☼ ☼ 14:: คัมภีร์เทวะสยบฟ้า ☼ ☼
คัมภีร์เล่มปลอม !
หมายความว่าอย่างไรกัน ?
เฉินชงหมิงรับฟังจนตะลึงลานกับที่ แทบเข้าใจว่าตนเองหูฝาดไป
“ ท่านเนี่ยโปรดอย่าล้อเล่น คัมภีร์เล่มนี้ท่านพ่อมอบให้ข้าก่อนสิ้นลม มันจะเป็นของปลอมไปได้อย่างไร ? ”
เนี่ยเหวินมองหน้าชายหนุ่มเบื้องหน้าอย่างนึกเวทนา ถามด้วยน้ำเสียงแฝงแววเห็นใจ
“ แล้วท่านได้รับมันจากมือบิดาของท่านหรือไม่ ? “
คนถูกถามถึงกับอึ้งไปวูบ สักครู่หนึ่งจึงค่อยส่ายหน้าช้าๆ
แน่นอน.. ตอนที่เขากลับมาถึงบ้าน ท่านพ่อก็เสียชีวิตแล้ว และเขาก็ได้รับมันมาจากท่านอารองเจี่ยคุนอีกต่อหนึ่ง แต่เจี่ยคุนเป็นผู้ที่ท่านพ่อไว้วางใจที่สุด อีกทั้งยังดีต่อเขาเป็นที่สุด
แล้วท่านอารองจะสับเปลี่ยนคัมภีร์เอาเล่มปลอมมาให้เขาได้อย่างไร ?
เนี่ยเหวินยื่นคัมภีร์ส่งคืนให้เขา พลางถามอีกว่า
“ คุณชายเฉิน มิทราบว่าท่านพอจะรู้จักเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของคัมภีร์เทวะสยบฟ้าเล่มนี้หรือไม่ ? “
เฉินชงหมิงพยักหน้า
“ ข้าก็พอทราบมาบ้างว่า เมื่อประมาณเกือบร้อยปีก่อน บรรพบุรษของข้าได้มันมาจากในถ้ำลึกลับกลางหุบเขานิรนามแห่งหนึ่ง จากนั้นมันก็ถูกตกทอดมาในตระกูลข้าถึงสี่ชั่วอายุคน “
“ อืม..ก็แสดงว่าท่านยังไม่เคยทราบประวัติของมันก่อนหน้านั้น ? “
“ ท่านทราบหรือว่ามันมีความเป็นมาอย่างไร ? “
เนี่ยเหวินนิ่งเงียบราวครุ่นคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง ค่อยเล่าออกมาแทนคำตอบ
“
เมื่อร้อยกว่าปีก่อน... มีค่ายสำนักเร้นลับแห่งหนึ่ง มีชื่อว่า สำนักมังกรเทวะ เจ้าสำนักไม่ค่อยสนใจในลาภยศชื่อเสียง เพียงก่อตั้งสำนักขึ้นอย่างสมภะกลางป่าเขา มุ่งมั่นเพียงสรรสร้างสุดยอดวรยุทธ ในที่สุดจึงนำเอาปมเด่นของยอดวิชาหลายแขนงในแผ่นดินมารวมกัน แล้วคิดค้นวิชาเทวะสยบฟ้าขึ้นมา
มิคาด..ศิษย์ผู้น้องคนรองของเจ้าสำนักบังเกิดจิตคิดละโมบ วางแผนฆ่าเจ้าสำนักจนเสียชีวิตแล้วช่วงชิงคัมภีร์ไป จากนั้นหวังใช้ยอดวิชานี้นำไปสร้างความยิ่งใหญ่ในยุทธภพ
เจ้าสำนักมังกรเทวะยังมีน้องชายร่วมสาบานท่านหนึ่ง มีนามว่าเฉินตงโพ้ว เพื่อช่วยเหลือสำนักมังกรเทวะ ท่านเฉินตงโพ้วจึงร่วมมือกับศิษย์ของท่านผู้หนึ่ง ให้นางแสร้งยั่วยวนศิษย์ผู้น้องที่ทรยศผู้นั้นจนใหลหลง จากนั้นก็แอบคัดลอกคัมภีร์เทวะสยบฟ้าขึ้นมาอีกเล่มหนึ่งมอบให้ท่าน จากนั้นท่านก็ศึกษาวิเคราะห์คัมภีร์เล่มนี้ร่วมกับทายาทของประมุขวังมังกรเทวะผู้ล่วงลับ รวมจุดเด่นละลายจุดด้อย อีกทั้งผสมผสานกับยอดวิชาประจำตัวของพวกท่านทั้งสอง ค่อยค้นคิดสุดยอดวรยุทธชุดใหม่ที่เรียกว่า วิชาสุริยเหมันต์ขึ้นมา แล้วใช้วิชานี้สยบศิษย์ทรยศผู้นั้นได้เป็นผลสำเร็จ..”
“ งั้นบรรพชนตระกูลข้าได้รับคัมภีร์เล่มนี้มาตอนไหน ? “
“ ศิษย์สตรีของท่านเฉินตงโพ้ว ทุ่มเทตนเองเพื่อกำจัดศิษย์ทรยศให้กับสำนักมังกรเทวะ หลังจากงานสำเร็จ ก็พบว่าตนเองกลับมีทายาทกับศิษย์ทรยศผู้นั้นติดครรภ์มาด้วย ความผิดของบิดา..ไม่อาจสืบทอดไปยังทารกผู้บริสุทธิ์ ท่านเฉินตงโพ้วจึงเลี้ยงดูเด็กผู้นั้นจนเติบใหญ่กล่อมเกลามันให้ยึดมั่นในคุณธรรม มิเพียงให้มันใช้แซ่เฉินตามท่าน อีกทั้งยังมอบคัมภีร์เทวะสยบฟ้าเล่มที่คัดลอกมาได้นั้นให้กับมัน นำมาก่อตั้งบ้านเทพเจ้า ใช้วรยุทธ์ที่ฝึกปรือพิทักษ์คุณธรรมให้แผ่นดิน ชดใช้บาปของบิดาผู้ให้กำเนิดที่เคยกระทำไว้ “
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินชงหมิงได้รับฟังเรื่องนี้ ถึงกับฟังจนปากอ้าตาค้าง เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“ แสดงว่า.. คัมภีร์เทวะสยบฟ้า มีสองเล่ม ? “
“ ถูกแล้ว.. เล่มจริงนั้นถูกมอบคืนกลับสู่เจ้าสำนักมังกรเทวะคนต่อมา ส่วนเล่มคัดลอกก็ตกทอดอยู่กับตระกูลเฉินแห่งบ้านเทพเจ้า “
“ หรือว่า.. วิชาในเล่มคัดลอกเป็นของปลอม ถ้าเช่นนั้น..ที่บรรพชนตระกูลข้าฝึกมาล้วนเป็นของปลอมหรือ ? “
“ หามิได้.. คัมภีร์ที่ตกทอดอยู่กับตระกูลเฉินบ้านเทพเจ้าแม้เป็นเล่มคัดลอก แต่เนื้อหาวิชาในคัมภีร์เป็นของจริง ๆที่เหมือนกับเล่มจริงทุกประการ “
“ แล้วไฉนท่านถึงบอกว่า คัมภีร์ที่อยู่กับข้าเล่มนี้เป็นของปลอม ? “
เนี่ยเหวินถอนใจตอบว่า
“ เพราะว่า.. คัมภีร์เล่มที่อยู่กับท่านเล่มนี้ เป็นคนละเล่มกับฉบับคัดลอกเล่มนั้น “
เฉินชงหมิงขมวดคิ้ว ถามอย่างเคลือบแคลงสงสัย
“ ท่านทราบได้อย่างไร ? “
“ เพราะว่า.. คัมภีร์อีกเล่มที่เป็นต้นฉบับจริงนั้น ถูกตกทอดมาอยู่กับข้า “
“ ท่าน.... ! ” เฉินชงหมิงโพล่งอย่างตื่นตระหนก จากนั้นฉุกใจคิด
“ ที่แท้ท่าน.. ท่านเป็นใครกันแน่ ? “
เนี่ยเหวินระบายลมหายใจยาว สีหน้าทอแววอับจนปัญญาขึ้น
“ ในเมื่อท่านยอมไว้วางใจเล่าเรื่องของตนเองให้ข้าฟัง ข้าจะปกปิดฐานะตนเองต่อไปก็กระไรอยู่ ขอบอกท่านโดยไม่ปิดบัง ประมุขรุ่นที่หกแห่งสำนักมังกรเทวะ คือบิดาบุญธรรมของข้าเอง แล้วเขาก็มอบคัมภีร์ต้นฉบับเล่มนั้นยกให้กับข้า... ดังนั้นเนื้อหาในคัมภีร์นี้ข้าจึงท่องได้อย่างจดจำขึ้นใจ “
เฉินชงหมิงตะลึงลานอีกครั้ง พอครุ่นคิดได้ต้องครางออกมาอย่างอย่างเข้าใจ
“ ด้วยเหตุนี้กระมัง พอท่านกวาดตาอ่านเนื้อหาในคัมภีร์เมื่อสักครู่ จึงระบุได้ทันทีว่ามันเป็นของปลอม “
กล่าวถึงตอนท้าย ค่อยฉุกใจคิด พึมพำว่า
“ ในเมื่อวิชาที่ตกทอดมาจากบรรพชนของตระกูลเฉินเป็นของจริง ข้าไม่เข้าใจ.. ทำไมท่านพ่อต้องมอบคัมภีรืเล่มปลอมให้กับข้า ..หรือว่า.. คัมภีร์ถูกสับเปลี่ยน ? “
เนี่ยเหวินพยักหน้า กล่าวอย่างกังวล
“ ข้าก็คิดเช่นนั้น.. คัมภีร์ที่ประมุขเฉินเซ่าเทียนมอบให้ท่านก่อนสิ้นลมคงเป็นฉบับจริง เพียงแต่..ก่อนที่จะตกถึงมือของท่าน ก็ถูกคนสับเปลี่ยน จนกลายมาเป็นเล่มปลอมฉบับนี้ “
คัมภีร์ก่อนตกถึงมือของเขา เพียงผ่านมือของคนผู้เดียวเท่านั้น
นั่นก็คือท่านอารองเจี่ยคุน !
หรือว่า..อีกฝ่ายคือผู้สับเปลี่ยนคัมภีร์ ?
♥ ♥ .. จอมใจเจ้าบัลลังก์ .. ♥ ♥ [ 14: คัมภีร์เทวะสยบฟ้า ]
☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼
☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼
อ่านตอนก่อนหน้านี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[ขอบคุณคลิปจากยูทู้ปเรื่อง :: วีรบุรุษกู้พิภพ]
คัมภีร์เล่มปลอม !
หมายความว่าอย่างไรกัน ?
เฉินชงหมิงรับฟังจนตะลึงลานกับที่ แทบเข้าใจว่าตนเองหูฝาดไป
“ ท่านเนี่ยโปรดอย่าล้อเล่น คัมภีร์เล่มนี้ท่านพ่อมอบให้ข้าก่อนสิ้นลม มันจะเป็นของปลอมไปได้อย่างไร ? ”
เนี่ยเหวินมองหน้าชายหนุ่มเบื้องหน้าอย่างนึกเวทนา ถามด้วยน้ำเสียงแฝงแววเห็นใจ
“ แล้วท่านได้รับมันจากมือบิดาของท่านหรือไม่ ? “
คนถูกถามถึงกับอึ้งไปวูบ สักครู่หนึ่งจึงค่อยส่ายหน้าช้าๆ
แน่นอน.. ตอนที่เขากลับมาถึงบ้าน ท่านพ่อก็เสียชีวิตแล้ว และเขาก็ได้รับมันมาจากท่านอารองเจี่ยคุนอีกต่อหนึ่ง แต่เจี่ยคุนเป็นผู้ที่ท่านพ่อไว้วางใจที่สุด อีกทั้งยังดีต่อเขาเป็นที่สุด
แล้วท่านอารองจะสับเปลี่ยนคัมภีร์เอาเล่มปลอมมาให้เขาได้อย่างไร ?
เนี่ยเหวินยื่นคัมภีร์ส่งคืนให้เขา พลางถามอีกว่า
“ คุณชายเฉิน มิทราบว่าท่านพอจะรู้จักเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของคัมภีร์เทวะสยบฟ้าเล่มนี้หรือไม่ ? “
เฉินชงหมิงพยักหน้า
“ ข้าก็พอทราบมาบ้างว่า เมื่อประมาณเกือบร้อยปีก่อน บรรพบุรษของข้าได้มันมาจากในถ้ำลึกลับกลางหุบเขานิรนามแห่งหนึ่ง จากนั้นมันก็ถูกตกทอดมาในตระกูลข้าถึงสี่ชั่วอายุคน “
“ อืม..ก็แสดงว่าท่านยังไม่เคยทราบประวัติของมันก่อนหน้านั้น ? “
“ ท่านทราบหรือว่ามันมีความเป็นมาอย่างไร ? “
เนี่ยเหวินนิ่งเงียบราวครุ่นคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง ค่อยเล่าออกมาแทนคำตอบ
“ เมื่อร้อยกว่าปีก่อน... มีค่ายสำนักเร้นลับแห่งหนึ่ง มีชื่อว่า สำนักมังกรเทวะ เจ้าสำนักไม่ค่อยสนใจในลาภยศชื่อเสียง เพียงก่อตั้งสำนักขึ้นอย่างสมภะกลางป่าเขา มุ่งมั่นเพียงสรรสร้างสุดยอดวรยุทธ ในที่สุดจึงนำเอาปมเด่นของยอดวิชาหลายแขนงในแผ่นดินมารวมกัน แล้วคิดค้นวิชาเทวะสยบฟ้าขึ้นมา
มิคาด..ศิษย์ผู้น้องคนรองของเจ้าสำนักบังเกิดจิตคิดละโมบ วางแผนฆ่าเจ้าสำนักจนเสียชีวิตแล้วช่วงชิงคัมภีร์ไป จากนั้นหวังใช้ยอดวิชานี้นำไปสร้างความยิ่งใหญ่ในยุทธภพ
เจ้าสำนักมังกรเทวะยังมีน้องชายร่วมสาบานท่านหนึ่ง มีนามว่าเฉินตงโพ้ว เพื่อช่วยเหลือสำนักมังกรเทวะ ท่านเฉินตงโพ้วจึงร่วมมือกับศิษย์ของท่านผู้หนึ่ง ให้นางแสร้งยั่วยวนศิษย์ผู้น้องที่ทรยศผู้นั้นจนใหลหลง จากนั้นก็แอบคัดลอกคัมภีร์เทวะสยบฟ้าขึ้นมาอีกเล่มหนึ่งมอบให้ท่าน จากนั้นท่านก็ศึกษาวิเคราะห์คัมภีร์เล่มนี้ร่วมกับทายาทของประมุขวังมังกรเทวะผู้ล่วงลับ รวมจุดเด่นละลายจุดด้อย อีกทั้งผสมผสานกับยอดวิชาประจำตัวของพวกท่านทั้งสอง ค่อยค้นคิดสุดยอดวรยุทธชุดใหม่ที่เรียกว่า วิชาสุริยเหมันต์ขึ้นมา แล้วใช้วิชานี้สยบศิษย์ทรยศผู้นั้นได้เป็นผลสำเร็จ..”
“ งั้นบรรพชนตระกูลข้าได้รับคัมภีร์เล่มนี้มาตอนไหน ? “
“ ศิษย์สตรีของท่านเฉินตงโพ้ว ทุ่มเทตนเองเพื่อกำจัดศิษย์ทรยศให้กับสำนักมังกรเทวะ หลังจากงานสำเร็จ ก็พบว่าตนเองกลับมีทายาทกับศิษย์ทรยศผู้นั้นติดครรภ์มาด้วย ความผิดของบิดา..ไม่อาจสืบทอดไปยังทารกผู้บริสุทธิ์ ท่านเฉินตงโพ้วจึงเลี้ยงดูเด็กผู้นั้นจนเติบใหญ่กล่อมเกลามันให้ยึดมั่นในคุณธรรม มิเพียงให้มันใช้แซ่เฉินตามท่าน อีกทั้งยังมอบคัมภีร์เทวะสยบฟ้าเล่มที่คัดลอกมาได้นั้นให้กับมัน นำมาก่อตั้งบ้านเทพเจ้า ใช้วรยุทธ์ที่ฝึกปรือพิทักษ์คุณธรรมให้แผ่นดิน ชดใช้บาปของบิดาผู้ให้กำเนิดที่เคยกระทำไว้ “
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินชงหมิงได้รับฟังเรื่องนี้ ถึงกับฟังจนปากอ้าตาค้าง เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“ แสดงว่า.. คัมภีร์เทวะสยบฟ้า มีสองเล่ม ? “
“ ถูกแล้ว.. เล่มจริงนั้นถูกมอบคืนกลับสู่เจ้าสำนักมังกรเทวะคนต่อมา ส่วนเล่มคัดลอกก็ตกทอดอยู่กับตระกูลเฉินแห่งบ้านเทพเจ้า “
“ หรือว่า.. วิชาในเล่มคัดลอกเป็นของปลอม ถ้าเช่นนั้น..ที่บรรพชนตระกูลข้าฝึกมาล้วนเป็นของปลอมหรือ ? “
“ หามิได้.. คัมภีร์ที่ตกทอดอยู่กับตระกูลเฉินบ้านเทพเจ้าแม้เป็นเล่มคัดลอก แต่เนื้อหาวิชาในคัมภีร์เป็นของจริง ๆที่เหมือนกับเล่มจริงทุกประการ “
“ แล้วไฉนท่านถึงบอกว่า คัมภีร์ที่อยู่กับข้าเล่มนี้เป็นของปลอม ? “
เนี่ยเหวินถอนใจตอบว่า
“ เพราะว่า.. คัมภีร์เล่มที่อยู่กับท่านเล่มนี้ เป็นคนละเล่มกับฉบับคัดลอกเล่มนั้น “
เฉินชงหมิงขมวดคิ้ว ถามอย่างเคลือบแคลงสงสัย
“ ท่านทราบได้อย่างไร ? “
“ เพราะว่า.. คัมภีร์อีกเล่มที่เป็นต้นฉบับจริงนั้น ถูกตกทอดมาอยู่กับข้า “
“ ท่าน.... ! ” เฉินชงหมิงโพล่งอย่างตื่นตระหนก จากนั้นฉุกใจคิด
“ ที่แท้ท่าน.. ท่านเป็นใครกันแน่ ? “
เนี่ยเหวินระบายลมหายใจยาว สีหน้าทอแววอับจนปัญญาขึ้น
“ ในเมื่อท่านยอมไว้วางใจเล่าเรื่องของตนเองให้ข้าฟัง ข้าจะปกปิดฐานะตนเองต่อไปก็กระไรอยู่ ขอบอกท่านโดยไม่ปิดบัง ประมุขรุ่นที่หกแห่งสำนักมังกรเทวะ คือบิดาบุญธรรมของข้าเอง แล้วเขาก็มอบคัมภีร์ต้นฉบับเล่มนั้นยกให้กับข้า... ดังนั้นเนื้อหาในคัมภีร์นี้ข้าจึงท่องได้อย่างจดจำขึ้นใจ “
เฉินชงหมิงตะลึงลานอีกครั้ง พอครุ่นคิดได้ต้องครางออกมาอย่างอย่างเข้าใจ
“ ด้วยเหตุนี้กระมัง พอท่านกวาดตาอ่านเนื้อหาในคัมภีร์เมื่อสักครู่ จึงระบุได้ทันทีว่ามันเป็นของปลอม “
กล่าวถึงตอนท้าย ค่อยฉุกใจคิด พึมพำว่า
“ ในเมื่อวิชาที่ตกทอดมาจากบรรพชนของตระกูลเฉินเป็นของจริง ข้าไม่เข้าใจ.. ทำไมท่านพ่อต้องมอบคัมภีรืเล่มปลอมให้กับข้า ..หรือว่า.. คัมภีร์ถูกสับเปลี่ยน ? “
เนี่ยเหวินพยักหน้า กล่าวอย่างกังวล
“ ข้าก็คิดเช่นนั้น.. คัมภีร์ที่ประมุขเฉินเซ่าเทียนมอบให้ท่านก่อนสิ้นลมคงเป็นฉบับจริง เพียงแต่..ก่อนที่จะตกถึงมือของท่าน ก็ถูกคนสับเปลี่ยน จนกลายมาเป็นเล่มปลอมฉบับนี้ “
คัมภีร์ก่อนตกถึงมือของเขา เพียงผ่านมือของคนผู้เดียวเท่านั้น
นั่นก็คือท่านอารองเจี่ยคุน !
หรือว่า..อีกฝ่ายคือผู้สับเปลี่ยนคัมภีร์ ?