
เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศย้อนอดีตของ anime กินทามะ season 7
ตอนนี้ พาย้อนอดีตไปดูวัยเด็กของคุณกินและเพื่อนๆ
และเปิดเผยให้เห็นหน้าของอาจารย์โยชิดะแล้ว หลังจากปิดบังมานานเหลือเกิน

อาจารย์โยชิดะ โชโย
...
...

ต้องบอกเลยว่า..... ใบหน้าท่านอาจารย์ช่างหวานหยด จนสาวๆในเรื่องต้องอายกันเลยทีเดียว
ข้อมูลต่อไปนี้ ***อ้างอิงเนื้อหาจาก หนังสือจากสายเลือดสุริยะเทวีถึงวิถีแห่งซามูไร ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ฉบับสร้างชาติ โดย วีระชัย โชคมุกดา
ตัวละคร
โยชิดะ โชโย – อาจารย์ที่เคารพรักของของสหายทั้ง 3 ในเรื่องคือ กินโทกิ - คาซึระ – ทาคาสึงิ
ชื่อจริงคือ .....
โยชิดะ โชอิน (1830 – 1859) ปัญญาชนจากโชชู
โยชิดะ โชอิน เกิดที่แถบชนบทของเมืองฮางิ เป็นบุตรของซามูไรระดับล่างของแคว้นโชชู เมื่ออายุ 4ขวบ อาของเขาได้รับเขาไปเลี้ยงตามกฎของตระกูลที่ว่า บุตรชายคนที่ 2 ของบ้านต้องย้ายมาอยู่ในตระกูลของโยชิดะ(ซึ่งเป็นตระกูลของอาเขานั้นเอง) แต่อาของเขาได้ป่วยตายไปก่อนในปีถัดมา นั่นทำให้โชอินกลายเป็นหัวหน้าตระกูลโยชิดะอย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วยวัยเพียง 5 ขวบ
ตระกูลโยชิดะมีความภาคภูมิใจในการเป็นอาจารย์ไดเมียวและผู้ติดตามในโรงเรียนยามางะเป็นอย่างยิ่ง แต่ในเมื่อมีผู้นำตระกูลอายุน้อยมาก ทามากิ บุนโนอินอาอีกคนของโชอินจึงรับหน้าที่เร่งรัดหลักสูตรการเรียนรู้ของโชอิน เมื่ออายุ 8 ขวบ เขาก็สามารถเข้าเรียนในเมย์รินกัง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่สอนปรัชญาคำสอนของขงจื๊อได้ และเมื่ออายุ 9 ขวบ เขาก็สามารถทำหน้าที่เป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนได้
โชอินเป็นผู้ใฝ่ร็ใฝ่เรียน ตลอดช่วงชีวิตของเขาถูกเติมเต็มไปด้วยการศึกษาหาความรู้ใหม่ เขาสนับสนุนหลักบูชิโด หรือวิถีนักรบ ซึ่งเป็นจริยธรรมพื้นฐานที่คนในประเทศควรจะมี โชอินและซามูไรอีกหลายคนมีความเห็นเหมือนกันว่า ชนชั้นปกครองบางคนนั้นได้หันหลังให้กับหลักบูชิโด ใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฝือย และเห็นแก่ตัว เขาคิดว่าประเทศไม่อาจพึ่งพารัฐบาลในขณะนั้นได้ และต้องการวีรบุรุษคนใหม่
โชอินในวัย 20 ปี ได้ออกเดินทางไปเยือนหลายๆแห่งในญี่ปุ่น เขาได้พบ ซาคุมะ โชซัน และโยโกอิ โชนัน ซึ่ง 2 คนนี้มีแนวคิดที่มีอิทธิพลต่อแนวความคิดของโชอินเป็นอย่างมาก โชซันได้ก็สนับสนุนให้โยชิดะ โชอินและลูกศิษย์คนอื่นๆของเขาไปเรียนรู้วิทยาการของชาติตะวันตก
ในตอนที่พลเรือจัตวาแมททิว เพอร์รี่ นำเรือดำมาปิดท่าเรือที่อ่าวโตเกียว โชอินพยายามจะขอติดเรือโดยสารไปต่างประเทศด้วยแต่ก็ไม่สำเร็จและถูกจับขังคุกแทน แต่แม้ว่าอยู่ในคุก เขาก็ยังไม่วายจัดการเรียนการสอนและแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนร่วมคุกเดียวกัน
หลังจากถูกปล่อยตัวออกมาจากคุก โชอินได้รับช่วงต่อจากบิดาในการเปิดโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีชื่อว่า โชกะ ซนจุกุ (แปลว่าโรงเรียนเล็กๆใต้ต้นสน) โดยยังมีแนวคิดที่ว่า ญี่ปุ่นต้องแข็งแกร่งขึ้น และผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพออกมาเพื่อรักษาประเทศให้คงไว้ซึ่งเอกราชได้ และแม้ว่าเขาจะถูกห้ามไม่ให้ออกเดินทาง แต่เขาก็ได้ส่งลูกศิษย?ให้ออกเดินทางเพื่อเป็นหูเป็นตาแทนตัวเอง
โชอินให้การสนับสนุนกลุ่ม ซนโน โจอิ (แปลว่า ยกย่องจักรพรรดิ ขับไล่พวกอนารยชน) ซึ่งบรรดาซามูไรหลายคนมีความคิดที่ว่า ผู้ที่เปิดประเทศให้กับพวก อนารยชนคือกบฏ และคิดว่าผู้ปกครองประเทศอย่างแท้จริงคือ จักรพรรดิ โชอินได้เปิดหูเปิดตาลูกศิษย์ของเขาให้รู้ว่าอันตรายจากด้านนอกกำลังเข้ามาเยือนในประเทศ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ยังเห็นด้วยกับโชกุนที่เปิดประเทศเพื่อรับวิทยาการต่างชาติเข้ามา เพื่อที่จะได้พัฒนากองกำลังของญี่ปุ่นให้เข้มแข็งขึ้น
การที่โชอินสนับสนุนกลุ่ม ซนโน โจอิ ทำให้เขาถูกจับขังคุกอีกครั้งและถูกตัดสินโทษประหารชีวิตในเวลาต่อมา ถึงแม้ว่าเขาจะสิ้นชีวิตลงในวัยเพียง 29ปี แต่ลูกศิษย์ของเขาก็ยังชักนำให้ประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลงและประสบความสำเร็จในสิ่งที่โชอินต้องการเกือบ 10ปีให้หลังจากการตายของเขา
***********************************************************************************************************
ตัวละคร
ทาคาสึงิ - ตัวละครผู้ลึกลับที่นานๆจะโผล่มามีบทบาทสักที แต่ก็ครองใจสาวๆหลายๆคนได้ไม่น้อย แต่ตอนนี้ทั้งมังงะและอนิเมะก็ได้เข้าสู่บทส่งท้ายที่ ทาคาสึงิกลับมามีบทให้สมค่าตัวกับเขาสะที นายนี่มัน Pop จริงๆ ที่ผ่านๆมาบทก็น้อย แต่คะแนนโหวตตัวละครก็ได้อันดับดีๆประจำเลย พับผ่าสิ

ชื่อจริง ....
ทากาสุงิ ชินซากุ (1839-1867)
เกิดที่ฮางิ เขตโจชู เป็นลูกของซามูไรชั้นกลาง เขาได้รับการศึกษาในสถาบันโชกะ ซนจุกุ และเป็นศิษย์คนโปรดของโยชิดะ โชอิน
ในช่วงที่ญี่ปุ่นปิดประเทศ ชินซากุได้รับคำสั่งจากโจชูให้ไปจีนอย่างลับๆ เพื่อสังเกตการณ์เซี่ยงไฮ้ที่ถูกต่างชาติเข้ายึดครอง และสำรวจกองกำลังของชาติตะวันตกในตัว ชินซากุตกตะลึงกับเหตการณ์กบฏไท่ผิงและผลกระทบของยุโรปต่อราชวงศ์ เขาจึงกลับมาที่ญี่ปุ่นแล้วคิดว่าต้องทำให้ประเทศแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพื่อมิให้ตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก
ชินซากุเป็นผู้ริเริ่มกองกำลังทหารแนวใหม่ ที่มีทั้ง ชาวนา ชาวไร่ พ่อค้า ช่างไม้ ซูโม่ หรือแม้กระทั่งนักบวชเข้าร่วม ภายใต้ชื่อว่า โชไต (ในสมัยระบบการปกครองแบบศักดินานั้น มีเพียงชนชั้นซามูไรเท่านั้น ที่สามารถพกพาอาวุธของตนเองได้ ดังนั้นการที่ชินซากุ ก่อตั้งกองกำลังนี้ขึ้นมาทำให้ผู้นำของโจชูในตอนนั้นไม่เห็นด้วยการการนี้) แต่ชินซากุเห็นประโยชน์ของความมั่นคั่งของพ่อค้าและชาวนาชั้นกลางว่าจะสามารถช่วยเสริมกำลังทหารในโจชูได้ แต่ในเมื่อท่านผู้นำไม่เห็นด้วย เขาจึงได้ก่อตั้งกองกำลังโชไตพิเศษซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาเองโดยตรงในชื่อว่า “คิเฮย์ไต”
ต่อมาชินซากุเห็นว่าการเผชิญหน้าโดยตรงกับชาติต่างวันตกนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่ญี่ปุ่นควรจะเรียนรู้วิธีการรบ เทคโนโลยีจากชาติตะวันตกแทน เขาจึงได้ปรับปรุงกองกำลัง คิเฮย์ไต ใหม่ โดยให้กลายเป็นหน่วยไรเฟิลแทน
ในช่วงที่โชชูถูกรัฐบาลปราบจนแทบล่มสลาย ชินซากุและผู้ติดตามเพียงเล็กน้อยจึงต้องหลบหนีไป และภายหลังได้รวมพลจัดตั้งเป็นกองกำลัง ก่อเกิดเป็นสงครามกลางเมืองโจชูขึ้น โดยฝ่ายชินซากุได้รับชัยชนะ
ต่อมาในการปรามปราบโชชูครั้งที่ 2 กลุ่มปฏิวัติได้รับชัยชนะเหนือรัฐบาลบาคุฟุ ซึ่งภายหลังก่อให้เกิดการปฏิรูปเมจิ ซึ่งเป็นการล้มล้างระบบโชกุนโตกุกาวะ และขึ้นยุคสมัยเมจิ แต่น่าเสียดายที่ชินซากุอยู่ไม่ทันเห็นชัยชนะของฝ่ายตัวเอง เนื่องด้วยวัณโรคได้พรากชีวิตของเขาไปเสียก่อน
**********************************************************************************************************
ตัวละคร -
ซากาโมโตะ ทัตสึมะ พ่อหมุ่นอารมณ์ดี ใส่แว่นดำ ผู้ที่ไม่ชอบใช้ความรุนแรง และสามารถหัวเราะร่วนได้ตลอดแม้ว่าจะเจอสถานะการณ์อะไรก็ตาม

ซากาโมโต้ เรียวมะ ( 1835 – 1867) มือประสานผู้มีมุมมองกว้างไกล
ซากาโมโต้ เรียวมะ ผู้นำทางความคิดจากโทสะ เป็นบุตรพ่อค้าซามูไร ซึ่งเป็นซามูไรขั้นต่ำสุดในการจัดลำดับของซามูไร
เรียวมะได้เรียนวิชาดาบจากโรงฝึกแถวบ้านเกิดและกลายเป็นผู้มีพรสวรรค์ทางดาบที่สุดในโรงฝึกอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ได้ปเรียนวิชากาบสายโฮคุชินอิตโต้ริว กับชิบะ ซาดาคิจิที่เอโดะ และได้พบกับโยชิดะ โชอินและลูกศิษย์ ซึ่งในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ นายพลเพอร์รี่ แมทธิว นำเรือดำมาปิดอ่าวเพื่อบังคับให้ญี่ปุ่นยอมประเทศพอดี
เรียวมะได้กลับไปที่โทสะ และเข้าร่วมกับกลุ่มปฏิวัติที่โทสะ ที่นำโดย ทาเคจิ ฮันเปย์ตะ เพื่อนสมัยเรียนของเขา และได้หลบหนีจากโทสะ เพื่อมาเป็นโรนิน (ซามูไรที่ไม่มีนาย) ที่เอโดะ
เรียวมะได้เจอกับ ทาคาสุงิ ชินซากุ ที่กลับมาจากโจชู ทากาสุงิ วางแผนที่จะให้เรียวมะได้กองทัพเรือดำเอาไว้ จึงให้เขาไปลอบฆ่า คัทสึไคซู ผู้บัญชาการกองทัพเรือของรัฐบาลโตกุกาวะ แต่คัทสึมีแนวคิดที่ว่า ญี่ปุ่นควรจะเปิดประเทศเพื่อการพัฒนา เรียวมะเห็นด้วยกับแนวความคิดนี้จึงได้กลายเป็นศิษย์ของคัทสึแทน
ในช่วงที่ทำงานกับคัทสึ เรียวมะได้ก่อตั้งกองทัพเรือ และบริษัทติดต่อการค้าอย่างลับๆในชื่อ คาเมยามะ ชาจู ที่นางาซากิ และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ไคเอ็นไต
ต่อมาเรียวมะได้เจรจากับ คัทสึระ โคโกโร่ (คาซึระ ในการ์ตูนนั่นเอง) ผู้นำของฝ่ายโจชูเพื่อให้รวมกลุ่มกับเมืองซัทสึมะ โดยมีเรียวมะเป็นตัวกลางการเจรจาลงนามพันธมิตร ซึ่งสองเมืองนี้เคยเป็นศัตรูกันมาก่อน (เราจะเห็นได้ว่า ท่านเรียวมะมีความเป็นมิตรและความสามารถด้านการทูต สามารถชักจูงผู้คนอย่างดีเลยทีเดียว)
จากนั้นต่อมา โชกุน โตกุกาวะ โยชิโนบุ ยอมถอนอำราจออกจากการเป็นโชกุน คืนอำนาจสู่พระจักรพรรดิ ซึ่งนี่คือชัยชนะของกลุ่มปฏิวัตินั่นเอง หลังจากโชกุนคืนอำนาจแล้ว เรียวมะก็ทำการร่างชื่อของผู้ที่จะขึ้นมาบริหารงานราชการของรัฐบาลชุดใหม่ซึ่งเป็นประชาธิปไตย โดยเลือกจากผู้นำและผู้มีความสามารถในกลุ่มปฏิวัติในตอนนั้น แต่สิ่งที่น่าสังเกตเกี่ยวกับเหตุการณ์นี่คือ แม้เรียวมะจะเป็นผู้เขียนร่างนี้ขึ้นมาเอง แต่ในร่างนั้นกลับไม่มีชื่อเขาในตำแหน่งใดๆเลย ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ผู้นำของกลุ่มต่างๆนับถือในตัวของเรียวมะที่ทำเพื่อบ้านเมืองจริงๆ โดยไม่เห็นแก่ลาภยศสรรเสริญและต่างก็เห็นดีกับร่างของรัฐบาลชุดนี้
ในปี 1867 ซากาโมโต้ เรียวมะ ก็สิ้นชีวิตลงด้วยน้ำมือของ มือสังหารไม่ทราบฝ่าย ว่ากันว่า ซากาโมโต้ เรียวมะ เป็นผู้สืบทอดวิชาดาบสายโฮคุชินอันเลื่องชื่อ แต่ในยุคที่มีแต่ความวุ่นวายนี้ แม้ต้องฝ่าฟันอันตรายแค่ไหน เขาก็ไม่เคยชักดาบออกมาเพื่อฆ่าคนเลยสักคนเดียว
**********************************************************************************************************
ตัวละคร
คาซึระ โคทาโร่ ฉายาหล่อเสียของ รูปร่างหน้าตา ฝีมือดาบ ความฉลาด ความรู้เรียกว่าเข้าขั้น perfect แต่ไหงเวลาเฮียแกออกโรงทีนี่บ้าบอหลุดโลกได้อีกล่ะเนี้ย

ชื่อจริงคือ คิโตะ ทาคาโยชิ (คัทสึระ โคโกโร) ( 1833-1877 )
ท่านคัทสึระ ได้เข้าศึกษาในสถาบันโชกะ ซนจุกุ กับ โยชิดะ โชอิน ซามูไรวิชาการและเรียนรู้วิชาดาบสายชินโดมุเน็นริว จากไซโต้ ยาคุโร่ ที่เอโดะ ในยุคโตกุกาวะตอนปลาย ได้เข้าร่วมและสนับสนุนฝ่ายปฏิวัติซนโน โจอิ (ยกย่องจักรพรรดิ ขับไล่ต่างแดน) ที่ต้องการล้มล้างระบบโชกุนโตกุกาวะ คืนอำนาจให้จักรพรรดิ
ในการประชุมวางแผนเผาเมืองหลวงและชิงตัวองค์จักรดิพรรดิ์ที่โรงเตี๊ยม อิเคดะ ที่เกียวโต ได้ถูกกลุ่มชินเซ็นงุมิล่วงรู้และเกิดเหตุการณ์ปะทะกันครั้งใหญ่ สมาชิกส่วนมากถูกจับได้ ในช่วงที่ถูกชินเซ็นงุมิตามล่า เขาก็ได้ถูกช่วยไว้โดย เกอิชาชื่อ อิคุมัทสึ ซึ่งต่อมากลายเป็นภรรยาของเขา
**** แต่ตามในการ์ตูน อิคุมัทสึ เป็นเจ้าของร้านราเมง ที่ช่วยคาซึระเอาไว้ นั่นเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในช่วงหลังจากเหตุการณ์ที่โรงเตี๊ยม ทากาสุงิ ชินซากุได้แยกตัวไปรวบรวมกองกำลังของตนเอง ท่านคัทสึระได้เจรจารวมกำลังฝ่ายโจชูซึ่งเกือบล่มสลายกับฝ่านซัทสึมะที่มีท่าไซโก เป็นแกนนำเอาไว้ด้วยกัน ในชื่อ"ซัทสึมะ-โจชูโดเมย์" โดยมีซากาโมโต้ เรียวมะเป็นตัวกลางในการเจรจา และทำให้เกิดการปฏิรูปเมจิขึ้นในเวลาต่อมา เป็นการสิ้นสุดระบบโชกุนโตกุกาวะ และเข้าสู่สมัยเมจิแทน
[gintama] ประวัติตัวละครทั้ง 4 อ.โยชิดะ ทาคาสึงิ เรียวมะ คาซึระ
เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศย้อนอดีตของ anime กินทามะ season 7
ตอนนี้ พาย้อนอดีตไปดูวัยเด็กของคุณกินและเพื่อนๆ
และเปิดเผยให้เห็นหน้าของอาจารย์โยชิดะแล้ว หลังจากปิดบังมานานเหลือเกิน
อาจารย์โยชิดะ โชโย
...
...
ต้องบอกเลยว่า..... ใบหน้าท่านอาจารย์ช่างหวานหยด จนสาวๆในเรื่องต้องอายกันเลยทีเดียว
ข้อมูลต่อไปนี้ ***อ้างอิงเนื้อหาจาก หนังสือจากสายเลือดสุริยะเทวีถึงวิถีแห่งซามูไร ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ฉบับสร้างชาติ โดย วีระชัย โชคมุกดา
ตัวละคร โยชิดะ โชโย – อาจารย์ที่เคารพรักของของสหายทั้ง 3 ในเรื่องคือ กินโทกิ - คาซึระ – ทาคาสึงิ
ชื่อจริงคือ .....
โยชิดะ โชอิน (1830 – 1859) ปัญญาชนจากโชชู
โยชิดะ โชอิน เกิดที่แถบชนบทของเมืองฮางิ เป็นบุตรของซามูไรระดับล่างของแคว้นโชชู เมื่ออายุ 4ขวบ อาของเขาได้รับเขาไปเลี้ยงตามกฎของตระกูลที่ว่า บุตรชายคนที่ 2 ของบ้านต้องย้ายมาอยู่ในตระกูลของโยชิดะ(ซึ่งเป็นตระกูลของอาเขานั้นเอง) แต่อาของเขาได้ป่วยตายไปก่อนในปีถัดมา นั่นทำให้โชอินกลายเป็นหัวหน้าตระกูลโยชิดะอย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วยวัยเพียง 5 ขวบ
ตระกูลโยชิดะมีความภาคภูมิใจในการเป็นอาจารย์ไดเมียวและผู้ติดตามในโรงเรียนยามางะเป็นอย่างยิ่ง แต่ในเมื่อมีผู้นำตระกูลอายุน้อยมาก ทามากิ บุนโนอินอาอีกคนของโชอินจึงรับหน้าที่เร่งรัดหลักสูตรการเรียนรู้ของโชอิน เมื่ออายุ 8 ขวบ เขาก็สามารถเข้าเรียนในเมย์รินกัง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่สอนปรัชญาคำสอนของขงจื๊อได้ และเมื่ออายุ 9 ขวบ เขาก็สามารถทำหน้าที่เป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนได้
โชอินเป็นผู้ใฝ่ร็ใฝ่เรียน ตลอดช่วงชีวิตของเขาถูกเติมเต็มไปด้วยการศึกษาหาความรู้ใหม่ เขาสนับสนุนหลักบูชิโด หรือวิถีนักรบ ซึ่งเป็นจริยธรรมพื้นฐานที่คนในประเทศควรจะมี โชอินและซามูไรอีกหลายคนมีความเห็นเหมือนกันว่า ชนชั้นปกครองบางคนนั้นได้หันหลังให้กับหลักบูชิโด ใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฝือย และเห็นแก่ตัว เขาคิดว่าประเทศไม่อาจพึ่งพารัฐบาลในขณะนั้นได้ และต้องการวีรบุรุษคนใหม่
โชอินในวัย 20 ปี ได้ออกเดินทางไปเยือนหลายๆแห่งในญี่ปุ่น เขาได้พบ ซาคุมะ โชซัน และโยโกอิ โชนัน ซึ่ง 2 คนนี้มีแนวคิดที่มีอิทธิพลต่อแนวความคิดของโชอินเป็นอย่างมาก โชซันได้ก็สนับสนุนให้โยชิดะ โชอินและลูกศิษย์คนอื่นๆของเขาไปเรียนรู้วิทยาการของชาติตะวันตก
ในตอนที่พลเรือจัตวาแมททิว เพอร์รี่ นำเรือดำมาปิดท่าเรือที่อ่าวโตเกียว โชอินพยายามจะขอติดเรือโดยสารไปต่างประเทศด้วยแต่ก็ไม่สำเร็จและถูกจับขังคุกแทน แต่แม้ว่าอยู่ในคุก เขาก็ยังไม่วายจัดการเรียนการสอนและแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนร่วมคุกเดียวกัน
หลังจากถูกปล่อยตัวออกมาจากคุก โชอินได้รับช่วงต่อจากบิดาในการเปิดโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีชื่อว่า โชกะ ซนจุกุ (แปลว่าโรงเรียนเล็กๆใต้ต้นสน) โดยยังมีแนวคิดที่ว่า ญี่ปุ่นต้องแข็งแกร่งขึ้น และผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพออกมาเพื่อรักษาประเทศให้คงไว้ซึ่งเอกราชได้ และแม้ว่าเขาจะถูกห้ามไม่ให้ออกเดินทาง แต่เขาก็ได้ส่งลูกศิษย?ให้ออกเดินทางเพื่อเป็นหูเป็นตาแทนตัวเอง
โชอินให้การสนับสนุนกลุ่ม ซนโน โจอิ (แปลว่า ยกย่องจักรพรรดิ ขับไล่พวกอนารยชน) ซึ่งบรรดาซามูไรหลายคนมีความคิดที่ว่า ผู้ที่เปิดประเทศให้กับพวก อนารยชนคือกบฏ และคิดว่าผู้ปกครองประเทศอย่างแท้จริงคือ จักรพรรดิ โชอินได้เปิดหูเปิดตาลูกศิษย์ของเขาให้รู้ว่าอันตรายจากด้านนอกกำลังเข้ามาเยือนในประเทศ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ยังเห็นด้วยกับโชกุนที่เปิดประเทศเพื่อรับวิทยาการต่างชาติเข้ามา เพื่อที่จะได้พัฒนากองกำลังของญี่ปุ่นให้เข้มแข็งขึ้น
การที่โชอินสนับสนุนกลุ่ม ซนโน โจอิ ทำให้เขาถูกจับขังคุกอีกครั้งและถูกตัดสินโทษประหารชีวิตในเวลาต่อมา ถึงแม้ว่าเขาจะสิ้นชีวิตลงในวัยเพียง 29ปี แต่ลูกศิษย์ของเขาก็ยังชักนำให้ประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลงและประสบความสำเร็จในสิ่งที่โชอินต้องการเกือบ 10ปีให้หลังจากการตายของเขา
***********************************************************************************************************
ตัวละคร ทาคาสึงิ - ตัวละครผู้ลึกลับที่นานๆจะโผล่มามีบทบาทสักที แต่ก็ครองใจสาวๆหลายๆคนได้ไม่น้อย แต่ตอนนี้ทั้งมังงะและอนิเมะก็ได้เข้าสู่บทส่งท้ายที่ ทาคาสึงิกลับมามีบทให้สมค่าตัวกับเขาสะที นายนี่มัน Pop จริงๆ ที่ผ่านๆมาบทก็น้อย แต่คะแนนโหวตตัวละครก็ได้อันดับดีๆประจำเลย พับผ่าสิ
ชื่อจริง ....
ทากาสุงิ ชินซากุ (1839-1867)
เกิดที่ฮางิ เขตโจชู เป็นลูกของซามูไรชั้นกลาง เขาได้รับการศึกษาในสถาบันโชกะ ซนจุกุ และเป็นศิษย์คนโปรดของโยชิดะ โชอิน
ในช่วงที่ญี่ปุ่นปิดประเทศ ชินซากุได้รับคำสั่งจากโจชูให้ไปจีนอย่างลับๆ เพื่อสังเกตการณ์เซี่ยงไฮ้ที่ถูกต่างชาติเข้ายึดครอง และสำรวจกองกำลังของชาติตะวันตกในตัว ชินซากุตกตะลึงกับเหตการณ์กบฏไท่ผิงและผลกระทบของยุโรปต่อราชวงศ์ เขาจึงกลับมาที่ญี่ปุ่นแล้วคิดว่าต้องทำให้ประเทศแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพื่อมิให้ตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก
ชินซากุเป็นผู้ริเริ่มกองกำลังทหารแนวใหม่ ที่มีทั้ง ชาวนา ชาวไร่ พ่อค้า ช่างไม้ ซูโม่ หรือแม้กระทั่งนักบวชเข้าร่วม ภายใต้ชื่อว่า โชไต (ในสมัยระบบการปกครองแบบศักดินานั้น มีเพียงชนชั้นซามูไรเท่านั้น ที่สามารถพกพาอาวุธของตนเองได้ ดังนั้นการที่ชินซากุ ก่อตั้งกองกำลังนี้ขึ้นมาทำให้ผู้นำของโจชูในตอนนั้นไม่เห็นด้วยการการนี้) แต่ชินซากุเห็นประโยชน์ของความมั่นคั่งของพ่อค้าและชาวนาชั้นกลางว่าจะสามารถช่วยเสริมกำลังทหารในโจชูได้ แต่ในเมื่อท่านผู้นำไม่เห็นด้วย เขาจึงได้ก่อตั้งกองกำลังโชไตพิเศษซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาเองโดยตรงในชื่อว่า “คิเฮย์ไต”
ต่อมาชินซากุเห็นว่าการเผชิญหน้าโดยตรงกับชาติต่างวันตกนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่ญี่ปุ่นควรจะเรียนรู้วิธีการรบ เทคโนโลยีจากชาติตะวันตกแทน เขาจึงได้ปรับปรุงกองกำลัง คิเฮย์ไต ใหม่ โดยให้กลายเป็นหน่วยไรเฟิลแทน
ในช่วงที่โชชูถูกรัฐบาลปราบจนแทบล่มสลาย ชินซากุและผู้ติดตามเพียงเล็กน้อยจึงต้องหลบหนีไป และภายหลังได้รวมพลจัดตั้งเป็นกองกำลัง ก่อเกิดเป็นสงครามกลางเมืองโจชูขึ้น โดยฝ่ายชินซากุได้รับชัยชนะ
ต่อมาในการปรามปราบโชชูครั้งที่ 2 กลุ่มปฏิวัติได้รับชัยชนะเหนือรัฐบาลบาคุฟุ ซึ่งภายหลังก่อให้เกิดการปฏิรูปเมจิ ซึ่งเป็นการล้มล้างระบบโชกุนโตกุกาวะ และขึ้นยุคสมัยเมจิ แต่น่าเสียดายที่ชินซากุอยู่ไม่ทันเห็นชัยชนะของฝ่ายตัวเอง เนื่องด้วยวัณโรคได้พรากชีวิตของเขาไปเสียก่อน
**********************************************************************************************************
ตัวละคร - ซากาโมโตะ ทัตสึมะ พ่อหมุ่นอารมณ์ดี ใส่แว่นดำ ผู้ที่ไม่ชอบใช้ความรุนแรง และสามารถหัวเราะร่วนได้ตลอดแม้ว่าจะเจอสถานะการณ์อะไรก็ตาม
ซากาโมโต้ เรียวมะ ( 1835 – 1867) มือประสานผู้มีมุมมองกว้างไกล
ซากาโมโต้ เรียวมะ ผู้นำทางความคิดจากโทสะ เป็นบุตรพ่อค้าซามูไร ซึ่งเป็นซามูไรขั้นต่ำสุดในการจัดลำดับของซามูไร
เรียวมะได้เรียนวิชาดาบจากโรงฝึกแถวบ้านเกิดและกลายเป็นผู้มีพรสวรรค์ทางดาบที่สุดในโรงฝึกอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ได้ปเรียนวิชากาบสายโฮคุชินอิตโต้ริว กับชิบะ ซาดาคิจิที่เอโดะ และได้พบกับโยชิดะ โชอินและลูกศิษย์ ซึ่งในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ นายพลเพอร์รี่ แมทธิว นำเรือดำมาปิดอ่าวเพื่อบังคับให้ญี่ปุ่นยอมประเทศพอดี
เรียวมะได้กลับไปที่โทสะ และเข้าร่วมกับกลุ่มปฏิวัติที่โทสะ ที่นำโดย ทาเคจิ ฮันเปย์ตะ เพื่อนสมัยเรียนของเขา และได้หลบหนีจากโทสะ เพื่อมาเป็นโรนิน (ซามูไรที่ไม่มีนาย) ที่เอโดะ
เรียวมะได้เจอกับ ทาคาสุงิ ชินซากุ ที่กลับมาจากโจชู ทากาสุงิ วางแผนที่จะให้เรียวมะได้กองทัพเรือดำเอาไว้ จึงให้เขาไปลอบฆ่า คัทสึไคซู ผู้บัญชาการกองทัพเรือของรัฐบาลโตกุกาวะ แต่คัทสึมีแนวคิดที่ว่า ญี่ปุ่นควรจะเปิดประเทศเพื่อการพัฒนา เรียวมะเห็นด้วยกับแนวความคิดนี้จึงได้กลายเป็นศิษย์ของคัทสึแทน
ในช่วงที่ทำงานกับคัทสึ เรียวมะได้ก่อตั้งกองทัพเรือ และบริษัทติดต่อการค้าอย่างลับๆในชื่อ คาเมยามะ ชาจู ที่นางาซากิ และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ไคเอ็นไต
ต่อมาเรียวมะได้เจรจากับ คัทสึระ โคโกโร่ (คาซึระ ในการ์ตูนนั่นเอง) ผู้นำของฝ่ายโจชูเพื่อให้รวมกลุ่มกับเมืองซัทสึมะ โดยมีเรียวมะเป็นตัวกลางการเจรจาลงนามพันธมิตร ซึ่งสองเมืองนี้เคยเป็นศัตรูกันมาก่อน (เราจะเห็นได้ว่า ท่านเรียวมะมีความเป็นมิตรและความสามารถด้านการทูต สามารถชักจูงผู้คนอย่างดีเลยทีเดียว)
จากนั้นต่อมา โชกุน โตกุกาวะ โยชิโนบุ ยอมถอนอำราจออกจากการเป็นโชกุน คืนอำนาจสู่พระจักรพรรดิ ซึ่งนี่คือชัยชนะของกลุ่มปฏิวัตินั่นเอง หลังจากโชกุนคืนอำนาจแล้ว เรียวมะก็ทำการร่างชื่อของผู้ที่จะขึ้นมาบริหารงานราชการของรัฐบาลชุดใหม่ซึ่งเป็นประชาธิปไตย โดยเลือกจากผู้นำและผู้มีความสามารถในกลุ่มปฏิวัติในตอนนั้น แต่สิ่งที่น่าสังเกตเกี่ยวกับเหตุการณ์นี่คือ แม้เรียวมะจะเป็นผู้เขียนร่างนี้ขึ้นมาเอง แต่ในร่างนั้นกลับไม่มีชื่อเขาในตำแหน่งใดๆเลย ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ผู้นำของกลุ่มต่างๆนับถือในตัวของเรียวมะที่ทำเพื่อบ้านเมืองจริงๆ โดยไม่เห็นแก่ลาภยศสรรเสริญและต่างก็เห็นดีกับร่างของรัฐบาลชุดนี้
ในปี 1867 ซากาโมโต้ เรียวมะ ก็สิ้นชีวิตลงด้วยน้ำมือของ มือสังหารไม่ทราบฝ่าย ว่ากันว่า ซากาโมโต้ เรียวมะ เป็นผู้สืบทอดวิชาดาบสายโฮคุชินอันเลื่องชื่อ แต่ในยุคที่มีแต่ความวุ่นวายนี้ แม้ต้องฝ่าฟันอันตรายแค่ไหน เขาก็ไม่เคยชักดาบออกมาเพื่อฆ่าคนเลยสักคนเดียว
**********************************************************************************************************
ตัวละคร คาซึระ โคทาโร่ ฉายาหล่อเสียของ รูปร่างหน้าตา ฝีมือดาบ ความฉลาด ความรู้เรียกว่าเข้าขั้น perfect แต่ไหงเวลาเฮียแกออกโรงทีนี่บ้าบอหลุดโลกได้อีกล่ะเนี้ย
ชื่อจริงคือ คิโตะ ทาคาโยชิ (คัทสึระ โคโกโร) ( 1833-1877 )
ท่านคัทสึระ ได้เข้าศึกษาในสถาบันโชกะ ซนจุกุ กับ โยชิดะ โชอิน ซามูไรวิชาการและเรียนรู้วิชาดาบสายชินโดมุเน็นริว จากไซโต้ ยาคุโร่ ที่เอโดะ ในยุคโตกุกาวะตอนปลาย ได้เข้าร่วมและสนับสนุนฝ่ายปฏิวัติซนโน โจอิ (ยกย่องจักรพรรดิ ขับไล่ต่างแดน) ที่ต้องการล้มล้างระบบโชกุนโตกุกาวะ คืนอำนาจให้จักรพรรดิ
ในการประชุมวางแผนเผาเมืองหลวงและชิงตัวองค์จักรดิพรรดิ์ที่โรงเตี๊ยม อิเคดะ ที่เกียวโต ได้ถูกกลุ่มชินเซ็นงุมิล่วงรู้และเกิดเหตุการณ์ปะทะกันครั้งใหญ่ สมาชิกส่วนมากถูกจับได้ ในช่วงที่ถูกชินเซ็นงุมิตามล่า เขาก็ได้ถูกช่วยไว้โดย เกอิชาชื่อ อิคุมัทสึ ซึ่งต่อมากลายเป็นภรรยาของเขา
**** แต่ตามในการ์ตูน อิคุมัทสึ เป็นเจ้าของร้านราเมง ที่ช่วยคาซึระเอาไว้ นั่นเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในช่วงหลังจากเหตุการณ์ที่โรงเตี๊ยม ทากาสุงิ ชินซากุได้แยกตัวไปรวบรวมกองกำลังของตนเอง ท่านคัทสึระได้เจรจารวมกำลังฝ่ายโจชูซึ่งเกือบล่มสลายกับฝ่านซัทสึมะที่มีท่าไซโก เป็นแกนนำเอาไว้ด้วยกัน ในชื่อ"ซัทสึมะ-โจชูโดเมย์" โดยมีซากาโมโต้ เรียวมะเป็นตัวกลางในการเจรจา และทำให้เกิดการปฏิรูปเมจิขึ้นในเวลาต่อมา เป็นการสิ้นสุดระบบโชกุนโตกุกาวะ และเข้าสู่สมัยเมจิแทน