ก่อนอื่นต้องขอสวัสดี สวัสดี สวัสดี วันนี้เรามาพบกัน555ชาวพันทิปทุกๆท่าน
เราเป็นชะนีแท้ตัวเล็กๆ ที่เคยได้อ่านรีวิวของใครหลายๆท่านเลยอยากทำบ้าง
เนื่องในช่วงนี้ที่ว่าเป็นฤดูแห่งการสอบ สอบ สอบ สอบ และก็สอบบบบบบบบบ โอ้ยยยยย ไม่ไหวแล้วโว้ย!!
“สอบเสร็จไปเที่ยวกันงง”
“เห้ย เอาดิว่ะ แต่จะไปใหน”
“ขอไปแบบหนาวๆ ”
.
.
.ผ่านไปสามวัน
“รู้และไปภูสอยดาวกัน กุมีชื่อทริปด้วย เธอจะรักใครก็ได้แต่อย่ารักเขา ง่อวววว”
วันนี้แหละค่ะเราจะพาทุกคนไปตะลุยภูสอยดาวไปกับ3ชะนี
ก่อนอื่นเพื่อนร่วมทริปของเรามีด้วยกัน 5 คน แปปๆเหลือ4คน อีกสองวันจะเดินทางอ้าวววว เหลือ3 (เราคิดว่าหลายๆคนอาจจะประสบปัญหานี้)
คล้วยยยยยสามก็สาม เอาว่ะ!!
บอกเลยว่าทริปนี้ของบน้อยๆ เพราะเราเป็นพวกเบี้ยน้อยหอยใหญ่เอ้ยยยยย หอยน้อย555 ชะนีทั้งสามจะตื่นเต้นกับการจัดกระเป๋าของทริปนี้มากค่ะ วิ่งแจ๋นหาเต้นท์ ถุงนอน สเวตเตอร์ บลาๆๆ ตั้งงบไว้แค่2500 หมดไปกับซื้อของ แสนสอง 5555
เริ่มกระบวนการจัดกระเป๋านี้ก็สำคัญ นี้ก็ต้องใช้ เอ้อนั้นเอาไปด้วย เดี๋ยวววววว!! สายรุ้งวันปีใหม่นี้มันจำเป็นขนาดใหนกันเชียวถึงต้องเอาไปด้วย5555 เอานี้ใส่ เอานู้นออก รวมแล้วกระเป๋าของเรา 6 กก. หน้านี้ซีดเลยค่ะ
ทริปนี้ของเราเริ่มตั้งแต่วัน11-14 ธันวาคม 2558
วันแรก
....นัดเจอกับเพื่อนร่วมทริปที่อนุสาวรีย์เพื่อที่จะเดินทางไปนครสววรค์ก่อน คือตั้งใจจะไปนอนบ้านเพื่อนก่อนคืนนึงแล้วจะเริ่มเดินทางจริงๆวันที่12
วันที่สองงงง
...ตีสามมมมมม แม่จ้าวววววว พ่อเพื่อนไปส่งเราที่ บขสพิษณุโลก(เก่า)พยายามไปให้ทันรถรอบตี5 เพื่อที่จะต่อรถไปชาติตระการ แต่แล้วววววฝันนั้นก็สลายไปในพริบตา เห้ยเรามาไม่ทันรอบตี5 โอ้วววววพระสงค์ ลุ้นเลยค่ะว่าจะไปทันรถสองแถวที่ชาติตระการรึป่าว (แต่ถ้ามาจากกทม ก็นั่งรถทัวร์มาลงที่พิษณุโลกเลย)......จนมีพี่คนนึงเดินเข้ามา มาถามว่าจะไปภูสอยดาวใช่มั้ย? ไปมั้ย? พอดีมีน้าคนขับรถจะรับลูกค้าที่บนภูพอดี (นึกในใจ ไม่หรอกย่ะ ดูมาจากหลายรีวิวถ้าไปส่งแบบนี้อ่ะแพงแน่ๆ)เลยลองถามไปดูว่าจะคิดเท่าไหร และพี่เค้าบอกว่าคนละ300 เราก็คิดว่าจะรอรถรอบหกโมง แต่มาตีราคาดูแล้วว่า300ก็ไม่แพงราคาก็น่าจะประมาณเดียวกัน และไม่เสี่ยงต่อการไปรอรถสองแถวที่ตลาดป่าแดง ที่ชาติตระการ (รถสองแถวจะมีวันละ1-2เที่ยวเท่านั้น) งั้นก็เริ่มเลยค่ะ ไปก็ไป
โฉมหน้าของชะนีทริปนี้น่ะค่ะ
.ระยะเวลาไปตลาดป่าแดงก็ไม่นานมากแต่เส้นทางนี้ถือว่าสุดยอดมาก แต่น้าคนขับรถถือว่าชำนาญมากๆ
ทำให้อิชะนีนางนึงถึงกับอ้วกแตกกกกก สลบคอพับไปเลยทีเดียว ใช้เวลาไม่นานมากก็ถึงตลาดน้าคนขับบอกจะซื้ออาหารพวกของสดหรือว่าอะไรก็ซื้อไปซะที่นี้เลย จะได้เอาไปทำอะไรกินกันบนภู(แต่เราเตรียมมาเรียบร้อยตั้งแต่ที่บ้านล่ะค่ะ) และเราก็เดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวกันเลยยยย ระหว่างทางขอบอกว่าสวยมากกกกก เราตกหลุมรักในความเขียนของที่นี้มาก
ระยะทางก็นานพอสมควรกว่าจะถึง หลับได้หลายตื่นเลยแหละค่ะ
สุดท้ายยยยยเราก็มาถึงแล้วววววว
ค่าเข้าอุทยานคนละ 40บาท หลังจากนั้นเราก็ทำการลงทะเบียนการขึ้นลานสน เย้!!
พี่ๆเจ้าหน้าที่ก็ถามว่าจะเช่าอะไรบ้าง พักกี่คืน จ้างลูกหาบรึป่าว เราก็จ้างค่ะแต่ให้ถือแค่เต้นท์กับอาหาร(ที่อุทยานก็มีเต้นท์ให้เช่าน่ะค่ะ) ลูกหาบกิโลละ30บาท ของเราแค่6 กิโล ก่อนขึ้นลานสนเราควรจะต้องเตรียมน้ำคนละ1.5ลิตร และข้าว1 กล่องเอาไว้กินระหว่างทางเดิน (ทริปนี้มีแต่เดินกับเดินและเดินจ่ะ)
พี่เจ้าหน้าที่ก็ไปส่งที่ทางขึ้นลานสน เริ่มแล้ววววว เราต้องสะพายกระเป๋า 6กิโลของเราเอง ทำซ่าว่าฉันสามารถสะพานมันได้ พี่เจ้าหน้าที่ถึงกับแซว
”เดี่ยวจะรู้สึก” (
ฉันมันชะนีถึกและบึกบึนน่ะจ่ะจะบอกให้)
เจอพี่แก๊งนี้ระหว่างทางเดิน พี่เค้าน่ารักมากๆๆๆๆๆๆ
แต่ระหว่างทางก็มีคนเยอะน่ะค่ะ ทั้งลงทั้งขึ้น
เดินไปก็ว่านานแล้วน่ะเพิ่งจะเจอเนินแรก เนินส่งญาติ พูดกับเพื่อนเลยค่ะ (ฉันส่งแค่นี้พวกไปกันเลย555)มันเหนื่อยมากค่ะคุณ แล้วระหว่างทางก็ได้รับกำลังใจที่ในเอามา
บั่นทอนกำลัง เอ๊ะยังไง “สู้ๆค่ะ อีกเยอะ” “นี้แค่เศษ1ส่วน4ค่ะ” “อีกนิ๊ดดดดดดเดียว” คุณพี่จะเสียงสูงไปใหนค่ะ
5555 ไอเราก็จ้วงเอาจ้วงเอา ทิ้งอิชะนีไว้นางหนึ่งนางเดินไม่ไหวจนต้องใช่ไม้ค้ำล่ะจ้า
พูดไปก็สงสารนาง จนต้องขอช่วยพี่คนอื่นๆ555
“พี่ค่ะๆ ดันก้นมันมาหน่อย” นางนี้ทิ้งท้ายตลอดเลยค่ะ เริ่มงอแงตั้งแต่เนินป่าก่อฉบับย่อย โอ้ยยยยย stronggggg หน่อยค่ะลูกกกก เดี๋ยวข้างหน้าเนินปราบเซียนน่ะยู เดอะ โชว์ มัส โก ออน น่ะค่ะ ห้ามงอแง
**หากผิดพลาดยังไงเรา้องขออภัยด้วย5555** ไว้มาต่อน่ะค่ะ
[CR][SR] เธอจะรักใครก็ได้แต่อย่ารัก/เขา/ ภูสอยดาว
เนื่องในช่วงนี้ที่ว่าเป็นฤดูแห่งการสอบ สอบ สอบ สอบ และก็สอบบบบบบบบบ โอ้ยยยยย ไม่ไหวแล้วโว้ย!!
“สอบเสร็จไปเที่ยวกันงง”
“เห้ย เอาดิว่ะ แต่จะไปใหน”
“ขอไปแบบหนาวๆ ”
.
.
.ผ่านไปสามวัน
“รู้และไปภูสอยดาวกัน กุมีชื่อทริปด้วย เธอจะรักใครก็ได้แต่อย่ารักเขา ง่อวววว”
วันนี้แหละค่ะเราจะพาทุกคนไปตะลุยภูสอยดาวไปกับ3ชะนี
ก่อนอื่นเพื่อนร่วมทริปของเรามีด้วยกัน 5 คน แปปๆเหลือ4คน อีกสองวันจะเดินทางอ้าวววว เหลือ3 (เราคิดว่าหลายๆคนอาจจะประสบปัญหานี้)
คล้วยยยยยสามก็สาม เอาว่ะ!!
บอกเลยว่าทริปนี้ของบน้อยๆ เพราะเราเป็นพวกเบี้ยน้อยหอยใหญ่เอ้ยยยยย หอยน้อย555 ชะนีทั้งสามจะตื่นเต้นกับการจัดกระเป๋าของทริปนี้มากค่ะ วิ่งแจ๋นหาเต้นท์ ถุงนอน สเวตเตอร์ บลาๆๆ ตั้งงบไว้แค่2500 หมดไปกับซื้อของ แสนสอง 5555
เริ่มกระบวนการจัดกระเป๋านี้ก็สำคัญ นี้ก็ต้องใช้ เอ้อนั้นเอาไปด้วย เดี๋ยวววววว!! สายรุ้งวันปีใหม่นี้มันจำเป็นขนาดใหนกันเชียวถึงต้องเอาไปด้วย5555 เอานี้ใส่ เอานู้นออก รวมแล้วกระเป๋าของเรา 6 กก. หน้านี้ซีดเลยค่ะ
ทริปนี้ของเราเริ่มตั้งแต่วัน11-14 ธันวาคม 2558
....นัดเจอกับเพื่อนร่วมทริปที่อนุสาวรีย์เพื่อที่จะเดินทางไปนครสววรค์ก่อน คือตั้งใจจะไปนอนบ้านเพื่อนก่อนคืนนึงแล้วจะเริ่มเดินทางจริงๆวันที่12
...ตีสามมมมมม แม่จ้าวววววว พ่อเพื่อนไปส่งเราที่ บขสพิษณุโลก(เก่า)พยายามไปให้ทันรถรอบตี5 เพื่อที่จะต่อรถไปชาติตระการ แต่แล้วววววฝันนั้นก็สลายไปในพริบตา เห้ยเรามาไม่ทันรอบตี5 โอ้วววววพระสงค์ ลุ้นเลยค่ะว่าจะไปทันรถสองแถวที่ชาติตระการรึป่าว (แต่ถ้ามาจากกทม ก็นั่งรถทัวร์มาลงที่พิษณุโลกเลย)......จนมีพี่คนนึงเดินเข้ามา มาถามว่าจะไปภูสอยดาวใช่มั้ย? ไปมั้ย? พอดีมีน้าคนขับรถจะรับลูกค้าที่บนภูพอดี (นึกในใจ ไม่หรอกย่ะ ดูมาจากหลายรีวิวถ้าไปส่งแบบนี้อ่ะแพงแน่ๆ)เลยลองถามไปดูว่าจะคิดเท่าไหร และพี่เค้าบอกว่าคนละ300 เราก็คิดว่าจะรอรถรอบหกโมง แต่มาตีราคาดูแล้วว่า300ก็ไม่แพงราคาก็น่าจะประมาณเดียวกัน และไม่เสี่ยงต่อการไปรอรถสองแถวที่ตลาดป่าแดง ที่ชาติตระการ (รถสองแถวจะมีวันละ1-2เที่ยวเท่านั้น) งั้นก็เริ่มเลยค่ะ ไปก็ไป
โฉมหน้าของชะนีทริปนี้น่ะค่ะ
.ระยะเวลาไปตลาดป่าแดงก็ไม่นานมากแต่เส้นทางนี้ถือว่าสุดยอดมาก แต่น้าคนขับรถถือว่าชำนาญมากๆ
ทำให้อิชะนีนางนึงถึงกับอ้วกแตกกกกก สลบคอพับไปเลยทีเดียว ใช้เวลาไม่นานมากก็ถึงตลาดน้าคนขับบอกจะซื้ออาหารพวกของสดหรือว่าอะไรก็ซื้อไปซะที่นี้เลย จะได้เอาไปทำอะไรกินกันบนภู(แต่เราเตรียมมาเรียบร้อยตั้งแต่ที่บ้านล่ะค่ะ) และเราก็เดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวกันเลยยยย ระหว่างทางขอบอกว่าสวยมากกกกก เราตกหลุมรักในความเขียนของที่นี้มาก
ระยะทางก็นานพอสมควรกว่าจะถึง หลับได้หลายตื่นเลยแหละค่ะ
สุดท้ายยยยยเราก็มาถึงแล้วววววว
ค่าเข้าอุทยานคนละ 40บาท หลังจากนั้นเราก็ทำการลงทะเบียนการขึ้นลานสน เย้!!
พี่ๆเจ้าหน้าที่ก็ถามว่าจะเช่าอะไรบ้าง พักกี่คืน จ้างลูกหาบรึป่าว เราก็จ้างค่ะแต่ให้ถือแค่เต้นท์กับอาหาร(ที่อุทยานก็มีเต้นท์ให้เช่าน่ะค่ะ) ลูกหาบกิโลละ30บาท ของเราแค่6 กิโล ก่อนขึ้นลานสนเราควรจะต้องเตรียมน้ำคนละ1.5ลิตร และข้าว1 กล่องเอาไว้กินระหว่างทางเดิน (ทริปนี้มีแต่เดินกับเดินและเดินจ่ะ)
พี่เจ้าหน้าที่ก็ไปส่งที่ทางขึ้นลานสน เริ่มแล้ววววว เราต้องสะพายกระเป๋า 6กิโลของเราเอง ทำซ่าว่าฉันสามารถสะพานมันได้ พี่เจ้าหน้าที่ถึงกับแซว ”เดี่ยวจะรู้สึก” (
ฉันมันชะนีถึกและบึกบึนน่ะจ่ะจะบอกให้)เจอพี่แก๊งนี้ระหว่างทางเดิน พี่เค้าน่ารักมากๆๆๆๆๆๆ
แต่ระหว่างทางก็มีคนเยอะน่ะค่ะ ทั้งลงทั้งขึ้น
เดินไปก็ว่านานแล้วน่ะเพิ่งจะเจอเนินแรก เนินส่งญาติ พูดกับเพื่อนเลยค่ะ (ฉันส่งแค่นี้พวกไปกันเลย555)มันเหนื่อยมากค่ะคุณ แล้วระหว่างทางก็ได้รับกำลังใจที่ในเอามา
บั่นทอนกำลังเอ๊ะยังไง “สู้ๆค่ะ อีกเยอะ” “นี้แค่เศษ1ส่วน4ค่ะ” “อีกนิ๊ดดดดดดเดียว” คุณพี่จะเสียงสูงไปใหนค่ะ5555 ไอเราก็จ้วงเอาจ้วงเอา ทิ้งอิชะนีไว้นางหนึ่งนางเดินไม่ไหวจนต้องใช่ไม้ค้ำล่ะจ้า
พูดไปก็สงสารนาง จนต้องขอช่วยพี่คนอื่นๆ555
“พี่ค่ะๆ ดันก้นมันมาหน่อย”นางนี้ทิ้งท้ายตลอดเลยค่ะ เริ่มงอแงตั้งแต่เนินป่าก่อฉบับย่อย โอ้ยยยยย stronggggg หน่อยค่ะลูกกกก เดี๋ยวข้างหน้าเนินปราบเซียนน่ะยู เดอะ โชว์ มัส โก ออน น่ะค่ะ ห้ามงอแง**หากผิดพลาดยังไงเรา้องขออภัยด้วย5555** ไว้มาต่อน่ะค่ะ
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น