ผู้หญิงกับของหวานเป็นของคู่กัน....
เชื่อว่าคุณผู้หญิงหลายๆคนคงเห็นด้วยกับประโยคนี้ และผู้ชายหลายคนก็คงแอบพยักหน้า หงึกๆ เห็นด้วยอยู่ในใจ แต่อาจไม่พูดออกมา
เราก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ชอบของหวานมาก ถึงขั้นยอม อดข้าวเพื่อกินขนมเลยทีเดียว
ไม่นานมานี้ได้ข่าวว่ามีร้านใหม่ที่มีเมนู Afternoon Tea มาเปิดอยู่แถวๆที่ทำงานพอดี ชื่อว่า The House on Sathorn แค่ของหวานเฉยๆ ปกติก็ชอบอยู่แล้ว แต่นี่มาแบบหลายๆอย่าง วางเป็นชั้นๆ ตั้ง 3 ชั้น !! แค่เราเปิดไปดูภาพใน Facebook ของทางร้านเราก็หัวใจเต้นตึกตัก ตื่นเต้น อยากจะไปกินให้ได้
ว่าแล้วก็แคปภาพของเจ้า Afternoon Tea Set ไปเสนอกับคุณสามี ให้พาไป ก่อนไปต้องโทรไปจองก่อน เพราะเขาจะมีช่วงเวลาจำกัด และลูกค้าค่อนข้างเยอะ โดยช่วงเวลาที่ทางร้านจะเสิร์ฟเจ้า Afternoon Tea นี้ คือตั้งแต่ 14:30 - 17:30 เราโทรไปจองได้เป็นรอบบ่าย 3 ครึ่ง มา จริงๆกะไปรอบที่เร็วกว่านี้ แต่ลูกค้าจองเต็มหมดแล้ว
อีกสาเหตหนึ่งที่ทำให้เราอยากมาลองร้านนี้คือ บรรยากาศและการตกแจ่ง ที่เป็นบ้านทรงไทยสีเหลือง และมีสวนอยู่ตรงกลาง สวนนี้คือส่วนที่เปิดให้นั่งรัประทาน Afternoon Tea นั่นเอง
เมื่อมาถึงร้าน ก็บอกชื่อ ทางพนักงานก็จะเดินนำเราไปที่โต๊ะ Afternoon Tea Set ของที่นี่ หนึ่ง set จะสำหรับทานสองคน ทางร้าน จึงให้เราเลือกเครื่องดื่มได้ 2 อย่าง จะเป็นชา หรือกาแฟก็ได้ เราเลือกเป็นกาแฟลาเต้เย็น ส่วนแฟนเราเลือกชา Moroccan
อย่างแรกที่ทางร้านนำมาเสิร์ฟคือไอติมมะม่วง รสชาติหวาน กินแล้วสดชื่นดี
ไอติมมะม่วง
ตามมาด้วย set สโคน พร้อมแยม 3 แบบ และ Clotted Cream หนึ่งถ้วย แยมสามอย่างมี แยมมะพร้าว แยมมะม่วง และแยมเบอร์รี่ ปกติเราเป็นคนไม่ชอบกินสโคนสักเท่าไหร่ แต่ของที่นี่เป็นแบบเนื้อแน่นๆ หนึบๆ อร่อยดี
สโคน
ต่อด้วยของคาวอีก 3 อย่าง ต้องขอบอกว่าของคาวอร่อยเกินคาด มีครัวซองเห็ดผัดกับซอสทรัฟเฟิล แซนวิชไก่สะเต๊ะ และ บรูเช็ตต้าแซลมอนรมควันเรากินเกลี้ยงภายในพริบตา
และแล้วตัวเด่นของงานก็ออกมา Afternoon Tea Set ของเรา วันนี้คงได้ฟิน ขึ้นสวรรค์ชั้น 3 แน่นอน กับของหวาน 3 ชั้นนี้
ถ่ายรูปกันไป ทั้งมุมต่ำ มุมสูง มุมซ้าย มุมขวา ยิ่งกว่าเจอดารา ทั้งเราทั้งแฟนเรา พนักงานเสิร์ฟคงคิดในใจว่าเมื่อไหรมันจะกิน
แชะรูปไป กลืนน้ำลายไป
มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละชั้นมีอะไรบ้าง ....
เริ่มจากชั้นล่างสุดก่อนละกัน
จากชิ้นด้านหน้าสุด วนตามเข็มนาฬิกา
ชิ้นแรกเป็น ทาร์ตช็อดโกแลตคาราเมล รสชาติเข้มข้นมาก หวาน แต่ก็ไม่หวานจนเกินไป อร่อยดี
ชิ้นที่ 2 เป็นเอแคลสไตล์ฝรั่งเศส
ชิ้นที่ 3 เป็นทาร์ตไข่ หอมหวานกำลังดี
ชิ้นที่ 4 เป็นมาการองราสเบอร์รี่
ชิ้นที่ 5 เค้กส้ม (Financier) เพิ่มความเก๋ไก๋ด้วยหลอดพลาสติกที่ปักไว้บนเค้ก ข้างในเป็นซอสส้ม เวลาจะกินก็ดึงออกมา แล้วบีบลงไปบนเนื้อเค้ก
ชิ้นที่ 6 อันโปรดของเราสำหรับชั้นนี้ เป็นชีสงาดำ อร่อยแบบเพื่อสุขภาพ (หรอออ อันนี้แอบหลอกตัวเง เพราะถึงจะใส่งาดำ แต่รสชาติหลักก็ยังเป็นชีสเค้กอยู่ดี
)
ชิ้นสุดท้ายคืออันที่เป็นถ้วยตรงกลาง อันนี้เนื้อจะคล้ายๆ Panna cotta เป็นรสใบเตย กับ ว่านหางจรเข้ อร่อย แบบแปลกๆดี
เลื่อนขึ้นมาดูชั้นที่สอง กันบ้าง
เริ่มจากชิ้นที่เป็นถ้วย วนตามเข็มนาฬิกา
ชิ้นแรกเป็น Cream Brûlée กล้วย ชิ้นนี้เราให้เป็นอันดับหนึ่งของชั้นนี้ (ความเห็นส่วนตัวนะ เนื่องจากเราเป็นคนชอบกินกล้วยที่ใส่ในของหวาน) เราว่ามันแปลก และอร่อยเข้ากันดี แต่กลิ่นกล้วยแรงมาก ใครไม่ชอบกล้วยอาจจะไม่ปลื้มเท่าไหร่
ชิ้นที่ 2 เป็นมัฟฟิ่นเนยถั่ว
ชิ้นที่ 3 เป็นทาร์ตไข่ เหมือนกับชั้นแรก
ส่วนชิ้นสุดท้ายเป็น พีชทาร์ต ชิ้นบางๆ รสหวานอมเปรี้ยว อร่อยใช้ได้ แต่เราว่าชิ้นบางไปนิดนึง
มาถึงสวรรค์ชั้นสุดท้าย ชั้น 3 (คนกินก็จะพุง 3 ชั้นและ
)
ชั้นนี้มีทั้งหมด 4 ชิ้น โดย 3 ชิ้นจะเหมือนกับชั้นแรก คือ เอแคล มาการอง และ เค้กส้ม (เข้าใจว่าทางร้านให้มาอย่างละสองชิ้น จะได้ไม่ต้องแย่งกัน) ส่วนชิ้นที่อยู่ด้านหน้าสุดคือ มูส Chocolate อันนี้ก็อร่อยอีกแล้ว เป็นแบบ Dark Chocolate ขมๆ เข้มข้นดี
ค่อยๆละเลียดกินไปเรื่อยๆ กินทั้งขนม ทั้งบรรยากาศ
กินเสร็จแล้ว ก็ต้องนั่งย่อย อยู่ตรงนั้น (คงต้องย่อยกันนานเลย) หรือใครจะไปเดินเล่นถ่ายรูปก็ได้ มุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะมาก
ตึก Mahanakorn
ด้านหน้าร้าน
ส่วนค่าเสียหาย สำหรับการขึ้นสวรรค์ชั้น 3 ของเราในครั้งนี้ อยู่ที่ 1,150 บาท ต่อสองคน
( ราคานี้ยังไม่รวม VAT และ Service chart )
เเล้วเจอกกันใหม่นะคะ
ใครที่กำลังหาคาเฟ่ชิวๆ
สามารถเข้าไปหาเพิ่มเติมได้ที่นี่นะคะ
http://www.2roamwithlove.com/
เเล้วอย่าลืมมา like ในเฟสกันเยอะๆนะ
https://www.facebook.com/2roamwithlove/
ข้อมูลร้าน
เวลาทำการ
เปิดทุกวัน เวลา 14:30 - 17:30
โทร 02-344-4000
Website:
http://www.thehouseonsathorn.com/
Facebook:
https://www.facebook.com/thehouseonsathorn/
แผนที่:
(สามารถเดินจาก BTS ช่องนนทรีได้)
แผนที่ด้านล่างผิดนะคะเอาออกไม่เป็น
[CR] ความฟิน 3 ชั้น !! กับ Afternoon Tea @ The House on Sathorn
ผู้หญิงกับของหวานเป็นของคู่กัน....
เชื่อว่าคุณผู้หญิงหลายๆคนคงเห็นด้วยกับประโยคนี้ และผู้ชายหลายคนก็คงแอบพยักหน้า หงึกๆ เห็นด้วยอยู่ในใจ แต่อาจไม่พูดออกมา
เราก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ชอบของหวานมาก ถึงขั้นยอม อดข้าวเพื่อกินขนมเลยทีเดียว
ไม่นานมานี้ได้ข่าวว่ามีร้านใหม่ที่มีเมนู Afternoon Tea มาเปิดอยู่แถวๆที่ทำงานพอดี ชื่อว่า The House on Sathorn แค่ของหวานเฉยๆ ปกติก็ชอบอยู่แล้ว แต่นี่มาแบบหลายๆอย่าง วางเป็นชั้นๆ ตั้ง 3 ชั้น !! แค่เราเปิดไปดูภาพใน Facebook ของทางร้านเราก็หัวใจเต้นตึกตัก ตื่นเต้น อยากจะไปกินให้ได้
ว่าแล้วก็แคปภาพของเจ้า Afternoon Tea Set ไปเสนอกับคุณสามี ให้พาไป ก่อนไปต้องโทรไปจองก่อน เพราะเขาจะมีช่วงเวลาจำกัด และลูกค้าค่อนข้างเยอะ โดยช่วงเวลาที่ทางร้านจะเสิร์ฟเจ้า Afternoon Tea นี้ คือตั้งแต่ 14:30 - 17:30 เราโทรไปจองได้เป็นรอบบ่าย 3 ครึ่ง มา จริงๆกะไปรอบที่เร็วกว่านี้ แต่ลูกค้าจองเต็มหมดแล้ว
อีกสาเหตหนึ่งที่ทำให้เราอยากมาลองร้านนี้คือ บรรยากาศและการตกแจ่ง ที่เป็นบ้านทรงไทยสีเหลือง และมีสวนอยู่ตรงกลาง สวนนี้คือส่วนที่เปิดให้นั่งรัประทาน Afternoon Tea นั่นเอง
เมื่อมาถึงร้าน ก็บอกชื่อ ทางพนักงานก็จะเดินนำเราไปที่โต๊ะ Afternoon Tea Set ของที่นี่ หนึ่ง set จะสำหรับทานสองคน ทางร้าน จึงให้เราเลือกเครื่องดื่มได้ 2 อย่าง จะเป็นชา หรือกาแฟก็ได้ เราเลือกเป็นกาแฟลาเต้เย็น ส่วนแฟนเราเลือกชา Moroccan
อย่างแรกที่ทางร้านนำมาเสิร์ฟคือไอติมมะม่วง รสชาติหวาน กินแล้วสดชื่นดี
ไอติมมะม่วง
ตามมาด้วย set สโคน พร้อมแยม 3 แบบ และ Clotted Cream หนึ่งถ้วย แยมสามอย่างมี แยมมะพร้าว แยมมะม่วง และแยมเบอร์รี่ ปกติเราเป็นคนไม่ชอบกินสโคนสักเท่าไหร่ แต่ของที่นี่เป็นแบบเนื้อแน่นๆ หนึบๆ อร่อยดี
สโคน
ต่อด้วยของคาวอีก 3 อย่าง ต้องขอบอกว่าของคาวอร่อยเกินคาด มีครัวซองเห็ดผัดกับซอสทรัฟเฟิล แซนวิชไก่สะเต๊ะ และ บรูเช็ตต้าแซลมอนรมควันเรากินเกลี้ยงภายในพริบตา
และแล้วตัวเด่นของงานก็ออกมา Afternoon Tea Set ของเรา วันนี้คงได้ฟิน ขึ้นสวรรค์ชั้น 3 แน่นอน กับของหวาน 3 ชั้นนี้
ถ่ายรูปกันไป ทั้งมุมต่ำ มุมสูง มุมซ้าย มุมขวา ยิ่งกว่าเจอดารา ทั้งเราทั้งแฟนเรา พนักงานเสิร์ฟคงคิดในใจว่าเมื่อไหรมันจะกิน
แชะรูปไป กลืนน้ำลายไป
มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละชั้นมีอะไรบ้าง ....
เริ่มจากชั้นล่างสุดก่อนละกัน
จากชิ้นด้านหน้าสุด วนตามเข็มนาฬิกา
ชิ้นแรกเป็น ทาร์ตช็อดโกแลตคาราเมล รสชาติเข้มข้นมาก หวาน แต่ก็ไม่หวานจนเกินไป อร่อยดี
ชิ้นที่ 2 เป็นเอแคลสไตล์ฝรั่งเศส
ชิ้นที่ 3 เป็นทาร์ตไข่ หอมหวานกำลังดี
ชิ้นที่ 4 เป็นมาการองราสเบอร์รี่
ชิ้นที่ 5 เค้กส้ม (Financier) เพิ่มความเก๋ไก๋ด้วยหลอดพลาสติกที่ปักไว้บนเค้ก ข้างในเป็นซอสส้ม เวลาจะกินก็ดึงออกมา แล้วบีบลงไปบนเนื้อเค้ก
ชิ้นที่ 6 อันโปรดของเราสำหรับชั้นนี้ เป็นชีสงาดำ อร่อยแบบเพื่อสุขภาพ (หรอออ อันนี้แอบหลอกตัวเง เพราะถึงจะใส่งาดำ แต่รสชาติหลักก็ยังเป็นชีสเค้กอยู่ดี )
ชิ้นสุดท้ายคืออันที่เป็นถ้วยตรงกลาง อันนี้เนื้อจะคล้ายๆ Panna cotta เป็นรสใบเตย กับ ว่านหางจรเข้ อร่อย แบบแปลกๆดี
เลื่อนขึ้นมาดูชั้นที่สอง กันบ้าง
เริ่มจากชิ้นที่เป็นถ้วย วนตามเข็มนาฬิกา
ชิ้นแรกเป็น Cream Brûlée กล้วย ชิ้นนี้เราให้เป็นอันดับหนึ่งของชั้นนี้ (ความเห็นส่วนตัวนะ เนื่องจากเราเป็นคนชอบกินกล้วยที่ใส่ในของหวาน) เราว่ามันแปลก และอร่อยเข้ากันดี แต่กลิ่นกล้วยแรงมาก ใครไม่ชอบกล้วยอาจจะไม่ปลื้มเท่าไหร่
ชิ้นที่ 2 เป็นมัฟฟิ่นเนยถั่ว
ชิ้นที่ 3 เป็นทาร์ตไข่ เหมือนกับชั้นแรก
ส่วนชิ้นสุดท้ายเป็น พีชทาร์ต ชิ้นบางๆ รสหวานอมเปรี้ยว อร่อยใช้ได้ แต่เราว่าชิ้นบางไปนิดนึง
มาถึงสวรรค์ชั้นสุดท้าย ชั้น 3 (คนกินก็จะพุง 3 ชั้นและ )
ชั้นนี้มีทั้งหมด 4 ชิ้น โดย 3 ชิ้นจะเหมือนกับชั้นแรก คือ เอแคล มาการอง และ เค้กส้ม (เข้าใจว่าทางร้านให้มาอย่างละสองชิ้น จะได้ไม่ต้องแย่งกัน) ส่วนชิ้นที่อยู่ด้านหน้าสุดคือ มูส Chocolate อันนี้ก็อร่อยอีกแล้ว เป็นแบบ Dark Chocolate ขมๆ เข้มข้นดี
ค่อยๆละเลียดกินไปเรื่อยๆ กินทั้งขนม ทั้งบรรยากาศ
กินเสร็จแล้ว ก็ต้องนั่งย่อย อยู่ตรงนั้น (คงต้องย่อยกันนานเลย) หรือใครจะไปเดินเล่นถ่ายรูปก็ได้ มุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะมาก
ส่วนค่าเสียหาย สำหรับการขึ้นสวรรค์ชั้น 3 ของเราในครั้งนี้ อยู่ที่ 1,150 บาท ต่อสองคน ( ราคานี้ยังไม่รวม VAT และ Service chart )
เเล้วเจอกกันใหม่นะคะ
ใครที่กำลังหาคาเฟ่ชิวๆ
สามารถเข้าไปหาเพิ่มเติมได้ที่นี่นะคะ
http://www.2roamwithlove.com/
เเล้วอย่าลืมมา like ในเฟสกันเยอะๆนะ
https://www.facebook.com/2roamwithlove/
ข้อมูลร้าน
เวลาทำการ
เปิดทุกวัน เวลา 14:30 - 17:30
โทร 02-344-4000
Website: http://www.thehouseonsathorn.com/
Facebook: https://www.facebook.com/thehouseonsathorn/
แผนที่:
(สามารถเดินจาก BTS ช่องนนทรีได้)
แผนที่ด้านล่างผิดนะคะเอาออกไม่เป็น
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น