สวัสดีครับชาวพันทิป ก่อนอื่นขอออกตัวเลยว่านี่เป็นกระทู้แรกของผู้ตั้ง และมีจุดประสงค์เพื่อให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและอยากให้ใครหลายๆคนที่ตัดสิน "จุฬาฯ" ไปแล้ว ลองอ่านกระทู้นี้อีกสักครั้ง เข้าใจว่าคงเคยมีกระทู้ราวๆนี้ออกมาบ้างทั้งชื่มชม และโจมตี แต่ในช่วงที่กำลังเป็นหัวเรี่ยวหัวต่อกับน้องชั้น ม.ปลาย ถ้าได้อ่านกระทู้นี้ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์หรือไม่ก็เป็นภาพใหม่ๆที่อยากให้เกิดแก่ทุกท่านเมื่อได้ยินคำว่า "จุฬาฯ"
"ไม่อยากเข้าเรียนจุฬาฯ เพราะไม่ชอบสังคมในจุฬาฯ"
ประโยคนี้คือประโยคที่ผมได้ยิน(บ่อยๆ) จากรุ่นน้องมัธยมฯที่รู้จัก หรือบ้างครั้งก็เห็นบ้างตามเว็บบอร์ดทั่วๆไปเมื่อมีประเด็นเกี่ยวกับ "มหาวิทยาลัย" มาพูดกัน ผมยินดีเปิดเผยตัวเลยครับว่าผมเป็นนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะนี้อยู่เพียงชั้นปีที่ 1 บางคนอาจจะคิดว่า เด็กปี 1 จะไปรู้อะไรดี แต่อยากให้มองมุมกลับว่า เด็กปีที่ 1 ที่เพิ่งได้สัมผัสชีวิตที่นี่จริงๆทำไมถึงกล้ามาตั้งกระทู้ให้คนภายนอกเปลี่ยนทัศนคติที่ว่า "สังคมจุฬาฯไม่ดี"
ทุกท่านน่าจะเคยได้ยินว่า "คนนอก" ไม่มีทางรู้ดีเท่า "คนใน" ผมในฐานะคนในคนหนึ่งที่เพิ่งใช้ชีวิตที่นี่เพียงครึ่งปี มีอะไรอยากมาบอก "คนนอก" หลายๆคนที่ติดสินว่าสังคมจุฬาฯไม่น่าอยู่ มีเหตุผลต่างๆมากมายที่ถูกนำมาพูดกันว่าจุฬาฯในหลายๆด้านไม่ดี แต่ผมก็มีหลายๆด้านที่อยากจะมาบอกท่านๆวันนี้เหมือนกัน ว่าสังคมหรือชีวิตนิสิตจุฬาฯจริงแล้วเป็นอย่างไร
ระบบการเรียน
จุฬาฯเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย และกำลังจะมีอายุครบ 100 ปี แต่ระบบการเรียนการสอนที่นี่ก็ไม่ได้แตกต่างจากมหาวิทยาลัยอื่นๆนัก หลักสูตรก็คงไม่ได้ผิดแปลกพิสดาร หรือสอนคนให้เป็นตำราเดินอย่างที่หลายคนเข้าใจ จุฬาฯมีนักวิชาการ มีนักคิด นักพัฒนา แต่ก็ไม่ใช่ว่าสถาบันอื่นจะไม่มี บุคลากร(ส่วนใหญ่)ของที่นี่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นนิสิตจุฬาฯในอดีต แต่ก็ไม่ใช่ว่าบุคคลเก่งๆจากสถาบันอื่นๆจะไม่มีสิทธิ์มีเสียงในจุฬาฯ ทุกคนในที่นี้มีสิทธิ์เท่ากัน และเราไม่ได้ทะนงตนหรือยโสในเกียรติภูมิของเรามากมายขนาดที่เอาไปโจมตีคนอื่นได้ขนาดนั้น
นิสิตจุฬาฯ
หลายคนบอกว่านิสิตจุฬาฯติดไฮโซ ติดหรู นี่น่าจะเป็นประเด็นหลักเลยที่ผมอยากมาตั้งกระทู้นี้ จริงๆแล้วนิสิตจุฬาฯเองก็รู้ดีว่าชีวิตของเราที่นี่ บางทีอาจจะตรงข้ามจากที่คนอื่นมองด้วยซ้ำ จุฬาฯมีห้างรายล้อมมหาวิทยาลัยนับสิบห้าง มีสถานบันเทิงหรือแหล่งละลายทรัพย์มากมาย แต่ก็ใช่ว่านิสิตจุฬาฯทุกคนต้องไป หรือคนที่ไปก็ใช่ว่าจะต้องซื้อ นิสิตจุฬาฯไปเดินสยามด้วยเหตุผลคล้ายๆคุณป้าออกไปเดินตลาดนัด จริงๆเราไม่ได้ต้องการละลายทรัพย์ในกระเป๋าทุกวี่ทุกวันขนาดนั้น วันไหนประสบเจอของถูกใจก็มีใช้สอยตามอัตภาพ
ส่วน
เรื่องอาหารการกิน ของบอกเลยว่านิสิตจุฬาฯหากินของถูกมากกว่าของแพง ถ้ารีวิวราคาโรงอาหารภายในตัวมหาวิทยาลัยขอบอกเลยว่าราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 20 25 30 บาทเท่านั้น ไม่ได้มีแบรนด์หรูดังจานละเกือบร้อยบาทแบบที่ใครคิด อาจมีบ้างบางมื้อที่สังสรรค์ทานมื้อพิเศษแล้วถ่ายรูปอวดลงโซเชียลให้คนครหานินทาว่าติดรวย แต่คิดดูสิครับว่านานๆครั้งได้กินก็ต้องลงรูปเป็นธรรมดาของยุค จะมีใครถ่ายรูปข้าวราดแกงธรรมดาลงโซเชียลทุกมื้อ และถ้าสังเกตดีๆ พวกรูปสังสรรค์ลงโซเชียลมักมี "คนเลี้ยง" อยู่ในโต๊ะนั้น นั่นแหละครับ จริงๆเราหาโอกาสกันไปพบปะพี่น้องมากกว่าอยู่แล้ว ใครจะนึกคึกออกไปหาบุฟเฟ่ต์กินทุกเย็น หรือถ้ามีแบบนั้นก็คงเป็นส่วนน้อยมากๆจากหลายหมื่นชีวิตที่นี่ สำหรับใน
เรื่องการเดินทาง ยอมรับเลยครับว่าแต่ก่อนผมเคยคิดว่า "นิสิตจุฬาฯต้องมีรถขับ" แต่พอได้มาอยู่จริงๆแล้วนี่แหละตรงกันข้ามสุดๆเลยครับ อาจจะมีนิสิต 5% ที่มีฐานะดีและมีรถขับมาจอด (ในพื้นที่ที่แทบไม่มีให้จอด) แต่อีก 95% นั้นใช้ชีวิตด้วยการ "เดิน" และ "นั่งรถเมล์" ต่างหากครับ ผมคนนึงแหละที่เดินจากหอพักไปคณะทุกวัน นิสิตส่วนใหญ่ที่บ้านไกลก็ใช้ชีวิตเช่นมนุษย์ธรรมดาคือนั่งรถเมล์ครีมแดง 6.50 ได้ รีบหน่อยก็นั่ง BTS MRT มาถึงบริเวณมหาวิทยาลัยก็มี "รถป๊อบ" หรือรถโดยสารภายในที่เป็นรถชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้ใช้ฟรีๆนับร้อยคัน นิสิตจุฬาฯอยู่ได้ด้วยสิ่งเหล่านี้ และที่นี่แทบไม่มีนิสิตขี่มอเตอร์ไซค์วิ่งไปวิ่งมาแบบบางที่ อย่างมากก็มีจักรยานที่มหาวิทยาลัยเรามีเตรียมให้อีกนั่นแหละ หลายคนก็อาจบอกว่า ก็ใช่ไงเพราะจุฬาฯมีแต่ที่อื่นไม่มี แต่จุดนี้ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องมาโต้เถียง ที่ผมพยายามบอกก็คือ นิสิตที่นี่ไม่ได้ใช้ชีวิตราชารวยมาจากสวรรค์แบบที่หลายคนคิด เพราะฉะนั้นเลิกคิดว่าพวกเราติดหรูสักทีเถิดครับ
ทุกคนในจุฬาฯ
จริงๆก็เป็นส่วนต่อจากส่วนนิสิตจุฬาฯ จริงๆผมแค่อยากบอกว่าคนในจุฬาฯมาจากทั่วทุกสารทิศของประเทศ ทุกภาค ทุกจังหวัดหาเพื่อน พี่ น้องได้หมด บางจังหวัดยังสามารถรวมตัวกลับไปทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ให้บ้านเกิดตัวเองได้ด้วย แต่ที่ต้องการจะบอกคือเราเป็นสังคมหลากหลาย มีบ้างทีอาจต้องปรับตัวให้เข้ากันบ้าง แต่การใช้ชีวิต คนที่นี่ทุกคนล้วนมีความสามารถ ทุกคนทำงานเป็น บางอย่างไม่ต้องบังคับก็มีอาสาสมัคร บางอย่างไม่ต้องเลือกก็มีคนอาสามาช่วยทำ เราแทบจะต้องเลือกตั้งคนเพื่อแย่งกันทำงานมากกว่าทิ้งงานเอาตัวเองสบาย ระบบพี่อุปถัมภ์น้องที่นี่ก็ดีมาก บางคนบอกว่า SOTUS เกิดที่จุฬาฯ ก็ไม่รู้ว่าจริงไหมแต่ที่ผมรู้คือระบบพี่น้องของที่นี่ไม่มีการบังคับขู่เข็ญแบบบางที่ การรับน้องของที่นี่พี่ๆแทบจะปรนนิบัติน้องๆอยู่แล้ว อาจมีบ้างบางคณะที่มีการรับน้องจริงจังเพื่อยอมรับเข้าเป็นน้องของคณะ แต่นั้นคือภาพของคณะ ของภาควิชานั้น ไม่ใช่ภาพของจุฬาฯ ตัวผมเองกล้าบอกได้ว่า รุ่นพี่ที่นี่อบอุ่นมากๆ ในขณะที่เราต้องปรับตัวกับเพื่อน เราก็มีรุ่นพี่ที่คอยช่วยเหลือแทบทุกอย่าง และในฐานะที่เราเป็นรุ่นพี่น้องๆมัธยมฯ เราก็กล้าบอกเลยว่าเราก็รักน้องๆรุ่นถัดๆลงมาเช่นกัน ภาพนิสิตจุฬาฯเห็นแก่ตัว รักตัวเองรักพวกพ้อง จึงอาจเป็นภาพอดีตหรือไม่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นเลยจริงๆก็ได้ ครูบาอาจารย์ของที่นี่อย่างที่บอกไปว่าส่วนใหญ่ก็เคยเป็นนิสิตมากก่อน อาจารย์เป็นผู้แกร่งวิชาคือเป็นนักวิชาการ จะให้มาสอนถูกใจเด็กรุ่นใหม่อารมณ์ติวเตอร์สอนไปหัวเราะไปแบบนั้นก็คงจะไม่ใช่ทุกคน แต่อาจารย์ที่นี่ยอมรับว่าน่ารัก คือรักนิสิต มีกฎร่วมกันที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่คลาสแรก จึงไม่ใช่ประเด็นที่อาจารย์กับนิสิตที่นี่จะไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
เรื่องอื่นๆ
เขียนมาสักระยะก็ไม่รู้ว่าพูดออกไปไกลแค่ไหน จุดประสงค์เดียวของการตั้งกระทู้นี้คือแค่เพียงอยากให้ "คนนอก" เข้าใจจุฬาฯ ว่าสังคมของเราไม่ได้แย่ และอาจ "ดี" กว่าที่คิดด้วยซ้ำไป สำหรับบางคนที่สนใจอยากเข้ามาที่นี่ก็ดีใจที่ยังเชื่อมั่นในเรา จุฬาฯมีทุนทรัพย์มากพอรองรับนิสิตทุกปี มีทุนการศึกษาแบบให้เปล่าเรียนฟรีพร้อมค่าใช้จ่ายรายเทอมให้หลายร้อยทุน ถ้าหากมีความตั้งใจ และมุ่งมั่นที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่จริงๆก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ขอแค่ตั้งใจและพยายามก็พอ
บทสรุป
ก่อนจะส่งท้ายก็อยากย้ำอีกครั้งว่าผมเป็นนิสิตจุฬาฯคนเล็กๆคนนึง ไม่ใช่MC ไม่ใช่PR ไม่ใช่คนมีส่วนได้เสียกับสถาบัน ไม่ใช่คนสร้างภาพ และไม่ต้องการความชื่นชมใดๆ แค่ตั้งกระทู้ขึ้นมาจากการพูดคุยกับน้องๆบางคน อ่านบอร์ดบางบอร์ดแล้วติดกับคำว่า "สังคมจุฬาฯไม่ดี" เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังผ่านสายตานิสิตปี 1 เทอมแรกเท่านั้นเอง ทราบดีว่าไม่ได้รู้ดีไปทั้งหมด แต่เท่าที่รู้ทั้งหมดล้วนแต่เป็นเรื่องดี อยากให้หลายคนที่ติดสินจุฬาฯไปแล้วว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ลองมาสัมผัสดูด้วยตัวเองอีกที บางทีแล้ว คุณอาจจะรักที่นี่ได้โดยไม่ต้องมาท่องเกียรติภูมิ ไม่ต้องมีใครมาบอกให้เชิดชู ไม่ต้องมีใครมาเยินยอในพระนามฯ ขอเพียงแค่ไม่ย่ำยี ไม่ดูหมิ่น ไม่มาดูถูกหรือตัดสินพวกเราจากภายนอก ผมเชื่อว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยที่ดี "ตัวเลือกหนึ่ง" ที่ใครก็ตามที่มุ่งหวังอยากมาเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่จะไม่ผิดหวัง เพราะทุกสถาบัน ทั้งจุฬาฯ มหาวิทยาลัยรัฐ มหาวิทยาลัยเอกชน วิทยาลัยปวช. ปวศ. หรือสถาบันเทียบเท่า ล้วนแล้วแต่มีจุดมุ่งหมายต้องการผลิตทรัพยากรมนุษย์ผู้มีความรู้ความสามารถไปพัฒนาประเทศชาติเช่นกัน อย่าให้อคติมาบดบัง จนเป็นความขุ่นข้องเคืองใจหรือเป็นภาพจำที่ไม่ดีต่อกันอีกเลย
ขอขอบคุณครับ
ปล. หากมีข้อคิดเห็นหลังจากนี้ที่อาจไม่เห็นด้วยหรือต่อว่าว่าผมไม่รู้จริง ก็ขอไม่โต้ตอบ เพราะผมก็บอกไปในตัวเนื้อความแล้วว่าผมมาเล่าผ่านมุมมองเท่าที่ตัวผมรู้สึกได้ และไม่ได้มาเพื่อการโฆษณาใดๆทั้งสิ้น ผมแค่อยากเปลี่ยนภาพมุมมองของคนที่มองจุฬาฯใหม่เท่านั้น
ปล.๒ หากมีการอ้างชื่อสถาบันอื่นๆในการแสดงความคิดเห็น ผมขอไม่รับผิดชอบในส่วนนั้นๆ ส่วนในเนื้อความที่อาจมีพาดพิงคำว่า "สถาบันอื่น" เป็นเพียงการกล่าวภาพรวมในสังคมที่อาจปรากฏเรื่องราวนั้นอยู่สักที่แห่งใดแห่งหนึ่ง ไม่ได้เฉพาะเจาะจงเพราะผมก็ไม่มีข้อมูล
ปล.๓ หากมีการอ้างชื่อ จุฬาฯ หลังจากนี้ อยากให้ใช้คำว่า จุฬาฯ ที่มี ฯ ต่อท้ายเพื่อความถูกต้อง แต่ก็ล้วนแล้วแต่ความสะดวกของท่าน
ปล.๔ หากกระทู้นี้เกิดกระแสสังคมที่ส่งผลเสียต่อจุฬาฯหรือบางสถาบันในด้านใดด้านหนึ่ง ท่านสามารถแจ้งลบ หรือถ้าหากผมมาเห็นก็จะแจ้งลบให้โดยทันที
"ไม่อยากเรียนจุฬาฯ เพราะไม่ชอบสังคมจุฬาฯ" หรือ?
"ไม่อยากเข้าเรียนจุฬาฯ เพราะไม่ชอบสังคมในจุฬาฯ"
ประโยคนี้คือประโยคที่ผมได้ยิน(บ่อยๆ) จากรุ่นน้องมัธยมฯที่รู้จัก หรือบ้างครั้งก็เห็นบ้างตามเว็บบอร์ดทั่วๆไปเมื่อมีประเด็นเกี่ยวกับ "มหาวิทยาลัย" มาพูดกัน ผมยินดีเปิดเผยตัวเลยครับว่าผมเป็นนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะนี้อยู่เพียงชั้นปีที่ 1 บางคนอาจจะคิดว่า เด็กปี 1 จะไปรู้อะไรดี แต่อยากให้มองมุมกลับว่า เด็กปีที่ 1 ที่เพิ่งได้สัมผัสชีวิตที่นี่จริงๆทำไมถึงกล้ามาตั้งกระทู้ให้คนภายนอกเปลี่ยนทัศนคติที่ว่า "สังคมจุฬาฯไม่ดี"
ทุกท่านน่าจะเคยได้ยินว่า "คนนอก" ไม่มีทางรู้ดีเท่า "คนใน" ผมในฐานะคนในคนหนึ่งที่เพิ่งใช้ชีวิตที่นี่เพียงครึ่งปี มีอะไรอยากมาบอก "คนนอก" หลายๆคนที่ติดสินว่าสังคมจุฬาฯไม่น่าอยู่ มีเหตุผลต่างๆมากมายที่ถูกนำมาพูดกันว่าจุฬาฯในหลายๆด้านไม่ดี แต่ผมก็มีหลายๆด้านที่อยากจะมาบอกท่านๆวันนี้เหมือนกัน ว่าสังคมหรือชีวิตนิสิตจุฬาฯจริงแล้วเป็นอย่างไร
ระบบการเรียน
จุฬาฯเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย และกำลังจะมีอายุครบ 100 ปี แต่ระบบการเรียนการสอนที่นี่ก็ไม่ได้แตกต่างจากมหาวิทยาลัยอื่นๆนัก หลักสูตรก็คงไม่ได้ผิดแปลกพิสดาร หรือสอนคนให้เป็นตำราเดินอย่างที่หลายคนเข้าใจ จุฬาฯมีนักวิชาการ มีนักคิด นักพัฒนา แต่ก็ไม่ใช่ว่าสถาบันอื่นจะไม่มี บุคลากร(ส่วนใหญ่)ของที่นี่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นนิสิตจุฬาฯในอดีต แต่ก็ไม่ใช่ว่าบุคคลเก่งๆจากสถาบันอื่นๆจะไม่มีสิทธิ์มีเสียงในจุฬาฯ ทุกคนในที่นี้มีสิทธิ์เท่ากัน และเราไม่ได้ทะนงตนหรือยโสในเกียรติภูมิของเรามากมายขนาดที่เอาไปโจมตีคนอื่นได้ขนาดนั้น
นิสิตจุฬาฯ
หลายคนบอกว่านิสิตจุฬาฯติดไฮโซ ติดหรู นี่น่าจะเป็นประเด็นหลักเลยที่ผมอยากมาตั้งกระทู้นี้ จริงๆแล้วนิสิตจุฬาฯเองก็รู้ดีว่าชีวิตของเราที่นี่ บางทีอาจจะตรงข้ามจากที่คนอื่นมองด้วยซ้ำ จุฬาฯมีห้างรายล้อมมหาวิทยาลัยนับสิบห้าง มีสถานบันเทิงหรือแหล่งละลายทรัพย์มากมาย แต่ก็ใช่ว่านิสิตจุฬาฯทุกคนต้องไป หรือคนที่ไปก็ใช่ว่าจะต้องซื้อ นิสิตจุฬาฯไปเดินสยามด้วยเหตุผลคล้ายๆคุณป้าออกไปเดินตลาดนัด จริงๆเราไม่ได้ต้องการละลายทรัพย์ในกระเป๋าทุกวี่ทุกวันขนาดนั้น วันไหนประสบเจอของถูกใจก็มีใช้สอยตามอัตภาพ
ส่วนเรื่องอาหารการกิน ของบอกเลยว่านิสิตจุฬาฯหากินของถูกมากกว่าของแพง ถ้ารีวิวราคาโรงอาหารภายในตัวมหาวิทยาลัยขอบอกเลยว่าราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 20 25 30 บาทเท่านั้น ไม่ได้มีแบรนด์หรูดังจานละเกือบร้อยบาทแบบที่ใครคิด อาจมีบ้างบางมื้อที่สังสรรค์ทานมื้อพิเศษแล้วถ่ายรูปอวดลงโซเชียลให้คนครหานินทาว่าติดรวย แต่คิดดูสิครับว่านานๆครั้งได้กินก็ต้องลงรูปเป็นธรรมดาของยุค จะมีใครถ่ายรูปข้าวราดแกงธรรมดาลงโซเชียลทุกมื้อ และถ้าสังเกตดีๆ พวกรูปสังสรรค์ลงโซเชียลมักมี "คนเลี้ยง" อยู่ในโต๊ะนั้น นั่นแหละครับ จริงๆเราหาโอกาสกันไปพบปะพี่น้องมากกว่าอยู่แล้ว ใครจะนึกคึกออกไปหาบุฟเฟ่ต์กินทุกเย็น หรือถ้ามีแบบนั้นก็คงเป็นส่วนน้อยมากๆจากหลายหมื่นชีวิตที่นี่ สำหรับในเรื่องการเดินทาง ยอมรับเลยครับว่าแต่ก่อนผมเคยคิดว่า "นิสิตจุฬาฯต้องมีรถขับ" แต่พอได้มาอยู่จริงๆแล้วนี่แหละตรงกันข้ามสุดๆเลยครับ อาจจะมีนิสิต 5% ที่มีฐานะดีและมีรถขับมาจอด (ในพื้นที่ที่แทบไม่มีให้จอด) แต่อีก 95% นั้นใช้ชีวิตด้วยการ "เดิน" และ "นั่งรถเมล์" ต่างหากครับ ผมคนนึงแหละที่เดินจากหอพักไปคณะทุกวัน นิสิตส่วนใหญ่ที่บ้านไกลก็ใช้ชีวิตเช่นมนุษย์ธรรมดาคือนั่งรถเมล์ครีมแดง 6.50 ได้ รีบหน่อยก็นั่ง BTS MRT มาถึงบริเวณมหาวิทยาลัยก็มี "รถป๊อบ" หรือรถโดยสารภายในที่เป็นรถชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้ใช้ฟรีๆนับร้อยคัน นิสิตจุฬาฯอยู่ได้ด้วยสิ่งเหล่านี้ และที่นี่แทบไม่มีนิสิตขี่มอเตอร์ไซค์วิ่งไปวิ่งมาแบบบางที่ อย่างมากก็มีจักรยานที่มหาวิทยาลัยเรามีเตรียมให้อีกนั่นแหละ หลายคนก็อาจบอกว่า ก็ใช่ไงเพราะจุฬาฯมีแต่ที่อื่นไม่มี แต่จุดนี้ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องมาโต้เถียง ที่ผมพยายามบอกก็คือ นิสิตที่นี่ไม่ได้ใช้ชีวิตราชารวยมาจากสวรรค์แบบที่หลายคนคิด เพราะฉะนั้นเลิกคิดว่าพวกเราติดหรูสักทีเถิดครับ
ทุกคนในจุฬาฯ
จริงๆก็เป็นส่วนต่อจากส่วนนิสิตจุฬาฯ จริงๆผมแค่อยากบอกว่าคนในจุฬาฯมาจากทั่วทุกสารทิศของประเทศ ทุกภาค ทุกจังหวัดหาเพื่อน พี่ น้องได้หมด บางจังหวัดยังสามารถรวมตัวกลับไปทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ให้บ้านเกิดตัวเองได้ด้วย แต่ที่ต้องการจะบอกคือเราเป็นสังคมหลากหลาย มีบ้างทีอาจต้องปรับตัวให้เข้ากันบ้าง แต่การใช้ชีวิต คนที่นี่ทุกคนล้วนมีความสามารถ ทุกคนทำงานเป็น บางอย่างไม่ต้องบังคับก็มีอาสาสมัคร บางอย่างไม่ต้องเลือกก็มีคนอาสามาช่วยทำ เราแทบจะต้องเลือกตั้งคนเพื่อแย่งกันทำงานมากกว่าทิ้งงานเอาตัวเองสบาย ระบบพี่อุปถัมภ์น้องที่นี่ก็ดีมาก บางคนบอกว่า SOTUS เกิดที่จุฬาฯ ก็ไม่รู้ว่าจริงไหมแต่ที่ผมรู้คือระบบพี่น้องของที่นี่ไม่มีการบังคับขู่เข็ญแบบบางที่ การรับน้องของที่นี่พี่ๆแทบจะปรนนิบัติน้องๆอยู่แล้ว อาจมีบ้างบางคณะที่มีการรับน้องจริงจังเพื่อยอมรับเข้าเป็นน้องของคณะ แต่นั้นคือภาพของคณะ ของภาควิชานั้น ไม่ใช่ภาพของจุฬาฯ ตัวผมเองกล้าบอกได้ว่า รุ่นพี่ที่นี่อบอุ่นมากๆ ในขณะที่เราต้องปรับตัวกับเพื่อน เราก็มีรุ่นพี่ที่คอยช่วยเหลือแทบทุกอย่าง และในฐานะที่เราเป็นรุ่นพี่น้องๆมัธยมฯ เราก็กล้าบอกเลยว่าเราก็รักน้องๆรุ่นถัดๆลงมาเช่นกัน ภาพนิสิตจุฬาฯเห็นแก่ตัว รักตัวเองรักพวกพ้อง จึงอาจเป็นภาพอดีตหรือไม่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นเลยจริงๆก็ได้ ครูบาอาจารย์ของที่นี่อย่างที่บอกไปว่าส่วนใหญ่ก็เคยเป็นนิสิตมากก่อน อาจารย์เป็นผู้แกร่งวิชาคือเป็นนักวิชาการ จะให้มาสอนถูกใจเด็กรุ่นใหม่อารมณ์ติวเตอร์สอนไปหัวเราะไปแบบนั้นก็คงจะไม่ใช่ทุกคน แต่อาจารย์ที่นี่ยอมรับว่าน่ารัก คือรักนิสิต มีกฎร่วมกันที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่คลาสแรก จึงไม่ใช่ประเด็นที่อาจารย์กับนิสิตที่นี่จะไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
เรื่องอื่นๆ
เขียนมาสักระยะก็ไม่รู้ว่าพูดออกไปไกลแค่ไหน จุดประสงค์เดียวของการตั้งกระทู้นี้คือแค่เพียงอยากให้ "คนนอก" เข้าใจจุฬาฯ ว่าสังคมของเราไม่ได้แย่ และอาจ "ดี" กว่าที่คิดด้วยซ้ำไป สำหรับบางคนที่สนใจอยากเข้ามาที่นี่ก็ดีใจที่ยังเชื่อมั่นในเรา จุฬาฯมีทุนทรัพย์มากพอรองรับนิสิตทุกปี มีทุนการศึกษาแบบให้เปล่าเรียนฟรีพร้อมค่าใช้จ่ายรายเทอมให้หลายร้อยทุน ถ้าหากมีความตั้งใจ และมุ่งมั่นที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่จริงๆก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ขอแค่ตั้งใจและพยายามก็พอ
บทสรุป
ก่อนจะส่งท้ายก็อยากย้ำอีกครั้งว่าผมเป็นนิสิตจุฬาฯคนเล็กๆคนนึง ไม่ใช่MC ไม่ใช่PR ไม่ใช่คนมีส่วนได้เสียกับสถาบัน ไม่ใช่คนสร้างภาพ และไม่ต้องการความชื่นชมใดๆ แค่ตั้งกระทู้ขึ้นมาจากการพูดคุยกับน้องๆบางคน อ่านบอร์ดบางบอร์ดแล้วติดกับคำว่า "สังคมจุฬาฯไม่ดี" เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังผ่านสายตานิสิตปี 1 เทอมแรกเท่านั้นเอง ทราบดีว่าไม่ได้รู้ดีไปทั้งหมด แต่เท่าที่รู้ทั้งหมดล้วนแต่เป็นเรื่องดี อยากให้หลายคนที่ติดสินจุฬาฯไปแล้วว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ลองมาสัมผัสดูด้วยตัวเองอีกที บางทีแล้ว คุณอาจจะรักที่นี่ได้โดยไม่ต้องมาท่องเกียรติภูมิ ไม่ต้องมีใครมาบอกให้เชิดชู ไม่ต้องมีใครมาเยินยอในพระนามฯ ขอเพียงแค่ไม่ย่ำยี ไม่ดูหมิ่น ไม่มาดูถูกหรือตัดสินพวกเราจากภายนอก ผมเชื่อว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยที่ดี "ตัวเลือกหนึ่ง" ที่ใครก็ตามที่มุ่งหวังอยากมาเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่จะไม่ผิดหวัง เพราะทุกสถาบัน ทั้งจุฬาฯ มหาวิทยาลัยรัฐ มหาวิทยาลัยเอกชน วิทยาลัยปวช. ปวศ. หรือสถาบันเทียบเท่า ล้วนแล้วแต่มีจุดมุ่งหมายต้องการผลิตทรัพยากรมนุษย์ผู้มีความรู้ความสามารถไปพัฒนาประเทศชาติเช่นกัน อย่าให้อคติมาบดบัง จนเป็นความขุ่นข้องเคืองใจหรือเป็นภาพจำที่ไม่ดีต่อกันอีกเลย
ขอขอบคุณครับ
ปล. หากมีข้อคิดเห็นหลังจากนี้ที่อาจไม่เห็นด้วยหรือต่อว่าว่าผมไม่รู้จริง ก็ขอไม่โต้ตอบ เพราะผมก็บอกไปในตัวเนื้อความแล้วว่าผมมาเล่าผ่านมุมมองเท่าที่ตัวผมรู้สึกได้ และไม่ได้มาเพื่อการโฆษณาใดๆทั้งสิ้น ผมแค่อยากเปลี่ยนภาพมุมมองของคนที่มองจุฬาฯใหม่เท่านั้น
ปล.๒ หากมีการอ้างชื่อสถาบันอื่นๆในการแสดงความคิดเห็น ผมขอไม่รับผิดชอบในส่วนนั้นๆ ส่วนในเนื้อความที่อาจมีพาดพิงคำว่า "สถาบันอื่น" เป็นเพียงการกล่าวภาพรวมในสังคมที่อาจปรากฏเรื่องราวนั้นอยู่สักที่แห่งใดแห่งหนึ่ง ไม่ได้เฉพาะเจาะจงเพราะผมก็ไม่มีข้อมูล
ปล.๓ หากมีการอ้างชื่อ จุฬาฯ หลังจากนี้ อยากให้ใช้คำว่า จุฬาฯ ที่มี ฯ ต่อท้ายเพื่อความถูกต้อง แต่ก็ล้วนแล้วแต่ความสะดวกของท่าน
ปล.๔ หากกระทู้นี้เกิดกระแสสังคมที่ส่งผลเสียต่อจุฬาฯหรือบางสถาบันในด้านใดด้านหนึ่ง ท่านสามารถแจ้งลบ หรือถ้าหากผมมาเห็นก็จะแจ้งลบให้โดยทันที