิน
----------------------------------------
1. ข้าวมันไก่ ! แน่นอน ไปสิงคโปร์ต้องข้าวมันไก่ ไปที่ไหนก็เจอ
ร้านที่แนะนำสุด ๆ คือ
Boon Tong Kee ร้านข้าวมันไก่เก่าแก่ เปิดมาตั้งแต่ปี 1976 (ตอนนี้มีสาขาที่ไทยแล้ว แต่แพงเชียว)
ได้ยินใครพูดว่า ข้าวมันไก่ที่ไหนก็เหมือนกัน อยากให้มาลองที่นี่ค่ะ เนื้อไก่ต่างกับไก่ของไทยลิบลับ
คือมันหนานุ่ม ชุ่มลิ้น โอ๊ย พูดแล้วอยากเลย
อันดับสองที่ต้องสั่ง เต้าหู้ทอด เนื้อเต้าหู้นุ่ม รสชาติอย่างกับพุดดิ้งนมสด จิ้มกับซอสมายองเนส อร่อยมาก
หมูทอดซอสหวานค่ะ
ซุปผักโขมใส่ไข่ ชามใหญ่ ไว้ซดพอลื่นคอ
ผักบุ้งผัดเต้าเจี้ยว รสชาติเต้าเจี้ยวจัดจ้าน เค็ม ๆ ออกคล้ายกะปิบ้านเรา
หมูทอด กับเครื่องเคียงที่พบได้ในร้านอาหารในสิงคโปร์ คือถั่วต้มซอส กับผักดอง
น้ำบาร์เลย์ คนที่นี่ชอบกินน้ำบาร์เลย์กันแฮะ
บรรยากาศร้านโล้งเล้งดี
ข้อมูลร้านค่ะ
http://boontongkee.com.sg/
------------------------------------------------------------------
2. "Chilli Crab" ปูราคามหาโหดแห่งร้าน Jumbo Seafood แพงแค่ไหนก็ต้องเจียดเงินไปชิม
ร้านอยู่ริมน้ำย่าน Clarke Quay หลายคนบอกว่าร้านนี้ต้องจองคิวเป็นสัปดาห์ แต่จากประสบการณ์ที่ไปมา 2 ครั้ง ไม่ต้องจองค่ะ
Walk in ไปได้เลย มันจะมีโต๊ะทีจองไว้แต่ยังไม่ถึงเวลาจอง หรือโต๊ะที่จองแล้วกินเสร็จแล้ว ยังไงก็มีที่ให้นั่ง
เคยได้ที่นั่งริมน้ำรับลมช่วงพระอาทิตย์ตกพอดีด้วยล่ะ ฟลุ๊คมาก เพราะเจ้าของโต๊ะจองไว้ทุ่มนึง เราไปตอน 6 โมงเย็น สบายไป
พระเอกของที่นี่ค่ะ Chilli Crab ปูผัดซอส ไม่เผ็ดเหมือนชื่อ ซอสหวานๆ มาชามใหญ่มาก ต้องสั่งซาลาเปาทอดมาจิ้มซอส เข้ากั๊น เข้ากัน
อีกแบบคือ Black Pepper Crab ปูผัดพริกไทยดำ ถ้าไปหลายคน สั่งอันนี้เพิ่มอีกเมนู จะได้ชิมให้ครบทั้ง 2 แบบ
กุ้งทอดซีเรียล อร่อยมาก สั่งมา 2 จาน และแพงมากด้วย ร้านซีฟู้ดส่วนใหญ่ในสิงคโปร์จะมีเมนูนี้
เป๋าฮื้อผัดซอส xo ค่ะ ไม่ได้ตั้งใจสั่ง แต่รวมอยู่ใน Set อาหารชุด A แล้ว
หูฉลามเนื้อปู รวมอยู่ใน Set A เช่นกัน
ฟองเต้าหู้พันกุ้งทอด อร่อยมากกกก อันนี้สั่งต่างหาก
ข้าวผัดกุ้ง รสชาติไม่เลว กุ้งเด้งมาก อันนี้รวมอยู่ใน Set
ของหวาน จะมีเฉพาะที่สั่งเป็นเซ็ตค่ะ ไม่อร่อยเลย
ถั่วทอด ผ้าเย็น ที่วางไว้ คิดเงินแล้วนะคะ จงใช้ และกินให้หมด !
เช็คบินมานี่จุกเลยค่ะ คำนวณเอาเองนะคะ รอบนี้ไป 6 คน สั่ง Set A สำหรับ 4 คน + อาหารเพิ่มเล็กน้อย เฉลี่ยประมาณคนละ 1,700 !!
แนะนำว่าไปร้านนี้ต้องเตรียมเงินไม่ต่ำกว่าคนละ 1,000 ยืนพื้น
ถ้าอยากจะชิมแค่ให้คุยกับเค้ารู้เรื่องว่าไปสิงคโปร์มาแล้ว สั่งแค่ Chilli Crab กับข้าวหรือซาลาเปาทอดก็พอค่ะ
----------------------------------------------------------
3.
บะกุ๊ดเต๋ ว่ากันว่าที่นี่คือต้นตำรับ มีหลายเจ้า แต่เจ้าที่เก่าแก่ทีสุดคือ Song Fa เปิดตั้งแต่ปี 1969
ตั้งอยู่ตรงข้ามกับห้าง Central Clarke Quay ที่สำคัญคือราคาไม่แพง อิ่มได้ในงบไม่เกิน 10 เหรียญ
ใครคุ้นเคยกับบะกุ๊ดเต๋ตุ๋นยาจีนบ้านเรา อาจต้องร้องว่า "เฮ่ย นี่มันต้มจืดกระดูกหมูชัดๆ"
เห็นใส ๆ แบบนี้ น้ำซุปหวานน้ำต้มกระดูกมาก ที่สำคัญ เติมซุปได้ไม่อั้น พนักงานจะเดินถือกาน้ำซุปมาเติมให้ตลอดเท่าที่ต้องการ
ถั่วต้มซอสเครื่องเคียงที่นี่อร่อยมาก
ใครไม่กินหมู ก็เข้าร้านนี้ได้ มีฟองเต้าหู้กับตีนไก่ตุ๋น อร่อยเว่อร์วัง แอบให้คะแนนมากกว่าบะกุ๊ดเต๋อีก
มีผัดผักให้สั่งมาแกล้มค่ะ
บรรยากาศในร้าน ล้งเล้งดี
เหมือนจะรู้ว่าคนไทยชอบรสจัด เค้ามีพริกน้ำส้มให้จิ้มกระดูกหมูแซ่บๆด้วยค่ะ โต๊ะเราเล่นเอาจนหมดกระปุกเลย
เมนู เลือกขนาดและราคาได้ จะสั่งเดี่ยว ๆ หรือรวมข้าวเปล่าก็ได้
คิวยาวนะคะ ต้องไปแต่หัวค่ำ
-----------------------------------------------
4. มาที่ร้านของหวานขึ้นชื่อ Ya Kun Kaya Toast
เมนูเด็ดของที่นี่คือ ขนมปังปิ้งไส้สังขยา ชานม และไข่ลวก
ไข่ลวกมันช่าง....
ใส่ซอส แล้วตีให้แตก จิ้มกินกับขนมปัง คือวิธีการกินของคนที่นี่ค่ะ
Kaya Toast หน้าตาแบบนี้ล่ะค่ะ เป็นขนมปังปิ้ง ทาสังขยา โปะเนยชิ้นเล็กๆ ไว้ตรงกลาง
ถ้าสั่งขนมปังนึ่ง สังขยา ก็จะได้แบบนี้ ไม่มีสังขยาแยกมาแบบบ้านเราค่ะ แล้วไส้ที่ทาตรงกลางก็ช่างบางเบา ขี้เหนียวเกิ๊น
เมนูใหม่ Kaya Ball วาฟเฟิลลูกกลม ๆ ไส้สังขยา ไม่อร่อยเลย ไม่ต้องลองค่ะ
บรรยากาศสาขา Sommerset
[CR] * ไป "สิงคโปร์" กินอะไรดี? * พาไปชิมอาหารขึ้นชื่อ ร้านพื้นบ้าน ยันรถเข็นข้างถนน
ตามไปชิมอาหารในสิงคโปร์หลายรูปแบบกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอาหารขึ้นชื่อ ขึ้นเหลา ขึ้นห้าง ศูนย์อาหาร ร้านพื้นบ้านรถเข็นข้างถนน ฯลฯ
เริ่มจากอาหารขึ้นชื่อ เลื่องลือ ใครไปก็ต้องตามไปเช็คอิน
----------------------------------------
1. ข้าวมันไก่ ! แน่นอน ไปสิงคโปร์ต้องข้าวมันไก่ ไปที่ไหนก็เจอ
ร้านที่แนะนำสุด ๆ คือ Boon Tong Kee ร้านข้าวมันไก่เก่าแก่ เปิดมาตั้งแต่ปี 1976 (ตอนนี้มีสาขาที่ไทยแล้ว แต่แพงเชียว)
ได้ยินใครพูดว่า ข้าวมันไก่ที่ไหนก็เหมือนกัน อยากให้มาลองที่นี่ค่ะ เนื้อไก่ต่างกับไก่ของไทยลิบลับ
คือมันหนานุ่ม ชุ่มลิ้น โอ๊ย พูดแล้วอยากเลย
อันดับสองที่ต้องสั่ง เต้าหู้ทอด เนื้อเต้าหู้นุ่ม รสชาติอย่างกับพุดดิ้งนมสด จิ้มกับซอสมายองเนส อร่อยมาก
หมูทอดซอสหวานค่ะ
ซุปผักโขมใส่ไข่ ชามใหญ่ ไว้ซดพอลื่นคอ
ผักบุ้งผัดเต้าเจี้ยว รสชาติเต้าเจี้ยวจัดจ้าน เค็ม ๆ ออกคล้ายกะปิบ้านเรา
หมูทอด กับเครื่องเคียงที่พบได้ในร้านอาหารในสิงคโปร์ คือถั่วต้มซอส กับผักดอง
น้ำบาร์เลย์ คนที่นี่ชอบกินน้ำบาร์เลย์กันแฮะ
บรรยากาศร้านโล้งเล้งดี
ข้อมูลร้านค่ะ
http://boontongkee.com.sg/
------------------------------------------------------------------
2. "Chilli Crab" ปูราคามหาโหดแห่งร้าน Jumbo Seafood แพงแค่ไหนก็ต้องเจียดเงินไปชิม
ร้านอยู่ริมน้ำย่าน Clarke Quay หลายคนบอกว่าร้านนี้ต้องจองคิวเป็นสัปดาห์ แต่จากประสบการณ์ที่ไปมา 2 ครั้ง ไม่ต้องจองค่ะ
Walk in ไปได้เลย มันจะมีโต๊ะทีจองไว้แต่ยังไม่ถึงเวลาจอง หรือโต๊ะที่จองแล้วกินเสร็จแล้ว ยังไงก็มีที่ให้นั่ง
เคยได้ที่นั่งริมน้ำรับลมช่วงพระอาทิตย์ตกพอดีด้วยล่ะ ฟลุ๊คมาก เพราะเจ้าของโต๊ะจองไว้ทุ่มนึง เราไปตอน 6 โมงเย็น สบายไป
พระเอกของที่นี่ค่ะ Chilli Crab ปูผัดซอส ไม่เผ็ดเหมือนชื่อ ซอสหวานๆ มาชามใหญ่มาก ต้องสั่งซาลาเปาทอดมาจิ้มซอส เข้ากั๊น เข้ากัน
อีกแบบคือ Black Pepper Crab ปูผัดพริกไทยดำ ถ้าไปหลายคน สั่งอันนี้เพิ่มอีกเมนู จะได้ชิมให้ครบทั้ง 2 แบบ
กุ้งทอดซีเรียล อร่อยมาก สั่งมา 2 จาน และแพงมากด้วย ร้านซีฟู้ดส่วนใหญ่ในสิงคโปร์จะมีเมนูนี้
เป๋าฮื้อผัดซอส xo ค่ะ ไม่ได้ตั้งใจสั่ง แต่รวมอยู่ใน Set อาหารชุด A แล้ว
หูฉลามเนื้อปู รวมอยู่ใน Set A เช่นกัน
ฟองเต้าหู้พันกุ้งทอด อร่อยมากกกก อันนี้สั่งต่างหาก
ข้าวผัดกุ้ง รสชาติไม่เลว กุ้งเด้งมาก อันนี้รวมอยู่ใน Set
ของหวาน จะมีเฉพาะที่สั่งเป็นเซ็ตค่ะ ไม่อร่อยเลย
ถั่วทอด ผ้าเย็น ที่วางไว้ คิดเงินแล้วนะคะ จงใช้ และกินให้หมด !
เช็คบินมานี่จุกเลยค่ะ คำนวณเอาเองนะคะ รอบนี้ไป 6 คน สั่ง Set A สำหรับ 4 คน + อาหารเพิ่มเล็กน้อย เฉลี่ยประมาณคนละ 1,700 !!
แนะนำว่าไปร้านนี้ต้องเตรียมเงินไม่ต่ำกว่าคนละ 1,000 ยืนพื้น
ถ้าอยากจะชิมแค่ให้คุยกับเค้ารู้เรื่องว่าไปสิงคโปร์มาแล้ว สั่งแค่ Chilli Crab กับข้าวหรือซาลาเปาทอดก็พอค่ะ
----------------------------------------------------------
3. บะกุ๊ดเต๋ ว่ากันว่าที่นี่คือต้นตำรับ มีหลายเจ้า แต่เจ้าที่เก่าแก่ทีสุดคือ Song Fa เปิดตั้งแต่ปี 1969
ตั้งอยู่ตรงข้ามกับห้าง Central Clarke Quay ที่สำคัญคือราคาไม่แพง อิ่มได้ในงบไม่เกิน 10 เหรียญ
ใครคุ้นเคยกับบะกุ๊ดเต๋ตุ๋นยาจีนบ้านเรา อาจต้องร้องว่า "เฮ่ย นี่มันต้มจืดกระดูกหมูชัดๆ"
เห็นใส ๆ แบบนี้ น้ำซุปหวานน้ำต้มกระดูกมาก ที่สำคัญ เติมซุปได้ไม่อั้น พนักงานจะเดินถือกาน้ำซุปมาเติมให้ตลอดเท่าที่ต้องการ
ถั่วต้มซอสเครื่องเคียงที่นี่อร่อยมาก
ใครไม่กินหมู ก็เข้าร้านนี้ได้ มีฟองเต้าหู้กับตีนไก่ตุ๋น อร่อยเว่อร์วัง แอบให้คะแนนมากกว่าบะกุ๊ดเต๋อีก
มีผัดผักให้สั่งมาแกล้มค่ะ
บรรยากาศในร้าน ล้งเล้งดี
เหมือนจะรู้ว่าคนไทยชอบรสจัด เค้ามีพริกน้ำส้มให้จิ้มกระดูกหมูแซ่บๆด้วยค่ะ โต๊ะเราเล่นเอาจนหมดกระปุกเลย
เมนู เลือกขนาดและราคาได้ จะสั่งเดี่ยว ๆ หรือรวมข้าวเปล่าก็ได้
คิวยาวนะคะ ต้องไปแต่หัวค่ำ
-----------------------------------------------
4. มาที่ร้านของหวานขึ้นชื่อ Ya Kun Kaya Toast
เมนูเด็ดของที่นี่คือ ขนมปังปิ้งไส้สังขยา ชานม และไข่ลวก
ไข่ลวกมันช่าง....
ใส่ซอส แล้วตีให้แตก จิ้มกินกับขนมปัง คือวิธีการกินของคนที่นี่ค่ะ
Kaya Toast หน้าตาแบบนี้ล่ะค่ะ เป็นขนมปังปิ้ง ทาสังขยา โปะเนยชิ้นเล็กๆ ไว้ตรงกลาง
ถ้าสั่งขนมปังนึ่ง สังขยา ก็จะได้แบบนี้ ไม่มีสังขยาแยกมาแบบบ้านเราค่ะ แล้วไส้ที่ทาตรงกลางก็ช่างบางเบา ขี้เหนียวเกิ๊น
เมนูใหม่ Kaya Ball วาฟเฟิลลูกกลม ๆ ไส้สังขยา ไม่อร่อยเลย ไม่ต้องลองค่ะ
บรรยากาศสาขา Sommerset