สมัยก่อนนี้ค่ายยูม่าถือว่าเป็นค่ายละครบู๊ที่ส่งละครหลายเรื่องของช่องสามให้ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น จับตายวายร้ายสายสมร ฝนตกขี้หมูไหลฯ ผู้ดีอีสาน ฯลฯ จนในปี 2541 เจ้าของกระทู้อยู่มัธยมปลาย (โอ๊ย ... นี่มัน 17-18 ปีมาแล้ว) ยูม่าได้ส่งละครอารมณ์ละมุนเรื่องหนึ่งสู่สายตาประชาชน และ ขอบอกว่าละครเรื่องนี้ในสายตาเราคือ topform ขั้นสุดของยูม่าในสายแอ็คชั่น(นิด ๆ )ปนโรแมนติค(มากๆ) นั่นคือเรื่อง "ตามรักคืนใจ" บทประพันธ์ของคุณปาริฉัตร สาลิคุปต์ ในนามปากกา "กิ่งฉัตร" ที่เรา ๆ ท่าน ๆ คุ้นเคยกันดี
กับเพลงเปิดเพลงนี้ที่ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าใดก็ยังตราตรึงใจเราอยู่เหมือนเดิม
ลมหายใจ ... เพลงนี้หลายเวอร์ชั่น แต่ทุกครั้งที่เราฟังเวอร์ชั่นคุณธีร์ ไชยเดช จะคิดถึงละครเรื่องนี้
ทุกครั้งไป
เส้นสายกังวาลเบาของกีต้าร์ และ น้ำเสียงทุ้มนุ่มของคุณธีร์ ไชยเดช พาเราย้อนกลับไปถึง ถนนดินลูกรังสีแดง สายลมเย็นชื้น และ ร่มไม้ครึ้ม แห่งไร่สัตบุษ บัวขาว ... ไร่สัก ณ จังหวัดเชียงราย และ เรื่องราวการติดตามทวงถามความรักของหญิงสาววัยต้นคนนึง เธอหาญกล้าทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน หญิงสาวตัวเล็กผมสั้นสะบัดปลาย ใบหน้าเล็กกลมใส ดวงตาคู่งามหวานฉ่ำดังตากวาง คุณนารา ... หลานสาวนายธนาคารชื่อดังที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในโอวาทของคุณตา เดินทางสู่ฟ้ากว้างทางไกลไปเมืองเหนือเพียงลำพัง ร่างเล็ก ๆ นั้นช่างบอบบางและอ่อนเยาว์ยิ่ง ไม่มีทั้งประสบการณ์ ฝีมือ ไม่มีแผนอะไรอย่างใด นารามีเพียง "หัวใจ" ที่ตั้งมั่น กับ ระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนเดินทางไปเรียนต่างประเทศ
หัวใจของเธอไหวอ่อน "พ่อ" ที่เธอจำได้ แผ่นหลังกว้างใหญ่ อ้อมกอดอบอุ่น นั้นจะยังอยู่ดีหรือไม่ ? ความจริงที่ถูกซ่อนเร้นและปิดบังมาตลอดคืออะไร ? เธอมีแต่คำถาม สิ่งต่าง ๆ จะเป็นอย่างไปที่เธอคาดหวังไว้หรืออย่างไหน เธอไม่แน่ใจเลย แต่ก็ไม่มีทางที่จะรู้ได้หรอกใช่ไหมหากเธอไม่เดินทางไปตามหา "ความรัก" ที่หล่นหาย เวลายาวนานถึง 15 ปี เธอเปลี่ยนไปมาก พ่ออาจจำเธอไม่ได้แล้ว เธอไม่มีความงามเช่นรัศมีผู้เป็นแม่ หากแม่เป็นนางหงส์ เธอก็เป็นเพียงลูกเป็ดขี้เหร่เท่านั้น หลากความสงสัยก่อร่างขึ้นเป็นความกลัว แต่ก็อีกนั่นแหละ .... เมื่อไม่กล้าก็คงไม่มีวันรู้ หากไม่ไปก็คงไม่ได้คำตอบ
และแล้ว .... เมื่อกลั้นใจข่มความกลัวและหวาดหวั่นดั้นด้นไปจนถึงที่ เจ้าตัวกลับพูดอะไรไม่ออก พ่อที่เธอโหยหากลับกลายเป็นชายอีกคนที่เธอไม่เคยคุ้น แววตาโรยล้าและแห้งผาก กาลเวลาทิ้งความขมขื่น ริ้วรอยแห่งชีวิตเอาไว้ในน้ำเนื้อของราม และ ที่สำคัญ "พ่อ" จำเธอไม่ได้เสียแล้ว ณ ไร่สัตบุษ คุณนารา วรรณพาณิช จึงตกอยู่ภายใต้คราบของเด็กคนงานกะโปโลเจ้าปัญหา หนูนา ทองการค้า เอาเถิดน่าอย่างน้อยก็เข้าใกล้พ่อไปอีกนิด หากความลำบากยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะ ทุกการกระทำของเธอตกอยู่ภายใต้สายตาจับสังเกตของนายใหญ่ของไร่ คุณสิงห์ สีหนาท
ผู้ชายที่ใคร ๆ เรียกกันว่า "นาย" แห่งปางไม้สัก ไร่บัวขาว ร่างสูงใหญ่สมกับงานกลางแจ้ง ดวงตาดำคมและเป็นประกายกล้า บางครั้งก็คมกริบคมจัดราวจะตัดขั้วหัวใจ บางครั้งก็คล้ายจะแพรวพราวทำให้รู้สึกราวผีเสื้อโบยบินอยู่อก คนที่นาราแอบเรียกอยู่ในใจเนือง ๆ ว่านายหมียักษ์ ชั้นแรกนาราไม่ได้สนใจคุณหมีแต่ชื่อสิงห์คนนี้มากนัก ผิดกับคนที่ถูกพูดถึง ... ที่สนใจ หนูนาตัวน้อยนี้เป็น "พิเศษ" ในหลาย ๆ ทาง
คุณสิงห์ เป็นผู้ชายในแบบฉบับ Macho Man เต็มขั้น รูปลักษณ์ภายนอกที่ทั้งดิบ และ เถื่อน น้ำเสียงการพูดจาติดจะห้วนอยู่บ้าง ก็สมกันดีกับการเป็นนายใหญ่ของไร่ ที่ต้องคุมคนงานชายหญิงหลายร้อย รวมถึงการต่อรองเหลี่ยมคูทางธุรกิจ และ การเป็นหนึ่งใน "คนดัง" ในจังหวัดใหญ่ทางภาคเหนือ สถานะที่ว่าเมื่อเทียบกับอายุ ... สามสิบต้น ๆ ก็ถือว่าบารมีมากเอาการ พอที่เจ้าตัวจะมีทั้งความเชื่อมั่นในตัวเอง ทั้งมั่นใจ และ มั่นหน้า อหังการ์ ไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมอย่างที่คนทั้งจังหวัดก็ "รู้กัน" ว่าถ้าคิด "เหยียบจมูก" นายสิงห์ ... ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย
กับ "หนูนา" หลังจากจับตาดูอยู่ซักพัก นายใหญ่แห่งไร่บัวขาวก็ตัดสินได้ทันทีว่าเด็กหนูนานี่ "ไม่ใช่คู่มือ" แต่ไอ้ที่ "ยาก" จะรับมือคงเป็น "หัวใจ" ของนายสิงห์เองมากกว่า คิดรอบคอบสารตะแล้วหนูนาคงไม่ใช่ "ภัยคุกคาม" ของไร่บัวขาวที่ปางไม้ไหนจะส่งมา แต่เป็น "ภัยคุกคาม" กับอารมณ์และหัวใจของเจ้าของไร่ ... อันนี้เปอร์เซ็นสูง และแล้วเมื่อนายสิงห์ "make sure" ว่าหนูนาคนนี้ไม่ได้มีอันตรายใดกับไร่มากกว่าความซุ่มซ่ามเปิ๊บป๊าบอย่างคนไม่ชินงาน เมื่อสืบเสาะวิเคราะห์จนมั่นใจแล้วไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อนเกี่ยวกับไร่ โรงแรม หรือไม้สัก มีแต่พลังงานลึกลับที่ทำให้หัวใจของชายวัยสามสิบกว่า ๆ ได้เต้นผิดจังหวะ
นิสัยตรงไปตรงมาและความเชื่อมั่นแรงกล้าก็ทำงานอย่างเต็มที่ ... หนูนา จะเป็นใคร มาจากไหน พื้นเพอย่างไร การศึกษาระดับใด ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ลงว่าเป็นคนที่ชอบแบบที่ใช่ ก็จะเดินหน้าจีบชนิดไม่หวาดหวั่น และ ถ้ารู้ได้ว่าใจตรงกัน ... เปิดหน้าลุยคุยอย่าง "Man" ได้ทันที อาการหึงสาพยาบาทเริ่มเข้ามาเป็นเจ้าเรือนได้ถี่ ๆ เมื่อนายสิงห์พบว่าเด็กน้อยที่ทำหัวใจสิงห์หนุ่มกระตุกจะจดจ่ออยู่กับ "น้าราม" ออกจะบ่อยครั้ง แต่เจ้าตัวก็ไม่อมพะนำถามเข้าเป้าอย่างถนัดถนี่ แล้วสาวน้อยก็ตรงเป๊ะ พอ ๆ กันตอบกลับมาได้ทันทีก็ที่ตามน้ารามแจนี่ เห็นเป็น Father Figure หรอกนะ ไม่ใช่แบบอื่น ดวงตาดำคมขึ้งเครียด เปลี่ยนกลับเป็นประกายแวววาวในความมืด
ทีนี้กลายเป็น "หนูนา" ตัวน้อยที่ใจกระตุกบ้างล่ะ
อยู่ไปนานเข้า นาราเริ่มจับได้ จะดูว่านายสิงห์อารมณ์อย่างไร จะดูที่หน้าคงไม่ออก เพราะเคราะรกรื้อเป็นคุณหมี จะมีแต่ดวงตานี่แหละ ที่ส่งความรู้สึกได้หลากหลายนัก อย่างตอนนี้เวลานี้ หลังจากที่เธอเอ่ยปากว่ามองน้ารามแบบ "พ่อ" เธอรู้แล้วพายุนั้นกลับกลายเป็นสายลมละมุน ดวงตาดำคมที่มองทะลุราวตัดขั้วหัวใจ กลายเป็นสายตาที่วาววับเหมือนดวงดาวพราวบนฟ้าเมืองเหนือที่เธอแหงนหน้ามองในระยะหลัง ๆ
แก้มนาราร้อนวูบขึ้นมา .... อะไรกันหนอ ผีเสื้อกระมัง ที่โบยบินอยู่ในทรวงเวลานี้
มือหนาใหญ่รวบมือบางอย่างถือสิทธิเป็นเจ้าของเดินไปส่งถึงห้องพัก ... คนตัวเล็กออกอาวุธทั้งแหนบทั้งจิก แต่คนตัวโตมีหรือจะสนใจคำครหา ก็เมื่อแน่ใจในคนข้าง ๆ และ ชัวร์ ๆ ไม่มั่วนิ่มกับตัวเองว่าไม่ได้เอกมโนโทจิ้นไปเอง ก็ประกาศโต้ง ๆ ไม่สนใจฟ้าดินไปเลยว่าออกโฉนด ใบเหยียบย่ำ และ ตราจอง "หนูนา" เรียบร้อย และ หัวใจของ "นายสิงห์" ก็ "ไม่ว่างแล้ว" โอเคไหม ?!
แต่แม้จะตกอยู่ในห้วงรักเหวลึก ... สิ่งนั้นก็ไม่ได้ทำให้สมองของนายสิงห์ช้าลงแต่อย่างใด สิ่งที่น่าสงสัยก็ยังคงน่าสงสัยอยู่ดี มันไม่สำคัญอีกต่อไปว่าหนูนาจะเป็นใคร แต่นายสิงห์ก็มีใจอยากจะปัดเป่าปัญหาและความกังวลให้กับสาวน้อยผู้เป็นที่รัก สุดท้ายเขาก็รู้จนได้ว่าหนูนามาที่ไร่นี้เพื่ออะไร ชายหนุ่มช่วย support สาวน้อยของเขาอย่างอดทน เสียงแข็ง ๆ ท่าทางล้อเลียนยั่วเย้าแต่เอาจริง เปลี่ยนเป็นความอบอุ่นละมุนอย่างผู้ใหญ่ กระตุ้นให้นาราบอกปรับความเข้าใจกับน้าราม
หากด่านที่หนาหนักจริง ๆ สำหรับนายสิงห์คงเป็น "คุณวรรณ" นายธนาคารใหญ่ จากลูกเขยชาวสวนมาเป็นหลานเขยชาวไร่ แต่นายสิงห์ก็ยังคงเป็นนายสิงห์ ผู้ชายวัยต้นสามสิบต้นที่ไม่ก้มหัวให้ใครง่าย ๆ ในขณะที่ "น้าราม" อดีตลูกเขย นั่งนิ่งอย่างสำรวมและดูเจียมเนื้อเจียมตัว บารมีและอำนาจของ "ว่าที่" หลานเขยกลับฉายชัด ขณะ "ว่าที่" พ่อตา ได้แต่ตะลึงงัน เมื่อนายสิงห์สนทนากับคุณวรรณด้วยน้ำเสียงหนักแน่น และ สายตาคมกริบราวบัญชาการในสนามรบก็ไม่ปาน ไม่มีทีท่าเจียมเนื้อตัว หากก็ไม่กระด้าง ไม่มีทีท่าพินอบพิเทา หากก็สุภาพมีมารยาทตามควร
ถ้าพูดกันในแง่ทรัพย์สิน ผมอาจมีไม่เท่าท่าน แต่ถ้าพูดถึง "ความรักความห่วงใย" ผมมีให้กับหนูนามากกว่าคนอื่น เออ เอาซี้ ... ไม่ต้องมีผู้ใหญ่ผู้โตมาขอตามธรรมเนียมทั้งนั้นล่ะ แม้กระทั่งเมื่อคนที่นายสิงห์จะมาขอหลานเขาเป็น "แฟน" เอ่ยว่า "เธอนี่ยะโสนะ" สีหนาทก็ยังตอบรับแบบนายสิงห์ style "ครับ" ครับผมยะโส มั่นใจ และ มั่นหน้า และ ทุก ๆ ความมั่นมารวมกัน
ผม "รู้และมั่นใจ" ว่าผมรักเธอ และ เธอก็เป็นคนฉลาดดังนั้นเธอก็ต้องมั่นใจรู้และเลือกได้เช่นกันว่า "ใคร" ดีที่สุดสำหรับเธอ จบนะคะคนดี ประโยคนี้สิ้นสุดลงพร้อมกับรอยยิ้มพึงพอใจในความโอหังของ "ว่าที่" คุณตา และ ใบหน้าตะลึงตึงตึงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของ "ว่าที่" พ่อตา ที่หวาดเสียวแทน "ว่าที่" เขยขวัญ
วันนั้นนาราเดินทางมาไกลถึงเมืองเหนือด้วยความไม่แน่ใจ
แต่ขากลับไปด้วยความกล้า ความพยายาม และ ความจริงใจ
เธอเก็บหัวใจที่หล่นหายกลับคืนเรือน
และเกี่ยวหัวใจใครอีกคนลัดฟ้าติดตัวไปด้วยอีกหนึ่ง
การเดินทางบางครั้งอาจเริ่มต้นด้วยความหวาดหวั่นและอ่อนไหว หากนาราก็พิสูจน์แล้วว่า ท่ามกลางป่าดงพงพฤกษ์แห่งเมืองเหนือ ท่ามกลางป่าไม้เรือกไร่ ด้วยความพยายาม จิตตั้งมั่น และ ความจริงใจ หัวใจดวงหนึ่งที่เคยร้างลาห่างหายได้กลับคืนมาอยู่ในที่ของมัน หัวใจอีกดวงมาเติมเต็มอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตที่ขาดหาย ไอละมุนของพ่อผู้ที่เป็นครอบครัว ของผู้ชายเคราหมีที่ทั้งเถื่อนทั้งอุ่นในคราวเดียวกัน หัวใจสองดวงรวมเป็นหนึ่งความรัก ที่คอยติดตามนาราไปไม่ว่าเธอจะอยู่แห่งหนใดในโลกใบนี้
ขอจบการเวิ่นเว้อด้วย MV นี้
เธอคือลมหายใจ เธอคือทุกอย่าง
จะรักเธอไม่มีวันจาง ไปจากใจ
ก็เพราะเธอคือลมหายใจ เธอคือทุกสิ่ง
จะให้ทิ้งอะไรก็ยอมทุกอย่าง
จากนี้ ใจฉันจะมีแต่เธอ
เวิ่นเว้อถึง "ตามรักคืนใจ 2541" : หนึ่งไอละมุน หนึ่งความรัก สองหัวใจ กลางไพรพฤกษ์
ลมหายใจ ... เพลงนี้หลายเวอร์ชั่น แต่ทุกครั้งที่เราฟังเวอร์ชั่นคุณธีร์ ไชยเดช จะคิดถึงละครเรื่องนี้
ทุกครั้งไป
เส้นสายกังวาลเบาของกีต้าร์ และ น้ำเสียงทุ้มนุ่มของคุณธีร์ ไชยเดช พาเราย้อนกลับไปถึง ถนนดินลูกรังสีแดง สายลมเย็นชื้น และ ร่มไม้ครึ้ม แห่งไร่สัตบุษ บัวขาว ... ไร่สัก ณ จังหวัดเชียงราย และ เรื่องราวการติดตามทวงถามความรักของหญิงสาววัยต้นคนนึง เธอหาญกล้าทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน หญิงสาวตัวเล็กผมสั้นสะบัดปลาย ใบหน้าเล็กกลมใส ดวงตาคู่งามหวานฉ่ำดังตากวาง คุณนารา ... หลานสาวนายธนาคารชื่อดังที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในโอวาทของคุณตา เดินทางสู่ฟ้ากว้างทางไกลไปเมืองเหนือเพียงลำพัง ร่างเล็ก ๆ นั้นช่างบอบบางและอ่อนเยาว์ยิ่ง ไม่มีทั้งประสบการณ์ ฝีมือ ไม่มีแผนอะไรอย่างใด นารามีเพียง "หัวใจ" ที่ตั้งมั่น กับ ระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนเดินทางไปเรียนต่างประเทศ
หัวใจของเธอไหวอ่อน "พ่อ" ที่เธอจำได้ แผ่นหลังกว้างใหญ่ อ้อมกอดอบอุ่น นั้นจะยังอยู่ดีหรือไม่ ? ความจริงที่ถูกซ่อนเร้นและปิดบังมาตลอดคืออะไร ? เธอมีแต่คำถาม สิ่งต่าง ๆ จะเป็นอย่างไปที่เธอคาดหวังไว้หรืออย่างไหน เธอไม่แน่ใจเลย แต่ก็ไม่มีทางที่จะรู้ได้หรอกใช่ไหมหากเธอไม่เดินทางไปตามหา "ความรัก" ที่หล่นหาย เวลายาวนานถึง 15 ปี เธอเปลี่ยนไปมาก พ่ออาจจำเธอไม่ได้แล้ว เธอไม่มีความงามเช่นรัศมีผู้เป็นแม่ หากแม่เป็นนางหงส์ เธอก็เป็นเพียงลูกเป็ดขี้เหร่เท่านั้น หลากความสงสัยก่อร่างขึ้นเป็นความกลัว แต่ก็อีกนั่นแหละ .... เมื่อไม่กล้าก็คงไม่มีวันรู้ หากไม่ไปก็คงไม่ได้คำตอบ
และแล้ว .... เมื่อกลั้นใจข่มความกลัวและหวาดหวั่นดั้นด้นไปจนถึงที่ เจ้าตัวกลับพูดอะไรไม่ออก พ่อที่เธอโหยหากลับกลายเป็นชายอีกคนที่เธอไม่เคยคุ้น แววตาโรยล้าและแห้งผาก กาลเวลาทิ้งความขมขื่น ริ้วรอยแห่งชีวิตเอาไว้ในน้ำเนื้อของราม และ ที่สำคัญ "พ่อ" จำเธอไม่ได้เสียแล้ว ณ ไร่สัตบุษ คุณนารา วรรณพาณิช จึงตกอยู่ภายใต้คราบของเด็กคนงานกะโปโลเจ้าปัญหา หนูนา ทองการค้า เอาเถิดน่าอย่างน้อยก็เข้าใกล้พ่อไปอีกนิด หากความลำบากยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะ ทุกการกระทำของเธอตกอยู่ภายใต้สายตาจับสังเกตของนายใหญ่ของไร่ คุณสิงห์ สีหนาท
ผู้ชายที่ใคร ๆ เรียกกันว่า "นาย" แห่งปางไม้สัก ไร่บัวขาว ร่างสูงใหญ่สมกับงานกลางแจ้ง ดวงตาดำคมและเป็นประกายกล้า บางครั้งก็คมกริบคมจัดราวจะตัดขั้วหัวใจ บางครั้งก็คล้ายจะแพรวพราวทำให้รู้สึกราวผีเสื้อโบยบินอยู่อก คนที่นาราแอบเรียกอยู่ในใจเนือง ๆ ว่านายหมียักษ์ ชั้นแรกนาราไม่ได้สนใจคุณหมีแต่ชื่อสิงห์คนนี้มากนัก ผิดกับคนที่ถูกพูดถึง ... ที่สนใจ หนูนาตัวน้อยนี้เป็น "พิเศษ" ในหลาย ๆ ทาง
คุณสิงห์ เป็นผู้ชายในแบบฉบับ Macho Man เต็มขั้น รูปลักษณ์ภายนอกที่ทั้งดิบ และ เถื่อน น้ำเสียงการพูดจาติดจะห้วนอยู่บ้าง ก็สมกันดีกับการเป็นนายใหญ่ของไร่ ที่ต้องคุมคนงานชายหญิงหลายร้อย รวมถึงการต่อรองเหลี่ยมคูทางธุรกิจ และ การเป็นหนึ่งใน "คนดัง" ในจังหวัดใหญ่ทางภาคเหนือ สถานะที่ว่าเมื่อเทียบกับอายุ ... สามสิบต้น ๆ ก็ถือว่าบารมีมากเอาการ พอที่เจ้าตัวจะมีทั้งความเชื่อมั่นในตัวเอง ทั้งมั่นใจ และ มั่นหน้า อหังการ์ ไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมอย่างที่คนทั้งจังหวัดก็ "รู้กัน" ว่าถ้าคิด "เหยียบจมูก" นายสิงห์ ... ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย
กับ "หนูนา" หลังจากจับตาดูอยู่ซักพัก นายใหญ่แห่งไร่บัวขาวก็ตัดสินได้ทันทีว่าเด็กหนูนานี่ "ไม่ใช่คู่มือ" แต่ไอ้ที่ "ยาก" จะรับมือคงเป็น "หัวใจ" ของนายสิงห์เองมากกว่า คิดรอบคอบสารตะแล้วหนูนาคงไม่ใช่ "ภัยคุกคาม" ของไร่บัวขาวที่ปางไม้ไหนจะส่งมา แต่เป็น "ภัยคุกคาม" กับอารมณ์และหัวใจของเจ้าของไร่ ... อันนี้เปอร์เซ็นสูง และแล้วเมื่อนายสิงห์ "make sure" ว่าหนูนาคนนี้ไม่ได้มีอันตรายใดกับไร่มากกว่าความซุ่มซ่ามเปิ๊บป๊าบอย่างคนไม่ชินงาน เมื่อสืบเสาะวิเคราะห์จนมั่นใจแล้วไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อนเกี่ยวกับไร่ โรงแรม หรือไม้สัก มีแต่พลังงานลึกลับที่ทำให้หัวใจของชายวัยสามสิบกว่า ๆ ได้เต้นผิดจังหวะ
นิสัยตรงไปตรงมาและความเชื่อมั่นแรงกล้าก็ทำงานอย่างเต็มที่ ... หนูนา จะเป็นใคร มาจากไหน พื้นเพอย่างไร การศึกษาระดับใด ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ลงว่าเป็นคนที่ชอบแบบที่ใช่ ก็จะเดินหน้าจีบชนิดไม่หวาดหวั่น และ ถ้ารู้ได้ว่าใจตรงกัน ... เปิดหน้าลุยคุยอย่าง "Man" ได้ทันที อาการหึงสาพยาบาทเริ่มเข้ามาเป็นเจ้าเรือนได้ถี่ ๆ เมื่อนายสิงห์พบว่าเด็กน้อยที่ทำหัวใจสิงห์หนุ่มกระตุกจะจดจ่ออยู่กับ "น้าราม" ออกจะบ่อยครั้ง แต่เจ้าตัวก็ไม่อมพะนำถามเข้าเป้าอย่างถนัดถนี่ แล้วสาวน้อยก็ตรงเป๊ะ พอ ๆ กันตอบกลับมาได้ทันทีก็ที่ตามน้ารามแจนี่ เห็นเป็น Father Figure หรอกนะ ไม่ใช่แบบอื่น ดวงตาดำคมขึ้งเครียด เปลี่ยนกลับเป็นประกายแวววาวในความมืด
อยู่ไปนานเข้า นาราเริ่มจับได้ จะดูว่านายสิงห์อารมณ์อย่างไร จะดูที่หน้าคงไม่ออก เพราะเคราะรกรื้อเป็นคุณหมี จะมีแต่ดวงตานี่แหละ ที่ส่งความรู้สึกได้หลากหลายนัก อย่างตอนนี้เวลานี้ หลังจากที่เธอเอ่ยปากว่ามองน้ารามแบบ "พ่อ" เธอรู้แล้วพายุนั้นกลับกลายเป็นสายลมละมุน ดวงตาดำคมที่มองทะลุราวตัดขั้วหัวใจ กลายเป็นสายตาที่วาววับเหมือนดวงดาวพราวบนฟ้าเมืองเหนือที่เธอแหงนหน้ามองในระยะหลัง ๆ
มือหนาใหญ่รวบมือบางอย่างถือสิทธิเป็นเจ้าของเดินไปส่งถึงห้องพัก ... คนตัวเล็กออกอาวุธทั้งแหนบทั้งจิก แต่คนตัวโตมีหรือจะสนใจคำครหา ก็เมื่อแน่ใจในคนข้าง ๆ และ ชัวร์ ๆ ไม่มั่วนิ่มกับตัวเองว่าไม่ได้เอกมโนโทจิ้นไปเอง ก็ประกาศโต้ง ๆ ไม่สนใจฟ้าดินไปเลยว่าออกโฉนด ใบเหยียบย่ำ และ ตราจอง "หนูนา" เรียบร้อย และ หัวใจของ "นายสิงห์" ก็ "ไม่ว่างแล้ว" โอเคไหม ?!
แต่แม้จะตกอยู่ในห้วงรักเหวลึก ... สิ่งนั้นก็ไม่ได้ทำให้สมองของนายสิงห์ช้าลงแต่อย่างใด สิ่งที่น่าสงสัยก็ยังคงน่าสงสัยอยู่ดี มันไม่สำคัญอีกต่อไปว่าหนูนาจะเป็นใคร แต่นายสิงห์ก็มีใจอยากจะปัดเป่าปัญหาและความกังวลให้กับสาวน้อยผู้เป็นที่รัก สุดท้ายเขาก็รู้จนได้ว่าหนูนามาที่ไร่นี้เพื่ออะไร ชายหนุ่มช่วย support สาวน้อยของเขาอย่างอดทน เสียงแข็ง ๆ ท่าทางล้อเลียนยั่วเย้าแต่เอาจริง เปลี่ยนเป็นความอบอุ่นละมุนอย่างผู้ใหญ่ กระตุ้นให้นาราบอกปรับความเข้าใจกับน้าราม
หากด่านที่หนาหนักจริง ๆ สำหรับนายสิงห์คงเป็น "คุณวรรณ" นายธนาคารใหญ่ จากลูกเขยชาวสวนมาเป็นหลานเขยชาวไร่ แต่นายสิงห์ก็ยังคงเป็นนายสิงห์ ผู้ชายวัยต้นสามสิบต้นที่ไม่ก้มหัวให้ใครง่าย ๆ ในขณะที่ "น้าราม" อดีตลูกเขย นั่งนิ่งอย่างสำรวมและดูเจียมเนื้อเจียมตัว บารมีและอำนาจของ "ว่าที่" หลานเขยกลับฉายชัด ขณะ "ว่าที่" พ่อตา ได้แต่ตะลึงงัน เมื่อนายสิงห์สนทนากับคุณวรรณด้วยน้ำเสียงหนักแน่น และ สายตาคมกริบราวบัญชาการในสนามรบก็ไม่ปาน ไม่มีทีท่าเจียมเนื้อตัว หากก็ไม่กระด้าง ไม่มีทีท่าพินอบพิเทา หากก็สุภาพมีมารยาทตามควร
ถ้าพูดกันในแง่ทรัพย์สิน ผมอาจมีไม่เท่าท่าน แต่ถ้าพูดถึง "ความรักความห่วงใย" ผมมีให้กับหนูนามากกว่าคนอื่น เออ เอาซี้ ... ไม่ต้องมีผู้ใหญ่ผู้โตมาขอตามธรรมเนียมทั้งนั้นล่ะ แม้กระทั่งเมื่อคนที่นายสิงห์จะมาขอหลานเขาเป็น "แฟน" เอ่ยว่า "เธอนี่ยะโสนะ" สีหนาทก็ยังตอบรับแบบนายสิงห์ style "ครับ" ครับผมยะโส มั่นใจ และ มั่นหน้า และ ทุก ๆ ความมั่นมารวมกัน ผม "รู้และมั่นใจ" ว่าผมรักเธอ และ เธอก็เป็นคนฉลาดดังนั้นเธอก็ต้องมั่นใจรู้และเลือกได้เช่นกันว่า "ใคร" ดีที่สุดสำหรับเธอ จบนะคะคนดี ประโยคนี้สิ้นสุดลงพร้อมกับรอยยิ้มพึงพอใจในความโอหังของ "ว่าที่" คุณตา และ ใบหน้าตะลึงตึงตึงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของ "ว่าที่" พ่อตา ที่หวาดเสียวแทน "ว่าที่" เขยขวัญ
แต่ขากลับไปด้วยความกล้า ความพยายาม และ ความจริงใจ
เธอเก็บหัวใจที่หล่นหายกลับคืนเรือน
และเกี่ยวหัวใจใครอีกคนลัดฟ้าติดตัวไปด้วยอีกหนึ่ง
การเดินทางบางครั้งอาจเริ่มต้นด้วยความหวาดหวั่นและอ่อนไหว หากนาราก็พิสูจน์แล้วว่า ท่ามกลางป่าดงพงพฤกษ์แห่งเมืองเหนือ ท่ามกลางป่าไม้เรือกไร่ ด้วยความพยายาม จิตตั้งมั่น และ ความจริงใจ หัวใจดวงหนึ่งที่เคยร้างลาห่างหายได้กลับคืนมาอยู่ในที่ของมัน หัวใจอีกดวงมาเติมเต็มอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตที่ขาดหาย ไอละมุนของพ่อผู้ที่เป็นครอบครัว ของผู้ชายเคราหมีที่ทั้งเถื่อนทั้งอุ่นในคราวเดียวกัน หัวใจสองดวงรวมเป็นหนึ่งความรัก ที่คอยติดตามนาราไปไม่ว่าเธอจะอยู่แห่งหนใดในโลกใบนี้
จะรักเธอไม่มีวันจาง ไปจากใจ
ก็เพราะเธอคือลมหายใจ เธอคือทุกสิ่ง
จะให้ทิ้งอะไรก็ยอมทุกอย่าง
จากนี้ ใจฉันจะมีแต่เธอ