เรื่อง ทำไมประเทศไทยไม่มีแม้ยางรถยนต์เป็นของตัวเอง
เรียน ใครก็ได้
ผมติดตามท่านตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ท่านได้กล่าวถึงประเทศของเราจะเน้นการแปรรูปวัตถุดิบภายในประเทศให้เป็นผลิตภัณฑ์ โดยประเด็นนี้เป็นนโยบายหลักที่ท่านได้กล่าวไว้
ผมขอพูดถึงปัญหาเรื่องยางพาราที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปละกันครับ
ทุกวันนี้ ผมหันหน้าไปทางไหนบนท้องถนนในประเทศเรา ไม่เคยเห็น นวัตกรรมอะไรที่เป็นของไทยเลย มีแต่รถยนต์ จักรยานยนต์ ต่างประเทศ แต่โอเคสำหรับคนไทยอาจผลิต รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถถัง หรือคอมพิวเตอร์ ได้ยากไป ผมเข้าใจ แต่ยางรถยนต์เราทำโดยคนไทย แบรนด์ไทย หรือองค์กรของไทย ไม่ได้หรือ ซึ่งจริงๆแล้ว อัตราการใช้รถยนต์บ้านเราผมคิดว่าอัตราเฉลี่ยต่อประชากร ต่อพื้นที่ประเทศ น่าจะมีอัตราติดอันดับต้นๆของโลก ซึ่งเราอาจผลิตรถไม่ได้ผมเข้าใจ แต่ ยางรถยนต์ เราผลิตเองไม่ได้เชียวหรือผมหันไปดูรถทุกคัน ยังไม่เคยเห็นยางรถยนต์ที่เป็นของคนไทยเลย มีแต่ BRIDGESTONE DUNLOP Hankook FALKEN YOKOHAMA หากรถยนต์คนไทยผลิตไม่ได้ แต่ยางรถยนต์ผมว่าถ้าคนไทยยังผลิตไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วทั้งที่เราเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบ ติด 1 ใน 3 ของโลก ในทางกลับกัน ยางรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ ที่กล่าวมา ผู้ผลิต คือ USA JAPAN KOREA ซึ่งประเทศเหล่านี้ไม่มีต้นยางพาราแม้แต่สักต้นเดียว
เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ผมเปลี่ยนยางรถ 4 เส้น 24,000 บาท แล้วเงินของเราก็ไหลออกนอกประเทศ ท่านย้ำว่าเราจะผลิตอุปกรณ์ จากยางพารา มากขึ้น แต่ผมยังไม่เคยเห็น ท่านพูดถึง ยางรถยนต์ เลย ท่าน พูดถึงแต่เพิ่มกำลังการผลิตถุงมือยาง ถุงยาง เอายางมาทำถนน หรือมันติดกฏหมายข้อไหน ที่คนไทยทำไม่ได้ หรือนักการเมืองรุ่นก่อน ออกกฏหมายห้ามคนไทย หรือประเทศไทยผลิตเอง
ผมว่าหากนำเงินที่เคยอุดหนุนราคายางในอดีต 50,000 -100,000 ล้านบาท มาตั้งเป็นองค์กร รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชน หรือองค์กรอะไรก็ได้ที่รัฐเป็นเจ้าของร่วมที่กฏหมายเปิดช่องให้ โดยนำผู้บริหารองค์กรที่เก่งๆ เช่น CEO ของ ปตท. , SCG เข้ามาช่วยบริหาร แล้วช่วงแรกของการนำมาใช้ให้ท่านใช้มาตรา 44 บังคับให้ใช้กับรถยนต์ของหลวงทุกคันในประเทศนี้ ซึ่งผมว่ามีไม่ต่ำกว่า 200,000 คัน ทั่วประเทศ อย่างน้อยก็เป็นการนำวัตถุดิบในประเทศมาใช้ในประเทศได้เต็มที่ แทนที่เราจะมุ่งผลิตแต่ถุงยาง หรือถุงมือยาง หรือทำถนน นี่คงเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง หรือหากกลัวว่าจะเป็นการไปแทรกแซง บริษัท BRIDGESTONE DUNLOP Hankook FALKEN YOKOHAMA หรือกลัวเขาว่าก็ให้เราผลิตยางรถยนต์เกรด B ก็ได้ เช่น ปกติ ผมซื้อ ยาง 4 เส้น 24,000 บาท แล้วองค์กรที่ว่าผลิตเกรดบี ขนาดเดียวกันแล้วขาย 15,000 บาท ผมก็วิ่งไปซื้อเป็นคนแรกเลย แต่ต้องใช้ทีมงานวิศกรที่เก่งซึ่งผมคิดว่าการผลิตยางรถยนต์ หากคนไทยผลิตล้อไม่ได้ก็ไม่ต้องไปผลิตอย่างอื่นแล้ว
พอผมเห็นสินค้าชาตินิยมของประเทศอื่นแล้วผมอิจฉาเขาจริงๆเช่น เกาหลี มี SAMSUNG ญี่ปุ่น มี TOSHIBA HONDA ISUZU
ตั้งองค์กรยางรถยนต์ขึ้นมา โดยกระจายโรงงานไป ทั้ง 4 ภาคหลัก ซึ่งทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นด้วย อาจใช้เวลา 4-5 ปี แต่ประเทศเราจะได้ภูมิใจในแบรนด์ของคนไทยบ้าง ได้สร้างความเป็นชาตินิยมขึ้นมาบ้าง ไม่ใช่ตอนนี้หันไปทางไหน แทบไม่เห็นสินค้าของคนไทยเลย หากบังคับให้รถหลวงใช้ ทั่วประเทศได้ ก็จะมีการบอกต่อปากต่อปากกันเองว่าดีหรือไม่ดี หากไม่ดีก็ได้ปรับปรุง หากดีก็ถือว่าเป็นการประชาสัมพันธ์โดยภาคราชการไปในตัว
ที่กล่าวมาทั้งหมด หากรัฐมัวแต่มุ่งแก้ปัญหาพยุงราคาวัตถุดิบผมว่าเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ยังไงก็ไม่มีวันจบ
อยากมีอะไรที่เป็นของคนไทยใช้อย่างภูมิใจบ้างครับ
นายพรพจน์
เคยคิดไหมทำไมประเทศไทยไม่มีแม้กระทั่งยางรถยนต์เป็นของตัวเอง
เรียน ใครก็ได้
ผมติดตามท่านตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ท่านได้กล่าวถึงประเทศของเราจะเน้นการแปรรูปวัตถุดิบภายในประเทศให้เป็นผลิตภัณฑ์ โดยประเด็นนี้เป็นนโยบายหลักที่ท่านได้กล่าวไว้
ผมขอพูดถึงปัญหาเรื่องยางพาราที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปละกันครับ
ทุกวันนี้ ผมหันหน้าไปทางไหนบนท้องถนนในประเทศเรา ไม่เคยเห็น นวัตกรรมอะไรที่เป็นของไทยเลย มีแต่รถยนต์ จักรยานยนต์ ต่างประเทศ แต่โอเคสำหรับคนไทยอาจผลิต รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถถัง หรือคอมพิวเตอร์ ได้ยากไป ผมเข้าใจ แต่ยางรถยนต์เราทำโดยคนไทย แบรนด์ไทย หรือองค์กรของไทย ไม่ได้หรือ ซึ่งจริงๆแล้ว อัตราการใช้รถยนต์บ้านเราผมคิดว่าอัตราเฉลี่ยต่อประชากร ต่อพื้นที่ประเทศ น่าจะมีอัตราติดอันดับต้นๆของโลก ซึ่งเราอาจผลิตรถไม่ได้ผมเข้าใจ แต่ ยางรถยนต์ เราผลิตเองไม่ได้เชียวหรือผมหันไปดูรถทุกคัน ยังไม่เคยเห็นยางรถยนต์ที่เป็นของคนไทยเลย มีแต่ BRIDGESTONE DUNLOP Hankook FALKEN YOKOHAMA หากรถยนต์คนไทยผลิตไม่ได้ แต่ยางรถยนต์ผมว่าถ้าคนไทยยังผลิตไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วทั้งที่เราเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบ ติด 1 ใน 3 ของโลก ในทางกลับกัน ยางรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ ที่กล่าวมา ผู้ผลิต คือ USA JAPAN KOREA ซึ่งประเทศเหล่านี้ไม่มีต้นยางพาราแม้แต่สักต้นเดียว
เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ผมเปลี่ยนยางรถ 4 เส้น 24,000 บาท แล้วเงินของเราก็ไหลออกนอกประเทศ ท่านย้ำว่าเราจะผลิตอุปกรณ์ จากยางพารา มากขึ้น แต่ผมยังไม่เคยเห็น ท่านพูดถึง ยางรถยนต์ เลย ท่าน พูดถึงแต่เพิ่มกำลังการผลิตถุงมือยาง ถุงยาง เอายางมาทำถนน หรือมันติดกฏหมายข้อไหน ที่คนไทยทำไม่ได้ หรือนักการเมืองรุ่นก่อน ออกกฏหมายห้ามคนไทย หรือประเทศไทยผลิตเอง
ผมว่าหากนำเงินที่เคยอุดหนุนราคายางในอดีต 50,000 -100,000 ล้านบาท มาตั้งเป็นองค์กร รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชน หรือองค์กรอะไรก็ได้ที่รัฐเป็นเจ้าของร่วมที่กฏหมายเปิดช่องให้ โดยนำผู้บริหารองค์กรที่เก่งๆ เช่น CEO ของ ปตท. , SCG เข้ามาช่วยบริหาร แล้วช่วงแรกของการนำมาใช้ให้ท่านใช้มาตรา 44 บังคับให้ใช้กับรถยนต์ของหลวงทุกคันในประเทศนี้ ซึ่งผมว่ามีไม่ต่ำกว่า 200,000 คัน ทั่วประเทศ อย่างน้อยก็เป็นการนำวัตถุดิบในประเทศมาใช้ในประเทศได้เต็มที่ แทนที่เราจะมุ่งผลิตแต่ถุงยาง หรือถุงมือยาง หรือทำถนน นี่คงเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง หรือหากกลัวว่าจะเป็นการไปแทรกแซง บริษัท BRIDGESTONE DUNLOP Hankook FALKEN YOKOHAMA หรือกลัวเขาว่าก็ให้เราผลิตยางรถยนต์เกรด B ก็ได้ เช่น ปกติ ผมซื้อ ยาง 4 เส้น 24,000 บาท แล้วองค์กรที่ว่าผลิตเกรดบี ขนาดเดียวกันแล้วขาย 15,000 บาท ผมก็วิ่งไปซื้อเป็นคนแรกเลย แต่ต้องใช้ทีมงานวิศกรที่เก่งซึ่งผมคิดว่าการผลิตยางรถยนต์ หากคนไทยผลิตล้อไม่ได้ก็ไม่ต้องไปผลิตอย่างอื่นแล้ว
พอผมเห็นสินค้าชาตินิยมของประเทศอื่นแล้วผมอิจฉาเขาจริงๆเช่น เกาหลี มี SAMSUNG ญี่ปุ่น มี TOSHIBA HONDA ISUZU
ตั้งองค์กรยางรถยนต์ขึ้นมา โดยกระจายโรงงานไป ทั้ง 4 ภาคหลัก ซึ่งทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นด้วย อาจใช้เวลา 4-5 ปี แต่ประเทศเราจะได้ภูมิใจในแบรนด์ของคนไทยบ้าง ได้สร้างความเป็นชาตินิยมขึ้นมาบ้าง ไม่ใช่ตอนนี้หันไปทางไหน แทบไม่เห็นสินค้าของคนไทยเลย หากบังคับให้รถหลวงใช้ ทั่วประเทศได้ ก็จะมีการบอกต่อปากต่อปากกันเองว่าดีหรือไม่ดี หากไม่ดีก็ได้ปรับปรุง หากดีก็ถือว่าเป็นการประชาสัมพันธ์โดยภาคราชการไปในตัว
ที่กล่าวมาทั้งหมด หากรัฐมัวแต่มุ่งแก้ปัญหาพยุงราคาวัตถุดิบผมว่าเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ยังไงก็ไม่มีวันจบ
อยากมีอะไรที่เป็นของคนไทยใช้อย่างภูมิใจบ้างครับ
นายพรพจน์