[CR] รีวิวหนังสือ "ซากาโมโตะ เรียวมะ" ซามูไรผู้นำการเปลี่ยนแปลง

Ryoma : Life A Renaissance of Samurai วรรณกรรมและนิยายกึ่งอัตชีวประวัติของ "ซากาโมโตะ เรียวมะ" ยอดซามูไรผู้ปฏิรูปญี่ปุ่นสู่ยุคใหม่





หนึ่งในหนังสือดีและนิยายกึ่งชีวประวัติที่ยอดเยี่ยมที่สุดของปี 2014 ที่ผ่านมา ผลงานเขียนของ Romulus Hillsborough (แกมีเฟซบุ๊คส์ที่คอยอัพเรื่องญี่ปุ่นด้วยนะ) ซึ่งจัดพิมพ์โดย มูลนิธิหนังสือเพื่อสังคม แปลโดย คุณวิภาดา กิตติโกวิท นักแปลที่เชี่ยวชาญถึงสามภาษา ผู้เคยมีผลงานแปลวรรณกรรมคลาสสิกสุดยิ่งใหญ่เรื่อง War and Peace (สงครามและสันติภาพ) มหากาพย์คลาสสิกของ ลีโอ ตอลสตอย และ Les Miserable (เหยื่ออธรรม) รรณกรรมคลาสสิกขึ้นหิ้งของ วิคเตอร์ ฮูโก


เกี่ยวกับเรื่องของ ซากาโมโตะ เรียวมะ คนไทยค่อนข้างคุ้นเคยพอสมควร ไม่ว่าจะมาจาก ละครซีรีย์ทางโทรทัศน์ มังงะ อนิเมะ เราจะพบเรียวมะปรากฏอยู่ในหลายเรื่อง แม้แต่มังงะและอนิเมเรื่องดังอย่างกินาทามะ ก็ยังเอาแกมาใช้เลย แต่เชื่อว่าคนไทยที่โตมากับยุค 80-90 จะคุ้นกับเรียวมะจากมังงะผลงานขึ้นหิ้งของ โคยาม่า ยู มากกว่า


หนังสือเล่มนี้ สำหรับผมแล้ว นับว่ามีค่ามาก เพราะเป็นผลงานเกี่ยวกับเรียวมะเรื่องแรกอย่างจริงจังเท่าที่มีในเมืองไทย และผมถือว่าเป็นเกียรติมากที่ตนเองได้เข้าไปมีส่วนร่วมในหนังสือเล่มนี้ เนื่องจากได้รับเชิญโดยบรรณาธิการของมูลนิธิ ให้เข้าไปช่วยเขียน "บทกล่าวตาม" ซึ่งเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยุคปฎิรูปญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า "ยุคบาคุมัตสึ" (อวสานโชกุน) จนกระทั่งถึงยุคเมจิ ซึ่งเป็นยุคสมัยที่เรียวมะมีบทบาทโลดแล่นอย่างมาก แม้ว่าจะมีส่วนร่วมในหนังสือเล่มนี้เพียงแค่ 30 กว่าหน้า แต่สำหรับผมแล้วถือว่า เป็นเกียรติอย่างสุดๆจริงๆที่ได้มีชื่ออยู่ในส่วนหนึ่งของหนังสือประวัติศาสตร์เล่มนี้ สำหรับในส่วนของบทกล่าวนำ นายแพทย์วิชัยเป้นผู้เขียนครับ แยกกันคนละส่วน (หวังว่าท่านจะได้กลับเข้า สสส.)


หลังจากได้หนังสือเรียวมะมาเป็นของกำนัลหนึ่งเล่ม แล้วเริ่มอ่าน (อันที่จริงเคยอ่านฉบับอังกฤษแบบผ่านๆมานานมาก) ฉบับแปลไทยโดยคุณวิภาดาถือว่าฝีมือการแปลยอดเยี่ยมและเฉียบคมมาก แม้ว่าสำนวนภาษาอาจจะดูแปลกไปหน่อย แต่เมื่ออ่านสักพักก็จะคุ้นชินกับสำนวนและชื่อตัวละครที่เป็นญี่ปุ่นและลักษณะของการเล่าเรื่องในนิยายเรื่องนี้ได้ไม่ยากนัก


ก่อนอื่นขอเท้าความเล็กน้อยว่า "เรียวมะคือใคร สำคัญอย่างไรกับญี่ปุ่นและโลก"

ซากาโมโตะ เรียวมะ เป็นซามูไรชั้นล่างที่เกิดในโทสะ ซึ่งเป็นหัวเมืองที่ยึดถือระบบชนชั้นอย่างเคร่งครัดมาก เขาเกิดมาในครอบครัวพ่อค้าที่ค่อนข้างมีฐานะพอสมควร จึงได้อาศัยจุดนี้ได้ตำแหน่งซามูไรมา จากนั้นเมื่อเรียวมะเติบใหญ่ เขาก็เริ่มฉายแววของการเป้นยอดนักดาบ และเป็นผู้มีความคิดอ่านในลักษณะที่คนยุคนั้นเรียกว่า "พวกนอกคอก" แต่ภายหลังประวัติศาสตร์เรียกพวกนี้ว่า "คนหัวก้าวหน้า" เรียวมะได้เดินทางไปฝึกวิชาดาบที่สำนักชิบะในเอโดะ และได้สำเร็จวิชา เป็นนักดาบแถวหน้าของประเทศ และได้ร่วมกับเพื่อนสนิทที่โทสะคือ ทาเกชิ ฮานเปตะ ก่อคั้งพรรคที่รวบรวมคนหนุ่มของชาวโทสะขึ้นครั้งแรกในสมัยนั้น เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรียวมะเริ่มเข้าสู่เส้นทางการเมืองท้องถิ่น

แต่จากนั้นชีวิตของเรียวมะกลับพลิกผันอย่างหนัก เขาโดนทางการตั้งข้อหาที่หลบหนีออกจากเมืองโทสะโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าแคว้น ต้องเร่ร่อนพเนจร แล้วในสมัยที่เขาเคยฝึกดาบที่สำนักชิบะนั้น ได้พบกับการมาของ "เรือดำ" จากโลกตะวันตก ซึ่งทำให้เขาพบว่า โลกนี้กว้างใหญ่ และไม่ได้มีแต่ญี่ปุ่นเท่านั้น ความคิดของเขาเริ่มเปิดกว้างมากขึ้น จนกระทั่งจากนั้นก็ได้พบกับชายที่ชื่อว่า "คัตสึ ไคชู" ซึ่งเรียวมะเคยคิดจะบุกเข้าไปลอบสังหาร เพราะเห็นว่าคัตสึเป็นผู้ที่มีแนวคิดต้องการให้รัฐบาลเปิดประเทศติดต่อกับอเมริกา แต่คนหนุ่มจำนวนมากในยุคนั้นไม่เห็นด้วยและต่อต้านมาก เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นในสมัยนั้นที่ครองอำนาจโดยโตกุกาวะ เรียกว่า รัฐบาลบาคุฟุ ได้ทำสัญญากับกงสุลแฮริส ซึ่งเป็นสัญญาที่ญี่ปุ่นเสียเปรียบอย่างรุนแรง เรียวมะเป็นคนหนุ่มที่ต่อต้านตะวันตก แต่หลังจากพบกับคึตสึและพูดคุยกันแล้ว จึงพบว่าเขาและคัตสึมีมุมมองคล้ายกันคือ "จะเอาชนะตะวันตก ต้องเรียนรู้วิทยาการของตะวันตกให้มากที่สุด แล้วนำมาพัฒนาประเทศญี่ปุ่น" จากนั้นเรียวมะก็เลยกลายเป็นศิษย์เอกของคัตสึ ร่วมกันเปิดสถาบัน "โรงเรียนนายทหารเรือแห่งแรกที่โกเบ" กลายเป็นจุดเริ่มของการต่อสู้เพื่อกรุยทางสู่การเรียกร้องให้โชกุนของโตกุกาวะยอมคืนอำนาจให้จักรพรรดิ ตามแนวคิด "ซนโนจิ" เพื่อทำให้ญี่ปุ่นเข้มแข้งทัดเทียมมหาอำนาจตะวันตก

แล้วเรียวมะผู้ซี่งเป็นเพียงซามูไรชั้นล่างและคนเร่ร่อน ก็กลับกลายเป็น "กุญแจสำคัญที่ทำให้ระบบโชกุนที่มีมายาวหลายร้อยปีต้องสิ้นสุดลง" ในฐานะที่เขาคือหัวเรี่ยวหัวแรงและผู้ประสานที่ทำให้เกิดพันธมิตรระหว่างซัตสึมะและโจชู ซึ่งนำไปสู่กองกำลังต่อต้านรัฐบาลโตกุกาวะ และเป็นรากฐานของรัฐบาลใหม่ในยุคเมจิที่จะมาถึง และนอกจากนี้ เรียวมะยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ก่อตั้ง ""บริษัทเอกชนและบริษัทเดินเรือหรือ Shipping แห่งแรก" ของญี่ปุ่นอีกด้วย เรียกว่าเขามีคุณสมบัติและสถานะที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ซามูไร นักเจรจา นักการเมือง พ่อค้า นักคิด นักพูด นักแม่นปืน ผู้นำทหารเรือ


นี่คือเรื่องราว "โดยย่อ" ของเรียวมะ ส่วนเส้นทางของเขาต้องประสบความยากลำบากและต้องเผชิญกับอะไรบ้างนั้น ในหนังสือได้บรรยายไว้เกือบครบกระบวนความ แม้แต่ชีวิตรักของเรียวมะที่ถือว่าโชกโชนและผ่านผู้หญิงมาพอสมควร

มีเรื่องน่าสนใจมากคือ เมื่อปี 2011-2012 คนญี่ปุ่นหนุ่มสาวได้มีการทำโพลสำรวจว่า ต้องการอยากได้นักการเมืองของประเทศเป็นแบบใครมากที่สุด

จากผลสำรวจคนหนุ่มสาวนับพันคน คำตอบอันดับหนึ่งคือ "พวกเขาอยากให้นักการเมืองของตนเป็นแบบเรียวมะ"


สำหรับหนังสือเล่มหนาเขื่องนี้ Hillsborough ผู้เขียน เป็นชาวตะวันตกที่ไปใช้ชีวิตอยู่ญี่ปุ่นนานนับสิบปี จึงมีความเข้าใจวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นไม่น้อย และได้ศึกษาชีวประวัติของเรียวมะมาอย่างเข้มข้น นับว่านิยายเรื่องนี้ค่อนข้างจะ "เก็บส่วนสำคัญๆได้เกือบหมด" จากชีวิตของเรียวมะ ถ้าใครคุ้นเคยจากมังงะของโคยาม่า ยู แล้วจะพบว่ารายละเอียดในนิยายเล่มนี้จะเดินเรื่องคล้ายคลึงกันไม่น้อยและมีส่วนอธิบายเสริมเพิ่มเติมในอีกบางจุด และเป็นการเล่าเรื่องจากมุมมองของชาวตะวันตกที่เขียนนิยายเรื่องนี้ได้อย่างน่าสนใจทีเดียว

หนังสือเล่มนี้อาจจะ "โคตรหนาไปบ้าง" แต่ในแง่ความคุ้มค่าแล้ว ผู้ที่ชื่นชอบและสนใจประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ไม่ควรพลาดครับ

นิยายเรื่องเรียวมะ เป็นหนึ่งในลิสต์หนังสือ 30 เล่ม ที่ผมตั้งใจจะอ่านให้จบในปีนี้ โดยอยู่ในอันดับ 1-5 ที่จะอ่านให้จบก่อนเลย

ดังนั้นขอแนะนำครับ

ปล.ถ้าไปซื้องานหนังสือครั้งหน้า ก็น่าจะได้ลดสัก 20% ครับ



ชื่อสินค้า:   หนังสือเรียวมะ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่