คุณคนขับยาริสสีแดงคันนั้น ก่อนตัดสินใจยอมความ/ไม่เอาเรื่องคุณได้ไปตรวจร่างกายโดยละเอียดหรือยัง?
ไม่มีส่วนได้เสียหรือรู้จักกับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ไม่ชอบdramas และพยายามหลีกเลี่ยง at all costs
ตั้งกระทู้นี้ในฐานะผู้ได้รับบาดเจ็บ(อย่างหนัก)จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่จนถึง ณ วันนี้เป็นเวลาเกือบ 1 ปีแล้วก็ยังไม่สามารถทำงานได้
และเป็นไปได้อย่างมากที่จะไม่สามารถทำงานได้ไปตลอดชีวิต
ท้าวความ
ขับรถกลับบ้านหลังเลิกงาน
จอดนิ่งสนิทเพราะสภาพการจราจร
โดนพุ่งชนอย่างเร็วและแรงจากด้านหลัง
พยายามคิดบวก อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่มีใครอยากให้เกิด เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ดำเนินการไปตามกฏหมายบ้านเมือง
เพราะไม่มีการบาดเจ็บรุนแรง(ภายนอก) ทำให้ปฎิเสธที่จะไปโรงพยาบาลทันทีแต่เลือกที่จะกลับบ้าน
อยากกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเป็นอย่างที่เป็น
สามวันหลังจากเกิดเหตุ ตอนเช้าไม่สามารถลุกจากเตียงได้ ปวดร้าวจนชาไปทั้งร่าง ตกใจมากโทรฯเรียกรถฉุกเฉินมารับตัว
คุณหมอสั่ง Direct admit และทำ MRI ทันที
ผลที่ออกมามีอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาททั้งหมด 3 แห่ง C1-C2, T7-T8 และ L4-L5
ปรึกษาแพทย์ Neuro ศัลย์ฯ3 ท่าน ทุกท่านบอกเหมือนกันไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ ต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิต
การผ่าตัดไม่ใช่ optionเพราะส่วนที่เป็นหนักที่สุด ก่อให้เกิดความเจ็บปวดที่สุดอยู่ในบริเวณที่มีเส้นประสาทเยอะ
เป็นการเสี่ยงเกินไปสำหรับการผ่าตัด
ก่อนการเกิดอุบัติเหตุสองเดือนได้ทำการตรวจ Annual Check แบบละเอียดทั้งร่างกาย
ผลออกมาทุกอย่างปกติ สมบูรณ์ แข็งแรง ออกกำลังกายประจำและกำลังเทรนน์เพื่อการแข่งมาราธอน
ณ วันนี้เกือบ 1 ปีแล้วที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดที่เป็นผลมาจากอาหารหมอนรองกระดูกฯ
ปวดโพรงประสาทเป็นอาการปวดที่หาคำบรรยายไม่ได้จริงๆ
หน้าที่การงานที่กำลังpeek ด้วยรายได้6 หลักและเพิ่มขึ้น25-30% ทุกปี กำลังหมดไปเพราะไม่สามารถทำงานได้
และที่สำคัญไม่ทราบอีกนานเท่าไหร่ถึงจะกลับไปทำได้ จากใจจริงๆ ไม่ถึงขนาดกลับไปทำงานได้หรอก แค่ได้ร่างกาย
ที่สมบูรณ์แข็งแรงสักครึ่งหนึ่งก่อนที่จะตกเป็นเหยื่อ......แค่นี้ก็คงเป็นบุญมากแล้ว
รถที่ใช้เป็น Mid size SUVขนาดใหญ่กว่ายาริสเกือบ1 เท่าตัว แรงกระแทกยังมีผลต่อร่างกายได้มากขนาดนี้
เพื่อผลประโยชน์ เพื่อเป็นการปกป้องตัวคุณเอง การตรวจร่างกายโดยละเอียดจำเป็นมากที่สุด
With all due respects
ฝากถึงคนขับรถยาริสจากกรณีที่กำลังเป็นข่าวในขณะนี้
ไม่มีส่วนได้เสียหรือรู้จักกับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ไม่ชอบdramas และพยายามหลีกเลี่ยง at all costs
ตั้งกระทู้นี้ในฐานะผู้ได้รับบาดเจ็บ(อย่างหนัก)จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่จนถึง ณ วันนี้เป็นเวลาเกือบ 1 ปีแล้วก็ยังไม่สามารถทำงานได้
และเป็นไปได้อย่างมากที่จะไม่สามารถทำงานได้ไปตลอดชีวิต
ท้าวความ
ขับรถกลับบ้านหลังเลิกงาน
จอดนิ่งสนิทเพราะสภาพการจราจร
โดนพุ่งชนอย่างเร็วและแรงจากด้านหลัง
พยายามคิดบวก อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่มีใครอยากให้เกิด เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ดำเนินการไปตามกฏหมายบ้านเมือง
เพราะไม่มีการบาดเจ็บรุนแรง(ภายนอก) ทำให้ปฎิเสธที่จะไปโรงพยาบาลทันทีแต่เลือกที่จะกลับบ้าน
อยากกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเป็นอย่างที่เป็น
สามวันหลังจากเกิดเหตุ ตอนเช้าไม่สามารถลุกจากเตียงได้ ปวดร้าวจนชาไปทั้งร่าง ตกใจมากโทรฯเรียกรถฉุกเฉินมารับตัว
คุณหมอสั่ง Direct admit และทำ MRI ทันที
ผลที่ออกมามีอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาททั้งหมด 3 แห่ง C1-C2, T7-T8 และ L4-L5
ปรึกษาแพทย์ Neuro ศัลย์ฯ3 ท่าน ทุกท่านบอกเหมือนกันไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ ต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิต
การผ่าตัดไม่ใช่ optionเพราะส่วนที่เป็นหนักที่สุด ก่อให้เกิดความเจ็บปวดที่สุดอยู่ในบริเวณที่มีเส้นประสาทเยอะ
เป็นการเสี่ยงเกินไปสำหรับการผ่าตัด
ก่อนการเกิดอุบัติเหตุสองเดือนได้ทำการตรวจ Annual Check แบบละเอียดทั้งร่างกาย
ผลออกมาทุกอย่างปกติ สมบูรณ์ แข็งแรง ออกกำลังกายประจำและกำลังเทรนน์เพื่อการแข่งมาราธอน
ณ วันนี้เกือบ 1 ปีแล้วที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดที่เป็นผลมาจากอาหารหมอนรองกระดูกฯ
ปวดโพรงประสาทเป็นอาการปวดที่หาคำบรรยายไม่ได้จริงๆ
หน้าที่การงานที่กำลังpeek ด้วยรายได้6 หลักและเพิ่มขึ้น25-30% ทุกปี กำลังหมดไปเพราะไม่สามารถทำงานได้
และที่สำคัญไม่ทราบอีกนานเท่าไหร่ถึงจะกลับไปทำได้ จากใจจริงๆ ไม่ถึงขนาดกลับไปทำงานได้หรอก แค่ได้ร่างกาย
ที่สมบูรณ์แข็งแรงสักครึ่งหนึ่งก่อนที่จะตกเป็นเหยื่อ......แค่นี้ก็คงเป็นบุญมากแล้ว
รถที่ใช้เป็น Mid size SUVขนาดใหญ่กว่ายาริสเกือบ1 เท่าตัว แรงกระแทกยังมีผลต่อร่างกายได้มากขนาดนี้
เพื่อผลประโยชน์ เพื่อเป็นการปกป้องตัวคุณเอง การตรวจร่างกายโดยละเอียดจำเป็นมากที่สุด
With all due respects