ตอนที่ได้ดูตัวอย่าง the 5th wave ก็รู้สึกว่า นี้มันหนังหายนะของโลกแนวไซฟาย ที่น่าดูเหมือนกันแฮะ บวกกับที่น้องโคลอี้ มาแสดงนำ บร๊ะ มันยิ่งน่าไปให้กำลังใจซะเหลือเกิน  พอหนังเข้า ก็เลยไม่พลาดจะตีตั๋วเข้าไปดูกันซะหน่อย อยากรู้จักว่า Wave ที่ 5 ของเรื่องมันคืออะไรน๊า  

เรื่องย่อก็คือ วันนึงโลกมนุษย์โดนมนุษย์ต่างดาวเข้ามารุกราน โดยหวังจะยึดครองโลก จึงได้เริ่มทำการกวาดล้างมนุษย์เป็นละระลอก โดยที่ระลอกแรกคือ ความมืดมิด (ไฟฟ้าดับ เครื่องจักรไม่ทำงาน) ระลอกสองคือ การทำลายล้าง (ซึนามิ แผ่นดินไหว อะไรก็ว่าไป) ระลอกสาม คือ การติดเชื้อ (ไวรัสที่รักษาไม่ได้ เป็นแล้วก็ตาย) ระลอกที่สี่ คือ การแฝงตัว (มนุษย์ต่างดาว แฝงมาให้คราบมนุษย์) และหนังเรื่องนี้จะเล่าในส่วนของ ระลอกที่ 5 นี้แหละครับ ว่ามันคืออะไร

แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมบอกให้เลยก็ได้ว่า ระลอกที่ 5 มันก็คือ "ความง่วงนอน" นั้นเอง  มนุษย์ต่างดาวคงจะปล่อยเรื่องนี้เข้าสู่โรงหนังทั่วโลก แล้วก็ให้คนดูนอนหลับสนิทกันถ้วนหน้า  ซะละมั้ง  ฮ่าๆ  องค์ประกอบของหนังแทบทุกอย่างเหมือนอยากจะกล่อมให้คนดูหลับ   คิดดูละกัน ขนาดนางเอกยังหลับในหนังไปน่าจะ 3-4 ครั้ง ฮ่าๆ

การตัดต่อเนิบนาบ แช่ภาพนิ่งค้าง ดนตรีเบาเหมือนจะกล่อม  บทพูดน่าเบื่อ ขนาดเสียงยานมนุษย์ต่างดาวบินผ่านไปมา เสียงยังชวนง่วง  เนื้อเรื่องไม่ต้องคิดไรมากก็เดาทางได้หมดแหละ  ไม่ต้องตั้งใจหรือพยายามคิดเลยนะ  มันเดาได้จริงๆ เพราะสไตล์หนังมันเฉิ่มเชยสุดๆ   หน้าตาตัวละครนี้บอกเรื่องราวเลย น่าจะเอากระดาษแปะหน้าผากไปเลยว่า "นี่กรูคนร้ายนะ"   "กรูพระเอกนะจ๊ะ"   มุกต่างๆที่ในหนังเอามาใช้  ทุกอย่างล้วนเก่าและซ้ำซาก แต่ยังถ่ายทำไ้ด้ไม่ดีอีก พวกหายนะต่างๆนี้ ดูแป้กมาก (ดูดีหน่อยก็ฉากตึกเมืองไทยนี่แหละ คนไทยวิ่งหนีตายสมจริงสุดๆ ยกนิ้วให้เลย)

หนังเรื่องนี้ทำซะไม่ให้เกียรติคำว่า "หนังหายนะ" เลยอ่ะ อย่างกับหนังรักฟรุ้งฟริ้งกุ๊กกิ๊ก ที่ฉากหลังอยุ่ในกองทัพทหาร แล้วก็กลางป่าเขาแทน คิดว่า มันน่าจะเป็นหนังสำหรับ เด็กผู้หญิงนะเรื่องนี้    ดูแล้วรู้สึกว่ามันไปคล้ายๆ ทไวท์ไลท์ เวอร์ชั่นมนุษย์ต่างดาว ยังไงไม่รู้

แต่สำคัญที่สุดคือ น้องโคลอี้ ไม่น่าทำกันได้ลงคือเล๊ย  ฮือๆ การแสดงก็อยู่ในเกณฑ์รับได้แหละ   แต่อารมณ์มันไม่สื่อถึงคนดูเลย  เหมือนเธอเสียใจอยุ่คนเดียว  ส่วนนึงคิดว่า ผู้กำกับนั้นแหละทำไม่ถึงเองด้วย   เนื้อเรื่องไม่ได้แย่ไรนะ ถือว่าน่าสนใจ จนถึงตอนเฉลยก็ยังคิดว่าโอเคเลยแหละ  "แต่"   วิธีการเล่าเรื่อง โคตรๆๆๆน่าเบื่อ ใครดูแล้วมีสติอยู่กับเรื่องได้ตลอดจนจบก็ถือว่า จิตแข็งละครับ  ผมยังมีวูบๆ เลย

พอละดีกว่า ไม่อยากเสียเวลาให้กับหนังเรื่องนี้ไปมากกว่านี้ละ สรุปเลยละกันว่า ถ้าคิดจะไปดูหนังหายนะ แบบวินาศสันตะโร แอ๊คชั่นหนีตายเอาตัวรอด สู้กับมนุษย์ต่างดาว   บอกเลย ไม่ใช่เรื่องนี้นะคร้าบ  เรื่องนี้คือ ความรักฟรุ้งฟริ้งที่มีมนุษย์ต่างดาวเป็นฉากหลังและนำมาเล่าเป็นนิทานก่อนนอนครับ  

แต่ถ้าอยากจะดูจริงๆ  ขอแนะนำว่าดูแค่ตัวอย่างหนังก็พอ  นั้นน่ะ สนุกสุดแล้ว  ฮ่าๆ