ประสบการณ์เดินเท้า 21 วัน 600 km ในญี่ปุ่น : ปะ! ไปสัมผัสชิโกกุกัน

สวัสดีทุกท่านค่ะ

ขอแนะนำที่มาที่ไปของการรีวิวการเดินทางครั้งนี้ก่อน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จขกท. ได้รับพัสดุชิ้นหนึ่งส่งมาจากญี่ปุ่น จ่าหน้าผิดๆถูกๆ ถึงเรา  ชื่อก็เขียนแค่ชื่อเล่นเฉยๆ ชื่อตึก ชื่อเขต รหัสไปรษณีย์ ผิดหมด แต่คุณไปรษณีย์ก็ดันส่งถึงอีกแน่ะ เมพมากๆฮ่ะ

เปิดออกดู ข้างในมีกล่องขนมสองกล่อง
กระดาษรองจาน Lunch mat ลายญี่ปุ่นๆหนึ่งซองใหญ่
โปสการ์ดสองใบ ที่มีคำอธิบายด้วยว่ามีความหมายว่าอะไร
และ จดหมายหนึ่งซอง ในนั้นมีรูปถ่ายสองรูป
เนื้อหาในจดหมาย คือ
เป็นยังไงบ้างจ๊ะ (ชื่อ ขจกท.)
จำได้มั้ยว่าเราเจอกันวันที่ 17 พ.ค. ตอนขึ้นเรือเฟอรี่ข้ามฟาก
ตอนนั้นมีจอชด้วยนะ แล้วลุงก็ถ่ายรูปบนเรือ โดยบอกว่าจะอัดแล้วส่งมาให้
ให้พวกหนูเขียนชื่อที่อยู่ลงในสมุดโน๊ต
แต่ว่ากลับมาแล้วก็หาสมุดโน๊ตนั้นไม่เจออยู่นาน
เพิ่งจะมาค้นเจอเมื่อเร็วๆนี้ ก็เลยจัดแจงส่งมาให้ทันที
ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ติดต่อมาเสียนาน
ตอนนั้นยังอากาศอุ่นๆอยู่เลยเนาะ แต่ตอนนี้เริ่มหนาวแล้วหละ
ปีหน้าก็มากันอีกนะหนูๆ
ลุงแถมขนมเค้กญี่ปุ่นมาให้ด้วย
ขอโทษอีกทีที่ส่งมาช้าจ๊ะ
(ลงชื่อคุณลุง) -



โอยยยย น่ารักที่สุดดดดดดดในสามโลก
นี่ลุงทำเรารู้สึกผิด ที่ไม่ได้ติดต่อไปด้วยนะเนี่ย
Y^Y ผิดไปแล้วก่ะ
ขอบคุณลุง มากๆเจ้าค่ะ


คุณลุงคือหนึ่งในคนที่เราเจอระหว่างไปเดินทางครั้งนี้ค่ะ
เราเจอสิ่งดีๆระหว่างการเดินทางครั้งนี้มากเลย
ว่าจะเขียนถึงเพื่อให้คนอื่นๆได้รู้จัก  แต่ก็เลื่อนไปเลื่อนมา จนนี่ผ่านไปเกือบแปดเดือนแล้ว   พอได้พัสดุคุณลุงอันนี้แหละ  เลยรู้สึกฮึด เอาวะ ทำรีวิวละกัน!  

…………..

เราไปแสวงบุญมาค่ะ
.
แม่นแล้ว  
.
.
เราไปเดินแสวงบุญที่ญี่ปุ่นมาค่ะ



เส้นทางแสวงบุญชิโกกุ (Shikoku Henro / Shikoku 88 Temples Pilgrimage) เป็นการเดินทางแสวงบุญรอบเกาะชิโกกุ เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของญี่ปุ่น แต่มีคนอาศัยหนาแน่นน้อยที่สุด


Photo Cr. : https://en.wikipedia.org/wiki/File:Shikoku_dialect.png
.
เส้นทางนี้มีมาเป็นพันปีแล้วหละ
ก็คิดซะว่านับตั้งแต่สมัยเฮอันน่ะ เพราะนิกายชินกอนที่ท่านโคโบ ไดชิ ก่อตั้งนี้ กำเนิดขึ้นในสมัยเฮอัน  แต่เส้นทางนี้น่ะ เป็นเส้นทางก่อนที่ท่านจะได้รับการเรียกขานกันว่าเป็น “ท่านโคโบ ไดชิ” ซะอีก
.
ชื่อนี้เป็นชื่อยกย่องค่ะ ส่วนชื่อเดิมของท่านคือ พระคูไค
ท่านมาเดินหาคำตอบให้กับชีวิต รอบเกาะชิโกกุ ธุดงค์ไปเรื่อย
แต่ระหว่างเดินทาง ก็มีเรื่องไม่คาดคิด และเหนือธรรมชาติเกิดขึ้นมากมาย
เส้นทางนี้จึงได้รับการนับถือ เป็นหนึ่งในเส้นทางแสวงบุญที่คนญี่ปุ่นรู้จักมากที่สุด และอยากมาให้ได้สักครั้งในชีวิต
.
เนื่องจากเราจะตามรอยพระคูไคกัน ดังนั้นก็ต้องเดินสิคะ
เดินสิ original ที่สุดละ

รอบเกาะมีป้ายบอกทาง เป็นสติ๊กเกอร์บ้าง ป้ายไม้บ้าง ทำโดยทั้งทางการและคนในพื้นที่ เส้นทางนี้จึงเดินได้โดยไม่หลง (ถ้าหูตาไวอ่ะนะ) แม้ไม่มีแผนที่

ระยะทางรอบเกาะประมาณ 1,200 กิโลเมตร ผ่านวัดหลัก 88 แห่ง มีทั้งในเมือง ทั้งป่า เลียบทะเล ขึ้นเขา ลงห้วย มีหมด
เริ่มจากจังหวัด โทคุชิมะ (Tokushima) > โคจิ (Kōchi) > เอฮิเมะ (Ehime) และคางาวะ (Kagawa)
โดยแต่ละจังหวัด ก็แทนแต่ละระยะของการรู้แจ้งของท่านคูไค


Photo Cr : http://www.nippon.com/en/views/b03202/

จังหวัดโทคุชิมะ  จุดเริ่มต้น เดิมชื่อแคว้นอาวะ (Awa province)  แทน “awakening” การตื่น  
จังหวัดโคจิ ส่วนที่เส้นทางยาวไกลที่สุดในสี่จังหวัด เดิมชื่อแคว้นโทสะ (Tosa province) แทนการฝึกตน “ascetic training”
จังหวัดเอฮิเมะ เดิมชื่อเคว้นอิโยะ (Iyo province) แทนการรู้แจ้ง “enlightenment”
และสุดท้าย จังหวัดคางาวะ เดิมชื่อแคว้นซานุกิ (Sanuki province)  แทนนิพพาน “nirvana”

ทั้งหมดนี้ มีวัดหลัก 88 แห่ง ตามชื่อของเส้นทางแสวงบุญเลยค่ะ (Shikoku 88 temple pilgrimage  ส่วนชื่อภาษาญี่ปุ่น ถ้าเรียกแบบเต็มๆ ก็มีความหมายเหมือนกัน  แต่ถ้าเรียกแบบสั้น ก็เรียก Shikoku ohenro ค่ะ)  และวัดลำดับรอง ที่ไม่มีตัวเลขนับให้ เรียกว่า “บังไก” อีกประมาณ  20 แห่ง  ซึ่งบางแห่งก็ต้องออกนอกเส้นทางหลักไปไกลโข  

หากเดินเท้าทั้งหมด เฉพาะวัดหลักทั้ง 88 จะใช้เวลาประมาณ 45 - 50 วัน ถ้าเป็นพวกถึกๆเดินเร็วก็อาจจะทำได้ใน 30 วันค่ะ   แต่หากใช้รถ หรือปั่นจักรยาน ระยะเวลาก็จะลดลงไปเกินครึ่ง

การเดิน มีหลายแบบ  จะเดินแบบรวดเดียวครบทุกวันก็ได้  หรือแบ่งเป็นทีละจังหวัด  หรือแบ่งตามความสะดวกของตัวเองก็ได้  

จะเริ่มที่วัดไหนก่อนก็ได้

จะเดินย้อนทางก็ได้นะ  เรียกว่า gyaku-uchi  ส่วนการเดินตามลำดับปกติแบบวนตามเข็มนาฬิกาจาก 1 ไล่ไปเรื่อยๆ เรียกว่า jun-uchi  เมื่อก่อนถือกันว่าการเดินย้อนทางได้บุญมากกว่า เพราะยากกว่า เนื่องจากป้ายชี้ทางต่างๆมันจะชี้ไปตามเส้นทางเรียงลำดับวัดตามตัวเลข ไม่ชี้ย้อนทาง   ปัจจุบันเท่าที่ถามไถ่กันมา เขาก็บอกได้บุญเหมือนๆกันแหละ ไม่ว่าจะเดินย้อน เดินตาม ไม่ว่าจะมาแบบรวมเดียวหรือแบ่งๆเอา

ที่จริงคนญี่ปุ่นน้อยคนที่จะมาแบบรวดเดียวค่ะ  เพราะว่าเขาไม่ค่อยมีเวลาว่างยาวๆเหมือนเราหรือชาติอื่นๆ  เนื่องจากมักทำงานบริษัทใดบริษัทหนึ่งยาวตลอดทั้งชีวิต การลางานเป็นเดือนๆจึงแทบเป็นไปไม่ได้ ส่วนชาวต่างชาติมักจะมากันในช่วงเปลี่ยนผ่านของการงานหรือการเรียนต่อ  จึงมีเวลาว่างยาวพอที่จะเดินรวดเดียวได้

ได้ยินอย่างนี้แล้วอุ่นใจเนาะ  เพราะรอบนี้เราจำนวนวันหยุดไม่พอ เราก็คงไปเดินรวดเดียวไม่ได้หละ

เนื่องจากเรามีวันหยุดแค่เดือนเดียว  เราก็ทำใจไว้อยู่แล้วว่าจะไปไม่ครบ
เพราะเราคิดว่าจะเดินเอา หักลบกลบหนี้กับการต้องไปทำธุระที่นู่นนี่ในญี่ปุ่นด้วย  เราก็เหลือเวลาแค่ 21 วันสำหรับการเดินทางบนเกาะชิโกกุค่ะ

เริ่มต้นด้วยการหาข้อมูล
สองเว็บนี้ช่วยได้มากเลยค่ะ

www.shikokuhenrotrail.com  อันนี้เป็นของฝรั่งคนนึงที่รักเส้นทางนี้ ทำเว็บให้ข้อมูล และ webboard สำหรับผู้แสวงบุญทั้งหลายมาคุยกันค่ะ มีคำแนะนำเรื่องการเตรียมตัว และข้อมูลพื้นฐานเยอะมาก  มีประโยชน์มากค่ะ

http://walkingmylife.weebly.com/links.html อันนี้เป็นบันทึกการเดินทางของฝรั่งคนนึง ที่เล่าทุกวิ่ง ไปเจออะไรมาบ้าง พักที่ไหน เดินวันไหนกี่กิโล เจออุปสรรคอะไรบ้าง  ดีงามมาก  แต่เราอ่านไปได้ประมาณ 10 วันแรกก็เลิก  เพราะรู้สึก ว่าการตัดสินใจเฉพาะหน้าเยอะมากค่ะ  แต่ละวันเราไม่มีทางเดินไปได้เหมือนเขาแน่ๆ  อ่านเอาไอเดียคร่าวๆค่ะ  ว่าชีวิตจะต้องเผชิญกับการตัดสินใจอะไรบ้างก็พอละ  ที่เหลือไปลุ้นเอา

แล้วเราก็สั่งซื้อหนังสือที่จำเป็นมาอ่าน ตามที่เว็บ shikokuhenrotrail แนะนำไว้ เราก็ซื้อมาสองเล่มค่ะ เป็นภาษาอังกฤษทั้งสองเล่มนะ



คือเล่มแผนที่ อันนี้จำเป็นมาก



และเล่มคำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัว และ gimmick ของแต่ละวัด เป็นเล่มที่ใหญ่กว่าค่ะ



แต่เปิดไปอ่านละก็ใจหายนะ เล่มหลังนี่ เพราะข้อมูลจะมีพวก เวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตกในแต่ละเดือน แต่ละจังหวัด, การเลือกที่พักแบบต่างๆ, ความเร็วในการเดินที่นับกันเป็นชั่วโมงๆ กาารคำนวนระยะทางต่อวัน, วิธีการพันเทปที่เท้า (พร้อมภาพประกอบ) กันรองเท้ากัด รูปกายวิภาคของกล้ามเนื้อขาส่วนต่างๆที่ต้องระวังอะไรพวกนี้ ดูละก็รู้ตัวเลยว่า..  เออ ตรูต้องเตรียมตัวเยอะสินะ  

ซึ่ง..เราก็อ่านไปได้นิดเดียวเอง  เพราะช่วงนั้นงานยุ่งมาก พูดตามตรงว่าการเตรียมตัวก่อนไปของเราค่อนข้างจะง่อยมากค่ะ ไม่ได้มีการออกกำลังการฟิตซ้อมชีวิตสำหรับการเดินเฉลี่ยวันละ 30 กิโล แต่อย่างใด   ซึ่ง.. พลาดมาก.  พลาดมากๆค่ะ (จะได้ค่อยๆเล่าให้ฟังต่อไปนะคะ)

สิ่งที่เราตั้งใจคร่าวๆก่อนไปคือ
1. เดินตามเส้นทางมาตรฐาน เริ่มจากวัดที่ 1  คิดว่าน่าจะไปได้สักครึ่งเกาะนะตอนนั้น  
2. ไม่กางเต๊นท์ :  เพราะเราไม่เคยกางเต๊นท์เองมาก่อน และคิดว่าเดินทาง ผญ. คนเดียวคงมีความเสี่ยงพอสมควร ประกอบกับไม่อยากแบกเต๊นท์ด้วย  เลยตัดสินใจจะนอนที่พักแบบมีหลังคาคลุมหัวค่ะ (ซึ่งมีหลายแบบ จะได้พูดถึงต่อไปนะคะ)
3. เอาของไปให้เบาที่สุด  : เสื้อผ้าบางๆ ซักง่าย แห้งไว  ไม่กี่ตัว
4. ไม่เอาหูฟังไป : เพราะอยากอยู่กับโลกรอบตัวให้มากที่สุด
5. ใช้ซิมใส่มือถือ  ไม่เช่า Pocket WiFi ไป เพราะมันจะเพิ่มน้ำหนักของเป้

งบของการเดินทางนี้ เราเฉลี่ยเอาว่าวันละ 10,000 - 12,000 เยน เป็นค่าที่พักคืนละประมาณ 7,000 เยน ที่เหลือก็ซื้อของกิน, ค่าตราประทับของแต่ละวัด สามสิ่งสำคัญของชีวิตในแต่ละวันค่ะ

เราจะขอเล่าแบ่งไปตามวันนะคะ  แต่เนื่องจากรูปเยอะอาจจะต้องแบ่งกระทู้นะคะ
ออกตัวไว้ก่อนเลยว่า จำรายละเอียดไม่ได้มากนัก เพราะไม่ได้บันทึกไว้ (เอาสมุดโน๊ตออกจากกระเป๋าเพื่อลดน้ำหนัก) และผ่านมานานแล้ว

จะเล่าและตอบ เท่าที่พอจะจำได้นะคะ

เอาหละ
ไปลุยกันเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่