จากเพื่อนที่เคยสนิทกันมากที่สุด จนมาถึงจุดที่ต้องหยุดชะงักความสัมพันธ์ระหว่างเรา 2 คนลงไปอย่างไม่มีวันหวนคืน!

เราสนิทกันมาก มากจนจะหาคำมาเปรียบเปรยได้ มันยิ่งกว่าคำว่า "เพื่อนสนิท" เรารู้นิสัยใจคอกันแค่มองตากันก็อ่านความรู้สึกนึกคิดจากข้างในใจของเขาออกมาเป็นเรื่องราวได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเอ่ยปากถาม แต่ไฉนความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนชายของเรา 2 คน ต้องมาถึงวันที่เเตกหักออกเป็นสองฝ่าย เช่นเดียวกับเรือที่เเล่นอยู่บนผิวน้ำ เมื่อกลางลำของเรือมันเเตกหักออกจากกัน เรือก็คงต้องจมลงอยู่ในท้วงท้องของทะเล ยากที่จะดึงซากของเรือขึ้นมาได้อีก เฉกเช่นเดียวกับการที่จะดึงความสัมพันธ์ของเรา 2 คนขึ้นมาดังเดิม ซึ่งยากที่จะทำได้อีก คำว่าเพื่อนสำหรับผมมันมีความหมาย มันยิ่งใหญ่ มันมากกว่าคำว่า "เพื่อนทั่วๆไป" ซึ่งผมนิยามของคำว่าเพื่อนสนิทด้วยตัวของผมเองไว้ว่า "บุคคลที่สนิทสนมคุ้นเคย ที่จะอยู่เป็นเพื่อนของกันเเละกันตลอดไป" แต่หาได้ไม่ เพื่อนที่สนิทมากที่สุด เพื่อนที่เราทุ่มเทกับเขามากที่สุด เพื่อนที่เราจริงใจกับเขามากที่สุด และเพื่อนที่เคยเอ่ยปากบอกกันและออกว่ามา "คือเพื่อนสนิทของกู" ที่ฟังดูมันซาบซึ้งเข้าไปสู่เส้นประสาทของหัวใจทุกๆห้อง ก็กลายเป็นเพื่อนที่เกลียดมากที่สุดได้เหมือนกัน ดั่งสุภาษิตที่ว่า "ยิ่งรักมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเกลียดมากเท่านั้น" บัดนี้คำพูดเหล่านั้นก็กลายเป็นเเค่เพียงลมปาก ลมลมเเล้งเเล้ง ที่ดูไม่มีความหมาย ดูไม่มีน้ำหนัก และดูไม่มีคุณค่าอีกต่อไป เมื่อความสัมพันธ์ของความเป็นเพื่อนของเราทั้ง 2 มันได้หยุดชะงักลง มาเป็นช่วงเวลายาวนานเกือบ 8 เดือนที่ผ่านมา เราไม่มีการติดต่อซึ่งกันเเละกัน เราไม่ได้คุยกัน เราไม่ได้ทำความเข้าใจกัน เราปฏิบัติเหมือนกับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทั้งๆที่เราร่วมเรียนในสายเดียวกัน ไม่มีใครยอมปริปากทักทายซึ่งกันเเละกันก่อน กลัวจะเสียศักดิ์เเละศรีของตัวเอง จนเวลามันล่วงมาเนิ่นนานเเสนนาน ต่างคนต่างไปพบเจอเพื่อนใหม่ ต่างเดินบนเส้นทางชีวิตในก้าวใหม่ๆที่ไม่มีกันเเละกันอีกต่อไป ทำให้เราทั้งสองคนไม่มีโอกาสที่จะได้พูดในสิ่งที่ตนอยากจะพูดกับเรื่องราวในอดีตที่ทำให้เราต้องแยกออกจากกัน ต่างคนต่างทิ้งกันเเละกันไว้ท่ามกลางสายฝนที่หนาวเหน็บ ท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้าย ทั้งลม ทั้งฝน ทั้งลูกเห็บและความเจ็บปวดที่โหมกระหน่ำ คล้ายกับเกมส์วัดใจอย่างไรอย่างนั้น ผมเชื่อว่าถ้าผมเป็นคนที่ดีจริงเขาต้องมองเห็นคุณค่าภายในตัวของผม เเต่นี่เขากลับไม่มีท่าทีหวนกลับมาเป็นเพื่อนกันดั่งเหมือน สิ่งที่ผมจะสามารถกระทำได้คือ "การยอมรับความจริง" เมื่อเขาจะไปต่อให้ผมโซ่ไปมัดเพื่อนไว้ก็คงไม่อยู่ ทิ้งให้เรายืนอยู่ท่ามกลางพายุ ท่ามกลางความเหงา อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย ไร้เเม้เเต่คนข้างกายที่จะคอยดูแล ปรึกษา ซึ่งกันเเละกัน ถ้าเป็นเฉกเช่นนี้ตัวของผมเองก็ต้องพยายามลืมเขาให้ลง เเต่หัวใจของผมมันลืมไม่ลง วันนี้ผมอาจจะลืมไม่ได้แต่เวลามันค่อยๆช่วยสอนให้ผมลืมเขาเอง อย่างไรก็ตามทีครับ ชีวิตของคนเรามันต้องเดินต่อไปครับ ต้องขอบคุณเพื่อนที่เข้ามาในชีวิตตลอด 8 เดือนที่ผ่านมาครับ ครั้งหนึ่งเราก็เคยเป็นเพื่อนสนิทกัน อวยพรให้กันเเละกันได้พบเเต่สิ่งที่ดีครับ ขอให้โชคดีครับ เพื่อนคนนี้คงไม่กลับไปสานสัมพันธ์อีกต่อไปครับ เราจะทิ้งกันเเละกันไว้ในฐานที่เข้าใจ (บทความที่กลั่นออกมาจากส่วนลึกของหัวใจ)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่