ใครบอกดอกแบงค์ถูก
หลายคนที่ต้องการซื้อทรัพย์สินแต่เงินไม่พอก็จำเป็นต้องกู้โดยเฉพาะทรัพย์ที่มีราคาสูงเช่น รถยนต์ บ้าน ดังนั้นธนาคารจึงเป็นทางออกของคนส่วนใหญ่ แต่ก็ติดกับปัญหามากมายซึ่งทำให้หลายคนเข้าไม่ถึงเช่น ไม่มีหลักฐานแสดงอาชีพเป็นหลักแหล่ง (ทั้งๆที่อาจจะมีรายได้มากกว่ามนุษย์เงินเดือนด้วยซ้ำ) ไม่มีสลิปเงินเดือน หรือเงินเข้าไม่แน่นอน (เพราะเป็นอาชีพอิสระ) แต่ก็พอเข้าใจได้ว่ามันเป็นหลักเกณฑ์ในการค้นหาลูกค้าที่มีคุณภาพ พอเราผ่านด่านเรื่องเอกสารก็จะต้องมาเจอเรื่องระยะเวลาในการรออนุมัติ บางครั้งต้องการจะใช้เงินยื่นเรื่องไปแบงค์บอกประมาณ 2 สัปดาห์ เราก็รอโดยคิดไปว่าเอกสารเราครบผ่านแน่น เราจะใช้เงินอีก 2 สัปดาห์พอดีเงินน่าจะเข้ามาทันเวลาพอได้เงินมาการค้าก็จะได้เดินต่อ แต่พอรอไป 2 สัปดาห์ แบงค์บอกยังขาดเอกสาร หรือ ผลอนุมัติยังไม่ออก !!!!!!!! อ้าวซวยละ รีบไปบอกคนที่จะเอาเงินว่ารอก่อนๆ อีก 1 สัปดาห์ได้แน่ๆ เค้าก็ใจดีเห็นค้าขายกันมานาน พอผ่านไป 1 สัปดาห์ แบงค์บอกผลอนุมัติ ไม่ผ่าน (ใครผ่านก็โชคดีไปครับ) ทำไงตายละ คนที่รอเอาเงินก็เริ่มรู้สึกว่าจะเอายังไง เลื่อนแล้วเลื่อนอีก (จริงๆเลื่อนครั้งเดียวเอง) หนำซ้ำบางคนขอสินเชื่อแบบ ใช้บ้านค้ำ คุณแบงค์ก็จะบอกว่าขอมาประเมิณราคาบ้าน (และขอเรียกเก็บค่าประเมิณจากเรา) จะบ้าหรือยังไงเราก็เงินไม่ค่อยมียังจะมาขอค่าประเมิณอีกไม่ให้มันก็ไม่ประเมิณ ก็ไม่ได้เงิน ก็โดนไป 5,000-7,000 ก่อน แล้วผมอนุมัติก็ไม่ผ่าน แต่ตูโดนไปละ เอามาว่ากันคนที่ผ่านก็จะเข้ามาสู่เรื่องดอกเบี้ย อันดับแรกเลย ค่า Front ค่าบริหารจัดการ 2% (อันนี้แล้วแต่ต่อลอง) อันดับ 2 ค่าประกัน (อันนี้ซิปวดใจ) คุณจะต้องทำประกันชีวิตวงเงินก็ไม่มากไม่น้องเท่ากับจำนวนเงินที่คุณจะกู้ อันดับ 3 ค่าประกันอัคคีภัย ไม่ทำได้ไหม???? NOOOOOOOO สระโอหกตัวเลย อ้าวทำไมต้องทำละ ก็เผื่อบ้านคุณไฟไหม้ไง แล้วประกันชีวิตละ ก็เผื่อคุณตายไง มันคนละเรื่องกันนิ นอกจากคุณตายในกองไฟอันนั้นแบงค์ได้ 2 เด้ง อันดับ 4 คนค้ำประกัน อันนี้เผื่อคุนจ่ายไม่ไหว ก็ยึดบ้านไปซิทำไมต้องมีคนค้ำอีกละ (ไม่ต้องกลัวครับบ้านนะยึดแน่ แต่เอาไปขายประมูลนะครับ ถ้าประมูลแล้ว คนประมูลดันให้ราคาต่ำ ส่วนขาดจะได้ไปเก็บจากคนค้ำต่อไง โง่ไปได้ ) (อ้อๆๆๆๆๆๆๆ อีกอย่างเวลาคุณจ่ายไม่ไหว แบงค์เค้าจะปรับดอกเบี้ยใหม่ด้วยนะจาก 9-10% ต่อปี จะเป็น 21-28% นะครับ นี่ไงละที่คนค้ำต้องเข้ามามีส่วนร่วมอย่างมาก คนค้ำอย่าพึ่งหมดแรงนะครับ ยังมีค่าติดตามทวงหนี้ ค่าดำเนินการฟ้องร้อง ฯลฯ ที่คุณจะต้องร่วมรับผิดชอบด้วยครับ) ลำดับสุดท้าย ดอกเบี้ย คุณได้กันเท่าไรครับ จากคำว่ากู้ในระบบ 9, 10, 11, 12 .....ต่อปี หรือเดือนละ 1, 1.5........... เท่าไรครับ อันนี้เป็น ดอกเบี้ยแบบทบดอกต่อเดือนป่าวครับเคยคิดไหม แบงค์เค้าคิดดอกทุกเดือนทบลงไปนะครับ ดังนั้นไอ้ที่เห็น 9, 10, 11, 12 .....ต่อปี หรือเดือนละ 1, 1.5...........นะมันไม่ใช่นะครับมันมากกว่านั้น พูดง่าย ถ้าคุณกู้ 100 ดอกเบี้ย 10/ปี คุณคิดว่าคุณจะต้องจ่ายเท่าไรครับ............ถูกต้องครับ 110 ครับ คือสิ้นปีคุณต้องจ่ายแบงค์ 110 ครับ แต่ความเป็นจริงคุณจ่ายเท่าไรครับ 100 เดือน1 = 100.08 เดือน2 = 100.91 เดือน3 101.75.......... คล่าวๆนะครับ จะเห็นว่า หลังจากเดือน3 ไปเค้าไม่ได้คิดดอกเบี้ย 10% จาก 100 แล้วนะมันจะเป็น 10% จาก 101.75 แล้วจะทบไปเลื่อยๆๆๆๆๆ สรุป ณ.สิ้นเดือนคุณจะจ่ายมากกว่า 110 บาทลองไปคิดดูกันเองนะครับ สรุปแล้วไอ้ที่ตั้งกฎหมายว่า ดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี อะไรครับ เอาแค่ค่าดอก+ค่ากรมธรรม์ประกันภัย 2 ฉบับ ก็จะเกินแล้วไหมครับ????? จบดีกว่าฝากไว้ลองไปคิดดูครับ แต่ยังไงเราก็คงหลีดหนีเค้าไม่พ้นหลอกครับ ผมก็ยังกู้เค้าอยู่เลยครับ ก็บ่นไปอย่างนั้นละครับ แค่เหมือนประชาชนหาเช้ากินค่ำอย่างผมคงจะต้องถูกเอาเปรียบไปเลื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ใครบอกดอกแบงค์ถูก ?????
หลายคนที่ต้องการซื้อทรัพย์สินแต่เงินไม่พอก็จำเป็นต้องกู้โดยเฉพาะทรัพย์ที่มีราคาสูงเช่น รถยนต์ บ้าน ดังนั้นธนาคารจึงเป็นทางออกของคนส่วนใหญ่ แต่ก็ติดกับปัญหามากมายซึ่งทำให้หลายคนเข้าไม่ถึงเช่น ไม่มีหลักฐานแสดงอาชีพเป็นหลักแหล่ง (ทั้งๆที่อาจจะมีรายได้มากกว่ามนุษย์เงินเดือนด้วยซ้ำ) ไม่มีสลิปเงินเดือน หรือเงินเข้าไม่แน่นอน (เพราะเป็นอาชีพอิสระ) แต่ก็พอเข้าใจได้ว่ามันเป็นหลักเกณฑ์ในการค้นหาลูกค้าที่มีคุณภาพ พอเราผ่านด่านเรื่องเอกสารก็จะต้องมาเจอเรื่องระยะเวลาในการรออนุมัติ บางครั้งต้องการจะใช้เงินยื่นเรื่องไปแบงค์บอกประมาณ 2 สัปดาห์ เราก็รอโดยคิดไปว่าเอกสารเราครบผ่านแน่น เราจะใช้เงินอีก 2 สัปดาห์พอดีเงินน่าจะเข้ามาทันเวลาพอได้เงินมาการค้าก็จะได้เดินต่อ แต่พอรอไป 2 สัปดาห์ แบงค์บอกยังขาดเอกสาร หรือ ผลอนุมัติยังไม่ออก !!!!!!!! อ้าวซวยละ รีบไปบอกคนที่จะเอาเงินว่ารอก่อนๆ อีก 1 สัปดาห์ได้แน่ๆ เค้าก็ใจดีเห็นค้าขายกันมานาน พอผ่านไป 1 สัปดาห์ แบงค์บอกผลอนุมัติ ไม่ผ่าน (ใครผ่านก็โชคดีไปครับ) ทำไงตายละ คนที่รอเอาเงินก็เริ่มรู้สึกว่าจะเอายังไง เลื่อนแล้วเลื่อนอีก (จริงๆเลื่อนครั้งเดียวเอง) หนำซ้ำบางคนขอสินเชื่อแบบ ใช้บ้านค้ำ คุณแบงค์ก็จะบอกว่าขอมาประเมิณราคาบ้าน (และขอเรียกเก็บค่าประเมิณจากเรา) จะบ้าหรือยังไงเราก็เงินไม่ค่อยมียังจะมาขอค่าประเมิณอีกไม่ให้มันก็ไม่ประเมิณ ก็ไม่ได้เงิน ก็โดนไป 5,000-7,000 ก่อน แล้วผมอนุมัติก็ไม่ผ่าน แต่ตูโดนไปละ เอามาว่ากันคนที่ผ่านก็จะเข้ามาสู่เรื่องดอกเบี้ย อันดับแรกเลย ค่า Front ค่าบริหารจัดการ 2% (อันนี้แล้วแต่ต่อลอง) อันดับ 2 ค่าประกัน (อันนี้ซิปวดใจ) คุณจะต้องทำประกันชีวิตวงเงินก็ไม่มากไม่น้องเท่ากับจำนวนเงินที่คุณจะกู้ อันดับ 3 ค่าประกันอัคคีภัย ไม่ทำได้ไหม???? NOOOOOOOO สระโอหกตัวเลย อ้าวทำไมต้องทำละ ก็เผื่อบ้านคุณไฟไหม้ไง แล้วประกันชีวิตละ ก็เผื่อคุณตายไง มันคนละเรื่องกันนิ นอกจากคุณตายในกองไฟอันนั้นแบงค์ได้ 2 เด้ง อันดับ 4 คนค้ำประกัน อันนี้เผื่อคุนจ่ายไม่ไหว ก็ยึดบ้านไปซิทำไมต้องมีคนค้ำอีกละ (ไม่ต้องกลัวครับบ้านนะยึดแน่ แต่เอาไปขายประมูลนะครับ ถ้าประมูลแล้ว คนประมูลดันให้ราคาต่ำ ส่วนขาดจะได้ไปเก็บจากคนค้ำต่อไง โง่ไปได้ ) (อ้อๆๆๆๆๆๆๆ อีกอย่างเวลาคุณจ่ายไม่ไหว แบงค์เค้าจะปรับดอกเบี้ยใหม่ด้วยนะจาก 9-10% ต่อปี จะเป็น 21-28% นะครับ นี่ไงละที่คนค้ำต้องเข้ามามีส่วนร่วมอย่างมาก คนค้ำอย่าพึ่งหมดแรงนะครับ ยังมีค่าติดตามทวงหนี้ ค่าดำเนินการฟ้องร้อง ฯลฯ ที่คุณจะต้องร่วมรับผิดชอบด้วยครับ) ลำดับสุดท้าย ดอกเบี้ย คุณได้กันเท่าไรครับ จากคำว่ากู้ในระบบ 9, 10, 11, 12 .....ต่อปี หรือเดือนละ 1, 1.5........... เท่าไรครับ อันนี้เป็น ดอกเบี้ยแบบทบดอกต่อเดือนป่าวครับเคยคิดไหม แบงค์เค้าคิดดอกทุกเดือนทบลงไปนะครับ ดังนั้นไอ้ที่เห็น 9, 10, 11, 12 .....ต่อปี หรือเดือนละ 1, 1.5...........นะมันไม่ใช่นะครับมันมากกว่านั้น พูดง่าย ถ้าคุณกู้ 100 ดอกเบี้ย 10/ปี คุณคิดว่าคุณจะต้องจ่ายเท่าไรครับ............ถูกต้องครับ 110 ครับ คือสิ้นปีคุณต้องจ่ายแบงค์ 110 ครับ แต่ความเป็นจริงคุณจ่ายเท่าไรครับ 100 เดือน1 = 100.08 เดือน2 = 100.91 เดือน3 101.75.......... คล่าวๆนะครับ จะเห็นว่า หลังจากเดือน3 ไปเค้าไม่ได้คิดดอกเบี้ย 10% จาก 100 แล้วนะมันจะเป็น 10% จาก 101.75 แล้วจะทบไปเลื่อยๆๆๆๆๆ สรุป ณ.สิ้นเดือนคุณจะจ่ายมากกว่า 110 บาทลองไปคิดดูกันเองนะครับ สรุปแล้วไอ้ที่ตั้งกฎหมายว่า ดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี อะไรครับ เอาแค่ค่าดอก+ค่ากรมธรรม์ประกันภัย 2 ฉบับ ก็จะเกินแล้วไหมครับ????? จบดีกว่าฝากไว้ลองไปคิดดูครับ แต่ยังไงเราก็คงหลีดหนีเค้าไม่พ้นหลอกครับ ผมก็ยังกู้เค้าอยู่เลยครับ ก็บ่นไปอย่างนั้นละครับ แค่เหมือนประชาชนหาเช้ากินค่ำอย่างผมคงจะต้องถูกเอาเปรียบไปเลื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ